bc

ราพณ์ร้าย

book_age12+
5
ติดตาม
1K
อ่าน
adventure
จบสุข
คนใช้แรงงาน
ดราม่า
ลึกลับ
โลกอื่น
สงคราม
like
intro-logo
คำนิยม

ทั่วสวรรค์ชั้นฟ้ารู้ดีว่ามีองค์อิศวรเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทำให้รามสูรยอมศิโรราบ แล้วไยบัดนี้อสุราผู้ยิ่งใหญ่เช่นตนต้องมาจำนนให้กับศรแห่ง “พระกามเทพ” นั่นด้วย

แม้รามสูรจะดูมุทะลุดุดัน แต่อสุราตนนี้กลับรักมิตรอย่างพระราหูอย่างแน่นแฟ้น เมื่อมีหนทางที่จะทำให้สหายรักสามารถเชื่อมต่อท่อนบนกับท่อนล่างที่ขาดสะบั้น อีกทั้งยังได้ประกาศศักดาความเก่งกาจแก่เหล่าทวยเทพ รามสูรย่อมเต็มใจทำ ต่อให้ของวิเศษนั้นจะตกอยู่ในเงื้อมือมนุษย์เขาก็จะแย่งชิงให้ได้

ปภัสสรจึงใช้โอกาสนี้ยื่นข้อเสนอให้มหาอสุราติดตามคุ้มครองนางในป่าหิมพานต์

ช่วยนางหาสิ่งของมาแก้อุบาทว์เมือง

นางจะทำสำเร็จหรือไม่

แล้วรามสูรจะกลเม็ดใดล่อลวงให้นางมอบของวิเศษให้อย่างเต็มใจ

จงพลิกหน้ากระดาษต่อไปเพื่อหาคำตอบ

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ ยักษ์อันธพาล
วิมานชั้นฟ้าสว่างวาบด้วยลำแสงสีเขียวแดงเข้าปะทะกัน เหล่าเทพยดาชั้นผู้น้อยต่างหลบซ่อนกายในกลีบก้อนเมฆสีทองลอบมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยใจระทึก หนึ่งบุรุษผู้มีรัศมีสีเขียวเรืองรอง วรกายสูงใหญ่ เครื่องหน้าคมสันดั่งภาพวาด ริมโอษฐ์ยกยิ้มน้อย ๆ ทว่าเขี้ยวคู่ที่งอกออกมานั้นกลับทำให้ดูน่าเกรงขามมากกว่าจะชมว่างามได้ อีกฟากฝั่งเป็นบุรุษร่างท้วม รัศมีสีแดงเจิดจ้าโอบล้อมดูอบอุ่น ใบหูกุญชรที่ปกติลู่ไปตามศีรษะบัดนี้แผ่จังก้า บ่งออกถึงอารมณ์คุกรุ่นอยากจะกำราบอสุราตรงหน้าให้ล้มเลิกความตั้งใจ ทั้งที่รามสูรเพิ่งถูกงวงอันทรงพลังของพระพิฆเนศจับเหวี่ยงโยนไปไกลจนสลบไสล พอฟื้นคืนสติได้ก็เหินเวหากลับมาอย่างไม่ย่อท้อ “ข้าต้องการพบองค์อิศวร” เสียงพูดธรรมดาแต่กลับก้องกังวาน “องค์พระบิดาทรงบรรทม” พระคเณศทรงเบื่อหน่ายกับอสุราตนนี้ยิ่งนัก รามสูรคิดว่าตนเป็นคนโปรดของพระบิดา คิดจะเข้าเฝ้าได้ตามอำเภอใจหรือไร รามสูรย้ำคำเดิม พระพิฆเนศก็ยังคงยืนกรานคำเดิม ทว่าคราวนี้รามสูรไม่ได้บุ่มบ่ามเข้าไปเหมือนคราก่อน ด้วยรู้ซึ้งดีว่างวงกุญชรที่กวัดแกว่งอยู่นั่นทรงพลังเพียงใด รามสูรหลับตานิ่ง พลันมือที่เคยว่างเปล่าสว่างวาบ กลุ่มแสงสีเขียวรวมตัวขึ้นกลายเป็นขวานวิเศษน่าเกรงขามด้ามหนึ่ง ใบขวานแวววาวดั่งเพชร เพียงแค่ควงสะบัดไปมาก็บังเกิดเสียงครืนครืน พระคเณศตระหนักแล้วว่าอสุราตนนี้ดื้อดึงกว่าที่คิด กล้าเรียกอาวุธวิเศษที่พระบิดาประทานให้มาข่มขู่ตน ทันทีที่ขวานวิเศษถูกขว้างมา พระพิฆเนศก็ก้มงัดด้วยงา ทว่าคมขวานตัดงาแกร่งนั่นจนขาดกระเด็น อานุภาพพลังปะทะกันสะท้อนไปทั่วจนเหล่าเทวดากระเจิงจากที่ซ่อน เสียงกึกก้องทั่วเวหน ทิพย์วิมานอยู่ใกล้พังครืนลงระเนระนาด ไม่ว่าจะผ่านมานานนับร้อยปี รามสูรก็คือรามสูร ความถือดีนี่ยากจะมีใครเทียม ทั่วสวรรค์ชั้นฟ้าระอาในความดื้อดึงของอสุราตนนี้ยิ่งนัก หากพบเห็นต้องเร้นกายให้ไกล ไม่อยากสมาคมกับยักษ์อันธพาล! นอกจากพระอิศวรและราหูก็ดูเหมือนว่าไม่มีใครใคร่อยากสานสัมพันธ์กับรามสูรเท่าไรนัก แม้แต่พระแม่อุมาเทวีที่ใจกว้างดั่งมหานทีสีทันดรยังแสดงความขุ่นมัวในบางห้วงอารมณ์ยามที่สวามีสนทนาพาทีกับสองอสุรา พระพิฆเนศก็เช่นกัน แม้จะได้รับพลังอสูรกึ่งหนึ่งของรามสูรทดแทนงาที่หักไปแล้วก็ยังคงวางตนเหินห่างจนดูน่าอึดอัดยิ่ง เพลานี้ห้องทิพย์วิมานแห่งองค์พระอิศวรสว่างไสว กลิ่นหอมจาง ๆ ของกำยานกฤษณาคล้ายมีคล้ายไม่มีทำให้ผู้อยู่ในห้องรู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก องค์พระอิศวรพระวรกายแผ่รัศมีสีนวลดั่งจันทร์เพ็ญ ประทับบนบัลลังก์ตกแต่งเรียบง่าย ด้านล่างโคนนทิหมอบอยู่ไม่ห่าง พระเนตรอันอาทรทอดมองมายังอสุรินทราหู อสุราผู้สุขุมและถือสัจจะเหนือสิ่งอื่นใด ราหูนั้นกายท่อนบนเปลือยเปล่าคาดสังวาลสีทองอร่ามแผ่รัศมีสีดำจาง ๆ ไม่ว่าจะย่างกรายไปที่ใดก็สร้างความหวั่นเกรงให้กับบรรดาทวยเทพชั้นสูงที่พบเห็นด้วยเกรงจะถูกจับกลืนกินเช่นจันทรเทพและสุริยเทพครากวนน้ำอมฤต ท่อนล่างที่เคยถูกจักรตัดขาดสะบั้นถูกแทนที่ด้วยลำตัวพญานาคยิ่งเป็นการขับความน่าเกรงขามขึ้นไปอีก “มีของวิเศษอยู่สิ่งหนึ่ง ที่จะทำให้ร่างกายท่อนล่างของเจ้ากลับมาองอาจดั่งกาลก่อน” สุรเสียงที่เจือด้วยความอาทรของพระผู้เป็นใหญ่ในชั้นฟ้าทำสองอสุราตาลุกวาว จดจ่อรอฟังคำเอื้อนเอ่ยต่อจากนี้อย่างใจระทึก “ลูกแก้วเมขลา” พระราหูยังคงรักษาความสุขุมไว้ได้ดี ทว่ารามสูรผู้รักสหายนี้กลับลิงโลดในใจ เขาย่อมรู้จักเทวีผู้อารักขามหาสมุทรนี้ดีกว่าใคร ทุกคราที่ฝนฟ้ากระหน่ำ นางจะล่องลอยเหนือท้องมหาสมุทรนำลูกแก้วของพญามังกรผู้เป็นบิดาออกมาโยนเล่น ความงามนางเลื่องลือไปทั่วสวรรค์ชั้นฟ้า รามสูรเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ตามไล่ล่า แม้เหล่าเทวดาจะมองว่าเขาเป็นยักษ์บ้าตัณหา ชมชอบเมขลาผู้บอบบางดั่งนางกินรี แต่ราหูสหายรักรู้ดีที่สุดว่ารามสูรเกลียดแสงวูบวาบของลูกแก้วนั่นรวมถึงความจองหองของเมขลาที่มักดูแคลนว่ารามสูรเป็นเพียงยักษ์ตัดฟืนจนต้องการบั่นแก้วนั่นให้มันแหลกคามือ! ราหูเป็นเทพกึ่งอสูรผู้รักสงบ นึกปล่อยวางกับท่อนล่างที่ขาดหายไป เพราะอย่างไรเสียตอนนี้ท่อนล่างของตนก็กลายเป็นพระเกตุไปแล้ว ทว่าสำหรับรามสูรสหายรัก เรื่องนี้เปรียบดั่งศักดิ์ศรี เขาต้องการประกาศศักดาให้ทวยเทพได้รู้ว่า อสุรายังคงแข็งแกร่งและเก่งกาจกว่าเหล่าเทวดา การได้มาซึ่งลูกแก้วนางเมขลาจะทำให้สหายได้ร่างที่สมบูรณ์กลับคืนและทำให้เทพบุตรที่หมายตานางจุกแน่นอกจนอยากไปอุบัติใหม่เพราะพระอิศวรทรงตรัสแล้วว่าผู้ที่ได้ดวงแก้วย่อมได้ครอบครองนางเช่นกัน ครั้นวสันตฤดูเวียนบรรจบ บรรดานางฟ้าเทวดาต่างพากันแต่งกายงดงามออกมารื่นเริง ทว่าเป้าหมายของรามสูรกลับเป็นเทพธิดาผู้อรชรที่ร่ายรำอ่อนช้อยโดดเด่นท่ามกลางนางฟ้านับร้อย เมขลา! พอหยาดฝนเริ่มโปรยปราย กลิ่นหอมของดอกมณฑาทิพย์กำจายฟุ้ง นางก็เสกดวงแก้วขึ้นมา ทะยานกายเหาะเหินเหนือเหล่านางฟ้าให้แสงแก้วแวววับสาดส่องเพื่อดึงดูดให้บรรดาเทวดาหนุ่มสนใจนางเพียงผู้เดียว รามสูรยิ้มเยาะในใจ “ก็แค่นางฟ้าขี้อวด หากไร้ซึ่งมณีนั่นรูปโฉมนางก็ดาษดื่นเหมือนนางฟ้าทั่วไป” แต่เอาเถอะหลังชิงดวงแก้วได้แล้ว เขาจะประทานนางให้กับราหูสหายผู้อาภัพก็แล้วกัน รามสูรบิดกายไล่ความเมื่อยขบ เขาหลบซ่อนอยู่ในกลีบเมฆสีทองโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้เพราะมิได้เผยร่างอสุรา ทั้งใบหน้าจึงปราศจากเขี้ยวงอก ผิวกายเรืองรองไร้รัศมีสีเขียวจาง ๆ อย่างที่เคยมี ร่างนี้เคยทำให้นางฟ้าหลายนางเกี้ยวพาราสีอย่างออกหน้าออกตา เพื่อป้องกันความน่ารำคาญ รามสูรจำต้องเผยร่างจริงทุกครั้งที่พำนักอยู่บนวิมานแดนสวรรค์ กลีบเมฆค่อยเลื่อนผ่านกาย เผยร่างองอาจที่ท่อนบนเปลือยเปล่าที่ใครเห็นเป็นต้องชื่นชมความสมส่วน พลันหลับตาเรียกขวานเพชรคู่กายจำเป็นต้องกลับคืนร่างเดิมเพื่อให้สามารถใช้อาวุธได้อย่างทรงพลัง รัศมีสีเขียวเริ่มแผ่กระจาย ริมฝีปากงอกเขี้ยวโง้ง ดวงตาแวววับสีแดงเพลิงทำเอานางฟ้าเทวดาที่พบเห็นต่างแตกตื่นลืมความสนุกไปเสียสิ้น นางเมขลาเริ่มมีโทสะ ค่อยร่อนกายลงมา นางจะอวดความงามของดวงแก้ว ไยอสุราตนนี้จึงต้องมาขัดจังหวะทุกคราไป เสียงหวานบริภาษ “เจ้ายักษ์อันธพาล ช่างอาจหาญมาล่มความครื้นเครง ข้าจะนำเรื่องนี้ไปทูลองค์อินทร์” รามสูรถอนหายใจ “เด็กน้อยเช่นเจ้าบังอาจขโมยดวงแก้วบิดามาเล่น ทำมาเป็นโอ้อวดราวกับว่าของวิเศษนี้เป็นของตน” เมขลาเชิดหน้า “แล้วอย่างไร ของบิดาก็เหมือนของลูก ว่าแต่ท่านเถอะ อยากได้ของคนอื่นช่างน่าละอายนัก” แล้วนางก็ชูดวงแก้วขึ้นฟ้าให้รัศมีลูกแก้วสาดส่องเป็นสีรุ้ง บรรดาเทวานางฟ้าส่งเสียงฮือฮาชื่นชมในความงามลืมความกลัวเสียสิ้น แต่สำหรับรามสูรแล้วแสงนี้ช่างแสบตาน่ารำคาญจนต้องยกมือป้อง ก่อนคิดจะอาศัยช่วงที่ทุกคนเผลอไผลเหาะขึ้นไปจะคว้าเอาลูกแก้วดวงเท่ากำปั้นนี้มาครองให้ได้ แต่ยังไปไม่ถึงพลันมีเสียงหนึ่งดังก้องกังวานดังข้ามศีรษะ “แย่งของจากสตรีเช่นนี้ สมแล้วที่เป็นอสุรา” เทพบุตรรูปงามค่อยร่อนกายลงมาขวางหน้ารามสูรอย่างผ่าเผย ผ้าสีทองโปร่งที่พาดอกพลิ้วไหวงดงาม ปลายเท้าแตะพื้นอย่างแผ่วเบา “เทพอสูร” รามสูรแก้ไขให้ ตนเป็นถึงเทวาสุรารักษ์ เทพบุตรตนนี้ชักจะอหังการ์เกินไปแล้ว ทั้งยังทำท่ากอดอกหัวเราะเยาะยียวนน่าสับเป็นชิ้น ๆ นัก “นั่นย่อมไม่ต่างกัน อสุราก็คืออสุรา” “ซึ่งเทวดาชั้นต่ำอย่างเจ้าเทียบไม่ได้” คำถากถางนี้ทำอีกฝ่ายมีโทสะ “ตัวข้าอรชุน เคยจับทศกัณฐ์ผู้มียี่สิบมือมาแล้ว เจ้าก็แค่อสูรอ่อนด้อยผู้ปฏิสนธิจากเมฆฝน ไม่คณามือข้าหรอกกระมัง” ว่าจบก็หลับตาเสกพระขรรค์ขึ้นมา นางเมขลากับบรรดาเทวดานางฟ้าต่างพากันหาที่ซ่อน รามสูรไม่พิรี้พิไรกระโดดขึ้นถีบยอดอกเทพอรชุนจนผงะไป พอตั้งหลักได้เทพหนุ่มกำลังจะพุ่งเข้ามาหา รามสูรก็โผล่มาด้านหลังดึงศีรษะไว้เงื้อขวานเพชรจะบั่นคอ อรชุนเอี้ยวตัวม้วนหลบ สะบัดด้ามพระขรรค์กระทุ้งอกรามสูรจนผงะไป แรงปะทะของหนึ่งเทพอสูรหนึ่งเทพบุตรดังกัมปนาท อรชุนขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เก่งกาจด้านการรบ รามสูรเองก็ไม่น้อยหน้า จังหวะพระขรรค์อรชุนจ้วงแทงมาก็เบี่ยงหลบอย่างง่ายดาย ยามฟันขวานใส่อรชุนก็หลบฉากได้เช่นกัน ด้วยรามสูรขึ้นชื่อว่าเจ้าเล่ห์ กระโดดถอยหลังออกมาหลายก้าวแล้วขว้างขวานลอยลิ่วไปกลางอากาศ อรชุนเห็นดังนั้นก็เอี้ยวตัวตีลังกาหลบในระยะไกล นั่นจึงทำให้รามสูรสบช่อง กระโดดไปคว้าขาอรชุนไว้มั่นแล้วจับเหวี่ยงหมุนวนดั่งพายุเหมือนคราที่พระพิฆเนศใช้งวงหมุนตน อรชุนเริ่มตาลายปัดป่ายอากาศไปมา ตะโกนให้ปล่อย “ปล่อยข้า!” รามสูรกระตุกยิ้ม “ได้ตามประสงค์” แล้วก็ปล่อยขาอรชุนกลางอากาศ ด้วยแรงแห่งอสุราร่างนั้นถูกเหวี่ยงลอยละลิ่วเคว้งไปฟาดกับเขาพระสุเมรุจนสิ้นใจ เสียงครืนดังสะเทือนก้องทั่วสวรรค์ เขาพระสุเมรุทรุดเอียงกระเท่เร่ แต่รามสูรไม่มีเวลาที่จะมาสนใจ ด้วยเป้าหมายตอนนี้คือ มณีเมขลา! เทพบุตรนางฟ้าเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนก็เริ่มถอยห่าง รามสูรยิ้มเยาะ นึกขันในความสัมพันธ์ฉาบฉวยของทวยเทพเสียจริง เมขลาเห็นท่าไม่ดีจึงจะเหาะหนีไปยังมหาสมุทรอันเป็นที่พำนักของตน ครั้นพอเหาะจากวิมานชั้นฟ้า รามสูรก็ขว้างขวานออกไป แต่ด้วยแสงลูกแก้วที่แยงตาทำให้พลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกิดเป็นปรากฏการณ์ฟ้าร้องก้องทั่วปฐพี นางเมขลาเกิดความหวาดกลัวเกาะกินใจ ใครจะคาดคิดว่าแม้แต่เทพอรชุนอสุราตนนี้ยังกล้าสังหารต่อหน้าธารกำนัล นางหันรีหันขวาง เหาะเหินสะเปะสะปะไปทั่ว จนมาถึงกลางป่าใหญ่ดินแดนมนุษย์นอกหิมพานต์ที่ปกคลุมด้วยความมืดมิดแห่งราตรีกาล รามสูรเหาะมาดักรอตรงหน้าจนนางสะดุ้ง ลำแสงแห่งคมขวานสว่างวาบปะทะเข้ากับดวงแก้วฉับพลัน แรงปะทะลั่นเปรี้ยงสว่างวาบ ทั่วท้องนภามืดครึ้มด้วยรังสีแห่งจอมอสูร เมฆดำทะมึนปรากฏเงาใหญ่สองร่างลอยอยู่เหนือเมฆ แขนบอบบางของเมขลาชาดิก มือที่กำดวงแก้วเผลอคลายด้วยความตกใจ ดวงแก้วลูกเท่ากำปั้นร่วงหล่นหดเล็กลงตกทะลุหลังคาบ้านเก่าคร่ำคร่ามุงแฝก ทารกเพศหญิงพึ่งคลอดร้องไห้จ้า ลูกแก้ววิเศษก็ผลุบหายเข้าไปในปากนั่นพอดิบพอดี!

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

ข้าก็แค่ภูตน้อยจอมเกียจคร้านคนหนึ่ง

read
1.5K
bc

สงครามรักในเงามืด

read
1K
bc

สร้างเนื้อสร้างตัวในยุคจีนโบราณ

read
19.2K
bc

เกิดใหม่มีสามีตาบอด

read
2.4K
bc

เก็บขยะจนรวย ด้วยระบบรักษ์โลก

read
1K
bc

เซียนสาวเกิดใหม่ขอไลฟ์สดทำนายดวง

read
1K
bc

เสมือนหนึ่งใจเคยรัก

read
2.0K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook