คิริวเงยหน้ามองนักข่าวด้วยสายตาเรียบเฉียบ มือประสานเรียบแน่น
“สถานะ…เราสองคนเป็นแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้นครับ ไม่มีอะไรเกินไปกว่านั้น”
น้ำเสียงเย็นเรียบแต่ชัดเจน ทำให้นักข่าวหลายคนเลิกคิ้ว
ทันใดนั้น เสียงของคุณหนูอิงอรก็ดังขึ้นอย่างมั่นใจ
“แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะคะ ตอนนี้เราอาจเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน แต่ใครจะรู้…ในอนาคต เราสองคนอาจเป็นมากกว่าเพื่อนก็ได้ค่ะ”
รอยยิ้มบาง ๆ ของเธอแฝงความท้าทาย ทำให้ทั้งนักข่าวและแขกที่อยู่รอบ ๆ ต้องหันมาสนใจ
“อย่างนี้หมายความว่าพวกคุณทั้งสองกำลังศึกษาดูใจกันแบบเงียบ ๆ อยู่หรือเปล่าครับ?” เสียงนักข่าวถามขึ้นอีกครั้ง
“อิงอรขออนุญาตไม่ตอบคำถามนี้นะคะ ให้เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ เราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน”
ทันทีที่คุณหนูอิงอรตอบ เสียงชัตเตอร์จากกล้องของนักข่าวก็เริ่มรัวเต็มไปหมด ทำให้บรรยากาศรอบตัวคึกคักขึ้นทันที
คิริวยืนอยู่ข้างอิงอร สายตาเรียบเฉียบแต่สอดส่องรอบตัว มือประสานแน่นข้างลำตัว
เขาไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ปล่อยให้อิงอรจัดการกับนักข่าวด้วยความสง่า
นักข่าวยังคงรัวกล้องและจดบันทึกอย่างไม่หยุด
“คุณคิริวครับ… งานประมูลครั้งนี้มีเพชรชิ้นสำคัญหลายชิ้น ทราบหรือยังครับว่าจะประมูลชิ้นไหนเป็นพิเศษ?”
เสียงถามดังขึ้นอีกครั้ง
คิริวเงยหน้า มือประสานเรียบแน่นกว่าเดิม
“ผมมาที่นี่เพื่อดูและตัดสินใจด้วยตัวเองครับ”
น้ำเสียงเย็นเรียบ ทำให้นักข่าวบางคนเริ่มเลิกคิ้ว แต่ยังคงถ่ายภาพและบันทึกต่อไป
คิริวและอิงอรก้าวออกจากจุดสัมภาษณ์ นักข่าวยังคงรุมถ่ายภาพและจดบันทึกตามหลัง
บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความคึกคักและตึงเครียด
พนักงานนำทั้งคู่ไปยังโต๊ะประมูลที่จัดไว้เป็นพิเศษ
เพชรแต่ละชิ้นวางเรียงรายภายใต้แสงไฟส่องสว่างระยิบระยับ
คิริวกวาดสายตาไปยังเพชรแต่ละชิ้น มือประสานอยู่ด้านหน้า เรียบเฉียบ
นักข่าวบางส่วนถอยออกไปยืนสังเกตการณ์
แขกผู้ใหญ่เริ่มนั่งประจำที่โต๊ะประมูล สายตาเฉียบคมจับจ้องเพชรแต่ละชิ้น
คิริวและอิงอรนั่งเคียงกัน เตรียมพร้อมสำหรับเกมที่กำลังจะเริ่ม
ทันใดนั้น ร่างสูงใหญ่ของอเล็กซ์เคลื่อนเข้ามานั่งข้างคิริวอย่างไม่รีรอ
“กูไม่คิดว่ามึงจะมาด้วยตัวเอง” น้ำเสียงของเขาแฝงความประหลาดใจเล็กน้อย
คิริวยักคิ้ว มองอเล็กซ์อย่างนิ่งเรียบ
“กูว่ามึงน่าจะรู้อยู่แล้ว” น้ำเสียงเย็นเฉียบ แต่แฝงความท้าทายบางเบา
อิงอรนั่งใกล้ ๆ ส่งสายตาเล็กน้อย ก่อนยิ้มมุมปาก “อเล็กซ์…สวัสดี อรคิดว่าอเล็กซ์จะไม่มาซะอีก”
อเล็กซ์ยักไหล่เล็กน้อย พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ต้องมาสิ งานสำคัญแบบนี้ จะพลาดได้ยังไง”
แสงไฟส่องลงบนเพชรชิ้นแรก ระยิบระยับดั่งดาวประกาย บรรยากาศในห้องเงียบลงอย่างชั่วครู่ ก่อนเสียงผู้ดำเนินการประมูลจะดังขึ้น
“เพชรชิ้นแรกของค่ำคืนนี้ น้ำหนักสามสิบกะรัต สี D-F ความใสระดับสูงสุด เปิดราคาที่หนึ่งล้านบาทครับ!”
คิริวมองเพชรชิ้นนั้นนิ่ง มือประสานอยู่ด้านหน้า
อิงอรนั่งข้าง ๆ คิริว ส่งสายตาเรียบสง่า แต่แฝงความตื่นเต้น
เสียงแขกคนแรกยกป้ายขึ้น
“หนึ่งล้านห้าแสน!”
ตามด้วยเสียงป้ายอื่น ๆ แข่งราคาขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
อเล็กซ์ยักไหล่ ก่อนยกป้ายขึ้นเอง
“สองล้าน!”
คิริวมองราคาแล้วมือหยิบป้ายขึ้นอย่างสง่า
“สองล้านห้า!”
น้ำเสียงเย็นเรียบ แต่เต็มไปด้วยอำนาจและความมั่นใจ
นักข่าวถ่ายภาพรัวราวกับต้องการจับทุกความเคลื่อนไหว
แขกทุกคนจ้องไปที่คิริว รู้ทันทีว่าคนตรงหน้าคือคู่แข่งที่ไม่ธรรมดา
อิงอรยิ้มมุมปาก พลางกระซิบเบา ๆ
“คิริว…คืนนี้คงสนุกไม่น้อยนะคะ”
คิริวไม่ตอบ สายตายังคงจับจ้องเพชรที่อยู่ตรงหน้า
เสียงป้ายประมูลดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แขกหลายคนยกป้ายแข่งขันราคาของเพชรชิ้นแรกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“สามล้าน!”
“สามล้านห้า!”
“สี่ล้าน!”
อเล็กซ์ยกป้ายขึ้นอีกครั้ง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้า
“สี่ล้านห้า!”
คิริวมองราคาอย่างนิ่ง มือหยิบป้ายขึ้นพร้อมยกขึ้นเหนือหัว
“ห้าล้าน!”
น้ำเสียงเย็นเฉียบแต่ชัดเจน ทำให้ทั้งห้องเงียบลงชั่วครู่ ทุกสายตาจับจ้องเขา
นักข่าวรัวชัตเตอร์อย่างไม่หยุด แขกบางคนกระซิบกระซาบกัน
เสียงผู้ดำเนินการประมูลดังขึ้นอีกครั้ง
“ราคาสูงสุดตอนนี้อยู่ที่ห้าล้านบาท ใครจะสู้ต่อครับ?”
บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด แขกทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ของราคาที่กำลังจะร้อนแรงขึ้น
ผู้ดำเนินการประมูลเคาะไม้เบา ๆ เป็นจังหวะเรียบ
“ห้าล้าน… ห้าล้าน… และปิดประมูล! ขอแสดงความยินดีกับคุณคิริวครับ เพชรชิ้นแรกตกเป็นของคุณ”
เสียงชัตเตอร์ของนักข่าวดังรัวเต็มห้อง แขกหลายคนพากันหันมาสนใจคิริว
ทันทีที่เพชรชิ้นแรกถูกปิดประมูล ผู้ดำเนินการประมูลก็ประกาศต่อ
“และนี่คือเพชรชิ้นที่สอง น้ำหนักยี่สิบกะรัต สี D ความใสสูงสุด เปิดราคาที่หนึ่งล้านบาทครับ!”
คิริวเงยหน้ามองเพชรชิ้นใหม่ มือยังคงประสานแน่น
อิงอรยืนเคียงข้าง พลางส่งสายตาเรียบสง่า เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันต่อ
เสียงประมูลเริ่มขึ้นอีกครั้ง แขกหลายคนยกป้ายและเริ่มแข่งขันราคาของเพชรชิ้นที่สอง
เสียงป้ายประมูลของแขกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แขกหลายคนยกป้ายแข่งขันราคาของเพชรชิ้นที่สอง
“หนึ่งล้านห้า!”
“สองล้าน!”
“สองล้านห้า!”
คิริวเงยหน้ามองเพชรนิ่ง มือประสานแนบลำตัว
“สามล้านครับ!”
น้ำเสียงเย็นเรียบแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
แขกบางคนเริ่มหยุดยกป้าย แต่ผู้ดำเนินการประมูลยังคงเคาะไม้ช้า ๆ เป็นจังหวะ
“สามล้าน…สามล้านห้า…”
เสียงเคาะไม้ค่อย ๆ ดังชัดเจนขึ้นทุกครั้ง แขกคนสุดท้ายเริ่มลังเล ก่อนยกป้ายขึ้นเพียงครั้งเดียวแล้ววางลง
ผู้ดำเนินการประมูลยกไม้ขึ้นเคาะครั้งสุดท้าย
“และปิดประมูล! ขอแสดงความยินดีกับคุณคิริวครับ เพชรชิ้นนี้ตกเป็นของคุณในราคา สามล้านห้า”
เสียงชัตเตอร์ของนักข่าวรัวเต็มห้อง แขกคนอื่นพากันหันมาจับจ้องคิริวอีกครั้ง
จนมาถึงคิวสุดท้ายของค่ำคืนนี้ สร้อยเพชรชิ้นพิเศษ 50 กะรัตถูกนำออกมา
ภายใต้แสงไฟ สร้อยเพชรนี้ระยิบระยับเหมือนสายน้ำจากเพชรแท้บริสุทธิ์ทุกกะรัต
เพชรแต่ละกะรัตน้ำหนักเฉลี่ย 0.5 กะรัต
สี D-F ความใสระดับสูงสุด (Flawless to VVS1)
เจียระไนแบบ Round Brilliant และ Princess Cut สลับกันอย่างลงตัว
ขอบทองคำขาว 18K สลักลายอ่อนช้อย พร้อมฝังเพชรเล็กบริเวณข้อต่อทุกจุด
เมื่อสวมใส่ สร้อยจะโค้งล้อมรอบคออย่างอ่อนช้อย ระยิบระยับสะท้อนแสงไฟรอบตัว
ความยาวและการจัดเรียงทำให้ทุกการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ เปล่งประกายดุจราชินีแห่งค่ำคืน
แขกทุกคนเงยหน้ามอง สายตาพราวระยิบ
นักข่าวรีบยกกล้องเก็บภาพราวกับไม่อยากให้มุมใดของสร้อยเพชรนี้หลุดสายตา
ผู้ดำเนินการประมูลประกาศเสียงชัดเจน
“สุดท้าย…สร้อยเพชรน้ำหนักรวมห้าสิบกะรัต ความใสระดับสูงสุด เปิดราคาที่ยี่สิบล้านบาทครับ!”
คิริวเงยหน้ามองสร้อยเพชรด้วยสายตาเรียบเฉียบ มือประสานอยู่ด้านหน้าอย่างสง่างาม
แสงไฟสะท้อนบนเพชรแต่ละกะรัต ทำให้สร้อยระยิบระยับราวกับมีชีวิต แขกและนักข่าวทุกคนต่างเงยหน้ามองด้วยความประทับใจและอึ้งในความหรูหราของมัน
เสียงป้ายประมูลเริ่มดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แขกหลายคนยกป้ายแข่งขันราคาของสร้อยเพชร
“ยี่สิบห้าล้าน!”
“สามสิบล้าน!”
“สี่สิบล้าน!”
คิริวเงยหน้ามองสร้อยเพชรนิ่ง มือหยิบป้ายขึ้นสูง ร่างสง่างามเต็มไปด้วยความมั่นใจ
น้ำเสียงเย็นเรียบแต่หนักแน่นก้องในห้องประมูล
“หนึ่งร้อยล้าน!”
แขกหลายคนในห้องถึงกับหันมามองด้วยสายตาตกตะลึง บางคนเบิกตากว้าง
แสงไฟสาดส่องบนเพชรแต่ละกะรัต ทำให้สร้อยระยิบระยับราวกับมีชีวิต ทุกมุมมองจับประกายเพชรที่วิบวับสะท้อนออกมา
นักข่าวรีบยกกล้องเก็บภาพ แขกบางคนกระซิบกระซาบกันด้วยน้ำเสียงตกใจ
“หนึ่งร้อยล้านจริงเหรอ…?”
“ใครจะกล้าแข่งกับเขาได้อีกล่ะ”
ผู้ดำเนินการประมูลเคาะไม้เบา ๆ เป็นจังหวะเรียบครั้งสุดท้าย
“และปิดประมูล! ขอแสดงความยินดีกับคุณคิริวครับ เพชรชิ้นนี้ตกเป็นของคุณในราคา หนึ่งร้อยล้านบาทครับ”
เสียงดังสะท้อนไปทั่วห้อง ประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่า สร้อยชิ้นนี้ขึ้นราคาอย่างเป็นทางการแล้ว