EP3 ‘ทำไมต้องเป็นจ้าน?’

2421 คำ
EP3 ‘ทำไมต้องเป็นจ้าน?’ หลายวันต่อมา... Jasmin's Part 'ตกลงเรื่องที่กูให้กลับไปคิดจะเอายังไงจัสมิน ไม่มีเวลาแล้วนะอีกไม่กี่วันมึงต้องไปดูตัวแล้ว’ ฉันถอนหายใจหลังจากอ่านข้อความจากแก้มที่ส่งมาถามถึงเรื่องที่คุยกันวันนั้นที่จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอายังไงต่อดีจนตอนนี้ก็ใกล้ถึงวันดูตัวขึ้นมาทุกที วันก่อนคุณพ่อกับคุณแม่ก็เรียกเข้าไปลองชุดที่จะต้องใส่ไปดูตัว พวกท่านไม่ได้ถามอะไรฉันอีกแถมยังดูคาดหวังมากว่าการแต่งงานของฉันจะราบรื่นทำเอาฉันไม่กล้าพูดหรือแย้งอะไรเลย ความคิดของฉันตอนนี้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง แน่นอนว่ายังไงก็ไม่อยากแต่งอยู่แล้วแต่ว่าอีกใจก็อยากตามใจผู้มีพระคุณทั้งสองคน แผนของแก้มไม่ได้ให้ฉันไปพูดต่อหน้าผู้ใหญ่ฝั่งนั้นว่าตัวเองไม่บริสุทธิ์โต้งๆ เลยหรอกนะแต่มันบอกว่านอกจากจะไม่บริสุทธิ์แล้วต้องอ้างว่าตัวเองมีคนรักแล้วด้วยซึ่งก็คือ ‘จัดจ้าน’ พล็อตนิยายหรือละครมากเลยว่ามั้ยแต่มันบอกว่าเพื่อความเนียนต้องอ้างแบบนั้นแหละส่วนจะเป็นยังไงต่อก็ต้องมาลุ้นอีกที มันดูทำเกินไปหน่อยฉันแย้งกับแก้มแล้วนะว่าถ้าเกิดแค่พูดอ้างชื่อไม่ต้องมีอะไรกับจัดจ้านจริงๆ ก็ได้นี่นาแต่แก้มบอกว่าเผื่อเป็นเหมือนในละครที่ตัวร้ายอาจจะขอพิสูจน์ว่าไม่บริสุทธิ์จริงมั้ยคบกันจริงหรือเปล่าอะไรแบบนั้นจะยิ่งไปกันใหญ่ แก้มบอกให้ฉันคิดว่าถึงทางนั้นยังรั้นจะแต่งอยู่ดีแต่อย่างน้อยครั้งแรกที่ฉันหวงนักหนาก็ยังเป็นของจัดจ้านคนที่ฉันเต็มใจให้ดีกว่าเสียให้คนอื่นที่ฉันไม่ได้เต็มใจ แปลกดีนะเป็นเพื่อนกันแต่ทำไมถึงรู้สึกว่าถ้าเป็นจ้านฉันถึงเต็มใจที่จะมอบครั้งแรกให้กันแต่ก็ยังติดตรงที่ยังกลัว กลัวว่าระหว่างเรามันจะไม่เหมือนเดิม... ตั้งแต่วันนั้นเราก็ยังไม่ได้เจอกันอีกเลยฉันไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับเขาด้วย จัดจ้านจะมาหาฉันหลายครั้งแล้วแต่เป็นฉันเองที่หลบหน้าเขา ไม่รู้สิพอคิดว่าจะต้องเจอหน้าจัดจ้านเรื่องที่แก้มบอกให้ทำก็เข้ามาในหัวตลอดทำฉันสับสนวุ่นวายใจไปหมด ฉันยังไม่พร้อมเจอเขาตอนนี้ นั่งคิดอะไรคนเดียวไปเรื่อยคนที่ฉันกำลังคิดถึงก็ส่งข้อความเข้ามาพอดี Jadjan Jadjan: เธอทำอะไรอยู่คะ ทานข้าวกันมั้ยเดี๋ยวจ้านไปรับ Jasmine: ไม่หิวเลยอะจ้าน Jasmine: จ้านทานไรยัง Jadjan: ยังเลยค่ะ อยากทานกับเธอ Jasmine: แต่เราไม่หิวอะ จ้านไปทานเลยๆ Jadjan: ค่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวชวนพวกไอ้ไฟออกไปกินด้วยก็ได้ Jasmine: จ้าน Jadjan: ว่าไงคะ Jasmine: โกรธหรือเปล่า Jadjan: ช่างเถอะค่ะ ก็เธอไม่หิวนี่นา Jasmine: มาหาเราหน่อย Jasmine: เดี๋ยวทำอะไรให้ทาน Jadjan: แต่เธอไม่หิวนี่คะ จ้านไม่กวนดีกว่า สัมผัสได้ถึงความน้อยใจผ่านตัวอักษรเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จัดจ้านชวนทานข้าวแล้วฉันปฏิเสธ ด้วยความรู้สึกผิดฉันจึงตัดสินใจพิมพ์สิ่งที่คิดว่าน่าจะทำให้คนตัวสูงอารมณ์ดีขึ้นและยอมมาเจอกัน Jasmine: เราอยากเจอจ้าน Jasmine: มาหาเราหน่อยนะ Jadjan: ไม่หลบหน้าจ้านแล้วหรอคะ เขารู้ ยิ่งทำฉันรู้สึกผิดเขาเข้าไปใหญ่ Jasmine: ขอโทษ มาหาเรานะจ้าน Jasmine: นะคะ Jadjan: ยี่สิบนาทีถึงค่ะ ทำอาหารรอเลย . . @คอนโดจัสมิน Jadjan's Part เพราะลูกอ้อนของคนตัวเล็กที่ส่งข้อความมาว่าอยากเจอผมหลังจากที่ไม่เจอกันมาหลายวันเพราะอยู่ๆ จัสมินเอาแต่เลี่ยงและหลบหน้าผม ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าเธอหลบหน้าผมทำไมทั้งที่ก่อนหน้านี้เรายังดีๆ กันอยู่เลย ผมเก็บความน้อยใจไว้แล้วพยายามทำตัวตามปกติจนเธอเรียกมาหานี่แหละ หลังจากทำอาหารง่ายๆ ให้ผมทานเสร็จคนตัวเล็กก็นั่งเขี่ยมือถือในมือเล่นไม่รู้ตอบแชตใครนักหนาไม่คุยกับผมเลย "เธอคุยกับใครคะ เรียกให้จ้านมาหาแต่ไม่สนใจจ้านเลยนะ" แกล้งตัดพ้อจนคนตัวเล็กที่เพิ่งรู้ตัวว่าสนใจโทรศัพท์มากกว่าผมยอมวางมันลง "คุยกับแก้มๆ แล้วนี่จ้านไม่มีทำงานต่อแล้วเหรอ" "ไม่มีแล้วค่ะ ช่วงบ่ายจ้านว่างเธออยากไปไหนมั้ย" จัสมินส่ายหน้าปฏิเสธ ที่จริงก็มีงานแหละแต่ผมรีบเคลียร์ให้เสร็จเพราะอยากมาหาเธอ ก็โดนหลบหน้ามาตั้งหลายวันโดยไม่ทราบสาเหตุนี่นา ผมขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ คนตัวเล็กก่อนจะจับมือเล็กมากุมไว้ เรารู้จักกันมานานจนทำให้ผมเดาออกว่าตอนนี้จัสมินกำลังเป็นอะไร เธอกำลังกังวลแต่ไม่รู้ว่ากังวลเรื่องอะไรผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องแต่งงานแต่ถ้าดูจากอาการน่าจะเกี่ยวกับผมด้วยเนี่ยสิ "เธอเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เครียดเรื่องอะไรบอกจ้านได้นะ" จัสมินไม่ตอบแต่ซบหน้าลงกับไหล่ผมก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผมลูบหัวเธอเบาๆ พร้อมกับไล้นิ้วบนมือเล็กไปมาเผื่อว่าจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นว่าเธอยังมีผม เรานั่งกันอยู่อย่างนั้นสักพักจนอยู่ๆ เธอก็เริ่มพูดในสิ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองสักเท่าไหร่ "มีอะไรกันมั้ยจ้าน" "ห๊ะ! เธอ...พูดอะไรออกมาคะ?" "เราไม่อยากแต่งงาน" "ครับ จ้านรู้แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่เธอ..." ขอมีอะไรกับผม? ยอมรับว่าใจเต้นแรงและดีใจเล็กน้อยที่อยู่ๆ จัสมินก็พูดแบบนั้นแต่ตอนนี้อยากรู้มากกว่าว่าเธอหมายความว่ายังไง ไม่อยากแต่งงานแล้วเกี่ยวอะไรกับที่ขอมีอะไรกับผมวะ "แก้มบอกว่าเราต้องทำตัวเองให้ไม่บริสุทธิ์" "เธอหมายความว่าไงคะ?" ผมดันร่างบางออกจากไหล่แล้วก้มลงไปสบตากับเธอ จัสมินเริ่มเล่าแผนที่แก้มแนะนำมาให้ผมฟัง เอาจริงผมโคตรดีใจเลยที่ได้ยินจากปากของจัสมินว่าเธอเองก็ไม่ได้อยากแต่งแถมยังเลือกผมมาใช้บังหน้าแทนที่จะเป็นเพื่อนคนอื่น ถึงจะแอบจี๊ดๆ ในใจที่เธอแค่ขอให้ผมช่วยแกล้งคบกันไม่ได้มาจากการที่ชอบผมจริงๆ แต่อย่างน้อยนี่ก็แสดงให้เห็นว่าผมพิเศษมากกว่าเพื่อนคนอื่นล่ะนะ ผมรอมาตลอดหลายวันไม่พูดถึงเรื่องแต่งงานของเธอแต่แค่เธอบอกว่าไม่อยากแต่งผมจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเธอเอง แต่วันนี้เธอมาขอร้องในสิ่งที่ผมเกินคาดไปหน่อยนะ "เราต้องมีอะไรกับใครก่อนไปดูตัวแล้วก็ต้องคบใครสักคนบังหน้า" "..." “คนคนนั้นน่ะ...ถ้าเราขอให้เป็นจ้านจะได้มั้ย?” "จัสมิน..." ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่มองคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อหู จัสมินผู้หญิงที่ผมแอบรักและห้ามความรู้สึกไม่ให้แสดงออกเกินเพื่อนมาหลายปีกำลังขอร้องให้ผมเป็นแฟนหลอกๆ แถมยังขอมีอะไรกับผมอีกทำเอาผมไปไม่เป็นเลย ทั้งดีใจและสับสนไปหมด "จ้านจะปฏิเสธก็ได้นะ เรารู้ว่ามันไม่เมคเซนส์เลยที่มาขอให้จ้านทำอะไรแบบนี้แต่เราไม่รู้จะทำยังไงแล้วเหมือนกัน เราแค่ลองถามดูน่ะแต่ถ้าจ้านไม่โอเคก็ลืมๆ มันไปเถอะนะ" คนตรงหน้ารีบบอกปัดเมื่อผมเอาแต่เงียบนั่งมองหน้าเธอนิ่ง ผมเหมือนคนน้ำท่วมปากพูดไม่ออกดีใจก็ไม่สุด ไม่สุดสักทางจนร่างบางทำท่าจะลุกหนีผมจึงรีบคว้าข้อมือเล็กไว้ "ทำไม" "หืม?" "ทำไมต้องเป็นจ้านคะ เธอบอกจ้านได้มั้ย?" "เราก็...ไม่รู้" "ถ้าเธอไม่รู้งั้นจ้านคงช่วยไม่ได้" ผมแกล้งพูดแบบนั้นเพราะคาดหวังกับคำตอบของเธอว่าจะตอบกลับมาว่าผมพิเศษหรือชอบผมอะไรทำนองนั้นแต่คำตอบที่ได้มีแค่ไม่รู้และไม่รู้ จัสมินก้มลงมองมือตัวเองอย่างสับสนดวงตากลมโตมีน้ำใสเอ่อคลอเล็กน้อยเมื่อโดนผมปฏิเสธแต่ก็ยังไม่วายถามหาเหตุผล "ทำไม?" "เราเป็นเพื่อนกันนะคะ 'เพื่อน' จะมีอะไรกับ 'เพื่อน' ได้ยังไง จริงมั้ย?" ย้ำเองเจ็บเอง "อ่านั่นสินะ งั้นไม่เป็นไรจ้านคิดซะว่าเราไม่เคยพูดเรื่องนี้ก็แล้วกันนะ" "เดี๋ยวก่อน แล้วเธอจะทำยังไงต่อคะ" ผมเลิ่กลั่กเมื่อจัสมินพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมพูด ทำเอาความมั่นใจเมื่อครู่ที่ว่าเธอต้องรู้สึกเกินเพื่อนกับผมลดลงไปเหลือศูนย์อีกครั้ง "ก็คงต้องไปวันไนท์กับใครสักคนหรือไม่ก็...ยอมแต่งงานแต่โดยดี" "ไม่ต้องไปหาใครเลยนะคะ ถ้าจะทำก็มาทำกับจ้าน" ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที ใครจะยอมผมเฝ้าของผมมาตั้งนานอยู่ๆ จะไปเป็นของคนอื่นง่ายๆ ได้ยังไงวะ ผมจะยอมก็ต่อเมื่อคนคนนั้นเป็นคนที่เธอรักจริงๆ เท่านั้นแหละถ้าเธอต้องเป็นของคนอื่นเพราะเหตุผลแบบนี้ผมไม่มีวันยอมจริงๆ "ก็จ้านบอกเองว่าเพื่อนไม่ควรมีอะไรกับเพื่อนนี่นา ไม่ต้องห่วงนะเรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเราไม่ขอให้จ้านช่วยแล้วล่ะๆ" "แต่ถ้าเธอจะไปทำกับคนอื่นจ้านก็ไม่ยอมเหมือนกัน" "งั้นเราไม่ไปทำกับคนอื่นก็ได้ รอจนแต่งงานค่อยมีกับสามีตัวเองก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง" "จัสมิน" "วันนี้จ้านกลับไปเถอะ ขอโทษที่พูดอะไรไร้สาระนะ" ไปกันใหญ่แล้ว คนตัวเล็กไม่ยอมหยุดฟังผมเลยพูดเองคิดเองไปหมด จู่ๆ มาขอให้มีอะไรด้วยแล้วอยู่ๆ ก็มาบอกให้ลืมไปง่ายๆ คนที่มันคิดกับเธอมากกว่าเพื่อนมันจะลืมได้ไงวะ "เดี๋ยวก่อนเธอ จ้านยังไม่ได้ว่าเธอไร้สาระเลยนะคะ" ผมคว้ามือเล็กไว้อีกครั้งไม่ยอมให้จัสมินเดินหนีอีก คนตัวเล็กเบะปากทำแก้มพองลมเมื่อผมเริ่มเสียงดังจนต้องผ่อนเสียงลง ก็เป็นซะอย่างนี้แล้วใครจะดุลงวะ "มานี่มา" ร่างบางเดินเข้ามาใกล้ผมตามแรงดึงที่ข้อมือ ผมรั้งเอวบางให้นั่งทับลงบนตักกอดเอวเธอไว้หลวมๆ ซึ่งจัสมินเองก็ไม่ได้ขัดขืนเพราะนี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอนั่งตักผมแบบนี้ (?) ผมเกลี่ยผมที่ตกลงมาปรกหน้าออกจากใบหน้าของเธอก่อนจะประคองแก้มใสให้เงยขึ้นสบตากัน ผมมองสำรวจใบหน้าของคนตรงหน้าที่ตอนนี้ฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัดจมูกโด่งรั้นตาโตๆ กับริมฝีปากสีพีชเป็นธรรมชาติของเธอทำให้ผมละสายตาไปไหนไม่ได้เลย ยิ่งอยู่ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอยิ่งดึงดูดรู้ตัวอีกทีก็เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกเราชนกันซะแล้ว "จ้านจะทำอะไร...อื้อ" ริมฝีปากเล็กถูกผมกดจูบลงไปก่อนที่เธอจะพูดจบ จัสมินพยายามดันไหล่ผมออกแต่แรงแค่นั้นทำอะไรผมไม่ได้หรอก ผมกดท้ายทอยเธอไว้แล้วบดจูบดูดดึงริมฝีปากหวานอย่างเอาแต่ใจพยายามสอดแทรกลิ้นเข้าไปในปากเธอแต่ร่างบางไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นจนผมต้องแกล้งขย้ำมือลงบนหน้าอกเธอจนจัสมินเผลอครางผมจึงฉวยโอกาสสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดดูดดึงความหวานจากเธอได้สำเร็จ "อืม" ผมครางอย่างพอใจเมื่อคนที่ขัดขืนเมื่อครู่ยอมจูบตอบจากการชักนำของผม สัมผัสของจัสมินยังทำให้ผมพอใจได้เสมอ... ครับ นี่ไม่ใช่จูบแรกของเราสองคนแต่ก็ไม่ได้จูบบ่อยๆ เพราะคำว่าเพื่อนมันค้ำคอถึงผมจะอยากกระชากเธอมาจูบทุกครั้งที่เจอหน้ากันก็เถอะ "อื้อๆ" คนตัวเล็กเริ่มครางประท้วงเมื่อเริ่มหายใจไม่ทันเพราะจูบที่กินเวลาหลายนาทีเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนน้ำใสไหลเลอะตามมุมปาก "พะ พอแล้วจ้าน" ผมถอนจูบออกแต่ทว่ายังไม่ยอมผละออกห่างจากริมฝีปากหวาน ไล้ลิ้นปาดเลียน้ำหวานใสออกให้เธอจนหมดก่อนจะกดจูบลงบนปากเล็กอีกครั้งแต่ยังไม่ทันได้จูบจัสมินก็ใช้มือปิดปากผมไว้ซะก่อนผมจึงจูบลงบนฝ่ามือเธอแทน "ฮื่อ พอเลย!” ผมยอมผละออกมองคนตัวเล็กที่นั่งหน้าแดงอยู่บนตักด้วยความเขิน แก้มแดงๆ ปากแดงๆ ทำผมใจสั่นอยากจูบอีกสักทีให้หายคิดถึงแต่ถ้าทำต่อได้โดนจัสมินโกรธแน่จึงปล่อยให้เธอนั่งอยู่แบบนั้นโดยมีผมกอดเอวเธอไว้แน่นไม่ยอมให้หนีไปไหนได้ ผมนั่งมองหน้าเธอเธอก็ก้มหน้าหลบสายตาผมอยู่เกือบนาทีผมจึงตัดสินใจพูดต่อ "เธอคะ" "หืม?" "เรื่องที่เธอบอกน่ะจ้านจะช่วยเธอเอง" “จ จ้าน..." "แต่จ้านอยากรู้" ผมเชยคางเธอขึ้นให้สบตาผมอีกครั้ง "ว่าถ้าเป็นจ้าน..." เพื่อถามถึงความแน่ใจ "เธอจะไม่เสียใจใช่มั้ย?"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม