bc

Danger Love รักอันตรายของเจ้าชายมาเฟีย

book_age18+
224
ติดตาม
1.1K
อ่าน
เศรษฐี
ครอบครัว
จบสุข
มาเฟีย
ผู้สืบทอด
คนใช้แรงงาน
ดราม่า
ชายจีบหญิง
วิทยาลัย
ปิ๊งรักวัยเด็ก
เจ้าเล่ห์
addiction
like
intro-logo
คำนิยม

ความบังเอิญก่อเกิดเป็นความรัก

ความคลั่งรักของผู้ชายมาดนิ่งอย่างเค้าทำให้สาวสวยปากจัดอย่างเธอต้องยอมสยบ

ดีโอ [DO] หรือ ดีน [DEEN]

พระเอก : หนุ่มเงียบนิ่ง ร้ายลึก เจ้าแผนการ เด็ดเดี่ยว เป็นคนประเภทพูดน้อยต่อยหนัก เป็นคนรักเพื่อนและครอบครัวมาก ไม่ว่าใครก็ต่างที่คิดจะแตะต้องคนที่รัก มันไม่ตายดีสักคน

“กูทะนุถนอมเมียกูมาเป็นอย่างดี น้ำตาสักหยดของบัวกูยังไม่กล้าทำให้มันไหลออกมาเลย”

“…”

“แล้วมันเป็นใครถึงกล้าทำให้เมียกูเจ็บขนาดนี้ จงเตรียมตัวตายไว้ได้เลย”

“…”

บัว [BUA]

นางเอก : ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของกำนันทองเปลว เป็นคนสดใส ร่าเริง เชื่อมั่นใจตัวเอง เป็นหญิงแกร่งและเก่งได้พ่อ ใบหน้าที่สวยคม บวกกับความมั่นใจและกล้าแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ ทำให้คนอื่นมองว่าหยิ่ง

“ฉันไม่ใช่คนโง่ที่จะดูไม่ออกว่าทั้งหมดนี้มันคืออะไร”

“…”

“ถ้าคุณคิดว่ารูปพวกนี้จะทำให้ฉันร้องไห้วิ่งหนีไปเหมือนกับละครหลังข่าวแล้วละก็…”

“…”

“ฝันไปเถอะค่ะ เรื่องพวกนั้นมันไม่มีทางเกิดขึ้นกับฉันอย่างแน่นอน”

……

“แด๊ดดี๊ ขาาาาา…”

“ขาา…ตื่นแล้วหรอเด็กดื้อ”

“ยังค่ะหนูหลับอยู่”

“หลอกแด๊ดเหรอ หืมมมมม”

“อ๊ะ”

“เจ็บมากไหม…ไม่มีหนูอยู่แด๊ดจะอยู่ยังไง”

“…”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
EPISODE 01 : BEAT UP
พายุฝนฟ้าคะนองในฤดูฝนช่วงเดือนกันยายน ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศเกิดฝนตกอย่างหนักพร้อมกับลมกระโชกแรงทำให้บ้านเรือนหลายหลังพังเสียหายไปตามๆกัน ไม่ต่างอะไรกับหมู่บ้านหนองไม้หวายที่ได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้ด้วยเช่นกัน กินเวลากว่าหลายชั่วโมงแล้วที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนักและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ท้องฟ้าที่มืดครึ้มมาตลอดทั้งวันจนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาจนถึงบ่ายสามกว่าๆ แล้วก็ตาม บนถนนที่เงียบเหงาไร้ผู้คนสัญจรไปมาเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยให้ออกมาทำกิจวัตรอย่างเช่นที่เคยทำ บนท้องถนนในยามนี้จึงมีเพียงรถตู้คันใหญ่ที่ขับมาด้วยความเร็วลัดเลอะไปตามถนนสายหลักที่คดโค้งไปตามแนวของสันเขาอย่างชำนาญ ก่อนจะหักเลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกใหญ่ สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นป่ารกทึบยิ่งขับเข้ามาลึกเท่าไหร่จากถนนสองเลนก็เหลือเพียงเลนเดียวจากถนนคอนกรีตก็เปลี่ยนเป็นถนนลูกรัง ลำห้วยขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนหัวใจของหมู่บ้านหนองไม้หวาย ห้วยแห่งนี้มีน้ำตลอดทั้งปีทำให้ชาวบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณนี้มีน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภค ทำการเกษตรของเกษตรกร หรือแม้แต่เป็นแห่งรวมความสนุกสนานเสียงหัวเราะของชาวบ้านหลายช่วงวัยที่ได้มาคลายร้อนกัน “กูว่าทิ้งมันไว้ที่ห้วยนี่แหละว่ะ” เสียงชายคนขับพูดขึ้นทันทีที่เห็นป้ายบอกทางไปลำห้วยไม้หวาย เพราะความกระสับกระส่ายจากการขาดเหล้ามาหลายชั่วโมง เหงื่อที่ไหลออกมาทั่วตัวสร้างความหงุดหงิดให้กับเขาเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเครื่องปรับอากาศภายในรถตู้คันนี้จะยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อให้อุณหภูมิภายในรถต่ำลงก็ไม่ได้ช่วยให้ชายคนนี้รู้สึกดีขึ้นได้เลย “แต่นายสั่งให้ทิ้งมันที่หน้าผา” ชายชุดดำอีกคนที่นั่งข้างๆเอ่ยค้านขึ้นอย่างหัวเสีย ด้วยเพราะนายของพวกเขาย้ำนักย้ำหนามาว่าจะต้องทิ้งมันลงที่หน้าผาเท่านั้น อย่าให้มันรอดกลับไปได้โดยเด็ดขาดไม่อย่างนั่นพวกเราแย่แน่ “มึงเชื่อกูทิ้งมันลงน้ำยังไงมันก็ตาย” “เออๆ งั้นก็ทิ้งมันลงไปในห้วยนี่แหละ ถ้ามันรอดมาได้ก็ไม่ใช่คนแล้วว่ะ” ชายชุดดำคนเดิมเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างตัดรำคาญเพื่อนของตัวเอง ก่อนจะหันกลับไปมองชายอีกคนที่นอนไม่ได้สติอยู่ด้านหลังของรถ ตูม! “ไปเว้ยไปกินเหล้ากัน” ชายคนขับรถเอ่ยขึ้นเสียงดังเพื่อบอกกับเพื่อนของตัวเองที่เอาแต่จ้องมองไปยังผิวน้ำตรงหน้าอย่างช่างใจ “ไปมึง” ชายชุดดำทั้งสองคนพากันขึ้นรถ นั่งประจำตำแหน่งของตัวเองก่อนจะขับออกไปทันทีด้วยความเร็วสูงท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างหนัก แค่ก! แค่ก! … 16.00 น. “พ่อกำนัน พ่อกำนัน” เสียงแหลมของหญิงสาววัยกลางคนตะโกนเรียกเสียงดังมาตั้งแต่ปากทางเข้าด้วยความรีบร้อน “มีอะไรกระถิน พี่กำนันเข้าไปในเมืองตั้งแต่เช้ายังไม่กลับมาเลยลูก” เสียงหวานของนายหญิงของเรือนขานรับออกมาอย่างเป็นกันเองทันทีที่เห็นว่าคนที่มาตะโกนเรียกสามีของเธอเป็นหลานสาวที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี แม่สายหยุดที่ปีนี้อายุจะเข้าเลขห้าแล้วแต่ความสวยทั้งภายนอกและภายในของเธอยังคงเป็นที่เรื่องลือกันไปทั่วทั้งอำเภอ “ฝายน่ะจ่ะ...มันเหมือนจะพังพวกฉันไม่มีใครที่มีความรู้เรื่องนี้เลยว่าจะมาตามพ่อกำนันให้ไปช่วยดูให้หน่อยน่ะจ่ะ” “แล้วทำไงดีพ่อกำนันก็ไม่อยู่” แม่สายหยุดบอกกับร่างบางตรงหน้าอย่างคิดไม่ตก ถึงเธอจะไม่ได้มีความรู้เรื่องฝายน้ำล้นอะไรนี่หรอก แต่ถ้ากระถินขับรถมาถึงที่นี่ในขณะที่ฝนกำลังตกหนักแบบนี้แสดงว่าสถานการณ์ที่นั่งน่าจะไม่ดีแน่ๆ “บัวไปเองค่ะแม่ ฝายน้ำล้นเป็นความคิดของบัว” “…” “บัวต้องรู้วิธีรักษามันแน่นอนค่ะ” เสียงแก่นแก้วของหญิงสาววัยกำลังซนวิ่งออกมาจากทางด้านหลังของบ้านเรือนไทยยกทรงสูง พร้อมกับมือข้างหนึ่งที่ถือสุ่มสาน หรือสุ่มดักปลาสำหรับปลาน้ำตื้นเป็นอุปกรณ์ที่ชาวบ้านระแวกนี้นิยมนำไปใช้ดักปลาตามท้องนานั่นเอง “จะไปคนเดียวได้หรอลูก” แม่สายหยุดเอ่ยถามลูกสาวเพียงคนเดียวออกไปด้วยความเป็นห่วง “ได้สิจ้ะแม่ นี่บัวชมพูลูกสาวพ่อกำนันทองเปลวกับแม่สายหยุดเชียวนะ” บัวชมพูพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ “ก็ได้...” สายหยุดยอมให้ลูกสาวเพียงคนเดียวไปแต่โดยดี ด้วยเพราะรู้ดีว่าลูกสาวของตนเอาตัวรอดเก่งแค่ไหน แถมทั้งฉลาดและเฉลียวได้พ่อมาอีกต่างหากเรื่องการใช้ชีวิตแม่สายหยุดจึงไม่ค่อยเป็นห่วงลูกสาวสักเท่าไหร่ “ป้าฝากดูแลบัวด้วยนะกระถิน” แม่สายหยุดหันไปกำชับกับกระถินอีกครั้ง ถึงเธอจะรู้จักลูกสาวของตัวเองดี แต่หัวอกของคนเป็นแม่ก็ยังอดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้อยู่ดี “แม่อยู่กับยายสองคนปิดบ้านดีๆนะคะเดี๋ยวบัวกลับมา” บัวเอ่ยบอกกับมารดาของเธอด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะวิ่งไปยังกระบะคันเก่าของกระถินที่จอดอยู่ไม่ไกล รถกระบะขับออกไปจากบ้านของกำนันทองเปลว ก่อนจะเลี้ยวขึ้นไปยังถนนคอนกรีตด้านหน้าขับตรงไปบนถนนเส้นนี้อีกประมาณ 15 กิโลก็เป็นทางไปหมู่บ้านชาวเขา ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของตำบลหนองไม้หวายนี้เช่นกัน ขับมาได้ไม่นานก็สิ้นสุดทางของถนนคอนกรีต ทางข้างหน้าที่เหลือเป็นทางลูกรังแดง แต่ตอนนี้กลายเป็นโคลนไปซะแล้ว “ไหวหรือพี่กระถิน” บัวชมพูเอ่ยถามคนขับข้างๆออกมาด้วยความประหม่า “เชื่อใจโฟวิลอีแก่ของพี่เถอะบัว” กระถินเอ่ยบอกกับบัวชมพูด้วยความภาคภูมิใจในรถของตัวเอง “ฮ่าๆๆ สนุกแล้วสิลุยเลยพี่กระถิน” สองสาวขับรถโฟวิลคันเก่าแต่สมรรถนะของรถยังใหม่เอี่ยมมาจนถึงสะพานคอนกรีตที่มีอายุหลายสิบปีถูกซ่อมแซมมาแล้วหลายสิบครั้งตามอายุการใช้งานของมัน รถกระบะคันเก่าขับผ่านไปอย่างช้าๆ ก่อนจะจอดลงบนเนินที่ห่างจากสะพานแห่งนี้ไม่ไกลมากนัก สองสาวลงมาจากรถแล้วมองไปยังสะพานตรงหน้าด้วยความรู้สึกกังวลอยู่น้อยๆ “ดูจากโครงสร้างไม่น่าไหวแล้วนะพี่กระถิน น้ำไหลแรงขนาดนี้ด้วยไม่นานต้องพังลงมาแน่ๆ” บัวชมพูเอ่ยออกมาในขณะที่สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปยังสะพานตรงหน้า “ถ้าพังตอนนี้แย่แน่ทางเข้าออกมีทางเดียวถูกตัดขาดไปแบบนี้ ละ...” โครมมมมมม !!! กระถินยังพูดไม่ทันจบสะพานตรงหน้าก็พังลงไปต่อหน้าต่อตาของทั้งสองคน ทางคมนาคมเส้นเดียวของหมู่บ้านถูกตัดขาดไปเป็นที่เรียบร้อย เส้นทางที่เหลือเป็นเส้นทางสำหรับเดินเท้าตัดผ่านป่าไปทางด้านหลังของหมู่บ้านประมาณ 8-9 กิโลเมตรถึงจะเจอถนนที่เชื่อมกับเส้นทางหลัก และที่สำคัญเส้นทางเดินป่าถือว่าโหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกันเนื่องจากต้องเดินขึ้นเขาที่มีความชันค่อนข้างสูง ส่วนอีกเส้นทางถ้าต้องการเข้าไปในตัวหมู่บ้านต้องเดินไปตามทางหลักกว่า 20 กิโลเมตร ชาวบ้านจึงมักจะใช้วิธีฝากผู้นำของหมู่บ้านผู้ซึ่งมีรถยนต์เพียงคันเดียวซื้อเข้ามาซะมากกว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกของใช้จำเป็น ส่วนพวกอาหารการกินชาวบ้านมักจะหาของป่าระแวกนี้มาทำเป็นอาหารตามวิถีดั้งเดิม และที่สำคัญรายได้หลักของชาวบ้านก็มาจากของป่าที่แต่ละคนหามาได้และรวมกันใส่รถไปขายที่ตลาดหรือบางทีก็จะมีแม่ค้าพ่อค้าจากด้านนอกเข้ามาซื้อและมาขายของถึงที่ ดังนั้นสะพานแห่งนี้จึงเป็นเหมือนหัวใจหลักของหมู่บ้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้ หมู่บ้านชาวเขาแห่งนี้ปัจจุบันมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียง 30 หลังคาเรือนซึ่งบ้านแต่ละหลังปลูกสร้างเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงขึ้นมาไม่มากนัก ปูหลังคาด้วยหญ้าแฝกกันลมกันฝนได้เป็นอย่างดี หน้าร้อนก็ยังช่วยระบายอากาศได้ดีเช่นกันทำให้รู้สึกเย็นสบายต่างจากหลังคาเหล็กโดยสิ้นเชิง ส่วนเรื่องไฟฟ้ายังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินเรื่องขอเสาไฟเข้ามา ส่วนของน้ำประปาชาวบ้านยังคงใช้น้ำของลำห้วยที่ไหลผ่านหมู่บ้าน ซึ่งน้ำในลำห้วยสายนี้ในสำหรับอุปโภคบริโภคมาหลายชั่วอายุคนแล้ว “พ่อดำสวัสดีค่ะ” บัวชมพูเอ่ยทักทายผู้ใหญ่บ้านอย่างนอบน้อม พ่อดำหรือผู้ใหญ่ดำเป็นพ่อของกระถินและยังเป็นเพื่อนสนิทของกำนันทองเปลวพ่อของบัวชมพูอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้พ่อดำและชาวบ้านต่างก็รู้จักบัวชมพูเป็นอย่างดีและทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูเธอเป็นอย่างมาก ด้วยนิสัยที่ดื้อด้านไม่ยอมคน แต่ก็ฉลาดหลักแหลมที่ถอดแบบพ่อของเธอมาไม่มีผิด ส่วนใบหน้าสวยคมที่ซ่อนความหวานหยดย้อยไว้ภายใต้รอยยิ้มถือได้ว่าถอดแบบมาจากพ่อและแม่ของเธอไม่มีผิดเพี้ยนจะเรียกว่าสำเนาถูกต้องเลยก็ได้ “เมื่อกี้บัวเดินไปดูฝายมาแล้วนะคะ ตอนนี้ยังซ่อมไม่ได้ค่ะ” บัวชมพูเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าไปตามความจริงจากสิ่งที่เธอเห็นมา “ทำไมล่ะลูกบัว” ผู้ใหญ่ดำเอ่ยถามหลานสาวตรงหน้าออกไปด้วยความกังวล “น้ำป่ายังคงไหลแรงเกินไปค่ะ ฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยเราคงต้องรอไปก่อนไม่งั้นจะเป็นอันตรายได้ค่ะ” “หนูบัวว่ายังไงพ่อก็ว่าอย่างนั้น แล้วยิ่งตอนนี้สะพานถูกตัดขาดแบบนี้กลับบ้านตอนนี้ไม่ได้แล้วล่ะลูก เมื่อกี้พ่อเดินขึ้นไปคุยกับพ่อของหนูมาสัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยจะมีไม่รู้ว่ามันรู้เรื่องรึป่าว” ผู้ใหญ่ดำเอ่ยบอกกับหลานสาวตรงหน้าเสียงเครียด สีหน้าของผู้ใหญ่แฝงไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด “ถ้าพ่อทองรู้ว่าบัวอยู่ที่นี่กับลุงดำพ่อทองไม่เป็นห่วงหรอกค่ะ แต่บัวคงต้องฝากท้องหลายวันหน่อยนะคะ” บัวชมพูเอ่ยบอกกับชายวัยกลางคนตรงหน้าพร้อมส่งยิ้มไปให้ท่าน “ฮ่าๆๆ ลูกอยากกินอะไรบอกป้าแมวได้เลยลูกไม่ต้องเกรงใจ” ผู้ใหญ่ดำพูดไปหัวเราะไปด้วยความเอ็นดูหลานสาวตัวเล็กตรงหน้า “ได้เลยค่ะ งั้นเดี๋ยวบัวไปดูเรือนก่อนนะคะ” “บัวคืนนี้นอนกับพี่เถอะ” เสียงกระถินกระโกนลงมาจากบนเรือนของตัวเอง “นั่นสิลูก ที่นั่นยังไม่ได้ปักกวาดเช็ดถูเลย” ป้าแมวภรรยาของลุงดำเอ่ยขึ้นมาอีกคน “เดี๋ยวบัวไปเก็บกวาดเอาค่ะ ที่เรือนของพ่อมีหนังสือการ์ตูนของบัวอยู่คืนนี้บัวว่าจะอ่านให้หนำใจไปเลย” บัวชมพูเอ่ยบอกกับทั้งสามคนตรงหน้าเสียงดังฟังชัด [BUA’S PART] เรือนไม้ท้ายหมู่บ้านถูกสร้างไม่ไกลจากลำห้วยไม้หวายที่ไหลผ่านหมู่บ้าน บ้านทั้งหลังถูกสร้างสูงขึ้นไปจนมั่นใจได้ว่าต่อให้มีน้ำป่าไหลหลากปริมาณน้ำก็จะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเรือนหลังนี้ได้ “งั้นเดี๋ยวป้าไปเอาข้าวใส่ปิ่นโตให้ก่อนลูก ไปถึงเรือนจะได้อาบน้ำสระผมก่อนเดี๋ยวจะไม่สบายเข้าลูก” ป้าแมวเอ่ยบอกกับฉันด้วยความเอ็นดูก่อนที่ท่านจะเดินเข้าไปด้านในเพื่อเตรียมข้าวปลาอาหารให้กับฉัน ผ่านไปสักพักป้าแมวก็เดินเอาปิ่นโตและน้ำเปล่าขวดใหญ่อีก 3-4 ขวดใส่ไว้ในถุงผ้าก่อนที่ท่านจะยื่นมันมาให้กับฉันพร้อมกับร่มอีก 1 คัน “ขอบคุณค่ะ บัวไปก่อนนะคะ” พูดจบฉันก็รีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังเรือนของพ่อทองซึ่งตั้งอยู่ท้ายของหมู่บ้านทันที ถึงเรือนหลังนี้จะตั้งอยู่กลางป่าท้ายหมู่บ้านแต่ด้านในก็เต็มไปด้วยข้าวของมากมายที่พ่อกำนันพ่อของฉันแกขนมาเก็บไว้เผื่อมันจะเป็นประโยชน์ให้กับชาวบ้านได้ ของส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม ผ้าห่มผ้านวมต่างๆ ถึงจะมีไม่มากแต่พอถึงคราวจำเป็นมันก็ถือว่ามีประโยชน์มากทีเดียว ฉันค่อยๆก้าวขึ้นบันไดอย่างระมัดระวัง ก่อนจะก้าวยาวไปยังชานหน้าบ้านรูปตัวแอลที่กว้างประมาณ 2.5 เมตร เรือนหลังนี้ถูกออกแบบมาอย่างดีโดยบัวชมพูคนนี้นั่นเอง ฉันค่อยๆ ว่างของในมือของตัวเองลงบนโต๊ะไม้ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลอย่างช้าๆ จากนั้นจึงหยิบไฟแช็คที่วางอยู่บนชั้นวางของไม่ไกลออกมาจุดตะเกียงเจ้าพายุจนรอบบ้านทำให้บ้านหลังนี้สว่างไสวขึ้นมาทันที ของทุกอย่างยังคงวางไว้อย่างเป็นระเบียบ และที่สำคัญแทบจะไม่มีร่องรอยของฝุ่นอยู่เลยด้วยซ้ำนั่นก็คงเป็นเพราะป้าแมวท่านมักจะแวะเวียนเข้ามาทำความสะอาดที่นี่อยู่ตลอดนั่นเอง ฉันเดินไปปัดที่นอนขนาด 5 ฟุต ที่ไม่ค่อยมีคนใช้งานมันสักเท่าไหร่ให้สะอาดเหมือนใหม่ เพียงเท่านี้ที่นี่ก็เป็นเหมือนสวรรค์ของฉันแล้วล่ะ ได้นอนฟังเสียงน้ำไหลผสานเข้ากับสายฝนที่ยังคนตกลงมาไม่ขาดสาย มันช่างให้ความสงบกับฉันได้มากทีเดียวฉันจงถือโอกาสนี้พักผ่อนไปซะเลย “ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าเรา ถ้าช้ากว่านนี้น้ำจะเย็นจัดเดี๋ยวอาบไม่ได้กันพอดี” ฉันเอ่ยบอกกับตัวเองก่อนจะหยิบเอาผ้าถุงที่วางอยู่ในลังใส่เสื้อผ้าของตัวเองออกมา ฉันจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วเปลี่ยนเป็นนุ่งกระโจมอกแทน ก่อนจะเดินออกมามือบางของฉันไม่ลืมที่จะคว้าเอาไฟฉายกับร่มที่ป้าแมวให้มาติดมือมาด้วย และเนื่องจากเรือนหลังนี้ไม่มีห้องน้ำในตัวทำให้ฉันต้องเดินออกไปยังห้องน้ำที่ถูกสร้างขึ้นให้ห่างจากลำห้วยประมาณ 50 เมตรเห็นจะได้ ในเวลาปกติฉันก็ถือว่ามันไม่ได้ไกลอะไรมาก แต่ในยามที่ฝนตกแบบนี้มันต่างออกไปฉันกลับคิดว่าห้องน้ำนี้ถูกสร้างไกลแสนไกลยังไงก็ไม่รู้ 10 นาทีผ่านไปไวเหมือนโกหกจะว่าฉันวิ่งผ่านน้ำก็ได้ น้ำในอ่างมันเย็นจัดจนฉันทนอาบมันนานกว่านี้ไม่ไหวแล้ว ฉันค่อยๆเปลี่ยนนุ่งผ้าถุงผืนใหม่ที่นำติดมือมาด้วย ก่อนจะเดินกางร่มออกมาด้านนอก ฉันค่อยๆเดินไปยังเรือนไม้อย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้น้ำโคลนมากระเด็นโดนขาของตัวเอง แค่ก! แค่ก! แค่ก! “อือออ...” ฉันหลับตาลงทันทีด้วยความกลัวขาเรียวของฉันหยุดเดินอย่างอัตโนมัติทันทีที่ได้ยินเสียงแปลกๆดังเข้ามา ‘หูฝาด หูฝาด’ ฉันพยายามสะกดจิตของตัวเอง แต่... แค่ก! แค่ก! แค่ก!

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

บำเรอรักขัดดอก

read
2.8K
bc

ยั่วรัก หม้ายสาวสายแซ่บ

read
22.6K
bc

พลาดรักนายคาสโนว่า

read
23.2K
bc

เมียแต่งที่คุณไม่เคยต้องการ

read
20.8K
bc

Secret Love ซ่อนรักคุณหมอมาเฟีย

read
1.4K
bc

พี่สามีอย่ารังแกข้า

read
5.4K
bc

แอบเสียวจนได้ผัว (NC20+)

read
60.2K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook