จากที่ต้องการหาเงินมารักษาพ่อ แต่กลับกลายเป็นว่า...
ฉันหาเรื่องมาใส่ตัวเพิ่มไปอีก
วันรุ่งขึ้น
@มหาลัย KING
“มีอา” เสียงของนานาตะโกนเรียกฉันดังมาแต่ไกล เมื่อฉันกำลังจะก้าวขึ้นบันไดไปยังตึกเรียน
เมื่อเห็นกันเราทั้งสองก็รีบมุ่งตรงเดินเข้าหากัน
“จะตะโกนทำไม” ยอมรับว่าอารมณ์ไม่ดีมาจากเรื่องเมื่อวานแล้วมาพาลวีนมาใส่คนตรงหน้า แต่ก็สมควรอยู่หรอกเพราะอยู่กันแค่นี้แต่ตะโกนเรียกฉันเสียงดังจนคนในตึกหันมองกันหมด
“อุ้ย ปากแตกเหรอแต่ดูเหมือน...” แต่ใช่ว่าเพื่อนสาวตรงหน้าจะสนใจอารมณ์ของฉันซะเมื่อไหร่ นางสนใจแค่ริมฝีปากที่เป็นรอยแผลสะดุดตา
“...เหมือนโดนกัดเลยอ่า” และช่างดูออกด้วยนะ
“หมากัดปากแหนะ ไม่มีอะไร” หมาจริง ๆ และเป็นหมาบ้าด้วย
ฉันบอกปัด ก่อนจะใช้ลิ้นเลียเบา ๆ ที่แผลจนถึงตอนนี้ก็ยังแสบไม่หาย เป็นแผลที่ปากทรมานกว่าส่วนอื่นเป็นไหน ๆ หมาที่กัดก็ช่างกัดมาได้
“ไปหาหมอแล้วใช่ไหม”
“อืม ว่าแต่เมื่อกี้มีอะไรเรียกฉันซะเสียงดังหน้าตาตื่นเชียว”
“อ่อ ก็เมื่อกี้มีคนมาตามหาแกด้วยแหละ”
หา…
ใจฉันหล่นไปยังตาตุ่มเพราะกลัวว่าจะเป็นพวกนั้นที่จ้างฉันไปแข่งรถแทน
“ใคร” ฉันถามด้วยใจเริ่มสั่นกลัว
“ให้ทาย” แต่คนตรงหน้ากลับส่งยิ้มร่าตาแป๋ว มาเล่นทายปัญหาอะไรตอนนี้ ใช่เรื่องไหม
“ไม่เล่นนานา” ฉันบอกออกไปเสียงแข็งสีหน้าจริงจัง
นานาที่เห็นฉันจริงจังก็ปรับสีหน้าหุบยิ้มลงก่อนจะเอ่ยบอก
“อะ ๆ หนึ่งในหนุ่มฮอตวิศวะ”
หา! อย่าบอกนะว่า…หมอนั่นมาหาฉันถึงนี้
“มะ หมอนั่นมาถึงนี่เลยเหรอ” ฉันหันไปถามนานา ทำหน้าไม่ถูกไม่รู้ว่าจะยิ้มออกมาหรือจะร้องไห้ดี ก็นะ พอพูดถึงหนุ่มฮอตวิศวะฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นใครและถ้าพูดถึงหนุ่มฮอตแห่งวิศวะแล้วละก็ ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก ไฟ เพลิง และ พายุ สามคนนี้อย่างแน่นอนซึ่งเอาจริง สามคนนี้ก็ช่างสรรหาคบกันนะ ชื่อนี่อย่างกับรู้ว่าต้องมาเป็นเพื่อนกันอะ
ชื่อที่พร้อมทำลายล้างทุกสิ่ง อย่างที่คนอื่นบอกต่อ ๆ กันมา ถ้ามีเรื่องกับสามคนนี้แล้วละก็เตรียมตัวศพไม่สวยได้เลย
แล้วอย่างนี้ ฉันจะไปเหลืออะไรล่ะ
“อืม เห็นบอกว่าแกมีของต้องให้เขาอะ มันคืออะไรเหรอ” เสียงของนานาทำฉันหลุดออกจากภวังค์
และของที่ว่าก็คือตัวฉัน นี่ไง
“ไม่ต้องรู้หรอก” ฉันบอกปัด พร้อมกับเดินมุ่งไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นเรียน
“อะ อ้าว” นานาก็ส่งเสียงตามหลังอย่างคนผิดหวังเมื่อฉันไม่ให้คำตอบเธอ
และในระหว่างที่ฉันกำลังยืนรอลิฟต์อยู่นั้น
ครืด ครืด
จู่ ๆ โทรศัพท์ฉันก็สั่นมาจากด้านในกระเป๋าและเมื่อล้วงออกมา หน้าจอก็ปรากฏสายที่กำลังโทรเข้ามาจากไลน์ ซึ่งรูปเป็นรูปอะไรไม่รู้มองไม่ออกเพราะเป็นสีดำสนิทและไลน์นี้ก็ไม่คุ้นด้วย
เพื่อนในไลน์ฉันก็ไม่มีใครเยอะ เพราะเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร แต่ฉันสะดุดตรงชื่อไลน์ ที่ตั้งเป็นอีโมจิรูป ไฟ
“นี่แก ให้ไลน์ฉันไป” ฉันหันไปถามคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทันทีที่เมื่อพอจะเดาออกและรู้แล้วว่าเป็นสายโทรเข้ามาจากใคร
“ก็...” นานาอ้ำอึ้ง ซึ่งไม่มีคำตอบก็รู้ได้ว่าเป็นฝีมือยัยเพื่อนตัวดีจริง ๆ
“ช่างเถอะ” ในเมื่อเขาได้ไปแล้วหนิเนอะ ฉันก็ทำได้แค่บล็อกไปเท่านั้น ว่าแล้วนิ้วฉันก็เลื่อนไปกดบล็อกไลน์เขาเรียบร้อย
“นี่ เขายังบอกอีกนะถ้าแกบล็อก เขาจะมาหาแกถึงที่” นานารีบห้าม แต่ไม่ทันแล้ว
“ช่างสิ รีบขึ้นเรียนก่อนดีกว่า สายแล้ว” เมื่อลิฟต์มาฉันก็เดินเข้าลิฟต์ไปอย่างไม่อยากจะใส่ใจอะไร
ซึ่งฉันรู้ดีว่ายังไงก็หนีเขาไม่พ้น แต่ตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะคิดเรื่องนั้น ขอขึ้นไปเรียนก่อน และถ้าลงมาไม่เจอคนที่บอกว่าจะมาดักรอ ฉันก็ชิ่งกลับบ้าน ถือว่าได้หนีรอดไปอีกวัน
แต่ถ้าเจอ...ก็คือเจอ
...
ระหว่างเรียนอยู่ในห้อง ฉันที่กำลังนั่งฟังอาจารย์อย่างใจจดใจจ่ออยู่นั้น
“แก” นานาก็สะกิดที่แขนฉันเบา ๆ ทำลายสมาธิกันอีกแล้ว
“มีอะไร” ทำให้ฉันหันไปถาม
“อ่านนี่” นานายื่นโทรศัพท์ของตัวเองมายังด้านหน้าให้ตรงกับสายตาฉัน
ฉันก็ก้มลงมองปรากฏว่าเป็นแชทจากไฟ ที่ส่งข้อความมาให้นานาบอกให้ฉันปลดบล็อกไลน์เขา
“แกไปแอดไลน์เขาด้วยเหรอ” ฉันเงยหน้าจากจอมือถือเอ่ยถามนานาในทันที
นอกจากเขาจะมีไลน์ฉันแล้วยังมีไลน์เพื่อนฉันด้วย จะฉลาดรอบคอบเกินไปแล้ว ส่วนเพื่อนฉันคงไม่ต้องพูดถึง
“ก็ ตอนแรกเขาเข้ามาขอไลน์ฉัน ฉันก็นึกว่าเขาเข้ามาจีบฉัน” นานารีบอธิบายให้ฟัง
มันเป็นแผนของเขา หรือเพื่อนฉันไปทำตัวติดกับเสียเองเนี่ย
“ก็เลยให้ไปง่าย ๆ” ฉันขมวดคิ้วให้เพื่อนตัวดี
งึก ๆ นานาพยักหน้ารับแต่โดยดีด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ ก่อนจะอธิบายต่อ
“แต่พอให้ไป เขาก็ขอไลน์แกทันทีเลยอา”
“เสียรู้จนได้ แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นเพื่อนกับแก” ฉันส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะนึกสงสัย
“ระดับนั้นตามสืบกับใครก็ได้อยู่แล้ว ทั้งหล่อ ทั้งฉลาด” เพื่อนสาวทั้งพูดไปทั้งยิ้มเพ้อไป
ฉลาดพอเข้าใจ แล้วหล่อนี่ เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย แต่ก็จริงอย่างที่นานาพูด เขาจำฉันได้ เขาก็น่าจะรู้ว่าฉันเรียนคณะอะไร และก็คงตามสืบได้ไม่ยาก ก็เล่นมีอิทธิพลในมหาลัยเสียขนาดนั้น จะตามสืบหาใครก็คงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
“มีแต่แกที่หลงกลเขา” ฉันดุไปอย่างไม่จริงจังนัก ก็เพื่อนคนนี้ของฉันนางหัวอ่อนไม่ทันคนอยู่เรื่อย
“หยุดเลย ไม่ต้องว่าฉัน แกรีบปลดบล็อกก่อนดีกว่านะ ขู่ใหญ่แล้ว” นานายื่นโทรศัพท์มาให้ฉันดูเพราะไฟส่งแชทมารัว ๆ บอกให้ฉันรีบปลดบล็อกเขาเสียที
“เออ ๆ” ฉันตอบรับพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปลดบล็อก และพอนิ้วฉันจิ้มแถบกดปลดบล็อกเท่านั้นแหละ
ครืด ครืด
สายของเขาก็โทรเข้ามาทันที
“นี่ ฉันเรียนอยู่อย่าเพิ่งโทรมาตอนนี้” ฉันกดรับพร้อมกับรีบพูดกระซิบบอกปลายสายทันที
(อย่าลืม ที่คุยกันไว้) ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ฉันก็กลอกตามองบนทันที
“รู้แล้วน่า ฉันขอเรียนก่อนค่อยคุยกัน แค่นี้แหละ”