ตอนที่ 1 โลกเก่า...คนช่างฝัน
มนุษย์ทุกคนล้วนมีความฝัน พวกเขาต่างไล่ตามมันจนสุดกำลัง แต่...มีคนเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ทำมันได้สำเร็จข้ามีนามว่าจงลั่ว แต่คนในหมู่บ้านมักจะเรียกว่า...อาลั่ว
แน่นอน...ชื่อนี้มันไม่สำคัญหรอก หากว่าข้าไม่ได้ยืนอยู่บนยอดผาสูงของภูเขาซิลิอุส เขาสูงที่นักผจญภัยยกให้เป็น ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน สถานที่ซึ่งชุกชุมไปด้วยสัตว์อสูรระดับสูง และที่สำคัญคือที่นี่เคยมีมังกร สัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้ แม้ว่าจะไม่มีคนพบเห็นมังกรมานานมากแล้วก็ตาม แต่ภูเขาแห่งนี้ก็ยังคงภูเขาในตำนานอยู่ดี
สองตาข้ามองทอดไปไกลสุดลูกหูลูกตา ลมเย็นพัดโบกผ่านจากหุบผาเบื้องล่างขึ้นมายังปลายยอด สายลมหอบเอากลิ่นอายแห่งความกล้าหาญของเหล่าผู้กล้าในอดีตที่คิดจะมาพิชิตดินแดนแห่งนี้ขึ้นมา สายลมแห่งความกล้าหาญพัดผ่านเข้ามายังภายในจิตใจของข้า...จงลั่ว บัดนี้ข้าพร้อมแล้วที่จะไปเผชิญหน้า...กับ...
"อาลั่วโว้ย!!!"
เพล้ง! เสียงความสุนทรีเพียงน้อยนิดของจงลั่วถูกทำลายจนป่นปี้
"อาลั่ว! เจ้าจะยืนบ่นพึมพำคนเดียวตรงนั้น อีกนานไหม"
"คร้าบ ๆ ท่านผู้กล้าทั้งหลาย อาลั่วมาแล้ว"
จงลั่ววิ่งกระหืดกระหอบ ตามหลังเหล่านักผจญภัยที่จ้างเขามาด้วยความว่องไว แม้จะมีสัมภาระใบมหึมาสะพายอยู่บนหลัง แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา เพราะจงลั่วนั้นเคยเป็น นักรบ โจร นักเวทย์ นักบวช นักธนู มือหอก ทหาร คนขายเกี๊ยว และอื่น ๆ ที่เป็นอาชีพพื้นฐานทั้งหมด จงลั่วทดลองเป็นมาหมดแล้ว และนั่นทำให้ค่าพลังความแข็งแกร่งของเขา มากกว่าพวกมือใหม่ทั่วไปอย่างมาก
จากที่ฟังมาทั้งหมด ทุกท่านคงคิดว่า...จงลั่วจะต้องเป็นนักผจญภัยที่แข็งแกร่งมาก แต่ติดปัญหาเพียงข้อเดียวเท่านั้น นั่นคือจงลั่วฝึกได้แค่ระดับต้นทั้งหมด ท่านฟังไม่ผิดหรอกเขาฝึกทุกอาชีพได้แค่ระดับสิบ ทุกอาชีพที่ผ่านมาเป็นระดับสิบไม่ขาดไม่เกิน
ช่วงแรกในชีวิตผจญภัย ของจงลั่วเขาถูกชวนเข้าทีมในการผจญภัยอยู่บ่อยครั้ง เพราะความสามารถที่หลากหลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เพื่อน ๆ ต่างก็อายุมากขึ้น และระดับก็สูงขึ้น ทำให้จงลั่วซึ่งไม่สามารถก้าวข้ามระดับสิบได้ไม่เป็นที่ต้องการอีก ผสมกับเด็กรุ่นใหม่ซึ่งเติบโตเข้ามาแทนที่ ทำให้นักผจญภัยรุ่นเก๋าที่ระดับพลังยังไปไม่ถึงไหนอย่างจงลั่ว...ถูกทิ้งไว้กลางทาง
...แต่เขาก็ไม่เคยละทิ้งความฝันที่จะกลายเป็นผู้กล้าในตำนาน
"โห...ใครคิดวะ จ้างลุงแกมา เดี๋ยวเดิน เดี๋ยวหยุดอยู่นั่นละ ทำอย่างกับมาปิกนิก" เสียงกระซิบกระซาบ นินทาของกลุ่มนักผจญภัยเริ่มขึ้นอีกครั้ง
"เอาน่าเอริค เจ้าก็ใจเย็นหน่อย" เจฟผู้นำกลุ่มเอ่ยพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้เอริค "กูก็ไม่อยากจ้างหรอกนะ แต่มึงอย่าลืมสิ ว่าไอ้ลุงสติไม่ดีเนี่ย มันเป็นลูกหาบคนเดียวที่ยอม มาที่เขาซิลิอุสกับเรานะเว้ย"
"อืมมมม" เอริคครางในลำคอ "แต่มันน่าหงุดหงิดนี่หว่า"
"เอาน่า" เจฟหันไปยิ้มให้กับเอริค "แกลองคิดถึงจุดหมายปลายทางของเราสิ" เจฟหยิบแผนที่เก่าขึ้นมา และชี้ให้ทุกคนดู ตรงเครื่องหมายกากบาทสีแดง "สมบัติไงพวก ยิ่งในเขาเทพเจ้าอย่างซิลิอุส ข้าว่าอย่างต่ำ ๆ มันต้องเป็นไอเทมระดับตำนานขึ้นไป เผลอ ๆ เราอาจจะได้ไอเทมระดับเทพเจ้าเลยนะเว้ย"
"ก็จริงของ แกวะเจฟ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เอริคชูขวานยักษ์ขึ้นฟ้า พร้อมตะโกนอย่างสบายอุรา "รีบ ๆ ตามมาละลุง รั้งท้ายยังงั้นถ้าสัตว์อสูรโผล่มา โดนกินไม่รู้ด้วยนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
เสียงหัวเราะของเอริคดังขึ้น ก่อนที่คนอื่น ๆ จะหัวเราะตาม
จงลั่วรับคำด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม "คร้าบ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับผม อาลั่วกำลังเร่งฝีเท้าอยู่"
...ไอ้เด็กเวรพวกนี้ ไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ แถมนินทากันอีก(ความสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการได้ยินของนักธนู ทักษะฟังเสียงลมขั้นต้น เมื่อเปิดใช้จะทำให้จงลั่วหูดีกว่าคนทั่วไปมาก และสามารถได้ยินเสียงกระซิบในระยะยี่สิบเมตรได้อย่างชัดเจน) รอก่อนเถอะถ้า ถ้าข้าแข็งแกร่งขึ้นเมื่อไหร่จะไปไล่เตะก้นพวกแกทุกคนแบบเรียงตัวเลยคอยดู
.
.
แม้เส้นทางขึ้นเขาซิลิอุสจะไม่ซับซ้อนนัก แต่ก็เต็มไปด้วยสัตว์อสูรมากมาย แต่ในวันที่อากาศดีเช่นนี้กลับไร้วี่แววของสัตว์อสูร ซึ่งถือว่าผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง
"เรด เรามาถูกทางแน่นะ" เจฟเอ่ยขึ้นพร้อมหันมองไปรอบ ๆ
"ถูกสิวะ...นั่นไง" เรดชี้ไปที่สุดขอบของยอดเขา ที่นั้นมีรูปปั้นของฮีโร่ในตำนานราชาซิลิอุสตั้งเด่นตระหง่าน
เจฟกางแผนที่ดูเพื่อเปรียบเทียบตำแหน่งอีกครั้ง "เออ ใช่จริง ๆ หวะ งั้นข้างหน้าก็ถึงหุบผาแห่งความตายแล้วสิ"
...คำหุบผาแห่งความตาย สะกิดเตือนให้เจฟเตรียมพร้อม เขาสั่งให้ทุกคนระวังตัว นักผจญภัยทั้งสี่จึงเปลี่ยนท่าทีจากเดิม การเดินทางเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นในทันที เอริคที่เดินรั้งท้ายกระชับขวานแน่นด้วยสองมือ และเดินขึ้นมายืนเคียงข้างกับเจฟ ที่ตอนนี้ใช้ทักษะเปิดออร่า และแจกบัพป้องกันของพาราดินชั้นสูงแก่เพื่อนในกลุ่ม ซึ่งนั่นไม่รวมถึงการแจกบัพลูกหาบอย่างจงลั่ว
เรดหยิบคันธนูที่เคยสะพายไว้มาอยู่ในมือ พร้อมสอดส่องไปรอบ ๆ บริเวณอย่างระมัดระวัง ส่วนคนสุดท้ายคืออาเรีย นักบวชร่างยักษ์ ที่ตอนนี้ถอยไปอยู่รั้งท้าย และไม่ห่างจากจงลั่วนัก กำลังร่ายเวทย์แจกบัพให้กับทุกคนในทีม และก็อีกเช่นเคย ไม่มีบัพสำหรับจงลั่ว
เมื่อเห็นท่าที ที่เปลี่ยนไปของกลุ่มนักผจญภัย จงลั่วที่เดินอยู่รั้งท้ายพร้อมสัมภาระที่หนักอึ้ง ก็ตาเป็นประกายขึ้นมาในทันที หัวใจแห่งนักผจญภัยในวัยหนุ่ม ถูกปลุกเร้าขึ้นมาอีกครั้ง
...ว้าว ! เจ้านักบวชนั่นอย่างน้อยต้องเป็นระดับคาร์ดินัลสินะ ถึงร่ายเวทย์บัพเกราะมายาได้ ส่วนมือธนูดูจากอุปกรณ์ที่ใช้อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักล่าระดับสูงแน่ ๆ คนที่ชื่อเจฟดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม ดูจากบัพเพิ่มเลือดที่แจกคงเป็นพาราดินสายแท้งค์สุดถึกอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนเจ้านักรบปากมากนั่น ก็น่าจะเก่งไม่เบา ดูจากอายุเจ้าพวกนี้ก็เพิ่งจะยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น แต่ทำไมมันช่างต่างกับข้านัก ข้าทำผิดตรงไหนกัน ข้าทำตามคำแนะนำของผู้แนะนำอาชีพทุกอย่าง...
แม้จะไม่สามารถพัฒนาทักษะอาชีพให้เกินระดับสิบไปได้ แต่จงลั่วมีนิสัยที่ชอบหาข้อมูล และวางแผนทำให้เพียงมอง การตั้งตั้งขบวน และใช้ทักษะอยู่ห่าง ๆ เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่ากลุ่มนักผจญภัยนั้นกำลังทำอะไรอยู่ ชนิดที่ผิดเพี้ยนไปไม่เกินหนึ่งในสิบส่วน