EP1 แต่งงาน?
EP1 แต่งงาน?
เสียงดนตรีคลาสสิคและเสียงพูดคุยกันเบาๆ เกิดขึ้นในร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่งบรรยากาศบนโต๊ะอาหารโต๊ะหนึ่งเป็นโต๊ะของกลุ่มเพื่อนที่เป็นเหมือนเป็นกลุ่มของคนหน้าตาดีทั้งผู้หญิงผู้ชายจนเป็นที่จับตามอง พวกเขาคุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องราวในชีวิตประวันที่แต่ละคนไปเจอมาก่อนที่บรรยากาศจะเปลี่ยนไปเมื่อมีคนในกลุ่มพูดถึงเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น
“อะไรนะ แต่งงาน!!"
"ชู่ว์ อย่าเสียงดังกันสิคนมองใหญ่แล้ว"
"ไม่ให้เสียงดังได้ไงนี่เรื่องใหญ่เลยนะจัสมิน"
'แก้ม' ยังไม่หยุดเสียงดังเมื่อเพื่อนสาวคนสนิทอย่าง 'จัสมิน' แจ้งข่าวใหญ่ให้เพื่อนทุกคนรู้ถึงเรื่องการแต่งงานสายฟ้าแลบของเธอที่กำลังจะเกิดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้แล้ว
"งงไปหมด แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงจะแต่งงานล่ะจัส"
'ไฟ' เพื่อนหนุ่มอีกคนในกลุ่มถามขึ้นในขณะที่ 'ทศกัณฐ์' ก็แสดงท่าทางอยากรู้ไม่ต่างกันแต่เพื่อนอีกคนในกลุ่มอย่าง 'จัดจ้าน' กลับเอาแต่นั่งเงียบทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังคุยเล่นกับเพื่อนอยู่เลยแต่พอจัสมินบอกว่าจะต้องแต่งงานคนตัวสูงก็นิ่งไปเลย
ทั้งห้าคนเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วโดยทั้งกลุ่มมีผู้ชายสามคนคือ 'จัดจ้าน' 'ไฟ' และ 'ทศกัณฐ์' ส่วน'จัสมิน' กับ 'แก้ม' เป็นผู้หญิงเพียงสองคนในกลุ่ม ทั้งห้าคนเพิ่งเรียนจบมาได้เพียงสองปีแต่ก็ยังติดต่อและนัดเจอกันอยู่เสมอถึงแม้ว่าต่างคนจะต่างไปมีอาชีพของตัวเองแล้วก็ตาม
เรียกได้ว่าถึงจะเรียนจบแต่มิตรภาพไม่จบเพราะเป็นเพื่อนที่สนิทกันจริงๆ
"เราก็ยังไม่หายตกใจเหมือนกัน อยู่ดีๆ คุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่าจะให้เราแต่งงานเดือนหน้านี้แล้ว"
จัสมินเริ่มเล่าต่อถึงเรื่องการแต่งงานของตัวเอง เมื่อวานคุณพ่อกับคุณแม่เรียกไปพบและบอกเธอถึงเรื่องที่จะให้แต่งงานโดยที่ไม่ถามความเห็นเธอสักคำ คนที่ทำตามคำสั่งพ่อแม่มาตลอดอย่างจัสมินไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธด้วยซ้ำเพราะคำที่ว่า
'ลูกรู้ใช่มั้ยว่าสิ่งที่พ่อแม่เลือกให้คือสิ่งที่ดีที่สุด'
'พ่อกับแม่รักลูกนะ เชื่อเถอะว่าคนที่พ่อกับแม่จะให้ลูกแต่งงานด้วยเขาจะดูแลลูกได้อย่างดีแน่นอน’
เมื่อท่านทั้งสองพูดมาแบบนั้นจัสมินยิ่งไม่กล้าปฏิเสธเข้าไปใหญ่
"โอ๊ย นี่มันสมัยไหนแล้วเนี่ยทำไมยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีก"
"แต่แปลกนะ เราว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ ไม่งั้นพ่อกับแม่จัสไม่บังคับหรอก"
"เราแอบได้ยินมาว่าทางนั้นเขาอยากได้เราเป็นสะใภ้มาก เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ"
ก่อนจะออกมาทานข้าวกับเพื่อนจัสมินได้ยินพ่อกับแม่คุยกันว่าลองปฏิเสธไปแล้วเพราะอยากถามความเห็นของเธอก่อนเหมือนกันแต่ทางนั้นดูจะไม่ยอมท่าเดียวเจาะจงว่าต้องเป็นจัสมินเท่านั้น และอีกประโยคหนึ่งที่เธอได้ยินมาคือ...
'เขาบอกว่าเพราะลูกเราบริสุทธิ์และไม่เคยคบกับใครมาก่อน เขาถึงอยากได้ลูกเราขนาดนี้'
'ได้ยินว่าทางนั้นเฝ้ามองลูกเรามาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วด้วยนะ'
‘ไม่เข้าใจเลยว่ายัยจัสมินของเราไปทำอะไรให้เจ้าสัว...อยากได้ขนาดนี้'
"สมัยนี้มันยังมีคนอยากได้สาวบริสุทธิ์อีกเหรอวะกูไม่เข้าใจเลย" ทศกัณฐ์ว่า เห็นท่าทางเครียดๆ ของเพื่อนแล้วก็อดสงสารไม่ได้
"ต้องใหญ่เบอร์ไหนถึงสามารถบงการพ่อแม่จัสมินได้ขนาดนี้" ไฟพูดขึ้นบ้าง
ครอบครัวจัสมินเองก็ไม่ธรรมดาทำธุรกิจโรงแรมที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกเรื่องฐานะคงไม่ต้องอธิบายว่ารวยแค่ไหนเพราะฉะนั้นตัดเรื่องที่ว่าแต่งเพราะเงินออกไปได้เลย นามสกุลของจัสมินก็รวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศด้วยซ้ำ
หรือจะเป็นการแต่งเพราะธุรกิจ?
แต่สมัยนี้มันสมัยไหนแล้วยังมีคนคิดแบบนี้อยู่อีกเหรอนี่ไม่ใช่ละครนะ
พอตัดเหตุผลทุกอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้แล้วยิ่งไม่เข้าใจ
"แต่คือจัสมินตกลงไปแล้วเหรอว่าจะแต่ง?"
“ก็...ไม่ได้ตกลงตรงๆ แต่เราก็ไม่กล้าปฏิเสธ"
คำตอบของจัสมินทำเอาเพื่อนเครียดกันใหญ่ ไม่มีใครอยากแต่งงานกับคนไม่รู้จักหรอกแต่นิสัยตามใจพ่อแม่และไม่กล้าปฏิเสธคนอื่นของจัสมินนี่มันแก้ไม่หายจริงๆ ขนาดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังไม่กล้าปฏิเสธเลย
"มึงคิดว่าไงวะจ้าน" แก้มหันไปถาม 'จัดจ้าน' ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงเอาแต่เงียบและแก้มก็ไม่ได้รับคำตอบจากเพื่อนตัวสูง
"กูออกไปสูบบุหรี่นะ"
คนตัวสูงไม่ตอบคำถามของเพื่อนแต่ลุกเดินออกไปนอกร้านตรงโซนสูบบุหรี่ที่ทางร้านจัดไว้ให้แทน
ไฟกับทศกัณฐ์มองหน้ากันด้วยความอึดอัดเพราะรู้ดีว่าตอนนี้เพื่อนของตัวเองคงไม่โอเคเท่าไหร่กับเรื่องการแต่งงานของจัสมิน...
.
.
ตอนนี้ในหัวของจัดจ้านมันว่างเปล่าไปหมดไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงเมื่ออยู่ๆ เพื่อนสนิทของตัวเองก็มาบอกว่าจะแต่งงาน
บุหรี่ที่เลิกสูบมาได้หลายเดือนแต่ยังคงพกติดกระเป๋าไว้เสมอถูกหยิบออกมาใช้อีกครั้ง ริมฝีปากหนาที่ติดจะค้ำเล็กน้อยเพราะก่อนหน้านี้สูบบุหรี่จัดคาบบุหรี่ไว้ในปากก่อนจะหยิบไฟแช็กขึ้นจุดแต่ทว่ายังไม่ทันได้จุดก็โดนมือปริศนาแย่งไปซะก่อน
หมับ!
“ทำอะไรว...จัสมิน!"
จัดจ้านมองเพื่อนตัวเล็กที่เดินตามออกมาอย่างตกใจก่อนจะขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะโดนแย่งไฟแช็กในมือแต่เพราะ...
"ตามมาทำไมมันเหม็น"
ที่ตรงนี้เป็นที่สูบบุหรี่และคนตัวเล็กก็แพ้ควันบุหรี่ด้วยตามออกมาแบบนี้เดี๋ยวก็สำลักควันกันพอดี ชอบทำให้เขาเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย
"ไหนจ้านบอกเราว่าเลิกได้แล้วไง ทำไมวันนี้กลับมาสูบอีกล่ะ"
คนตัวเล็กที่เป็นสาเหตุให้จัดจ้านเลิกบุหรี่หน้างอก่อนจะโดนคนตัวสูงจูงมือเดินไปอีกฝั่งที่เป็นโซนสวนเพื่อหลบควันบุหรี่จากคนอื่น จัดจ้านไม่ตอบอะไรดันร่างบางให้นั่งลงก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ เธอ
"เครียดเรื่องเราเหรอ?"
เป็นจัสมินที่ต้องเงยหน้าขึ้นถามเพื่อนสนิทตัวเองอีกครั้งเพราะไม่รู้ว่าจัดจ้านคิดอะไรอยู่ตอนอยู่ในร้านเขาก็เอาแต่เงียบ
คนตัวสูงพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันมาสบตาเพื่อนตัวเล็ก
“เธอโอเคจริงๆ เหรอคะที่จะต้องแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก"
สายตาคมวูบไหวในขณะที่ถามคำถามนั้น ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ไม่เคยมีสักครั้งที่จัดจ้านจะหยาบคายกับจัสมินเขามักจะพูดจา 'คะ ขา' อ่อนโยนกับเพื่อนคนนี้เสมอต่างจากคนอื่นในกลุ่มที่ค่อนข้างหยาบคาย อาจเป็นเพราะจัสมินไม่พูดคำหยาบและเขาก็ชินกับการดูแลจัสมินแบบนี้ล่ะมั้ง
"ไม่โอเคเลย ตอนนี้เราก็ยังช็อกอยู่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อเลย"
"..."
"แต่ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่ต้องการก็คงต้องแต่ง..."
สถานการณ์ของเธอตอนนี้มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ ปฏิเสธได้ไม่เต็มปากแต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานแต่ถามว่าเครียดมากมั้ยก็ไม่ขนาดนั้นเธอเองก็ไม่ได้มีแฟนหรือคบใครอยู่ถึงแต่งงานไปก็ไม่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกใครแต่เพราะการที่เธอไม่เคยคบใครเลยนี่แหละมั้งที่ทำให้เธอโดนเจ้าสัวคนนั้นเล็ง
อีกอย่างถ้าการแต่งงานของเธอจะตอบแทนบุญคุณพ่อกับแม่ที่รับเธอมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมได้เธอก็คงยอม
จัสมินเป็นเด็กกำพร้าที่โดนแม่แท้ๆ คลอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลถ้าหากคุณธนากับคุณวรดาไม่รับเธอมาเลี้ยงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตตอนนี้ของเธอจะเป็นยังไง จะได้อยู่สุขสบายเหมือนทุกวันนี้มั้ย
อยู่ๆ ทั้งคู่ก็เงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมาจัดจ้านเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำในขณะที่ในหัวก็เอาแต่คิดเรื่องคนข้างๆ ไม่หยุด
อึดอัดและว้าวุ่นไปหมด
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องทำยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดี
"จัสมินคะ"
ผ่านไปเกือบห้านาทีถึงมีเสียงหลุดออกมาจากคนตัวสูง จัสมินหันไปมองจัดจ้านที่จ้องเธออยู่ก่อนแล้ว
"หืม?"
"ไม่แต่งได้มั้ย?"
“จ จ้าน..."
"เธอ...ไม่แต่งงานกับคนอื่นได้มั้ยคะ"
เสียงทุ้มสั่นเล็กน้อยในขณะที่เอ่ยขอร้องเพื่อนสนิทของตัวเอง
ตั้งแต่ที่ตัดสินใจว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีของจัสมินเขาก็คอยบอกตัวเองเสมอว่าหากจัสมินมีแฟนหรือคบกับใครเขาจะยินดีด้วยแต่ถึงอย่างนั้นจัสมินก็ไม่เคยคบใครเลยแล้วอยู่ๆ วันนี้เธอก็มาบอกว่าจะแต่งงานโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
หัวใจของคนที่แอบชอบเธอมาตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักกันมันรับไม่ทันหรอกนะ ถึงจะทำใจไว้แล้วว่าสักวันวันนี้ต้องมาถึงแต่ไม่คิดเลยว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้
เพราะไม่อยากเสียเธอไปและคิดว่าเป็นเพื่อนกันน่าจะดีที่สุดเขาถึงได้วางตัวเป็นเพื่อนสนิทกับเธอได้จนถึงตอนนี้แต่พอรู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานจริงๆ ทำไมคนที่กดความรู้สึกของตัวเองไว้ได้ตั้งนานหลายปีอย่างเขาถึงได้เจ็บขนาดนี้กันนะ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ถ้าเขาไม่ยอมเป็นแค่เพื่อนเธอ ทุกอย่างจะออกมาเป็นแบบนี้หรือเปล่า?
ถึงจะรู้ว่าเธอยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนที่ต้องแต่งงานด้วยเพราะยังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำแต่แค่คิดว่าอีกไม่นานจัสมินจะต้องเป็นของคนอื่นเขาก็เจ็บไปทั้งหัวใจ
เจ็บจนพูดไม่ออก...