CHAPTER 01
“น้ำฟ้า! นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วยังนอนอยู่บนเตียงไม่ตื่นไปทำงาน แกนี้มันมีดีแค่หน้าสวยจริง ๆ เลยนะ!”
เสียงนี้มาแล้ว
มันมาแล้ว
“รีบลุกขึ้นมา! ได้เวลาไปอาบน้ำเดี๋ยวไปทำงานสาย!”
ฉันแทบกรี๊ดตอนแม่เปิดประตูเข้ามา อยากลุกขึ้นหนีแต่อาการแฮงก์ทำให้การขยับร่างกายมันยากเย็น
รู้ตัวอีกทีฝ่ามือยักษ์ของแม่ก็ทุบลงมากลางหลังจนฉันสะดุ้งตื่นเต็มตา
“โอ๊ย! แม่! หนูเจ็บนะ!”
ฉันโวยวายแล้วมองหน้าแม่อย่างงุ่นง่าน แต่คนหน้ายักษ์กลับง้างมือเหมือนจะทุบกันอีกหนึ่งดอกฉันเลยรีบวิ่งลงจากเตียงเพื่อเข้าห้องน้ำไป
แม่นะแม่ รู้ว่ามือหนักก็ทุบตีอยู่ได้!
หลังฉันจะหักคามืออยู่แล้ว!
เวลาต่อมา
ฉันอาบน้ำแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จก็เดินลงมาชั้นล่างที่บนโต๊ะอาหารมีแม่เตรียมอาหารมากมายเอาไว้ให้แล้ว แต่เมื่อสบตากับศึกรบที่นั่งอยู่ข้างแม่หัวฉันก็ร้อนผ่าว
เพราะอะไรน่ะเหรอ!
เพราะมันฟ้องแม่ไงว่าเมื่อคืนฉันกลับเลยเวลา!
ฉันจ้องศึกรบที่ทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้วเดินไปนั่งตรงข้ามกับไอ้ตัวดีก่อนจะยื่นเท้าไปเตะหน้าแข้งมันแรง ๆ จนมันมองหน้ากัน
“ทำไมต้องฟ้องแม่!”
ฉันกดเสียงต่ำ ตำหนิเด็กบ้าตรงหน้าที่ทำให้ฉันโดนด่า
ศึกรบทำหน้าเรียบนิ่งแต่กลับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“คุณป้าครับ พี่แตะผมพี่เขาคงโกรธที่ผมฟ้องคุณป้าเพราะพี่เขากลับเกินเวลา ผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ”
ไอ้เด็กตัวดีวางระเบิดให้ฉันอีกลูกแล้วเดินออกจากบ้านไป
แม่หันมามองฉันตาแทบถลนเตรียมยกตะหลิวในมือขึ้นมาเคาะหัวฉันน่ะสิ
ใครจะอยู่ก็อยู่ไปแต่ฉันขอหนี!
“กลับมานี้เลยนะนังตัวดี! ถ้าฉันรู้ว่ามันเป็นแบบนี้น่าจะเอาขี้ถ่านยัดปากตั้งแต่เกิด!”
เสียงแม่ด่าไล่หลังฉันที่วิ่งคาบขนมปังแยมสตรอว์เบอรีอยู่ในปาก
วิ่งมาถึงลานหน้าบ้านก็เห็นไอ้เด็กตัวดีเตรียมตัวคร่อมบิ๊กไบค์ออกไปมหาลัย
ช้าก่อนไอ้น้อง
แค้นนี้ต้องชำระ
ผลั่ก!
ฉันเดินไปถึงตัวไอ้ศึกรบก็ยกมือตีเข้ากลางหลังจนคนโดนทุบหันมามองฉันตาขวาง
“นายฟ้องแม่ทำไม!”
ใช่ว่าฉันจะกลัว ฉันอยากขย้ำไอ้เด็กตรงหน้าที่อายุน้อยกว่าฉันห้าปี!
ฉันอายุยี่สิบเจ็ด ส่วนศึกรบยี่สิบสอง
ปีนี้ไอ้หมาเด็กคนนี้เรียนปีสุดท้ายแล้วด้วย
ศึกรบถอนหายใจอย่างรำคาญใจ มันวางหมวกกันน็อคใบใหญ่ลงไว้ที่เดิมแล้วคาบขนมปังปิ้งในมือฉันไปคาบไว้ที่ปากตัวเองอย่างหน้าตาเฉย
“นี่! ของฉันป่ะ! เอามา”
ฉันจะดึงกลับ ถึงอายุมากกว่าแต่เรามักจะทะเลาะกันเรื่องปัญญาอ่อนอย่างเช่นเรื่องของกิน
เป็นต้น
“เห็นพี่พูดมากผมนึกว่าพี่ไม่อยากกิน”
ไอ้นี่มันหลอกด่ากันนี่หว่า
ฉันจ้องศึกรบตาแทบถล่น จะเป็นบ้าตายให้ได้กับความกวนตีนหน้าตายที่มีแค่ฉันที่ได้รับสิทธิ์นั้นมา
“ฉันถืออยู่ก็แปลว่าฉันจะกินมั้ยล่ะ นายนี้มัน!”
“อย่าอ้าปากเยอะครับ ความสวยพี่มีน้อยอยู่แล้วช่วยใช้สอยอย่างประหยัดด้วย”
ฉันอ้าปากค้าง เจอโดนหลอกด่าเป็นดอกที่สองถึงกับไปไม่เป็นเลย
“นี่! ดูเลย ดูให้ดี! ฉันสวยจนผู้ชายมองแล้วน้ำลายไหลขนาดนี้นายยังบอกว่าฉันไม่สวยอีก”
ฉันกุมใบหน้าศึกรบมาจับเอาไว้แล้วดึงลงมาให้ระดับใบหน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน
“แต่ผมคือคนที่เห็นพี่นอนน้ำลายไหลทุกคืน”
ดอกที่สาม!
“กรี๊ดดด ไอ้เด็กเวร! ไอ้ลูกหมา! หุบปากไปเลย”
สติฉันจะแตก กรี๊ดคอแทบแตกแต่กลับโดนไอ้เด็กยักษ์ตรงหน้าช้อนตัวขึ้นไปนั่งบนบิ๊กไบค์คันโตแทน
“ใกล้ถึงเวลาเข้างานแล้วครับ หัดทำตัวให้มีระเบียบวินัยบ้าง”
มันด่าฉันอีกดอกแล้วเตรียมจะใส่หมวกกันน็อคให้กันแต่ก่อนจะได้ใส่ฉันก็ดึงคอเสื้อศึกรบลงมาแล้วฝั่งเขี้ยงลงไปบนซอกคอเขาเพื่อเป็นการแก้แค้นด้วยการทำให้ศึกรบเจ็บตัว
เมื่อกัดจนพอใจก็ผละริมฝีปากออกมามองศึกรบด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจในผลงาน
ศึกรบใช้ท่อนแขนที่มีรอยสักเต็มแขนทั้งสองข้างขยับมาค้ำข้างตัวฉัน
ใบหน้าหล่อที่มักดูเป็นเด็กดีในสายตาผู้ใหญ่แต่เวลาอยู่กับฉันเขาเปลี่ยนแววตากลายเป็นคนละคนเลย
“ทำไม? ไอ้ลูกหมาจะทำอะไรพี่สาวคนนี้ว่ามา”
ฉันกอดอกมองหน้าศึกรบอย่างถือดี
ศึกรบแค่นเสียงหัวเราะอยู่ในคอ มันลากสายตามองใบหน้าฉันจนมาหยุดตรงซอกคอ
ฉันหัวเราะแล้วยื่นนิ้วไปแตะปากหนาเอาไว้เบา ๆ
“อยากกัดคืนล่ะสิ แต่โทษทีนะคะพอดีผิวสวย ๆ ของพี่ไม่เหมาะที่จะมีรอยค่ะ”
ฉันรวบผมทีี่ผูกหางม้าเอาไว้ไปด้านข้างแล้วยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะเอาคืนตรงนั้น”
ฉันมุ่นคิ้ว งุนงงกับท่าทีดูถือดีของศึกรบ
แต่ทว่าวินาทีต่อมาศึกรบกลับโน้มตัวต่ำลงไปแล้วเลิกกระโปรงฉันขึ้นมาเลยเข่าแล้วฝังเขี้ยวลงไปบนต้นขาด้านในของฉันแทน
“อ๊ะ.. ไอ้หมา อย่ามากัดนะ”
ฉันห้ามอะไรศึกรบไม่เคยฟังหรอก นางฝังเขี้ยวลงไปแน่น ๆ แล้วดูดดุนเบา ๆ จนส่วนนั้นขึ้นสีเข้มเมื่อผละริมฝีปากออกมา
“พี่เริ่มก่อนและผมก็ดันเป็นคนไม่ยอมใครด้วยสิ”
นี้ไง!
นี้ไงศึกรบตัวจริง
เด็กดีของแม่ฉันก็แค่การละครเท่านั้นแหละ!
เหอะ!
Talk
น้องมันร้าย พี่ตามให้ทันก็พอ
ครบ 5 เม้นมาอัปน้า 🥰