นาเดียร์หลังจากที่ตนไปถอนรายวิชาเรียนไม่สำเร็จ ร่างบางเดินคอตกกลับมาหาอินนาและปูเป้ที่โรงอาหาร
“แกถอนวิชาอาจารย์คาร์เรนไม่สำเร็จก็ดีแล้วไง ก็ไปเรียนกับพวกฉันอีกอย่างเรียนได้ความรู้ด้วย ได้อาหารตาหล่องานดีด้วย แบบนี้มันไม่ดีตรงไหน” ปูเป้พอใจสุดๆ ที่นาเดียร์นั้นถอนวิชาเศรษฐศาสตร์ไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็ไม่ขาดคู่หู
“ใช่ไหม แก” ยัยอินนานี้ก็อีกคน ดูเหมือนทั้งสองนางนี้ ดูสะใจมากที่ฉันถอนวิขาอาจารย์คาร์เรนไม่สำเร็จ
“ยัยเดียร์ คงมีแต่แกนี้แหละที่ไม่อยากเรียนวิชา อาจารย์คาร์เรน คนอื่นเขาทั้งบนบานสารกล่าว โชคยังไม่เข้าข้าง ไม่ได้เรียนวิชานี้ง่ายๆนะจ๊ะ ต้องใช้แต้มบุญเท่านั้นถึงจะได้เรียน”
“เลิศ ค่ะสาว” ปูเป้เอ่ย ด้วยสีหน้าทะเล้น
“หึ...” แต่นั้นนาเดียร์กับถอนหายใจยาวๆ
“ไหนๆ ฉันก็ลงเรือลำเดียวกับพวกแก แล้ว อย่าเทฉันละ ช่วยติวให้ด้วยนะ” นาเดียร์เอ่ยน้ำเสียงเศร้า
“ถ้าติด F วิชานี้ ฉันต้องขายขี้หน้ามากแน่ๆ” เอ่ยจบใบหน้าสวยก็ซบหน้าลงกับกองหนังสือที่วางตรงหน้า
“เออ น๊าแกแก้โจทย์ไม่ได้ ใช่ว่าแกจะทำข้อสอบไม่ได้นี่น่า เอาน่า สู้สิวะเดียร์ เราสามคนต้องสู้ไปด้วยกัน แกต้องผ่านวิชาเศรษฐศาสตร์ไปให้ได้” ปูเป้ให้กำลังใจเพื่อนสนิท สีหน้ายัยนาเดียร์ตอนนี้ดูสิ้นหวังมาก แค่เรียนทำไมยัยนาเดียร์ดูกลัว กังวล ไม่มั่นใจเอาเสียเลย ฉันงงกับนาง
“สู้ๆโว้ย สู้ๆ” ทั้งสามสาวประสานเสียงกัน ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาถึงกับงงงวยกับท่าทีของทั้งสามไปตามๆกัน แค่เรียนวิชาอาจารย์คาร์เรน แต่มันเหมือนฉันจะไปออกรบ
นาเดียร์ถึงปากจะสู้ แต่ใจฉันเนี่ยสิ ป๊อดชิบหาย ยิ่งรู้ว่าคุณคาร์เรนเป็นอาจารย์ ฉันกับไม่อยากจะเจอหน้าเขา ไม่กล้ากลับบ้าน แต่ถ้าไม่กลับบ้านจะไปที่ไหนดีละ
!! เห้ย...!! ยิ่งคิดฉันยิ่งปวดหัวขึ้นมาตึบๆ
5 ชั่วโมงต่อมา
จนกระทั่งตกเย็น นาเดียร์หลังจากเลิกเรียนเสร็จ เธอไม่อยากกลับบ้านเพราะกลัวการเจอหน้าเขาไปเสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นร่างบางจึงเลือกที่จะไปเดินตลาดไนท์ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านคาร์เรน เมื่อแน่ใจว่าเขาออกจากบ้านในเวลา 3 ทุ่ม เธอยังเลือกที่จะกลับบ้านในเวลานั้นแทน
หลายวันต่อมา
ด้านคาร์เรนหลังจากที่นาเดียร์เธอเจอผมที่มหาลัยในวันนั้น นี้ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ที่ผมไม่เจอหน้าคนร่วมบ้าน เพราะผมต้องไปตรวจงานที่ผับทุกวัน กว่านาเดียร์จะกลับถึงบ้านผมก็ออกจากบ้านไปแล้ว ซึ่งช่วงเช้านั้นก็เป็นปกตินาเดียร์เธอไปมหาวิทยาลัยก่อน 8 โมงซึ่งผมไป 9 โมง และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ต่างคนต่างไป ต่างคนต่างกลับ ซึ่งผมไม่เข้าใจเหตุผลของเธอ แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว เพราะผมเองก็ไม่ต้องการให้ใครรับรู้เรื่องของเรา ข้อนี้นาเดียร์เธอย่อมรับทราบดี
นาเดียร์และวันนี้ก็เป็นอีกวัน ที่ฉันกลับดึกเนื่องจากช่วงนี้มีงานกีฬาสีที่มหาลัย ส่วนฉันก็มีไปซ้อมหลีดกับกลุ่มเพื่อนๆ กลับถึงบ้านทีก็ปาไป 4 ทุ่มกว่าๆ ที่ฉันกลับดึกแบบนี้ไม่ใช่เพราะตั้งใจหลบหน้าเขาหรอกนะ ตอนแรกยอมรับว่าใช่แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
ทว่าขณะที่ก้าวขาเข้าบ้าน สายตากับสะดุดเข้ากับคนตัวสูงนั่งดื่มบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ภายในห้องรับแขก
“ทำไมพึ่งกลับ...” คาร์เรนละใบหน้าขึ้นถาม ขณะที่เขานั่งดื่มบรั่นดีในบ้านเพียงลำพัง
นาเดียร์ที่เจ้าของบ้านถามเช่นนั่น ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก ปกติเวลานี้ใช่ว่าเขาจะอยู่บ้านให้เห็นหน้าหรอกนะ ทำไมวันนี้เขาถึงอยู่ที่บ้านละ นาเดียร์แปลกใจไม่น้อยที่วันนี้คาร์เรนอยู่ที่บ้าน
“ถามฉันเหรอ” คนตัวเล็กถามด้วยสีหน้างงงวย ปกติเจอหน้าใช่ว่าเขาจะสนใจเธอ จะไปจะกลับเวลาไหนเขาก็ไม่คิดจะสนใจอยู่แล้ว
“ที่นี่อยู่กันแค่สองคน เธอคิดว่าฉันถามใครละ” เขาย้อน
“ใช่ค่ะ ฉันพึ่งกลับถึงบ้าน” คาร์เรนเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังบ้านอีก 10 นาทีจะ 4 ทุ่ม
“ทำไมพึ่งกลับ”
“ช่วงนี้ที่มหาลัยมีงานแข่งกีฬาสี ฉันเองก็มีซ้อมหลีด เลยต้องกลับดึกกว่าปกติค่ะ”
“ฉันไม่ได้ว่าอะไร...” ที่เขาถามเธอเช่นนั้นเป็นห่วงเหรอ คาร์เรนสับสนไม่เข้าใจตัวเอง เหตุใดเขาถึงต้องมานั่งรอเธอ ทั้งที่เวลานี้เขาควรออกไปตรวจงานสนุกกับมาคัสที่ผับแล้ว
ย้อนไปเมื่อช่วงเวลา 2 ทุ่มกว่าๆ
ด้านคาร์เรนหลังจากที่วันนี้ผมเสร็จงานที่บริษัทก็กลับมาพักผ่อนที่บ้าน ร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในเวลา 2 ทุ่มกว่าๆ ขณะที่เขาลงมาจากห้อง กับไม่เจอนาเดียร์ เมื่อถามกับป้าสาย กับได้ความว่าเธอยังไม่กลับจากมหาลัย
“นี้เธอเรียนหนักขนาดนี้เลยเหรอครับ” คาร์เรนเอ่ยลอยๆ จู่ๆเขากับรู้สึกไม่พอใจที่นาเดียร์กลับบ้านดึกโดยไม่บอกเขา
‘แล้วทำไมผมต้องไม่พอใจเธอด้วยละวะ’ คาร์เรนถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดเขาต้องเทงานที่ผับ ผมต้องมานั่งรอนาเดียร์กลับบ้านอย่างที่เห็นนี้แหละครับ
“เธอแข่งหลีดวันไหน”
“สัปดาห์หน้าค่ะ”
“ช่วงนี้ ฉันมีไปดูงานที่จีน ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ เธอห้ามกลับบ้านเกิน 4 ทุ่ม ฉันไป 10 วัน ส่วนนี้พอไหม” คาร์เรนไม่พูดเปล่า ทว่าเขากับหยิบธนบัตรสีเทายื่นมันให้กับเธอนับ 10 ใบ ซึ่งเป็นเงินที่เธอได้รับจากเขารายสัปดาห์
“พอค่ะ” เธอรับจากมือของเขา
“ขอบคุณค่ะ”
ด้านนาเดียร์พอคอยหลังคาร์เรนขึ้นห้องไปแล้วนั้น เขาไม่อยู่ 10 วันนั้นเท่ากับว่า เกือบ 2 สัปดาห์ที่เธอไม่ต้องเรียนวิชาของเขา
“งั้นช่วงที่เขาไม่อยู่ ก็ไม่ต้องเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ อร้าย” นาเดียร์ยิ้มแป้นด้วยสีหน้าสดใสสุดๆ ที่คาร์เรนไปต่างประเทศหลายวัน
!! กรี๊ดดดดด !! นาเดียร์กรี๊ดดีใจอย่างลืมตัว แต่นั้นกับลืมไปว่าที่นี่คือบ้านของเขา
ด้านคาร์เรนที่นึกขึ้นได้ว่าลืมมือถือไว้ในรถ ทว่าขณะที่ร่างสูงจะไปยังโรงจอดรถ คาร์เรนที่เห็นท่าทีดีอกดีใจของนาเดียร์ ร่างสูงถึงกับอดหมั่นไส้ไม่ได้
“ฉันไม่อยู่ ไม่ต้องดีอกดีใจขนาดนั้น หรอก ช่วงที่ฉันไม่อยู่ เธอไม่ต้องเข้าเรียนคลาสฉันก็จริง แต่อย่าลืมหลังจากฉันกลับมา เธอมีสอบเก็บคะแนน 40 คะแนน อย่าลืมอ่านหนังสือด้วยละ” เสียงทุ่มที่ดังจากข้างหลัง นาเดียร์ถึงกับสะดุ้งเฮือก ร่างบางหันมองคนตัวสูง
“หึ...นี้คุณรู้ด้วยเหรอ ว่าฉันคิดอะไร” เธอยิ้มแป้น
“ใช่ไหม ฉันทายถูกไหม”
“อาจารย์คาร์เรนขา ในเมื่ออาจารย์สอบเก็บคะแนนเยอะขนาดนั้น ไหนๆ เราก็อยู่ร่วมบ้านชายคาเดียวกัน ฉันขอดูแนวข้อสอบไม่ได้เหรอคะ หรือไม่ก็ใบ้ให้ก็ได้ ออกประมาณไหน ตรงไหนบ้างคะ” ปกติใช่ว่า เธอจะชอบเสวนากับเขาหรอกนะ ไหนๆอีกไม่กี่วันเขาก็จะสอบวัดความรู้สมองอันขี้เลื้อยของเธอแล้ว ขอทีเถอะ
!! โป๊ก...!! เธอขอแนวข้อสอบ ทว่าเขากับแจกนิ้วดีดหน้าผากกลมๆ ของเธอไปแทน
“โอ้ย..”
“เจ็บนะคะ” นาเดียร์ยกมือขึ้นมาเกาหัว
“อย่าแม้แต่จะคิดมาขอแนวข้อสอบกับฉัน”
“อ้าว ไม่ให้ขอกับอาจารย์คาร์เรน แล้วจะให้ไปขอกับหมาแมวที่ไหนละคะ” เธอประชดเขา
“หน้าที่ของเธอคือเรียน ไม่ใช่มาขอข้อสอบจากฉัน”
“ชิ ไม่เอาก็ได้” นาเดียร์เอ่ยพร้อมกับหลุดรอยยิ้มหวานๆ ให้คาร์เรนอย่างไม่รู้ตัว ทว่ามันกับสาดเข้าตาเขาเข้าอย่างจังๆ ร่างสูงเสียการควบคุมไปชั่วขณะ
จนกระทั่งนาเดียร์ขึ้นห้องหนีเขาไปแล้วนั้น ใบหน้าอันหล่อเหลากระตุกรอยยิ้มที่มุมปาก ยิ้มที่ไม่มีใครได้รับมันจากเขา
“เออ แล้วจะยิ้มเพื่อ...” คาร์เรนสลัดภาพนาเดียร์ ใบหน้าสวยที่เธอฉีกยิ้มหวานๆ นั้นออกจากหัว
“เด็กนั้นน่ารักงั้นเหรอ” คาร์เรนได้แต่ถามตัวเองภายในใจ