ตอนที่7:การมาของ…

2833 คำ
๗ คณะนางรำของช่อเอื้องเป็นที่เรื่องลือในความงดงามแลอ่อนช้อยจนเป็นที่ประจักษ์สู่สายตาเหล่าคชสาร งานเฉลิมฉลองใดหรือพิธีกรรมใด นางไอยราจากตระกูลตั่งต่างมาขอเชื้อเชิญคณะนางรำจากคุ้มโขลงกาฬวกหัตถีอยู่บ่อยครั้ง โดยตอบแทนเป็นแก้วแหวน เงินทอง เพชรนิลจินดา ทำให้แม่ทูลหัวสุดแสนจะภูมิใจในตัวช่อเอื้อง ลานบุญฑริกแทบจะกลายเป็นเรือนหลังที่สองของนางและเหล่านางรำ ท่วงท่าร่ายรำที่นางประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่มีความกระฉับกระเฉงเข้มแข็งตามท่วงทำนองของนักรบ โดยได้ต้นแบบมาจากชายหนุ่มที่นางอิงแอบแนบชิดทุกค่ำคืน “พี่ช่อเอื้องพักก่อนดีหรือไม่หน้าพี่ซีดเซียวเพียงนั้น” อบเชยค้างเติ่งในท่วงท่าร่ายรำเอ่ยทักช่อเอื้องด้วยความเป็นห่วง นางรีบหายาหอมยาดมมาให้ช่อเอื้อง เกรงครูผู้สอนจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน แก้วเกล้ารีบปรี่มาประคองผู้เป็นนาย “พี่ช่อเอื้องตัวร้อนยังกับไฟแน่” แก้วเกล้าใช้มืออังสัมผัสบริเวณหน้าผากมน ก่อนจะรีบชักมือออก เนื้อตัวของนางร้อนรุ่มดั่งไฟ “พักผ่อนไม่เพียงพอหรือพี่ช่อเอื้อง” ซ้องมาศถาม “พักก่อนก็ได้ วันนี้ข้าไม่ค่อยสบายตัวเท่าใด ขอโทษพวกเจ้าด้วย ว้าย!” ช่อเอื้องร้องสุดเสียง จู่ ๆ ช่องวงมหึมาสีนิลโอบรัดลำตัวนางลอยเหนือพื้น ท่ามกลางสีหน้าเหรอหราตกใจของเหล่านางรำ ไม่มีผู้ใดรับรู้ถึงการมาของท่านคชคณ เขาแยกนางออกจากอ้อมแขนแก้วเกล้า งวงแกร่งวางนางบนลำคอมหึมาก่อนจะมุ่งตรงเดินกลับเรือน ช่อเอื้องจึงอิงซบเนื้อคอของพญาคชสารด้วยความเหนื่อยอ่อน ไม่นานนักจึงผล็อยหลับไปด้วยพิษไข้ “ตามหมอยามาให้ข้าด้วยแก้วเกล้า” สุรเสียงเข้มเอ่ยสั่งก่อนจาก พญาคชสารย่างก้าวระมัดระวังไม่ให้สะเทือนถึงนางที่กำลังหลับใหลอยู่บนลำคอของเขา เห็นทีเขาคงจะต้องให้นางหยุดฝึกซ้อมร่ายรำจริงจังเสียที กลางคืนเคี่ยวกรำเขาตลอดทั้งคืนจวบจนฟ้าสาง ไม่กี่เพลาก็ตื่นขึ้นมาซักซ้อมให้เหล่านางรำ ครั้นไม่ป่วยไข้เขาก็ไม่รู้จะเอ่ยกระไรแล้ว เจ้าของกายานิลจำแลงแปลงกายทิพย์กลับมาดังเดิม ช้อนร่างอรชรตัวร้อนจี๋วางลงบนฟูกเบามือ คชคณนั่งอยู่ข้างกายนางไม่ยอมห่าง คอยหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามเนื้อตัวลดความร้อนบนเรือนกายอรชร ไม่นานนักหมอยาก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมแก้วเกล้า “ข้าไหว้ท่านคชคณ” หมอยาประจำคุ้มโขลงแห่งนี้ก้มโค้งทำความเคารพชายหนุ่มผู้อ่อนกว่าแต่มากบารมี “ข้ารบกวนหมอยาช่วยดูอาการนางที” “ขอรับ...” หมอยาผู้เชี่ยวชาญใช้เวลาตรวจดูอาการแลจับชีพจรนางชั่วครู่ ใบหน้าเหี่ยวย่นปกคลุมด้วยหนวดเคราสีดอกเลาแย้มสรวล ราวกับตรวจพบเรื่องน่ายินดี ความชำนาญในการรักษามาอย่างยาวนานแลตำราสืบทอดในการรักษาหลายชั่วอายุคนที่เขาได้ร่ำเรียนตั้งแต่หัวดำยันหัวหงอก ย่อมไม่มีผิดเพี้ยนเป็นแน่ หมอยาหันมาสบดวงตาสีนิลประกายก่อนจะเอ่ยประโยคหยุดเวลาให้พญาคชสาร “ยินดีด้วยขอรับ” “ยินดีด้วยหนาท่านคชคณ ท่านได้เป็นพ่อแล้ว” เสียงแหบพร่าของหมอยาเปรียบเสมือนค้อนหนักทุบลงบนศรีษระของเขาเต็มแรงจนอึนและเบลอ คล้ายจะเป็นลมอย่างไรอย่างนั้น “......” ชายหนุ่มชะงักงันยืนนิ่ง ไม่คิดว่าเรื่องที่เขาเย้าแหย่ท่านแม่จะเป็นเรื่องจริงเสียได้ “อาจจะเป็นลูกแฝด เมื่อครู่ข้าจับชีพจรนางพบชีพจรอ่อน ๆ อยู่สองชีพจร อายุครรภ์น่าจะราว ๆ หนึ่งเดือน เดี๋ยวข้าจะจัดยาต้มลดไข้แล้วก็สมุนไพรบำรุงครรภ์ให้นางนะขอรับ ช่วงนี้ช่วยดูแลนางเป็นพิเศษหน่อยนะขอรับ” “ดะ...ได้ ขอบใจท่านหมอยา ข้าตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก นี่ของกำนัลที่ช่วยมาดูอาการเมียข้า แก้วเกล้าเจ้าเดินไปส่งหมอยาแล้วช่วยส่งข่าวให้แม่ทูลหัวทราบที” คชคณถอดแหวนพิรุณมากอิทธิฤทธิ์มอบให้หมอยาเป็นของกำนัล เขาหันไปสั่งแก้วเกล้าก่อนจะกลับมาจุมพิตริมฝีปากอิ่มของนางแทนคำขอบคุณ ไม่ท้องก็บ้ากระมังเขาและนางเล่นจ้ำจี้กันทุกวันไม่มีว่างเว้น แต่ตอนนี้เขาชักจะคิดหนักหากนางตั้งครรภ์ เขาก็ต้องห่างหายการแนบชิดกับนางน่ะสิ “ข้าร้อน...” เสียงหวานเอ่ยก่อนจะดันอกแกร่งออกห่าง ก็ตัวเขาเล่นกอดนางกลมดิกจนหายใจแทบไม่ออก “เดี๋ยวข้าเช็ดตัวให้เจ้า เจ้าอยากกินกระไรหรือไม่เดี๋ยวข้าจักให้นางกำนัลจัดเตรียม” คชคณลนลานทำตัวไม่ถูก คนพึ่งจะเคยเป็นพ่อคนครั้งแรกออกอาการตัวสั่น “ข้าอยากกินท่าน” ช่อเอื้องเย้าหยอกชายหนุ่ม แต่นั้นถึงกับทำให้ผู้ที่คิดเป็นจริงเป็นจังถึงกับหวาดวิตก การร่วมรักระหว่างเขาและนางในแต่ละหน รุนแรงและหนักหน่วงเกินกว่าหญิงท้องอ่อนเช่นนางในตอนนี้จะรับไหว เขาเกรงจะเกิดอันตรายต่อลูกน้อยในท้องที่อาจจะมีถึงสองคน “เจ้าตั้งครรภ์ช่อเอื้อง เมื่อครู่หมอยามาตรวจชีพจรเจ้าบอกว่าอาจจะมีถึงสองคนเชียวหนา ขะ...ข้าไม่แน่ใจว่าจะมอบความสุขให้เจ้าได้” ชายหนุ่มประคองร่างบางในลุกนั่งครึ่งลำตัว เขาอธิบายให้นางฟังด้วยน้ำเสียงขาดช่วงเป็นบางตอน “ท่านอย่ามาอำข้า ไม่เนียนเอาเสียเลย” หญิงสาวบิดเนื้อท่อนแขนเขา หวังให้เขาสารภาพออกมา “ในชีวิตนี้ข้าโป้ปดเจ้าเพียงหนเดียวช่อเอื้อง เจ้าจักได้เป็นแม่คนแล้วหนา ขอบใจเจ้าช่อเอื้อง ขอบใจที่อุ้มท้องลูกของเรา ข้าไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะมีโอกาสนี้ เจ้าอยากได้สิ่งใดข้าจักหามาให้ ขอเพียงเจ้าเอ่ยปาก...” เจ้าของกายาแกร่งรั้งหญิงสาวที่กำลังเบลองงเข้ามากกกอดแนบอกแน่น ช่อเอื้องในยามนี้ได้ยินเพียงเสียงหัวใจของเขาที่เต้นระส่ำจนแทบจะกระเด็นออกมานอกอก “ตาเถร...ช่อเอื้องเจ้าตั้งครรภ์แล้วหรือ ลูกแม่ลำบากเจ้าแล้ว ตั้งสองคนเชียวหรือมีบุญยิ่งนัก หัวแก้วหัวแหวนของแม่” แม่ทูลหัวหลังรู้ข่าวคราวถึงกับนั่งไม่ติด รีบวิ่งหน้าตาตื่นไม่ห่วงกิริยามารยาทวางท่าของนางอีกต่อไป นางเบียดบุตรชายให้ออกห่างก่อนจะแทรกตัวนางแทนที่ ทำให้คชคณหน้าบูดเบี้ยวไม่สบอารมณ์ “ข่าวดีของคุ้มโขลงเราในรอบหลายร้อยปีเลยหนาคชคณ เชื้อแรงไม่ทิ้งแถว เห็นทีฤกษ์ที่วางไว้คงจะต้องเปลี่ยนเป็นฤกษ์สมรสแทนดั่งใจเจ้าหมาย” ท่านเอราวัณตบลงบนบ่าแกร่งเข้มของบุตรชาย ท่าทางภูมิอกภูมิใจยิ่ง “ขอรับท่านพ่อ...” แม่ทูลหัวผู้ก่นด่าบุตรชายให้เพลาเรื่องอย่างว่าลงบ้าง ครานี้ถึงกับยิ้มแฉ่งหน้าบานเป็นจานกระด้งตามบุตรชาย หลานที่นางใฝ่ฝันเฝ้ารอมานาน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงแถมมาพร้อมกันตั้งสองคน ว่าที่ย่าคุยโอ้อวดไม่หยุดจนนางกำนัลที่คอยรับใช้ต่างเบือนหน้าหนีด้วยคุยเรื่องเดิมติดกันหลายอาทิตย์ คณะนางรำที่ช่อเอื้องฝึกสอนเป็นอันต้องพับเก็บเอาไว้ก่อน ด้วยอายุครรภ์ที่ยังอ่อนนักอาจจะเกิดอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้ แม้กระทั่งน้ำจัณฑ์ที่นางชอบดื่มตอนนี้ทำได้เพียงดอมดมและมองโถเหล่านั้นตาละห้อย แต่มีอีกสิิ่งหนึ่งที่ดูจะมาพร้อมกับชีวิตน้อย ๆ สองชีวิต นั้นก็คืออาการอยากจะกินสามีทุกเวลาของนาง แต่ดูเหมือนคชคณจะเป็นห่วงว่ามันจะกระเทือนถึงลูกจึงปฏิเสธ “ข้าอยากกินท่านจริง ๆ นะท่านพี่” ช่อเอื้องออดอ้อนเอ่ยเรียกชายหนุ่มว่าท่านพี่เป็นหนแรก “หืม...เจ้าเรียกข้าว่ากระไรนะ?” คชคณอมยิ้มแสร้งเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง “ท่านพี่เจ้าคะ...” นางส่งเสียงหงุงหงิงเยี่ยงแมวน้อยออดอ้อนชายหนุ่มเสียงหวาน นางอุตส่าห์ลงทุนตื่นแต่เช้าเพื่อดักรอเค้าก่อนออกไปลาดตระเวนนอกหุบเขา “หากกระเทือนถึงลูกเล่าจะทำอย่างไร” “ข้าจะไม่ทำรุนแรง แผ่วเบาก็ทำได้นะเจ้าคะนะท่านพี่” ช่อเอื้องปรือตามองชายหนุ่มส่งสายตายั่วยวนให้แก่เขา เรียวแขนทั้งสองข้างโอบล้อมรอบลำคอหนา ครานี้นางไม่รอคำตอบร่างอรชรเขย่งกดทาบริมฝีปากอิ่มบนปากหนาเข้ม ดูดดื่มคลอเคลียไม่ยอมห่าง กลัวเขาจะถือโอกาสปฏิเสธนางอีก หารู้ไม่ว่าทุกคราที่เขาปฏิเสธนางตัวเขาเองก็ต้องใช้ความอดทนแลอดกลั้นมากมาย นางคลอเคลียออดอ้อนร้องขอเขาทุกวันตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา จนวันนี้เขาไม่สามารถอดทนต่อเสียงเพรียกของห้วงอารมณ์ปรารถนาอีกต่อไป ท่อนแขนแกร่งโอบประคองเอวเล็กที่เริ่มนูนของนางประชิดกายแกร่ง ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งอันยั่วยวนของช่อเอื้อง ริมฝีปากอิ่มขบเม้มปากหนาอย่างกระหาย เรือนร่างอรชรมีน้ำมีนวลขึ้นเขารู้สึกได้ พญาคชสารฟ้อนเฟ้นเรือนร่างหอมกรุ่นที่ห่างหายร่วมสองอาทิตย์ พญาคชสารช้อนร่างนางขึ้นมาวางลงบนฟูก ขณะริมฝีปากของพวกเขาทั้งคู่ยังคงประกบจูบแนบแน่น แลกเปลี่ยนน้ำหวานภายในโพลงปากซึ่งกันและกัน มือสากเลิกผ้าซิ่นลายสวยกองร่นบนสะโพกกลม ตะปบเนินเนื้ออูมอวบอันชื่นแฉะท้วมล้นออกมาบริเวณหว่างขาขาว ความต้องการของนางเปี่ยมล้นจนยากควบคุมจึงยอมออดอ้อนเขาเพียงนี้ นิ้วโป้งสากกดลงบนติ่งเกสรชมพูระเรื่อ บดคลึงทำเอาร่างอรชรดิ้นพล่านด้วยความกระสัน ลิ้นหนากระหวัดรัดพันลิ้นเล็กดูดดื่มยิ่งกว่าครั้งไหน นิ้วสากสอดแทรกรุกรานเข้าสู่ร่องกลีบอูมอวบ ภายในเหนียวหนืดจากหยาดน้ำหวาน ยามเข้าขยับนิ้วสากเข้าออก บดบี้ติ่งเกสรชมพูระเรื่อ เสียงครางหวานสุขสมดังคลออยู่ในโพลงปากที่เขาประกบ ดวงหน้างามหลับตาพริ้มคอยรับความเสียวซ่านที่เขาปรนเปรอ “อืมมม...” “อ่าาาา...” “อ่าา...” เสียงหวานครางยาวยิ่งทำให้เขาอยากเบียดเสียดเข้าสู่ภายในอันร้อนผ่าว แต่เขาอยากใช้เวลาปรนเปรอให้นางสุขสมเต็มอิ่มเสียก่อน ชายหนุ่มผละออกมาจากริมฝีปากอิ่ม จู่โจมยอดปถุมถันชูชันละเลงรัวลิ้นร้อนผ่าวบนยอดอกสีสวย นิ้วสากยังคงขยับเข้าออกเชื่องช้า กระตุ้นหยาดน้ำหวานทะลักเจิ่งนองบนฟูกเป็นวงกว้าง ‘ดูท่าวันนี้คงจะไม่ได้ออกไปลาดตระเวนแล้วกระมัง ขออยู่เอาใจเมียสักวันคงไม่เป็นกระไร’ อกอวบที่ดูจะเพิ่มขนาดของนางถูกบีบเคล้นและดูดดุนอย่างเสียวซ่าน มือเรียวเริ่มคว้านหานิลแท่งที่ผงาดชูชันรอสู้มือนางอยู่ ช่อเอื้องผลักอกแกร่งให้ออกห่าง นางจ่อริมฝีปากอิ่มจรดหัวเห็ดเบ่งบานสีนิลของเขา ริมฝีปากอิ่มดูดน้ำรักเหนียวหนืดบริเวณส่วนหัวของเขา ก่อนจะครอบครองนิลอวบยาวด้วยปากเล็กร้อน นางดูดกลืนความเป็นชายของเขาราวกับกินของเผ็ดร้อน “อ่าาา...” “อืมม...ช่อเอื้อง” พญาคชสารกุมศรีษระนางไว้แน่น หญิงสาวโลมเลียนิลแท่งนั้นเร่าร้อนและมีชั้นเชิง เรียกเสียงครวญครางของพญาคชสารใหญ่ดังกระหึ่ม ปากเล็กร้อนดูดดื่มกับความยิ่งใหญ่สีนิลไม่มีหยุดพัก ก่อนเขาจะเสร็จสมจึงรั้งร่างอรชรออกห่าง และดันร่างนางนอนลงบนฟูกนุ่ม เรียวขาแยกห่างออกจากกันรอต้อนรับเขาแบบรู้งาน ร่างใหญ่แทรกกึ่งกลางระหว่างเรียวขาเบียดเสียดนิลแท่งมหึมาจดจ่ออยู่ร่องอูมอวบ ช่อเอื้องนอนหลับตาพริ้มรอคอยสัมผัสวาบหวามใจจดใจจ่อ ยามพญาคชสารสอดแทรกเข้าไปภายในสุดลำก่อนจะค้างเติ่ง แล้วโน้มกายลงมาพรมจูบนางดูดดื่ม ล่อลวงนางให้ตกอยู่ในห้วงแห่งกามารมย์ และตัวเขาเองก็ถูกนางล่อลวงให้ตกอยู่ในห้วงสิเน่หาจนถอนตัวไม่ขึ้น “อะ...อ๊ะส์” “อื้อออ...” นิลร้อนแท่งนั้นครอบครองแลปรนเปรอนางทดแทนช่วงเวลาที่ห่างหาย ทว่าเขายั้งแรงจังหวะกระแทกกระทั้นให้ผ่อนปรนลง ความเสียวซ่านและหฤหรรษ์ยังคงเดิม ในท้วงจังหวะสุดท้ายพญาคชสารใหญ่เร่งจังหวะถี่ยิบก่อนจะปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตต่อแขนต่อขาให้ลูกน้อย และวันนั้นทั้งวันเขาก็อยู่คอยเอาอกเอาใจเมียไม่ห่าง ช่อเอื้องก็ออดอ้อนหนักจากที่พญาคชสารลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้นอยู่แล้วจึงหลงนางหนักกว่าเก่า เรียกได้ว่าชีวิตนี้ของเขายกถวายให้แก่นางผู้เป็นเมียเพียงคนเดียว ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ แลข่าวคราวนี้ก็ไปถึงหูใครบางคนที่ถึงกับอาละวาดรับไม่ได้กับข่าวที่ได้ยิน งานมงคลสมรสของพญาคชสารนิลและช่อเอื้องใกล้เข้ามาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เป็นงานมงคลสมรสที่ถูกจัดขึ้นยิ่งใหญ่ตระการตากว่างานใดในแถบเทือกเขาหิมาลัย ผู้ปกครองเหล่าคชสารสิบตระกูลสมรสทั้งทีจะให้น้อยหน้าเทวาได้อย่างไร นางไอยรากมลาที่ออกตัวเป็นแม่งานในครั้งนี้ เกณฑ์นางกำนัลมาจัดซุ้มดอกเอื้องไอยเรศให้เป็นขวัญกำลังใจช่อเอื้องที่กำลังตั้งครรภ์หลานของนาง อีกทั้งยังเชื้อเชิญทวยเทพลงมาเป็นสักขีพยานรักในครั้งนี้หลายร้อยองค์ “งานยิ่งใหญ่นักเจ้าค่ะท่านแม่” “ชอบมั้ยลูกซุ้มเอื้องไอยเรศสีม่วงอ่อน” แม่ทูลหัวเดินขนาบข้างหญิงสาว พลางชี้ซุ้มดอกเอื้องไอยเรศทั่วลานบุญฑริกที่ส่องแสงประกายแวววับและส่งกลิ่นหอมนุ่มนวลทั่วอาณาบริเวณ “ชอบเจ้าค่ะ ข้ากราบขอบพระคุณแม่ทูลหัวที่รักใคร่เอ็นดูข้ามาโดยตลอด บุญคุณนี้ชาตินี้ข้าก็ใช้ไม่หมด” ช่อเอื้องพนมมือกราบแนบอกแม่ทูลหัวด้วยความซาบซึ้ง เพราะแม่ทูลหัวนอกจากจะเป็นแม่งานในครั้งนี้ ยังคอยดูแลเรื่องอาหารการกิน สมุนไพรบำรุงครรภ์ไม่มีขาดตกบกพร่องแม้ประการเดียว “เจ้าสมควรได้รับมันช่อเอื้อง เจ้าเป็นลูกสาวแสนประเสิรฐของข้า ไม่เคยสร้างเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมาให้ข้าแม้สักครั้งเดียวประเสิรฐนักต่างจากเจ้าคชคณ” นางไอยรากมลาเหน็บแนมบุตรชายของตน ทำให้เจ้าตัวที่ถูกเอ่ยถึงต้องทัดทานเสียงหลง “ไยมาลงที่ข้าอีกแล้วขอรับ หากไม่ใช่เพราะลูกคนนี้ ท่านแม่จะได้หลานสายฟ้าแลบเช่นนี้ได้อย่างไร นี่ไม่นับเป็นคุณอีกหรือขอรับ” พญาคชคณกล่าวหน้าระรื่น ทว่าสายตามองเบื้องล่างคอยสอดส่องว่ามีก้อนหิน ก้อนกรวดมาขวางทางเดินนางหรือไม่ “ข้ออ้างเปลี่ยนโทษเป็นคุณล่ะไม่ว่า” “ดูเหมือนท่านแม่จะฝังใจกับการล่อลวงนางมาเป็นเมียของข้านะขอรับ หากข้าไม่ล่อลวงนางด้วยอุบายอันแสนฉลาด เห็นทีอีกกี่ร้อยปีกี่พันปีท่านแม่ก็คงไม่มีวันได้อุ้มหลานดอกขอรับ” “ข้าอาจจะได้อุ้มลูกของช่อเอื้องกับท่านอหัสกรผู้หล่อเหลาก็เป็นได้ ใช่มั้ยช่อเอื้องลูก ไม่งั้นป่านนี้ข้าคงมีลูกเขยเป็นพ่อหนุ่มตระกูลอุโบสถหัตถีกูลเรือนกายดั่งทองคำประกายหาใช่คชสารผิวดำเมี่ยมเช่นเจ้า” นางไอยรากมลาเย้าแหย่บุตรชาย นิสัยหวงแหนเกินคำบรรยายต้องยกให้เจ้าคชคณเป็นอันดับหนึ่ง จะว่าไปได้ช่อเอื้องเป็นเมียจะมีผู้ใดไม่หึงหวงนางกันบ้าง “ท่านแม่ลืมกระไรไปหรือเปล่าขอรับ” “ลืมกระไร” “ผิวนิลกาฬของข้าได้มาจากฝั่งมารดานะขอรับ หากข้าได้จากฝั่งบิดาคงเผือกผ่องเป็นยองใย” พญาคชสารนิลรีบประคองช่อเอื้องให้เดินเบี่ยงไปอีกทาง ก่อนเขาจะถูกผู้เป็นแม่บิดใบหูจนตัวโยน ผู้ใดใช้ให้นางเอ่ยถึงเจ้าอหัสกรต่อหน้าเขากันเล่า เขายังจำได้ดีไม่มีลืมดอกหนา ว่ามันผู้นั้นริอาจมาคล้องมาลัยช่อเอื้อง มิหนำซ้ำยังจะโอบนางขึ้นลำคออีกต่างหาก “คชคณ! เจ้าลูกเปรต!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม