ตอนที่ 4 ทาสหมอหรือทาสเมียกันแน่

2048 คำ
ตอนที่ 4 ทาสหมอหรือทาสเมียกันแน่ “หึหึ” ตั้งแต่กลับมาผมยังหัวเราะไม่หยุดเลยก็จะทำไมน่ะเหรอ.... “ผลประกาศเดือนมหาวิทยาลัยปีนี้ได้แก่..........ตัวแทนจากคณะแพทยศาสตร์ นายกฤษณะ เวฬุวรรณา หรือหมอกายของทุกคนคร้า....” ใช่ครับผมชนะไอ้เพลิงเพราะอะไรน่ะเหรอคิดแล้วก็ขำ “คำถามของน้องเพลิงนะคะ ถ้าน้องเพลิงได้เป็นเดือนน้องเพลิงจะทำอะไรเป็นอันดับแรก” ‘ผมจะฉลองที่ชนะครับ เพราะถ้าผมชนะผมจะได้มีทาสและผมจะได้ครอบครองเตียง’ “......!” “....? ” “อะเอ่อ ค่ะและนั่นคือคำตอบของน้องเพลิงนะคะ” คิดแล้วขำ มันตอบไปแบบนั้นคิดว่าจะชนะเหรอ พรึบ ผมโยนหมอนกับผ้าห่มให้ไอ้เพลิงที่นั่งหน้าเป็นตูดอยู่บนโซฟา “พรุ่งนี้เช้ากูอยากกินข้าวต้มกุ้งนะ” ผมบอกมันด้วยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ “..........” “และตอนเย็นขอเป็นสปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล” “..........” “เออแล้วอย่าลืมกวาดห้องถูห้องด้วยล่ะ หึ หึ” และไม่ลืมออกคำสั่งปิดท้ายอย่างสะใจ “ทำไมกูต้องทำ” “ไม่น่าถามโง่ ๆ นะ ก็มึงแพ้ แพ้=ทาส ไง” “ตุบ แม่งเอ้ย!” มันตีอกชกหัวตัวเองอยู่แต่ผมไม่สนเดินเข้าห้องนอนอย่างสบายใจ “อย่าให้ถึงตากูนะไอ้หมอเถื่อนอึ้ย!!” มันตะโกนไล่หลังตามผมมา @เช้าวันต่อมา 07.00 น. ก๊อกแก๊ก ๆ “เสียงอะไรแต่เช้าวะ” ผมได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก อ๊ะ กลิ่นอะไรหอม ๆ เหมือนอาหารอย่าบอกนะ... เร็วเท่าความคิดผมวิ่งไปดูที่ครัว แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ดีจังมีคนทำกับข้าวให้กิน “ตื่นแล้วเหรอขอรับคุณชายหมอ กระผมทำข้าวต้มที่สั่งไว้ให้แล้วนะขอรับ คุณชายจะรับข้าวก่อนหรือจะไปอาบน้ำก่อนดีขอรับ” เกือบดีแล้วเชียว แต่เพลิงก็คือเพลิงแม่งไม่กวนตีนกูสักวันคงจะตาย “อ๊ะ ๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิขอรับ กระผมเสียใจแย่อุตส่าห์ตื่นมาทำแต่เช้า” “นั่นมันคือสิ่งที่มึงจะต้องทำและเลิกพูดจาชวนตีนกระตุกได้แล้ว กูไม่อยากออกกำลังกายแต่เช้า” ผมบอกมันอย่างหมั่นไส้ “ชิส์ก็เผื่อมึงเห็นความดีกูแล้วลดโทษให้กูนอนเตียงเหมือนเดิมไงแม่งนอนโซฟากูเมื่อยไปหมดเลย” มันตัดพ้อออกมา แต่ได้ข่าวว่าเพิ่งคืนเดียวเองมึงก็บ่นแล้วไอ้ห่านี่ “ไม่ มี ทาง” พูดจบผมก็เดินเข้าห้องไปอาบน้ำ หอพักนี้ดีหน่อยมีหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องนั่งเล่น หนึ่งห้องครัว แต่มีสองห้องน้ำ ที่จริงห้องนอนมันก็ใหญ่อยู่นะเอาเตียงสำหรับนอนคนเดียวมาวางสองเตียงยังพอเหลือพื้นที่ ผมคิดว่าอีกหน่อยผมอาจทำแบบนั้นเพราะจะให้นอนกับไอ้เพลิงไปตลอดก็คงไม่ไหว “ไอ้คนใจร้ายใจดำ!” มันตะโกนไล่หลังผมมาแต่ผมไม่ได้สนใจ อาบน้ำเสร็จผมก็ออกมากินข้าวต้มซึ่งไอ้พ่อครัวมันก็นั่งกินอยู่แล้วเพราะวันนี้มันกับผมมีเรียนเช้าเหมือนกัน “วันนี้มึงเลิกกี่โมงไอ้หมอเถื่อน” มันถามทั้งที่ข้าวเต็มปาก “.......” “อ้าวสัสถามให้ตอบครับไม่ได้ถามให้เงียบ” “มึงเสือกไรล่ะ” ผมไม่เข้าใจว่ามันจะถามทำไมทุกทีไม่เห็นถาม “มึงจะแดกไหมสปาเก็ตตี้ห่าเหวอะไรของมึงอะ” มันด่าผมกลับมา “ทุ่ม” ผมยอมตอบออกไป “กูเลิกสองทุ่มรอหน่อยแล้วกัน” อเมซิ่งมากไม่คิดเลยว่าคนอย่างไอ้เพลิงจะรักษาคำพูดขนาดนี้แม่งก็เป็นคนดีใช่ได้เลยนะ “แต่...” มันพูดต่อ “........” “ถ้ารอไม่ไหวก็หาแดกเองไปก่อนแล้วกันกูคงไม่รีบกลับมาทำให้มึงหรอก” ถอนคำพูดทันไหม ว่าแล้วเชียวว่าคนอย่างมันคงไม่น่าจะเป็นคนดีได้ . . วันนี้ดูเหมือนคนจะมาขอถ่ายรูปผมเยอะกว่าเดิมเพราะเมื่อวานผมชนะได้เป็นเดือนมหา’ลัย ที่จริงวันนี้มหา’ลัยน่าจะหยุดให้นักศึกษานะเพราะเมื่อคืนกว่าจะเลิกก็ดึกแล้ววันนี้ผมเลยรู้สึกเพลีย ๆ “ยินดีด้วยนะครับคุณชายหมอที่ได้ตำแหน่งเดือนมหา’ลัย” เสียงไอ้ท็อปดังมาแต่ไกล มันมาถึงก็พูดมากเลย แล้วหน้ามันตอนนี้บานกว่าผมที่ได้ตำแหน่งเสียอีก “อืม ขอบใจ” “ตอนนี้พวกเราก็ยืดเต็มที่เลยมีเพื่อนเป็นเดือนมหา’ลัย” ไอ้นัทเองก็ไม่น้อยหน้าดูภูมิใจกับตำแหน่งของผมมากกว่าตัวผมเสียอีก “อีกหน่อยสาว ๆ ก็คงตามกรี๊ดไอ้คุณชายแล้ว บางทีนะเราอาจได้แฟนก็คราวนี้แหละไอ้นัท” “ทำไมวะ มันเกี่ยวอะไรกับไอ้คุณชายหมอ” ไอ้นัทถามไอ้ท็อปเหมือนไม่เข้าใจซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ประเด็นคือถ้าพวกมึงจะเรียกไอ้อย่ามีคำว่าคุณชายเลยดีกว่านะ “ก็สาว ๆ ที่มาก็คงมากันหลายคนก็ต้องมีบ้างแหละที่จะเป็นของเราไงไอ้ง่าว” ไอ้ท็อปด่าไอ้นัทกลับมาอย่างภูมิใจในความฉลาดของตัวเอง แต่เฮ้อ....ที่ห้องก็กวนตีนที่มหา’ลัยก็ปัญญาอ่อน ดวงผมจะได้เจอแต่คนแบบนี้เหรอเนี่ย . . 19.00 น. “เฮ้อ!!!! นี่เรียนหมอหรือออกรบเนี่ยทำไมมันสูบพลังขนาดนี้” ไอ้ท็อปบ่นเหมือนคนใกล้ตาย แต่มันก็เหนื่อยจริง ๆ แหละแทบหมดแรงเลย เมื่อคืนก็ดึกวันนี้ก็เลิกซะมืดเชียวอยากล้มตัวลงนอนชะมัด “เฮ้ยคุณชายหมอไปกินข้าวกับพวกกูปะ” ไอ้นัทถามผมอย่างเป็นกันเอง ตอนนี้มึงกูมาแล้วมันคงขี้เกียจกั๊กแล้วมั้งซึ่งผมก็ว่าดีนะ ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนสุภาพอะไรอยู่แล้ว “ไม่ล่ะเดี๋ยวไปกินที่ห้อง” ผมตอบมันกลับไป “กินอะไรวะที่ห้องคนหรืออาหาร” ท็อปพูดแววตากรุ้มกริ่ม ผัวะ!! สักทีเหอะกวนดีนัก “อู้ย...เขินรุนแรงจัง กูชักสงสารไอ้เพลิงแล้วที่ต้องอยู่ร่วมห้องกับมึงไอ้คุณชายหมอ” ไอ้ท็อปโอดครวญที่ถูกผมตบหัว “ทำไมต้องสงสารมันกูนี่น่าสงสารที่ต้องอยู่กับมัน แม่งซกมกสกปรกฉิบหาย ถอดเสื้อผ้าทิ้งไปทั่วห้องแล้วบางวันน้ำแม่งก็ไม่อาบแล้วนอนเตียงเดียวกับกูคิดดูสิเหงื่อทั้งวันเหม็นขนาดไหน” ผมบ่นยาวเลยเหมือนอัดอั้น ก็คำพูดของไอ้ท็อปสะกิดใจผมมากเพราะคนที่น่าสงสารควรเป็นผมสิไม่ใช่ไอ้เพลิง แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ผมพูดอะไรไป.... “......” ไอ้ท็อปอ้าปากค้าง “.........” ไอ้นัทยกมือขึ้นปิดปาก “...........” ผมกัดปากตัวเองแน่น หน้าของพวกผมแต่ละคนตอนนี้เหมือนกำลังเจอผี นี่ผมเผลอพูดอะไรออกไรอยากขยี้หัวตัวเองให้ผมหลุดชะมัด “น่ะ...นี่มึงนอนเตียงเดียวไอ้เพลิง?” ไอ้ท็อปถามเสียงสั่น “ระ..เหรอวะ” ไอ้นัทพูดต่อ มึงสองคนจำเป็นต้องพูดต่อไหม ผมไม่ตอบแม่งหรอกเดินหนีมาที่รถแล้วขับออกมาเลย “นี่มันสองคนนอนเตียงเดียวกันเหรอวะ” ทั้งสองคนพึมพำพร้อมกันเพราะนี่คือข้อมูลใหม่ที่พวกเขาทั้งคู่เพิ่งรู้ เพราะปกติแล้วกายแทบไม่พูดเรื่องส่วนตัวอะไรเลยที่จริงก็แทบไม่พูดทุกเรื่องแหละติดจะเย็นชาด้วยซ้ำ แกร๊ก ตุบ พรึบ ผมเปิดประตูห้องเขามาวางของและล้มตัวลงนอนพักสายตาแต่ไม่ลืมส่งข้อความหาไอ้รูมเมทหน้ามึนของผม ‘กูซื้อของกินมาแล้วไม่ต้องทำกับข้าววันนี้’ ติ้ง ติ้ง เพลิง: ทำไม เพลิง: ...... ‘เรื่องของกู’ ​ ผมตอบกลับไปแบบนั้น ส่งเสร็จผมก็ออกจากแอปวางโทรศัพท์ไว้และไปอาบน้ำ วันนี้ผมซื้อของกินเข้ามาแล้วและซื้อเผื่อไอ้รูมเมทตัวดีด้วย ไม่ใช่อะไรหรอกนะตอบแทนเมื่อเช้าที่มันทำข้าวต้มให้กิน ถึงแม้มันจะแพ้พนันผมก็เหอะแต่ผมก็ไม่ชอบเอาเปรียบใคร แกร๊ก ปึง เสียงเปิดปิดประตูไอ้เพลิงคงกลับมาแล้วมั้ง “ทำไมมึงถึงยังไม่กินข้าวแล้วนี่คือซื้อเผื่อกูถูกมั้ย?” พอมันเปิดประตูห้องนอนมาก็ยิงคำถามใส่ผมทันทีเหมือนว่ามันตั้งใจมาถาม “กูจะกินหรือยังไม่กินมึงเสือกไรด้วย และใช่กูซื้อมาเผื่อ สงสารทาสเดี๋ยวไม่มีแรงทำอาหารเช้าให้กูกิน” ผมตอบมันอย่างกวน ๆ แบบที่มันชอบทำ “เตงเป็นห่วงเค้าเหรอ...” “…..” “เค้าเขินนะเนี่ย” “..........” มันไม่พูดเปล่าทำท่าบิดไปมาจนผมทนไม่ไหวและเดินเลี่ยงไปกินข้าวในห้องครัวแทนปล่อยมันมโนไปคนเดียว “เดี๋ยวทาสคนนี้แกะให้นะขอรับ” มันวิ่งตามมาแย่งกล่องอาหารไปแกะ ผมปล่อยให้มันทำไป ก็สบายดีมีคนรับใช้ส่วนตัวกินเสร็จมันก็ล้างให้ด้วยผมเลยเข้าห้องนอนไป ตุบ คร่อกฟี้ หัวถึงหมอนผมก็หลับเลยเพราะเหนื่อยและเพลียตั้งแต่เมื่อคืน “อะ..อืม...” ผมรู้สึกมีอะไรมากวนที่หน้าเลยเอามือปัดและส่งเสียงรำคาญออกไปแต่ไม่เห็นมีอะไรแล้วก็เข้าสู่นิทราไปอีกรอบ อีกด้าน “เฮือกเกือบไปแล้ว” @เช้าวันต่อมา 08.00 น. วันนี้ผมกับไอ้เพลิงไม่มีตอนเรียนเช้า ผมเรียน11โมงไอ้เพลิงเรียนบ่าย ผมกับมันรู้ตารางเรียนของกันเพื่อจะใช้ห้องได้ถูก เพราะตอนแรก ๆ ผมมีเรียนเช้ามันมีเรียนบ่าย มันทำงานของมันทั้งคืนทำให้ผมไม่ได้นอนเลยต้องมานั่งตกลงกันใหม่ดูตารางของอีกฝ่ายเผื่อเวลาทำงานดึก ๆ จะได้ไม่รบกวนกัน และวันนี้ก็เหมือนเมื่อวาน ออกมาก็เจอไอ้เพลิงทำกับข้าวรอผมแล้ว วันนี้เป็นข้าวผัดอเมริกันที่จริงผมว่ามันน่าจะไปเรียนต่อด้านเชฟนะน่าจะรุ่ง แต่ผมไม่ชมมันหรอกเดี๋ยวมันเหลิง “นั่ง ๆ กินเลยนะเดี๋ยวกูเอาผ้าไปซักก่อน” มันพูดจบก็เข้าห้องไปเอาตะกร้าผ้าทั้งของผมและของมันลงไปซักใต้ตึก “แล้วมึงไม่กิน?” “อีกแล้วนะน้องกายเป็นห่วงพี่เพลิงอีกแล้ว แบบนี้น้องกายคิดอะไรกับพี่เพลิงหรือเปล่าครับเนี่ย” มันตอบกลับมาด้วยพร้อมกับสายตาแพรวพราว เฮ้อ..ไม่น่าพูดกับแม่งเลย แต่มันคงรีบแหละเพราะพูดจบมันก็ลงไปเลยไม่ได้รอต่อล้อต่อเถียงกับผมต่อ 09.30 น. พรึ่บ ๆ “เฮ้อ... เสร็จสักทีเป็นพ่อบ้านใจกล้าแม่งก็เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย” ผมกำลังจะออกไปเรียนก็เห็นไอ้เพลิงตากผ้าอยู่ที่ระเบียงห้อง พอจะเดินผ่านผมก็ได้ยินเสียงไอ้เพลิงบ่นพึมพำอยู่คนเดียว แต่เมื่อกี้มันพูดว่าอะไรนะ อะไรคือพ่อบ้านใจกล้าวะ แต่ผมขี้เกียจสงสัยเลยจะออกจากห้องก่อนที่ต้องลับฝีปากกับมัน แต่ก็ไม่ทันเพราะมันที่กำลังถือไม้กวาดเตรียมกวาดห้องหันมาเห็นพอดี “กำลังจะไปเรียนแล้วเหรอน้องกายให้พี่ไปส่งไหมครับ” ไม่กวนตีนคงไม่ใช่มัน ผมเลยยิ้มกว้างและชูนิ้วกลางให้มันก่อนออกจากห้องโดยไม่สนมันอีก “น้องกายไม่อ่อนโยน......” มันยังมีหน้าจะตะโกนไล่หลังผมออกมา (จบพาร์ท กาย) “เฮ้อ...ไอ้กายนี่กูเป็นทาสมึงหรือเป็นผัวมึงกันแน่ถึงต้องยอมมึงขนาดนี้” พอคล้อยหลังกายเพลิงก็บ่นคนเดียวออกมา *************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม