ตอนที่ 1 บทนำ
@สนามแข่งรถ
บรื้น! บรื้น!
เสียงเร่งเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตคันหรูส่งเสียงคำรามไปทั่วสนามแข่งรถชื่อดังแห่งหนึ่งถึงแม้ว่านี่จะเป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้วก็ตาม ดวงตาคมเข้มจ้องมองไปยังพื้นถนนเบื้องหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบอย่างยากจะคาดเดาในขณะที่มือยังคงกำพวงมาลัยแน่นเช่นเดียวกับเท้าหนักที่เหยียบคันเร่งอย่างเต็มแรงจนรถคันหรูเคลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วอย่างเต็มกำลัง
เอี๊ยด!!
"เวลาตกนะ" น้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นทันทีตอนที่รถจอดสนิทพร้อมกับร่างสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรที่เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มในมือ ในขณะที่พิชญ์ไม่ได้สนใจถ้อยคำถากถางของเพื่อนสนิทแล้วเดินไปหาที่นั่งพักบริเวณด้านข้างของสนามแข่งรถแทน
"ไม่ดื่มหน่อยเหรอวะ?" ขุนพลที่เดินเข้ามาเอ่ยถามแล้วหย่อนตัวนั่งลงด้านข้างพลางยื่นแก้วเหล้าในมือไปด้วยแต่พิชญ์กลับส่ายหน้าปฏิเสธแล้วเอนกายเล็กน้อยด้วยความเหนื่อยล้า
"เวลามึงมีเรื่องไม่สบายใจมันดูออกนะ"
"ช่วงนี้กูไม่ค่อยมีสมาธิเวลาเลยตก"
"ยังฝันร้ายอยู่อีกเหรอ?"
พิชญ์หลับตาลงช้าๆ ตอนที่ได้ยินคำถามในขณะที่ยังคงพ่นลมหายใจสม่ำเสมอออกมา คงเป็นเพราะเขาและขุนพลเป็นเพื่อนกันมานานหลายปีจึงทำให้อีกคนค่อนข้างรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขามากพอสมควร ซึ่งมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยมีใครได้รู้นั่นก็คือความกังวลและการฝันร้ายของเขาตลอดระยะเวลาที่ผ่าน
แม้ภายนอกจะดูเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยแต่กลับไม่มีใครได้เห็นถึงความอ่อนแอของเขาเลย พิชญ์ต้องขึ้นมาบริหารงานแทนพ่อของตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อนได้พรากชีวิตครอบครัวของเขาไป ซึ่งประกอบด้วยพ่อและแม่ที่เป็นเพียงที่พึ่งพิงเดียวของชายหนุ่ม
ในตอนนั้นเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะมาเสียใจเลยด้วยซ้ำเนื่องจากทุกอย่างมันค่อนข้างจะกะทันหันและสิ่งที่อุบัติเหตุในครั้งนั้นได้ทิ้งไว้ค่อนข้างเป็นสิ่งที่โหดร้ายสำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อพอสมควร หากไม่มีน้องสาวตัวเล็กที่น่ารักอย่างลูกพีชอยู่เขาก็คงจะไม่ลังเลเลยที่จะตามผู้เป็นพ่อและแม่ไป เพียงแต่สิ่งนั้นกลับเป็นเพียงได้แค่ความฝันเท่านั้นตอนได้เห็นดวงตาที่เศร้าหมองของน้องสาวคนเล็ก...เขาอยากที่จะทำให้โลกของเธอกลับมาสดใสได้อีกครั้ง นั่นจึงเป็นเป้าหมายที่ทำให้พิชญ์สามารถทำให้บริษัทที่เกือบจะล้มละลายกลับเข้ามาในวงการของธุรกิจได้อีกครั้งเพื่ออนาคตของอีกคนที่เขารัก
"ช่วงนี้มีเรื่องนิดหน่อยก็เลยมีบ้าง" ไม่ใช่ทุกคืนที่เขาจะฝันร้ายแบบนี้ แต่มันจะมีเพียงแค่บางครั้งเท่านั้นที่เขาเหนื่อยมากๆ หรือมีเรื่องที่ไม่สบายใจ เรื่องราวเมื่อหลายปีก่อนเลยวนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง
"เรื่องพีชเหรอ? กูว่ามึงควรจะปล่อยน้องให้ได้ใช้ชีวิตของตัวเองได้แล้วนะ น้องมึงก็อยู่มหา'ลัยแล้ว ไม่ใช่เด็กมัธยมที่จะถูกหลอกง่ายๆ"
"แล้วที่กูทำอยู่ทุกวันนี้ยังไม่เรียกว่าให้อิสระอีกหรือไง?" พิชญ์ลืมตาขึ้นมาตอบกลับคนด้านข้างเสียงไม่พอใจ เพราะเขาเองก็ไม่เคยที่จะบังคับลูกพีชน้องสาวของตัวเองให้ทำตามที่เขาต้องการ เพียงแต่เรื่องไหนที่เห็นว่าน่าเป็นห่วงเขาก็จะมีตักเตือนไปบ้างตามประสาพี่ชายคนหนึ่งก็เท่านั้น
"กูก็เห็นว่ามึงให้อิสระน้องในเรื่องการใช้ชีวิต แต่คนที่ยังไม่เป็นอิสระสักทีก็คือมึง เพราะมึงเอาแต่เป็นห่วงน้องเขาทุกฝีก้าวอยู่แบบนั้นสุดท้ายคนที่จะไม่มีความสุขก็คือตัวมึงเอง"
"แล้วเป็นมึง มึงจะไม่ห่วงน้องของตัวเองเลยเหรอ?" กลับกลายเป็นขุนพลที่เงียบไปเมื่อโดนถามกลับในเรื่องเดียวกัน ซึ่งเรื่องที่พิชญ์กำลังเป็นห่วงเกี่ยวกับน้องสาวของตัวเองอยู่ตอนนี้คือเรื่องแฟนหนุ่มของเธอที่ดูเป็นคนใจร้อนและไม่มีเหตุผลเป็นอย่างมาก จนทำให้พิชญ์มีความกังวลว่าลูกพีชอาจจะไม่มีความสุขเวลาอยู่กับอีกคนได้ ซึ่งขุนพลเองที่เคยเจอทั้งภาคินและลูกพีชอยู่สองสามครั้งก็พอจะเข้าใจในความเป็นห่วงของพิชญ์ เพียงแต่หากเป็นเขาเขาก็คงจะปล่อยให้หญิงสาวได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตเองเพราะมันเป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนจะผิดพลาดระหว่างทาง
"ที่กูยอมทนอยู่แบบนี้เพราะเห็นแก่ความสุขของพีช ทั้งๆ ที่คิดว่าสักวันพีชจะต้องเสียใจเพราะมัน แต่กูก็ทำอะไรไม่ได้"
"...แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันทำให้พีชเสียใจ กูเองก็ไม่มีทางปล่อยไอ้เวรนั่นไว้เหมือนกัน"