BAD ENG’ : Special 02
อาทิตย์ต่อมา...
@พิพักษ์ฟาร์ม
“แนะ!...ทำอะไรกันน่ะ” หลานชายตัวแสบประจำฟาร์มกระโดดมาแลบลิ้นปลิ้นตากลางวงสนทนา จนคนงานนับสิบสะดุ้งโหย่งโดยพร้อมเพรียง ก่อนจะพากันแตกฮือไปคนละทิศคนละทางราวกับกำลังสุมหัวทำสิ่งผิดกฎหมายและเขาคือตำรวจ
“โอ้ย…หัวใจแม่จะวาย” ฐาศินีซึ่งนั่งอยู่บนแคร่ไม้ใต้ถุนบ้านพักยกมือแนบอกพลางผ่อนลมหายใจเข้าออกซ้ำๆ ส่วนตะวันก็หัวเราะร่าที่ได้หยอกเย้าคุณแม่ยายและคนอื่นๆ ตามประสา จากนั้นก็นั่งลงขณะอีกฝ่ายทำหน้าตาตื่นเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง ก่อนจะรีบรวบเก็บแผ่นกระดาษนับสิบกระจัดกระจายเต็มโต๊ะแบบลวกๆ
“นี่อะไรครับ” ตะวันฉวยมาได้หนึ่งใบ คิ้วเข้มย่นเข้าหากัน ขณะไล่มองตัวเลขที่เรียงกันหลายสิบแถวบนกระดาษอย่างไม่เข้าใจ “บนสามสิบเอ็ด สามสิบคูณสามสิบ?”
“มันเป็นคณิตศาสตร์แขนงใหม่ เด็กอย่างลูกไม่เข้าใจหรอก” ฐาศินีเลี่ยงบอก แต่ดูเหมือนไอ้เด็กแสบจะไม่ยอมลดละเครื่องหมายคำถามลงเลย จึงแสร้งทำเป็นตั้งคำถามตาใสซื่อ
“งั้นปู่จะรู้จักไหมนะ”
คนได้ยินถึงกับตาเบิกโพลงตื่นตระหนก ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งจึงขยับปากพูดออกไปตามความจริงแบบไม่เต็มใจนัก
“อ่าๆ หวยจ่ะ โพยหวย”
“หวย แบบลอตเตอรี่งี้เหรอครับ” เด็กหนุ่มเลิกคิ้วถามอย่างนึกสงสัย เพราะเขาพอได้ยินคำนี้จากคนงานมาอยู่บ้าง แต่ไม่เคยสืบเสาะว่ามันคืออะไร
“ใช่ แต่ลอตเตอรี่ มันโอกาสถูกยาก แบบนี้ซื้อสิบบาท ยี่สิบบาทเขาก็ขาย ลุ้นได้เยอะกว่า” ผู้เชี่ยวชาญอธิบายต่อ
“แล้วเราจะได้เงินจากใครละครับ”
“ก็...” ว่าที่แม่ยายชะงักไป นัยน์ตาหวั่นวิตกกลอกกลิ้งไปมา ใช่ว่าเขาไม่ใจว่าที่ลูกเขย แต่กลัวว่าเขาจะหลุดปากต่างหาก เรื่องที่ท่านเป็นทางผ่านเพื่อส่งไปยังเจ้าใหญ่รู้ถึงหูเจ้าของฟาร์มไม่น่ากลัวเท่าเข้าหูลูกสาวคนเดียวหรอก “อือ ได้แล้วกันละ”
“ผมอยากลองบ้าง”
“หา!! มัน...จะดีเหรอ” คุณว่าที่แม่ยายหันขวับ เมื่ออยู่ดีๆ คนที่เกิดมาบนกองเงินกองทองก็อยากนึกสนุกกับการเสี่ยงโชคเล็กๆ น้อยๆ แต่อีกใจเขาก็แค่อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง
“งั้นผมจะบอกปู่นะ”
“ขู่เก่งจังเลยนะ แล้วจะเอาเลขอะไรล่ะ”
“เอิ่มมมม...” ตะวันเลื่อนมือขึ้นลูบปลายคางขณะใช้ความคิด สายตาจับจ้องไปยังตัวเลขบนกระดาษในมือ แวบหนึ่งก็มีทรวดทรงของเมียสุดที่รักผุดขึ้นมา “สามสิบหก”
“เอามาจากไหน” เจ้ามือย่นคิ้วถาม ก่อนจะก้มลงจดเลขนำโชคลงในกระดาษ
“ความลับครับ” ยิ้มกว้างตอบ
ใครมันจะกล้าบอกว่าเป็นไซซ์หน้าอกลูกสาวคนสวย
“กี่บาท”
“หมื่นหนึ่ง”
“จะบ้ารึ!…” ฐาศินีอุทานลั่น “ใครเขาซื้อกันขนาดนั้น สามสิบก็พอ”
ถึงถูกคงไม่ได้เงินหรอก เจ้าได้อพยพหนีกันพอดี…
“แล้วเมื่อไหร่จะรวยละครับ”
“จะจนก่อนน่ะสิ...”
“แม่!!”
ประโยคของแม่ยังไม่ท่านจบดี เสียงคุ้นหูก็ดังแทรกขึ้นมาแต่ไกล ทำคนมีชนักติดหลังคว้าเก็บทุกอย่างยัดใส่กระเป๋าชุดกันเปื้อนอย่างลนลาน ก่อนจะยกนิ้วชี้จ่อปากส่งสัญญาณให้ว่าที่ลูกเขยสุดหล่อ
“ชู้ว์...”
“มาทำไรกันตรงนี้” ใบชาที่เพิ่งเดินมาถึงสลับมองสองคนที่ออกอาการเลิ่กลั่กแปลกๆ
“เอ่อ ตะวันว่าอาหารม้ามันทำไมนะ” คนเป็นแม่หัวไวหาเรื่องบ่ายเบี่ยงได้ก่อน พลางเอื้อมมือไปกระตุกแขนผู้ร่วมชะตากรรมเบาๆ
“อ๋อ…ปู่ให้มาดูว่าล็อตนี้มันดีไหมครับ” ตะวันรับมุกได้เป็นอย่างดี จากนั้นสองแม่ลูกคู่ใหม่ก็พากันสับเท้าไปยังคอกม้าอย่างไว และปล่อยให้ใบชายืนเกาหัวแกร่กๆ อยู่ที่เดิม...
15:30 น.
‘พร้อมแล้วจะออกรางวัลเลขท้ายสองตัว....เลขที่ออก สาม หก’
“เฮ้!!!…”
เสียงเฮ้ดังสนั่นลั่นคอกม้า สองแม่ลูกกระโดดกอดกันกลม ไม่สนว่าม้าเม้อจะแตกตื่นกันแค่ไหน
“แม่เราถูกหวย”
“จิ๊...” ฐาศินีส่งเสียงจิจ๊ะขัดใจในลำคอด้วยความเสียดาย “เลขมันขลังจริงๆ รู้งี้น่าจะซื้อเยอะกว่านี้”
“เห็นไหมผมบอกแล้ว ไม่งั้นเรารวยไปแล้วเนี่ย” ตะวันเสริมอย่างภาคภูมิใจ
เลขมนเมียนี่มันนำโชคจริงๆ
“เอาน่า งวดหน้าต้องจัดหนักๆ”
“แล้วนี่เราได้เงินกี่บาท”
“ประมาณสองพันกว่า”
“ฮะ! สองพันกว่า นั่งลุ้นจนจะช็อกตามเนี่ยนะ” จากที่ตื่นเต้นจนหัวใจจะดีดออกมากองอยู่ข้างนอกในตอนแรก ก็วูบลงเหมือนจะดับสลาย
มันคุ้มไหมกับการที่หัวใจจะวายตาย?!”
“มันก็สนุกตอนลุ้นเนี่ยแหละ” ผู้เป็นแม่ว่ายิ้มๆ ส่วนลูกเขยก็ขำแห้งเลย
“เหอะ เหอะ…”
ช่วงเย็น…
“หายไปไหนกันมาคะ” ลูกสาวกอดอกหน้ามุ่ยมองคนเป็นแม่กับแฟนหนุ่มตัวแสบที่พากันหายเงียบไปทั้งวัน โผล่มาอีกทีก็ตอนหอบข้าวของพะรุงพะรังเต็มมือไม้ราวกับเหมาทั้งตลาด
“ไปซื้อของมาทำหมูกระทะครับ” ตะวันยิ้มร่าตอบพลางยกถุงหิ้วหลายใบขึ้นเหนือศีรษะ
“นึกยังไงถึงอยากกิน”
“ก็แม่อยากกิน” ฐาศินีร้องบอกพร้อมแย่งถุงอาหารสดในมือเด็กหนุ่มแล้วเดินหายเข้าไปในห้องครัว เหลือเพียงถุงเซเว่นที่ตะวันกำลังควานหานมขวดจิ๋วรสชาติโปรดออกมายื่นให้เมียคนสวย
“นี่ เฮียซื้อยาคูลท์มาให้ด้วย”
ใบชาทำหน้าเซ็งพลางเหลือบตามองบน “บอกกี่ทีแล้วว่านี่มันไม่ใช่”
“มันก็เหมือนกันแหละ” ปกติเขาก็ไม่ค่อยกล้าเถียงเมียนะ แต่เรื่องนี้เขายอมไม่ได้ ทำให้คนฟังยิ่งโมโหกว่าเดิม เธอแย่งขวดนมไปจากมือเขา
“เอาไรมาเหมือน ดู!” ปลายนิ้วเรียวจิ้มลงบนฉลากข้างขวดในระดับสายตาชายหนุ่ม “บีทาเก้น อ่านออกไหม”
“รสชาติมันก็เหมือนกันปะ”
“ไม่เหมือนเลย”
“เฮียลองกินแล้วก็ไม่เห็นมันต่าง”
“มันต่างแน่ ไม่เชื่อไปถามคนอื่นดูก็ได้”
จากนั้นตะวันก็เริ่มมองหาแนวร่วม จนไปสะดุดเข้ากับลูกสาวคนงานในไร่วัยสิบขวบซึ่งเดินผ่านมาพอดี
“จ๋า เอ็งเคยกินยาคูลท์ปะ”
“เคยจ้ะ” เด็กสาวพยักหน้ารับ
“อะ เอาไปกิน เฮียให้” ทันทีที่เขาส่งนมขวดนั้นไปให้ ผู้รับก็แย้งทันควัน
“ไม่ใช่ อันนี้มันบีทาเก้น”
“น่ะเห็นมะ เด็กยังรู้เลย” ใบชาตอกย้ำทิ้งท้าย “ไปยูโร่ ไปหาแม่กัน”
เรียกเจ้าหมาน้อยและสะบัดก้นไปช่วยแม่ทำกับข้าวในครัว ปล่อยให้อีกคนเถียงกับนมราวกับคนบ้า
“อะไรวะ ลิ้นกูพังเหรอ สีแม่งก็เหมือนกัน รสชาติมันต่างกันได้ไงวะ”