“เธอต้องไปตามลูกกับเมียกลับมา” เอื้อมจันทร์ยื่นกระดาษสีขาวไปตรงหน้าของเพทาย
“ทำไมผมต้องตามด้วยครับ เธอไม่อยากอยู่เอง” เขายักไหล่อย่างไม่สนใจ ไม่มีเหตุจำเป็นที่เขาจะต้องตามหาผู้หญิงคนนี้ เมื่อเธอไม่อยากให้รับผิดชอบก็ไม่เห็นต้องทำให้ยุ่งยาก
“ทอยต้องตามหาน้อง หลานแม่ทั้งคนนะทอย!”
“แม่ครับ ก็เธอไม่อยากให้เรารับผิดชอบอะไร ทำไมผมต้องออกตามหาเธอด้วยครับ ถ้าคุณแม่อยากมีหลาน ผมมีให้ก็ได้” เพทายพูดออกมา พร้อมกับวางกระดาษในมือลง
“แม่ไม่เคยสอนให้ลูกไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ ไปตามหาน้องกับลูกตอนนี้ ไม่งั้นแม่จะ…” คุณหญิงมาลัยเป็นลมโชคดีที่เพทายรับเอาร่างของมารดาเอาไว้ทันก่อนที่จะร่วงลงพื้น
“แม่ครับ แม่!!” เขาเรียกมารดาด้วยความเป็นห่วง “ใครก็ได้เอายาดมมาให้หน่อย” เขาตะโกนเรียกสาวใช้ในบ้าน
“แม่คะ แบบนี้มันเรื่องใหญ่แล้วนะคะ” เพียงใจกระซิบข้างหูของแม่
“ช่างเถอะ เรื่องนี้ยังไงเขาก็ต้องรับผิดชอบ” เธอขยับตัวเข้าไปช่วยเหลืออีกแรงพร้อมกับเอามือโบกพัดไม้ที่อยู่ในมือ ไม่นานคุณหญิงสร้อยมาลัยก็ฝืนคืนสติ
“เป็นยังไงบ้างครับแม่”
“......” คุณหญิงสร้อยมาลัย ไม่ตอบคำถามของลูกชาย “ฉันอยากเจอหลานค่ะ คุณหญิงเอื้อมจันทร์ ฉันจะให้คนออกตามหาหนูเอยกับลูกเองนะคะ ถ้าลูกชายของฉันไม่อยากแต่งงาน ก็ไม่ต้องบังคับเขาหรอกค่ะ ฉันมีข้อเสนอ”
“พูดมาได้เลยค่ะ”
“ฉันจะยกหุ้นบริษัทของลูกชายฉันให้กับหลานเองค่ะ ทรัพย์สมบัติทุกอย่างฉันจะแบ่งครึ่งให้ค่ะ เท่านี้เพียงพอหรือเปล่าคะ”
“ไม่ได้นะครับแม่ หุ้นเป็นของผม ทำไมต้องยกให้คนอื่นด้วย ผมลูกแม่นะครับ”
“ก็ใช่ไง ทอยเป็นลูกแม่ แม่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ลูกตัวเองทำ ทอยคงไม่เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ การเลี้ยงลูกคนหนึ่งไม่ใช่ง่ายๆ อีกอย่างนั้นก็หลานคนแรกของแม่ด้วยไม่รู้ล่ะ ถ้าทอยไม่ไปตามหาน้องแล้วแต่งงาน แม่ก็จะทำตามที่พูดตอนนี้”
“แม่ครับ แม่ใช้วิธีนี้กับผมไม่ได้หรอกครับ”
“ก็ได้ ต่อไปนี้ลูกไม่ต้องไปทำงานที่บริษัทแล้วนะ”
“ทำไมครับ”
“ก็ที่บริษัท ไม่มีหุ้นของลูกแล้ว จะมีตำแหน่งให้ลูกได้ยังไง ตอนนี้มันเป็นของหลานแม่แล้ว ลูกก็ไม่มีสิทธิ์อะไร คุณหญิงเอื้อมจันทร์พอใจไหมคะ” เธอหันหน้าไปถามแขก
“พอใจค่ะ แต่ฉันอยากให้เรื่องจบวันนี้ค่ะ”
“ได้ค่ะ ฉันจะให้เลขาจัดการให้ พรุ่งนี้คุณมาเจอกับฉันที่บ้านอีกครั้งได้เลยนะคะ”
“งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้จะมาใหม่ค่ะ” คุณหญิงเอื้อมจันทร์เอ่ยคำลาแล้วเดินออกจากบ้านไป
“ผมไม่เห็นด้วย ผมมีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัตินะครับ ผมเป็นลูกแม่นะครับ”
“นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ วันนี้คุณหญิงเอื้อมจันทร์มาที่บ้านเพราะอยากได้เงินหรือไง เธอก็มีฐานะดีไม่ต่างจากเรา ที่เธอต้องการคือความรับผิดชอบของลูก แม่ผิดหวังในตัวทอยมากจริงๆ ถ้าพ่อรู้คงเสียใจมากแน่ๆ”
“แม่ครับ…ผมไม่อยากแต่งงาน ผมรับผิดชอบเธอได้แต่ไม่ใช่เรื่องแต่งงาน”
“แล้วแต่ทอยเถอะ แม่ไม่บังคับหรอก แต่สิ่งที่แม่พูดไป ยังไงก็ต้องทำให้ครอบครัวของเขา”
“ก็ได้ครับ ผมจะไปตามหาเธอ แล้วแต่งงาน แต่ผมขอบอกแม่เอาไว้ก่อนนะครับ ผมจะแต่งกับเธอแค่ในนามเท่านั้น ถ้าเธอขอหย่าคุณแม่ก็อย่าเข้ามาขัดแล้วกันนะครับ”
“ได้ แม่รับปากว่าหลังแต่งงานแม่จะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องนี้อีก”
“ครับ” เพทายถอนหายใจออกมา สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องใจอ่อน ถึงจะรู้ว่าเป็นแผนของมารดา ชายหนุ่มไม่อยากทำให้แม่รู้สึกเสียใจไปมากกว่านี้
ร่างสูงเดินลงจากรถสปอร์ต คันใหม่ที่เขาพึ่งให้เลขาไปถอยมาใหม่เมื่อเช้านี้ สายตาคมจ้องมองไปตรงหน้าตลอดทางเดินจนมาถึงห้องทำงานของตน เอกสารวางเต็มโต๊ะ ไม่ต่างจากวันอื่นๆ
“คุณชายรับกาแฟไหมครับ”
“ไม่ต้อง นวัตรช่วยฉันหาคนหน่อย เอานี่” เขายื่นภาพถ่ายหญิงสาวและเด็กชายไปตรงหน้าของเลขาหนุ่ม ที่ทำงานข้างกายมานานหลายปี “เอาแบบละเอียด ผมต้องการรู้ประวัติของเธอย้อนหลังไปสี่ปี ด่วนด้วยนะ”
“ได้ครับ” นวัตรรับคำพร้อมกับก้มศีรษะเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะแจ้งตารางงานวันนี้ให้กับเพทายได้ทราบ
เมื่อภายในห้องสงบลง ชายหนุ่มที่กำลังเปิดแฟ้มงานอยู่ๆ ก็ปิดแฟ้มงานลงทันที ตอนนี้เขาไม่สามารถจดจ่อสมาธิลงไปที่งานบนกระดาษได้แม้แต่น้อย ตลอดการเดินทางมาที่ทำงาน เขาแทบจะไม่มีสติขับรถดีแค่ไหนที่ยังมาถึงที่ทำงานได้อย่างปลอดภัย
เจ้าเอย หญิงสาวคนนั้น และเป็นเพียงคืนเดียวที่เขาได้ใช้มันร่วมกับเธอทั้งคืน แต่ใครจะคิดว่ามันจะผิดพลาดได้มากขนาดนี้ เมื่อย้อนคิดวันวานแล้ว เขากลับยิ้มมุมปาก แต่เมื่อรู้ตัวว่าเขานั้นยิ้มเพราะแค่คิดถึงเรื่องของเจ้าเอยจึงได้หุบยิ้มลงไปในทันที
หญิงสาวใบหน้าสวยหวานร่างบางอรชรน่าทะนุถนอม เมื่อเห็นครั้งแรกมันช่างตรึงใจของเพทายยิ่งนัก ตอนแรกเขาคิดว่าเธอนั้นเป็นคนเกาหลี แต่พอได้รู้จักจากเพื่อนที่ไปร่วมปาร์ตี้ด้วยกันกลับพบว่าเธอเป็นคนไทย
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เขาและเธอลงเอยกันที่เตียงนอนใหญ่ ศึกของค่ำคืนนั้นมันตราตรึงในใจของเพทายจนถึงทุกวันนี้ ถ้าหากให้เปรียบเทียบกับผู้หญิงที่เขามาในชีวิตของเขาแล้ว
เจ้าเอยอาจไม่ใช่หญิงสาวที่เก่งในเรื่องอย่างว่า แต่สิ่งที่ทำให้เพทายนึกถึงคงหลีกหนีไม่พ้นเรื่องความบริสุทธิ์ของเธอเขาเป็นคนได้ครอบครอง เรือนกายที่ขาวผ่อง แทบกลืนไปกับผ้าปูเตียงนอนสีขาว
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องทำงานของเพทายดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนนวัตรจะเดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มสีขาวที่อยู่ในมือ ยื่นส่งไปตรงหน้าของเจ้านายหนุ่ม
“ผมเอาประวัติย้อนหลังมาให้คุณชายก่อนครับ ส่วนพิกัดของเธอ ผมขอเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมงนะครับ”
“ได้ ส่วนเรื่องรถ จัดการขายทิ้งได้เลย”
“คุณหญิงโทรมาหาผม ให้แจ้งคุณชายว่าเย็นนี้มีนัดไปหาหมอนะครับ คุณหญิงเน้นย้ำว่าให้ไปครับ” นวัตรส่งคำพูดต่อ
“หาหมอทำไม?”
“คุณหญิงอยากให้คุณชายไปตรวจร่างกายอีกครั้งครับ ท่านไม่แน่ใจว่าร่างกายของคุณชายได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ผมเห็นด้วยนะครับ เมื่อคืนคุณชายก็ไม่ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียดเลยนะครับ”
“นายเข้ากับแม่ฉันดีจริงๆ นะ งั้นเปลี่ยนไปเป็นเลขาแม่ฉันดีไหม” เพทายเอ่ยเหน็บแนม อย่างไม่จริงจังมากนัก ไม่มีเสียงตอบรับในเรื่องที่เขาพูด มีรอยยิ้มบางๆ ของนวัตรเพียงเท่านั้น
“คุณชายครับ เรื่องนี้ให้ผมปิดเป็นความลับไหมครับ”
“ปิดเอาไว้ก่อน ฉันอยากเจอเธอก่อน ค่อยว่ากันอีกครั้ง” เพทายอ่านเอกสารในมือ
หลังจากที่ความสัมพันธ์คืนนั้นของเขาและเธอจบลง เพียงหนึ่งเดือนเจ้าเอยก็ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลในต่างประเทศ เรื่องนี้มีเพียงพี่สาวของเธอเท่านั้นที่รู้ การเดินทางข้ามประเทศของเจ้าอิง เธอทำมันแทบทุกเดือนเพื่อที่จะได้มาเยี่ยมน้องสาว
ส่วนแม่และน้องสาวสุดท้อง ไม่รู้เรื่องนี้จนเมื่อหลายวันก่อน ที่เจ้าเอยเดินทางกลับมาที่ไทย เมื่อคืนที่เขาเจอเธอที่โรงพยาบาลเป็นเพราะลูกชายเป็นไข้ตัวร้อน แล้วหลังจากนั้น เธอก็กลับบ้านปกติ
และในช่วงสายหลังจากที่แม่เดินทางมาที่บ้านของเพทาย เจ้าอิงและเจ้าเอยจึงได้เดินทางออกจากบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัวของเจ้าอิง ที่ตอนนี้ถูกจอดทิ้งเอาไว้ที่ใต้ตึกคอนโดที่เธออาศัยอยู่ แต่ไม่พบใครเพราะเธอนั่งแท็กซี่ออกไปจากคอนโดทันที เมื่อจอดรถเสร็จ