Ep.7 ไม่อยากลองหน่อยเหรอ

1497 คำ
“เป็นอะไร” “อุ๊ย พี่เดลล์ ทำไมเข้ามาเงียบๆ ละคะ ตี้ตกใจหมดเลย” “เหรอ ต้องการให้พี่กอดปลอบหรือป่าว” “พี่เดลล์ขาดความอบอุ่นหรือไง แล้วแม่พี่รู้หรือป่าวว่าพี่เป็นคนแบบนี้” “คนแบบนี้!... คนแบบไหน?” “ชอบพูดจาใต้สะดือและก็ชอบทำตัวเจ้าเล่ห์” “ใช่ ก็ชอบ” “ยังมีหน้ามายอมรับอีกนะ” “ก็มันชอบ” ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าชอบ ซื่อบื้อชะมัดผู้หญิงคนนี้ “...” “แล้วพี่ก็ไม่ได้ขาดความอบอุ่น… แต่พี่อยากให้ความอบอุ่นกับเรานะ” “พี่รู้จักความอบอุ่นด้วยเหรอคะ” ที่ฉันถามเพราะเขาน่ะดูเพลย์บอยและดูเจ้าชู้มากๆ คนอะไรเจอกันไม่กี่ครั้งก็ชอบพูดจาอะไรแบบนั้นด้วยแล้ว “ก็เคยนะ ให้ความอบอุ่นแบบเนื้อแนบเนื้อ” “พี่เดลล์!” “ไม่อยากลองหน่อยเหรอ” “ไม่” “แต่พี่อยาก…” “ยะ หยุดนะ” หมับ! ฉันโดนพี่เดลล์กอด แต่แทนที่ฉันจะผลักไสกลับกลายเป็นว่าใจฉันเต้นแรงเชียว “ซ้อมกอดก่อนก็ได้ครับ” “พี่เดลล์ คือ…” “คิดว่าพี่ฉวยโอกาส หรือ รู้สึกโดนคุกคามหรือป่าว” “มะ ไม่ค่ะ ตี้ไม่รู้สึกแบบนั้น” “ดี” “อะไรดีคะ” “ก็ดีแล้วเพราะวันนึงเราอาจจะทำมากกว่าการกอดกัน” เมื่อเขาพูดจบ ฉันผละตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขาทันที “แบบพี่เนี้ยต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอคะ” ฉันหมายถึงการวิงวอนร้องขออะไรแบบนั้น แบบพี่เดลล์น่าจะมีผู้หญิงวิ่งใส่แบบสี่คูณร้อยซะมากกว่า น่าแปลกใจ “ไม่รู้สิ” “แล้วพี่มาทำแบบนี้พี่ไม่มีแฟนหรือคนคุยหรือไง” “หลอกถาม?” “ไม่ใช่ค่ะ กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” “ก็บอกแล้ว… พี่ไม่ได้เหมือนไอ้สารเลวนั่น” “ถึงแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าตี้จะเปิดใจหรือเปิดทางให้พี่เดลล์หรอกนะ” “ตี้อยู่เฉยๆ พี่ทำเองคนเดียวก็ได้” “ห๊ะ” ทำไมมันฟังดูแปลก ๆ “พี่หมายถึงตี้อยู่เฉยๆ เดี๋ยวพี่จีบตี้เอง โอเคไหมครับ” “...” “ถ้าในระหว่างนั้น อยากให้พี่เป็นคู่ซ้อมให้ก็ได้นะ พี่ยอมเสียเปรียบ” “ตี้ว่าเราหยุดคุยเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ” “หึ แต่รู้ไว้แล้วกัน ยังไงก็หนีพี่ไม่พ้น” “...” “ถ้าพี่ได้ตั้งใจกับอะไรสักอย่างแล้ว พี่ต้องได้เท่านั้น” “ชอบพูดอะไรกำกวม ตี้ไม่คุยด้วยแล้ว” เราสองคนเดินออกมาจากห้องครัว พี่เดลล์เดินไปนั่งที่โซฟาแบบเดิมแต่ใบหน้าเขาเหมือนแอบอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา พอฉันถอนหายใจใส่เขาก็หัวเราะใส่ฉัน ทำไมฉันกับเขาถึงรู้สึกสนิทสนมกันเร็วขนาดนี้นะ เคยเจอกันก็ไม่กี่ครั้งเอง แต่ละครั้งก็แทบไม่ได้คุยกัน ครั้งนี้ครั้งแรกเลยที่คุยกัน ใช้เวลาด้วยกัน แต่เขาเข้าหาฉันเยอะมากซึ่งมันก็น่าแปลกใจเพราะฉันก็เป็นมนุษย์หวงตัว หวงพื้นที่ส่วนตัวระดับนึงเลยล่ะ แต่เขากลับเข้ามาในพื้นที่ของฉันได้ง่ายๆ ฉันเคยได้ยินประโยคนึงที่ยาหยีมันพูดให้ฟังว่า… เพราะคนที่ใช่ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน... “แอร๊ยยย” เสียงน้องรามิดังออกมาจากในห้องนอน ฉันจึงรีบเดินไปทันที “ตื่นแล้วเหรอคะคนสวย” “ตี้ มิหิว” “ตื่นมาก็หิวเลยนะแสบ” เรนเดลล์เดินตามเข้ามาในห้องนอนของนัตตี้ เดินเข้ามาอย่างตั้งใจ เพราะอยากสอดส่องห้องนอนของนัตตี้ให้ชัดๆ ส่วนนัตตี้นั้นมัวแต่สนใจน้องรามิ เลยไม่ได้สังเกตว่าอีกคนกำลังใช้สายตาสอดส่องพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองอยู่ “เรน อุ้มหน่อยจิ” เรนเดลล์อุ้มหลานรักอย่างเบามือ อุ้มไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ส่วนเรนเดลล์ก็เข้าครัวไปอุ่นอาหารให้เด็กแสบที่ตื่นมาก็ร้องขอกินทันที เรื่องน้องรามิ แม่ศิเคยเล่าให้นัตตี้ฟังว่า เมื่อประมาณเกือบสองปีก่อน เรนเดลล์พาคุณแม่ออกไปทำธุระนอกบ้านช่วงตีห้า ท่านออกมาตลาดในช่วงเช้ามืดเพื่อตั้งใจจะใส่บาตร และในช่วงขากลับก็ได้เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคาดฝัน คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณยี่สิบปีต้นๆ อุ้มเด็กทารกมาทิ้งไว้ตรงกองถังขยะ มีเพียงผ้าอ้อมหนึ่งผืนคลุมไว้เท่านั้น แม่ศิเห็นแบบนั้นจึงรีบไปอุ้มเด็กทารกมาไว้ในอ้อมกอด ทั้งยังจะตะโกนเรียกผู้เป็นแม่ของเด็กคนนั้น ทว่า เรนเดลล์ไม่คิดแบบนั้น หากผู้หญิงคนนั้นรับลูกตัวเองกลับไป ยังไงก็ต้องเอาไปทิ้งที่อื่นอีกอยู่ดี เรนเดลล์ตั้งใจเก็บเด็กคนนี้ไว้โดยบอกแม่ของตัวเองว่า… “เราเลี้ยงเด็กคนนี้เองก็ได้ครับแม่” “...” “แม่อยากมีลูกสาวไม่ใช่เหรอ แต่เลี้ยงเป็นหลานสาวก็ได้” ด้วยอายุที่ต่างกัน ถ้าเป็นลูกสาวคงไม่เหมาะ จึงตัดสินใจให้อยู่ในฐานะหลานสาว เรนเดลล์และคุณแม่ศิเลี้ยงดูน้องรามิให้เติบโตมาอย่างดี และรักน้องรามิยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ ... ส่วนทางฝั่งครอบครัวของเรนเดลล์ตอนนี้มีกันอยู่สามคน คุณพ่อของเรนเดลล์ท่านได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วด้วยโรคประจำตัว ทั้งคู่จึงตัดสินใจเลี้ยงน้องรามิตั้งแต่นั้นมา รามิไม่เคยรับรู้ถึงการขาดความอบอุ่นและน้องก็ไม่เคยถามหาแม่ด้วย อาจจะยังไม่โตพอให้สงสัย แต่ถ้าหากน้องโตเมื่อไหร่และน้องต้องการหาคำตอบ เรนเดลล์คิดเสมอว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตายก็จริง แต่บางครั้งความจริงมันก็ทำร้ายความรู้สึกได้เช่นกัน เรื่องราวจะต้องถูกบิดเบือนไปบ้างแต่นั่นก็ทำด้วยความเป็นห่วงเป็นใยต่อน้องรามิ กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงตอนเย็น เรนเดลล์ไม่มีท่าทีว่าอยากกลับบ้าน น้องรามิรายนั้นอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันอยู่แล้วเพราะชอบอยู่กับนัตตี้ เธอรักพี่สาวคนนี้เหมือนเป็นพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง เพราะนัตตี้สวยและใจดี รามิสัมผัสได้ “กลับได้แล้ว” “ไล่?” “จะว่างั้นก็ได้” “คืนนี้มาหาได้ป่าว” “ไม่ได้!” “ทำไม!” “แล้วพี่เดลล์จะมาทำไมละคะ” “มาอ่อย” “เฮ้อ…” “งั้นขอเบอร์” “ไม่ให้ค่ะ” “งั้นพี่ไปขอที่เมียไอ้วิลล์” “พี่เดลล์!” ฉันตะคอกเขาเสียงเขียว ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้เพื่อนรู้หรือจะปิดบังอะไรเพื่อนนะ พวกมันน่ะพูดมาก ชอบแซว เพราะจริงๆ แล้วเรื่องระหว่างฉันกับเขาสุดท้ายแล้วอาจจะไม่มีอะไรคืบหน้าก็ได้ ไม่ได้เป็นเพราะว่าฉันยังรักไอ้สารเลวนั่นนะ ฉัน…ก็แค่อยากให้เวลาตัวเอง “เร็ว” “บังคับ?” “แล้วแต่จะคิด” พูดจบเขาก็ยื่นโทรศัพท์ของเขามาให้ฉัน ฉันจึงกดเบอร์ไปให้ แต่ไม่ใช่เบอร์ฉันนะ ฉันกดมั่วๆ เอา แต่ใครจะคิดว่า…. พี่เรนเดลล์กดโทรออกทันที ‘ไม่มีหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาตรวจสอบหมายเลขใหม่อีกครั้งค่ะ’ ชิบหายแล้วแม่มึง…. ฉันได้แต่สบถในใจ “ดื้อนักนะ” “...” ฉันพูดอะไรไม่ออกนอกจากยิ้มเจื่อนๆ แหม ก็เล่นโทรซะต่อหน้าต่อตาขนาดนี้ ฉันเหมือนคนทำผิดแล้วโดนจับได้อะไรแบบนั้นเลย “นัต-ตี้” พี่เรนเดลล์เรียกฉันเน้นคำพูด ทำเสียงดุ แววตาเรียบนิ่งแบบนี้คือโกรธเหรอ แล้วมีสิทธิ์อะไรมาโกรธอ่า ความจริงฉันจะให้หรือไม่ให้มันก็เป็นสิทธิ์ของฉันเลยนะ “เรียกทำไมคะ” “...” ดื้อ ดื้อมาก น่าจับฟาดก้นสุดๆ เดี๋ยวก่อนเถอะผมทดไว้ในใจก่อน เดี๋ยวจะเอาคืนเป็นการ… ทบต้นทบดอกเลยคอยดู … “ก็แล้วแต่นะ อย่างที่บอกเดี๋ยวไปขอเบอร์ที่เมียไอ้วิลล์” “จิ๊” ฉันทำเสียงจิ๊ปากใส่ หมั่นไส้มาก สุดท้ายฉันก็ต้องยอมอ่ะก็ต้องให้เบอร์พี่เรนเดลล์ไปอย่างไม่มีทางเลือก ... ความจริงเรนเดลล์ไม่ได้มีความคิดที่จะไปขอเบอร์กับเมียเพื่อนหรอก ขู่ไปแบบนั้นเฉยๆ “ก็แค่นี้” เขากดโทรหาฉันอีกครั้งทันที ครั้งนี้ฉันให้เบอร์ฉันจริงๆ เขาโทรเข้ามากลายเป็นว่าฉันก็มีเบอร์เขาแล้วด้วยน่ะสิ ไม่นานทั้งสองก็กลับไป ตอนนี้ก็ห้าโมงเย็นแล้ว ฉันเลยตัดสินใจลงไปซูเปอร์มาร์เก็ตใต้คอนโด ฉันยังต้องซื้อพวกของใช้จำเป็นอีกหลายอย่าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม