Ep.6 จับดูไหม

1417 คำ
“...” ตาย แบบนี้ตาย ถามตรงล็อคเป้าขนาดนี้ คำตอบของผมก็ต้องไม่ผิดหวังสำหรับคนฟังเหมือนกัน … “อืม ชอบ อยากได้ ถ้าคบกันตี้จะเป็นแฟนคนแรกของพี่ แต่พี่ไม่ซิงนะ” “พี่ชอบคนอื่นง่ายจังเลยนะคะ เจอตี้กี่ครั้งเอง อ่อ แล้วแบบนี้ตี้ก็เสียเปรียบน่ะสิ” จากคำตอบของนัตตี้… ไม่มั้ง เธอเคยมีแฟนมาก่อนนี่ ถ้าบอกซิงก็คงไม่น่าจะใช่ ผมไม่ได้วัดคุณค่าของผู้หญิงที่ความสดซิงนะ แต่แค่คิดว่าคนที่มีแฟนมาก่อนก็คงไม่น่าจะซิง และผมก็เป็นคนที่คิดอะไรก็พูดออกมาตรงๆ เหมือนกัน “ซิง?” “ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องตอบคุณค่ะ” แบบนี้ชัวร์ โอกาสซิง 90% ว่าแต่ไอ้หน้าโง่นั่นมันไม่น่าจะพลาดอะไรแบบนี้นะ “พี่หาคำตอบเองก็ได้” “หมายความว่ายังไง” “ก็หมายความตามที่พูด ลองทำกันไหม” “เฮ้ย อะไรวะ” ทำไมถึงพูดแบบนี้ มาชวนทำอะไรแบบนั้นอะนะ แล้วจะไม่ให้ฉันตกใจได้ยังไง “ตี้... อย่าห้าว” มาฮง มาเฮ้ย เดี๋ยวจับจูบแม่ง “ไม่-เด็ด-ขาด” ฉันพูดอย่างจริงจังและเน้นคำให้เขาฟังชัดๆ “ทำไม? พี่ก็มีดีนะ เช่น หล่อมาก รวยมาก แล้วก็… ใหญ่มากด้วย” เขาเว้นคำไว้แล้วลากสายตาไปยังเป้ากางเกง ฉันจึงมองตามไป “อี๋!!!” “จับดูไหม” “หยุดนะ อย่าเข้ามา” เขาเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ คนบ้าอะไรจะให้คนอื่นจับ ปะ เป้าของตัวเอง แล้วนี่อะไรกัน ทำเหมือนสนิทกันมานาน เจอไม่กี่ครั้งก็พูดเรื่องใต้สะดือแล้ว “จ๊ะเอ๋ จับไยกัน มิจับด้วย” “ไม่ได้จับครับ แค่จะให้ช่วยถือ…” ปากพูดกับน้องรามิแต่จ้องมองหน้าฉันและแววตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นฉันรู้นะ ทำเป็นใช้คำพูดเบี่ยงเบนก็คงจะให้ฉันถือไอ้เจ้าหนอนน้อยของเขาล่ะสิ โรคจิต! “โอ๊ะ ไม่ช่วยแล้วดีฟ่า มิไปดูตูนต่อน๊า” “ค่ะ / ครับ” ทำไมนัตตี้ถึงบอกว่าเจอกันไม่กี่ครั้ง ผมเจอเธอตั้งหลายครั้งแล้วต่างหาก เจอที่สนามแข่งรถ เจอที่ผับแถมยังไปส่งเธอกับนาบีที่คอนโดนาบีอีก จำไม่ได้เหรอวะ “ตี้” “ไม่ค่ะ หยุดคิดเดี๋ยวนี้” “...” “คือตี้ยังไม่พร้อมจะคบใครตอนนี้ค่ะ” “พี่ไม่เหมือนไอ้เฮงซวยนั่น” “ผู้ชายมันก็เหมือนๆ กันหมดนั่นแหละค่ะ” “พิสูจน์กับพี่ดูก่อนสิ” “อย่าเสียเวลาอีกเลย ต่อให้พี่จะหล่อดูดีสเป็คตี้แค่ไหน ตี้ก็ไม่มีทางชอบพี่” “หึ พี่เป็นสเป็คเธองั้นเหรอ” “อุ๊ปส์!!!” นี่ฉันเผลอพูดอะไรออกไป ตายแล้วอีนัตตี้เอ้ยพูดแบบนี้เขาก็รู้หมดอะดิ “แต่ถ้าอยากรู้ อยากลอง… พี่สอนให้ได้นะ ฟรี! ไม่คิดเงิน” “...” “แต่ถ้าตี้เกรงใจ จะจ่ายเงินให้พี่ก็ได้นะ ถือว่า win win” “พี่ร้อนเงินเหรอ” “ป่าว ไม่ได้ร้อนเงิน แต่ร้อนหัวล่างต่างหาก” “กรี๊ด ตี้ไม่คุยกับพี่แล้ว” ฉันเดินหนีออกมาเพราะอยู่ตรงนั้นไม่ได้แล้วจึงเดินมาหาน้องรามิ “ตี้ ทำไมหน้าแดงอ่า ย้อนเหยอ” “ร้อนนิดหน่อยค่ะ” “งั้นมานั่งตากแอร์กับมิเย็ว ตูนซาหนุกมาก” ฉันนั่งดูการ์ตูนกับน้องรามิไปเรื่อยๆ แต่เริ่มได้กลิ่นหอมของอาหารโชยมา หอมมาก ดมจากกลิ่นที่ลอยมาต้องอร่อยมากแน่ๆ “ตี้ มาช่วยหน่อยครับ” “ค่ะ น้องรามิเดี๋ยวพี่ตี้มานะคะ” “โอเช มินั่งยอที่โต๊ะเลยดีฟ่า หอมมากกก” เราสามคนนั่งทานอาหารกันไปเรื่อยๆ อาหารที่พี่เดลล์ทำก็คือ สเต็กไก่ สเต็กปลา ซุปเห็ด แล้วก็สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล ไม่น่าเชื่อ… พี่เดลล์ทำอาหารเก่งมากและอร่อยมากด้วย “เรน มิอยากเติมซุปเห็ด” “มาค่ะ เดี๋ยวพี่ตี้ไปตักให้ดีกว่านะคะ” ให้ฉันได้ช่วยบ้างก็แล้วกันเพราะงานในครัวฉันไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย สรุปใครเป็นแขก ใครเป็นเจ้าบ้านกันแน่ “ตี้ มิเอาชีสด้วยน๊า” “ค่ะคนสวย” น้องรามิชอบทานเมนูนี้เหมือนยาหยีเพื่อนสนิทฉันเลย ซุปเห็ดโรยชีสด้านบน ฉันเดินไปในครัวเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขาแยกเก็บไว้ต่างหากให้ฉันด้วยอ่ะ จะว่าไปการกระทำน่ารักนะ แต่อย่าเลยนะ อย่ามาทำให้ฉันหวั่นไหว ตอนนี้เด็กแสบกินอิ่มและหลับไปแล้ว ฉันให้พี่เดลล์อุ้มน้องรามิไปนอนในห้องนอนของฉัน เพราะนอนสบายกว่านอนโซฟา ส่วนฉันตอนนี้ก็ออกมาล้างจาน และพี่เดลล์ก็กำลังนั่งดูทีวีอยู่หน้าโซฟา ฉันยืนล้างจานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเสียงมือถือของฉันดังขึ้น แค่รู้ว่าใครโทรมาฉันก็ไม่อยากรับสายเลย พี่ภูมิ พี่ชายต่างแม่ เขาคือคนที่ไม่น่าไว้ใจและพร้อมจะลวมลามฉันทุกเมื่อที่มีโอกาส สายตาที่เขามองมันไม่ได้มองแบบพี่น้องและเขาอยู่ใกล้ชิดตัวฉันมากเกินไป เขาสัมผัสตัวฉันมากเกินไป สัมผัสมากเกินความจำเป็น ฉันรับรู้และสัมผัสได้ทุกอย่าง ฉันเคยบอกพ่อว่าเขาทำไม่เหมาะสม แต่พ่อก็ไม่ได้เข้าข้างฉัน พ่อพูดประโยคที่ทำร้ายจิตใจที่ฉันฟังแล้วต้องตัดสินใจออกมาอยู่คนเดียวทันที เพราะตอนที่แม่เสีย พ่อก็เอาฉันมาอยู่ด้วย เหมือนทำเพราะหน้าที่แต่ไม่ได้เต็มใจ พ่อรักครอบครัวใหม่ของพ่อมาก รักแม้กระทั่งลูกติดของเมียใหม่พ่อ แต่กับกับฉัน… ‘ไม่ใช่ว่าแกชอบพี่เขาเหรอ ไปอ่อยเขาเองหรือป่าว คิดว่าฉันไม่รู้รึไงว่าแกคิดจะจับเขา’ ประโยคนี้แหละที่ทำให้ฉันกล้าตัดสินใจหันหลังให้พ่อ ฉันออกมาอาศัยอยู่คอนโดคนเดียวจนเกือบจะสามปีได้แล้ว ครืด… เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ฉันจึงตัดสินใจรับสายให้มันจบๆ “มีธุระอะไรคะ” “น้องสาวของพี่ พูดแบบนี้พี่ก็เสียใจแย่” “...” “คิดถึง พี่ไปหาได้หรือป่าว เราไม่กลับมาบ้านนานแล้วนะ” “เราไม่จำเป็นต้องเจอกันค่ะ ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่และคนบ้านนั้น” “พี่คงทำแบบนี้ไม่ได้หรอก นัตตี้ก็รู้ดีนี่ครับว่าทำไม” “ไม่รู้ค่ะ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” “อย่าปฎิเสธพี่เลยนะพี่คุยกับพ่อให้ได้ ท่านไม่ขัดขวางความรักของเราหรอก” “ความรักบ้าบออะไรคะ นัตไม่เคยคิด” “พี่รู้ว่านัตก็ชอบพี่” “ไม่ได้ชอบค่ะ อย่าหลงตัวเอง ถ้าหมดธุระแล้วขอวางสายนะคะ” ฉันรีบกดวางสายทันทีคุยไปก็เสียสุขภาพจิต ฉันระแวงมากตอนที่อยู่บ้านหลังนั้น ย้อนเหตุการณ์ในวันวาน ฉันกำลังนอนหลับในห้องนอน แล้วฉันก็สลึมสลือตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าเหมือนมีคนมาแตะต้องตัว ฉัน ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาจนเห็นเงาผู้ชายคนหนึ่งนั่งปลายเตียง มือเขากำลังลูบไล้ขาของฉันและค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาสูงขึ้นๆ พรึบ! ฉันดีดตัวลุกขึ้นนั่งและรีบเปิดไฟตรงหัวเตียงทันที ‘พี่ภูมิเข้ามาห้องนัตทำไมคะ’ ตอนนี้กลิ่นตัวของพี่ภูมิมีแต่กลิ่นเหล้า ‘พี่แค่มาดูว่าเราหลับไปหรือยัง เห็นแม่บ้านบอกว่าไม่สบาย’ ‘นัตไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ พี่ภูมิออกไปได้แล้ว’ ‘นัต’ “...” ‘ให้พี่ดูแลนัตนะ’ ‘นัตหายดีแล้วค่ะ พี่ภูมิออกไปก่อนนะคะ ใครมาเห็นเข้ามันไม่เหมาะ’ ‘ให้พี่นอนกับนัตนะ พี่อยากนอนกอดนัต’ คำพูดคำจาเขาเริ่มส่อแววมากขึ้นเรื่อยๆ และในระหว่างที่เขาพูด สายตาเขาแทะโลมฉันแทบไม่ปิดบัง ‘ออกไปค่ะ’ ‘นัต’ ‘ออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นนัตจะฟ้องพ่อ’ ‘หึ สักวันนึงเถอะนัตจะต้องเป็นของพี่ จำคำที่พี่พูดเอาไว้’ ฟู่ววว ฉันพ่นลมหายใจหนักๆ เมื่อวางสายของพี่ภูมิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม