~ 2 ชั่วโมงต่อมา ~
ด้านนาเดียร์ ฉันนั่งเรียนวิชาอาจารย์คาร์เรน 3 ชั่วโมง แต่ตอนนี้เหมือน 3 ชั่วโมงไม่ไหว เมื่อไหร่จะหมดคลาสเขาสักที นาเดียร์ไม่กล้าสบตาคาร์เรน นาเดียร์หลบหน้าคาร์เรนอยู่เช่นนั่นนานนับชั่วโมง ตั้งแต่เธอเดินออกจากหน้าห้องมา เมื่อไหร่จะหมดชั่วโมงซะที ฉันไม่เคยรู้สึกอึดอัดอะไรมากเท่านี้มาก่อน
!! ออด !! จนกระทั่งเสียงกริ่งออดชั่วโมงดังขึ้นนั้นคือเสียงสวรรค์ของฉันสุดๆ
“เยส...” มือเรียวหยิบไอแพดยัดใส่กระเป๋า จากนั้นก็รีบสาวเท้าออกจากห้องด้วยท่าทีเร่งรีบ ทำเอาอินนาและปูเป้ถึงกับมองหน้ากันด้วยสีหน้างงงวย
“มันรีบไปไหนของมัน” อินนาหันมาถามปูเป้
“นั้นน่ะสิ” จากนั้นสองสาว ก็เดินตามนาเดียร์ออกมาติดๆ
“ฟู่...เกือบไม่รอดแล้วฉัน” นาเดียร์วิ่งออกจากห้องเรียนมาจนกระทั่งถึงหน้าลิฟต์
“เป็นไรของแก” ปูเป้ถาม
“นั้นน่ะสิ แกจะรีบออกมาทำไม ฉันยังเสพความหล่อ พ่อหนุ่มหุ่นล้ำของฉันยังไม่เต็มอิ่มเลย” อินนาเสียดายไม่น้อยที่นาเดียร์นั้นรีบพาพวกฉัน ออกจากห้องเรียนก่อนอาจารย์คาร์เรน
นาเดียร์อินนาที่เอ่ยมาเช่นนั่น ร่างบางถึงกับคอแข็ง ถ้ายัยอินนารู้เรื่องของฉันกับอาจารย์คาร์เรน ยัยนี้จะทำหน้ายังไงฉันไม่อยากจะนึกถ้าเกิดวันนั้นมาถึง แต่มันคงไม่มีวันนั้นหรอกเพราะอีกไม่นานเราคงหย่ากัน
“แกเวลา 3 ชั่วโมง ฉันคิดว่า 15 นาที ทำไมวิชาอาจารย์คาร์เรนนี้ เวลาช่างเดินเร็วเหลือเกิน” ไม่ทันจะได้กลืนกินความหล่ออาจารย์คาร์เรนก็จบคลาสแล้ว
“แก ฉันเดินผ่านหน้าอาจารย์ ผู้ชายบ้าอะไร ตัวหอมมาก หอมจนฉันอยากเอาหน้าสวยๆ ของฉันเข้าไปซุกอก” ปูเป้พูดไปเขินไป
“นั้นน่ะสิ หน้าเนียนยังกะหน้าผู้หญิงแก ฉันอยากลงเรียนวิชานี้ซ้ำๆสัก 10 ชั่วโมงก็ยังไหว ตั้งแต่เรียนมาเป็นวิชาแรกที่ฉันไม่บ่นไม่เหนื่อยเลย เห็นความหล่อของคนสอน แล้วเหมือนมีพลังบางอย่างปลุกไฟฉันขึ้นมา” อินนาเอ่ยอย่างสนุกปาก เธอยังสนุกกับวิชาที่คาร์เรนสอน แต่กับมีเพียงนาเดียร์คนเดียวนั้น ที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“กว่าจะผ่านวิชานี้ไปได้ ฉันจะทำยังไงดี” นาเดียร์เอ่ยด้วยสีหน้าคิดหนัก
“เป็นไรของแกอิเดียร์ นี้อย่าบอกนะว่าแกไม่ชอบวิชานี้ แกนี้ช่างไม่รู้อะไรกว่าเราจะลงเรียนวิชานี้ได้ ไม่ใช่ง่ายๆนะแก ฉันกับอินา ไปชิงกับพวกเด็กนิเทศมา แกน่ะควรดีใจนะโว้ย...”
“นี้ มันต้องขนาดนั่นเลยเหรอ” นาเดียร์เอ่ยเสียงเบา
“ยังไงก็เถอะ ฉันไม่ชอบและไม่อยากเรียนแล้ว พวกแกก็เห็นแล้วนี้ โจทย์บนกระดานนั้นฉันก็แก้ไม่ได้ น่าอายชะมัด” นาเดียร์ไม่พูดเปล่า ทว่าร่างบางกับเอ่ยขณะที่หัวชนเข้ากับผนัง
“ฮือ...ทำไงดี ถอนวิชานี้งั้นเหรอ”
“ใช่ ฉันต้องถอนวิชาเรียน” นาเดียร์ที่คิดอะไรเช่นนั้น ใบหน้าสวยระบายยิ้มด้วยสีหน้ามีความหวัง ถ้าถอนวิชาเศรษฐศาสตร์ออกได้ ฉันก็ไม่ต้องทนเรียนวิชาของเขาอีก
“ฉันคิดออกแล้ว ถอนวิชาไงพวกแก” นาเดียร์เอ่ยด้วยสีหน้ามีความหวังสุดๆ จากนั้นร่างบางก็รีบวิ่งไปยังห้องงานทะเบียน ไม่นานนาเดียร์ก็กลับมาพร้อมกับเอกสารในมือ โดยที่เจ้าตัวเซ็นเอกสารถอนรายวิชาเรียบร้อย
“อิเดียร์ นี้อย่าบอกนะ ว่าแกจะเทพวกฉันจริง” อินนาที่คิดว่านาเดียร์พูดเล่น ที่เธอจะถอนรายวิชาเศรษฐศาสตร์ไปลงเรียนวิชาใหม่นั้น ถึงกับถาม
“ฉันเทตรงไหน แกก็เห็นว่าฉันแก้โจทย์ ไม่ได้ อีกอย่างฉันไม่ชอบวิชานั่น มีแต่ตัวเลข พวกแกสองคนอย่ายื้อฉันเสียให้ยาก มันไม่ได้ผลหรอก”
“แล้วแกจะทำยังไง”
“ฉันจะให้เขาเซ็นต์” นาเดียร์เอ่ยจบ ร่างบางก็เดินถือเอกสารเพิ่ม ลดรายวิชา เข้าห้องไปหาอาจารย์ผู้สอน
ด้านคาร์เรนหลังจากที่เสร็จหน้าที่อาจารย์สอนพิเศษในคลาสเช้าวันนี้ ช่วงบ่ายผมมีประชุมผู้ถือหุ้นที่บริษัทต่อตอนบ่ายสอง
ทว่าขณะที่ร่างสูงเก็บเอกสารจะออกจากห้องนั้น
!! ก๊อก ก๊อก !!
“เชิญ”
คาร์เรนไม่คิดว่าคนที่เข้ามาจะเป็นนาเดียร์
“มีอะไร” เขาถามเสียงเข้ม
“คือ หนูจะถอนรายวิชาเศรษฐศาสตร์ แล้วไปลงวิชาอื่นแทนน่ะค่ะ” นาเดียร์เอ่ยอ้ำๆอึ้งๆ เธอก้มหน้าไม่กล้าแม้แต่จะสู้หน้าเขา ทว่ากับยื่นเอกสารแทนหน้าของเธอ
คาร์เรนที่เห็นเอกสารในมือ พร้อมกับรายเซ็นต์ที่นาเดียร์เซ็นต์มาอย่างเสร็จสับนั้น
“ไง แค่นี้จะถอย ไม่สู้กับฉันแล้วเหรอ เดียร์ลดา” นาเดียร์ชะงักเล็กน้อย หึ...นี้เขารู้จักชื่อฉันด้วยเหรอ แต่นั้นนาเดียร์กับลืมไปชื่อเธออยู่บนหัวกระดาษ
“สู้...เหรอ” เธอถาม ทว่าคนถูกถามกับยักคิ้ว
“อืม...” คาร์เรนไม่พูดเปล่า ร่างสูงลุกออกจากโต๊ะ เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ
!! ตึก ...!! เขาเดินต้อนเธอจนอีกฝ่ายหลังชนฝา
เผชิญหน้ากับเธออย่างจัง หลังจากที่นาเดียร์รู้ว่าคนร่วมบ้านนั้นคืออาจารย์สอนเธอ
!! ตึก...!! นาเดียร์เดินถอยหลังจนกระทั่งแผ่นหลังชนเข้ากับผนังห้อง เธอเผชิญหน้ากับเขาอย่างใกล้ชิด ใกล้มากโดยเฉพาะใบหน้าอันหล่อเหลาของคนตรงหน้านี้ นัยน์ตาทั้งสองคู่ประสานเข้าหากัน
“อ่า...นี่...นี้อาจารย์จะทำอะไรฉันเหรอคะ” นาเดียร์ถึงเราจะอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่พอดันมาเจอเขาในสถานะอาจารย์แบบนี้ ไม่ชินแฮ่ะ... คนตัวเล็กถึงกับติดอ่างไปชั่วขณะ
แขนยาวทั้งสองข้างยันเข้ากับผนังห้อง ไม่ให้คนตัวเล็กมีทางหนี
“เรามาสู้กัน...” เสียงเข้มเอ่ยกับคนตัวเล็ก ขณะที่เธอสบตากับเขาอย่างใกล้ชิด ดีนะที่ในห้องนี้ นักศึกษาออกไปหมดแล้ว ภายในห้อง 558 จึงมีแค่ฉันและเขาเพียงสองคน
“หมายถึง...” มือหนาจับเข้าผมยาวที่รวบเอาไว้กลางหลัง
!! พรึ่บ...!! จากนั้นคาร์เรนก็กระชากยางรัดผมที่เธอรวบเอาไว้ออก ผมยาวถูกปล่อยสลวยลงกลางหลัง นาเดียร์เบิกตาด้วยท่าทีตกใจสุดๆ ที่คาร์เรนสัมผัสผมของเธอ
“หมายความว่า เธอต้องผ่านวิชาของฉันไปให้ได้ยังไงละ” คาร์เรนไม่พูดเปล่า ทว่ามือหนากับฉกแผ่นเอกสารจากมือคนตัวเล็ก จากนั้นก็ขยำและเขวี้ยงลงถังต่อหน้าต่อตาของเธออย่างไม่ใยดี
!! อึก ...!! ท่าทีของคาร์เรน นาเดียร์ตกอยู่ในอาการอึ้ง เธออึ้งกับท่าทีห่ามๆของเขา
“อย่าป๊อด วิชาของฉันมันไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน”
“แต่ฉันไม่อยากเรียน คุณควรตามใจฉันสิ...”
“อาจารย์ควรตามใจฉันสิ...คะ” เมื่อเห็นสีหน้านิ่งปนดุ นาเดียร์ถึงกับเปลี่ยนคำพูดทันที
“อาจารย์ ไม่มีสิทธิ์ขยำเอกสารหนูทิ้งนะคะ หนูแค่จะให้อาจารย์เซ็นต์ยินยอมให้หนูถอนวิชาของอาจารย์เอง” นาเดียรเอ่ยหน้ามุ้ย
“แต่ฉันไม่ทำในฐานะผู้ปกครอง ไม่ใช่อาจารย์ของเธอ” นาเดียร์ที่คาร์เรนเอ่ยมาเช่นนั้น คนตัวเล็กถึงกับหน้าเหวอ
“ผู้ปกครองเหรอ นี้คุณเป็นผู้ปกครองฉันตั้งแต่เมื่อไหร่” ทำไมฉันไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน
“ถามพ่อเธอได้” นาเดียร์ที่คาร์เรนเอ่ยเช่นนั่น ฉันอยากจะกรี๊ด นี้อย่าบอกนะว่าพ่อยกหน้าที่ผู้ปกครองฉันให้กับเขา แบบนั้นมันจะต่างกับตกนรกนะ
‘อิสระของฉัน’ ทว่านาเดียร์ที่จะถามคาร์เรนต่อ แต่นั่นก็ไม่ทันแล้วเมื่อคนตัวสูงนั้นเดินถือกระเป๋าออกจากห้องด้วยท่าทีเร่งรีบ ขืนไปขวางทางเขาตอนนี้ มีหวังโดนดุเสียเปล่า
“หมดกันอิสระของฉัน” จากนี้ไปจะทำอะไร ต้องขึ้นอยู่กับไอ้ผู้ปกครองใจร้ายคนนี้แน่ๆ