BAD ENG’ : Special 03
หลังจากฉันกับพี่ตะวันพากันเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ได้เพียงสามปี ก็ทั้งควบตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญตามความฝันและกลายเป็นคุณแม่ลูกสามในวัยยี่สิบเจ็ดปี
ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนแรกของพวกเราเพิ่งครบสองขวบเมื่อเดือนก่อนนี่เอง และด้วยความทะเล้น ขี้เล่น หน้าเป็นและน่าเอ็นดู ใครๆ ก็ต่างพากันเรียกหาแต่ พี่โซล
เป็นชื่อที่พ่อเขาตั้งให้น่ะ มันแปลว่า ดวงอาทิตย์ ในภาษาสเปน
ความจริงฉันก็ค่อนข้างหนักใจเอาเรื่อง เพราะในบ้านกำลังจะมีดวงอาทิตย์เพิ่มอีกดวง ไม่ใช่แค่นั้นนะ ยังมีอีกสองดวงที่กำลังจะดีดดิ้นประท้วงอยู่ในท้องพร้อมจะออกมาลืมตาดูโลกในอีกสองเดือนข้างหน้า สองแฝดสาวที่พ่อเขาเตรียมชื่อไว้ให้ว่า ฮารุและโยโกะ ซึ่งแปลว่าดวงอาทิตย์เช่นกัน แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น
ลองคิดดูนะว่าอนาคตจะดุเดือดแค่ไหน หากในบ้านต้องมีศูนย์กลางจักรวาลที่ร้อนแรงอยู่รวมกันถึงสี่ดวง แต่ตอนนี้คนที่เหนื่อยสุดๆ ไม่ใช่ฉันหรอก
“โอย พาลูกเล่นพิเรนอีกแล้ว”
นี่ต่างหาก...
เสียงเอะอะของคุณแม่สามีที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องนอนฉันแทบจะทุกครึ่งชั่วโมง อ้อ...ลืมบอกไปว่าเราไม่ได้แยกครอบครัวนะ ฉันแต่งเข้ามาอยู่ชายคาเดียวกันในคฤหาสน์เดชาพิพักษ์ นั้นก็เพราะพี่ตะวันคิดว่าการมีคนคอยช่วยดูแลฉันและลูกๆ ตลอดเวลาน่าจะดีกว่า
อีกอย่างทุกคนที่นี่ก็ต้อนรับฉันอบอุ่นมากๆ รักฉันไม่ต่างจากลูกแท้ๆ เลย
ส่วนแม่ฉันกับเจ้ายูโร่ก็ย้ายเข้าไปอยู่พิพักษ์ฟาร์มอย่างถาวร เพื่อช่วยคุณปู่ดูแลความเรียบร้อย และอีกคนที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้
พี่บีม เขาก็ยังทำงานอยู่ที่แพร่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเขาแวะมาเยี่ยมเยียนพวกเราบ่อยขึ้น
“ตะวัน ปล่อยหลานมี๊ลงนะ ตายๆๆๆ”
นั้นไง...เอาอีกแล้ว
เห็นทีคงจะต้องไปดูสักหน่อยแล้วว่าสองพ่อลูกเขาเล่นอะไรกัน นายหญิงใหญ่ถึงโวยวายขนาดนั้น
ฉันปิดหนังสือนิทานเล่มโปรดที่มักหยิบมาอ่านให้ลูกๆ ฟังและวางมันลงบนโต๊ะข้างๆ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากโซฟาสำหรับคนท้อง โดยฝ่ามือหนึ่งสอดเข้ารองใต้ท้องที่ล้ำหน้าเกินพอดีไว้พลางก้าวเดินไปเปิดประตูออกจากห้องด้วยความระมัดระวัง
พอชะเง้อมองบริเวณโถงใหญ่ ภาพที่ปรากฏต่อหน้าก็ทำคนเป็นแม่อย่างฉันแทบช็อก ลูกชายตัวน้อยลอยหวืดขึ้นกลางอากาศและตกลงในอ้อมกอดพ่อพลางส่งเสียงหัวเราะร่าอย่างสนุกสนาน
“พี่ตะวัน ทำไมพาลูกเล่นแบบนั้น” ฉันต่อว่าขณะเกาะราวลงบันไดอย่างใจเย็น
“อุ้ย!” คนเล่นพิเรนทร์แสร้งทำเป็นสะดุ้งตอนหันมาเห็นหน้าฉัน
“โดนแน่” คุณแม่สามีแสนน่ารักไม่เคยเข้าข้างลูกชายตัวดีเลยสักครั้ง มีแต่จะรอซ้ำเติมอย่างเดียว “ใบด่ามันเลย มี๊ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง”
“ก็ลูกชอบ ใช่ไหมครับ พี่โซลชอบเล่นแบบนี้กับป๊ะป๋าใช่ไหม”
และพอไม่มีใครเข้าข้าง พี่ตะวันก็หันไปหยอกเย้ากับลูกชายในอ้อมแขนแทน
“พี่โซล มาหาย่าดีกกว่า ให้ป๊ะป๋าไปช่วยพาแม่กับน้องลงมาหาเราเนอะ” คุณแม่อ้าแขนรับหลานชายเข้าสู่อ้อมกอดแทน เพื่อที่ไล่ให้พี่ตะวันมาช่วยประคองฉันมานั่งลงบนโซฟาได้อย่างปลอดภัย
“ไงค้าบ เจ้าแฝด ดื้อกับแม่รึเปล่า หื้ม” พ่อของลูกโน้มตัวลงลูบท้องฉันแผ่วเบา ก่อนจะฝังจูบไปทั่วลามมาถึงมือฉันด้วย และทุกครั้งเจ้าสองตัวเล็กก็จะดิ้นรับเสมอ
ไม่นานคุณแม่ก็อุ้มหลานชายคนโตมานั่งลงข้างๆ ก่อนเด็กชายโซลจะยกมือตีป๊ะป๋าที่ออเซาะฉันไม่ห่าง
“แอ้ แอ้”
ไม่รู้หวงฉันหรือหวงผู้เป็นพ่อ เพราะตัวติดกันตลอด แถมพี่ตะวันยังตามใจมากๆ ซื้อของเล่นให้ทุกอาทิตย์ ไม่รักได้ไงละเนอะ
“อ้ะ ไปๆ ตะวันเอาลูกไปนอนด้วย”
หลังจากคุณแม่คลายอ้อมกอด เด็กชายก็เดินยวบยาบบนโซฟามาทิ้งตัวใส่ผู้เป็นพ่ออย่างแรง
“อึบ” พี่ตะวันนอนหงายหนุนตักฉันแล้วจับลูกมานอนเอาหูแนบท้องอยู่ข้างกัน
“พี่โซลได้ยินเสียงน้องไหมครับ” ฉันลูบหัวแก้วตาดวงใจเบาๆ ช่วงนี้แทบไม่ได้อุ้มลูกเข้านอนเลย เพราะเด็กชายชอบเล่นแรงเดี๋ยวก็กระโดดทับ เดี๋ยวก็ตีท้องแรง พี่ตะวันกับคุณแม่ก็เลยต้องรับหน้าที่ดูแลแทนชั่วคราว
“น้อง...ปะ เย่นกะย้อง”
“ครับ เล่นกับน้อง”
เห็นพี่ตะวันใจร้อนแบบนั้นนะ แต่พอได้เป็นพ่อคนก็เปลี่ยนไปเลย เขาเลิกบุหรี่เด็ดขาดตั้งแต่รู้ว่าฉันท้อง และก็อ่อนโยนมากขึ้น แทบจะไม่ตีไม่ดุลูกเลย
กลายเป็นฉันนี่ที่เป็นนางมารร้ายในสายตาลูก...
“กอด กอดย้อง” สองแขนเล็กโอบรอบท้องฉันและซุกหน้าเข้าหาตามด้วยท่อนแขนคนเป็นพ่อโอบทับอีกที พร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ฉันแทบจะพร้อมกัน
นี่มันลูกนายภูตะวันชัดๆ แค่อาศัยท้องฉันมาเกิดสินะ...
-END-
---------------
ขอบคุณมากค่าที่เดินทางกันมาถึงตอนพิเศษ
ใครยังไม่ได้อ่านจุดเริ่มต้นของพวกเขา ไปจิ้มเล่มหลักกันเลย
และฝากติดตามหนุ่มหล่อคนต่อไปด้วยค้าบ....