“เพื่อนสมัยมัธยม”

1369 คำ
โรงพยาบาล… “อีปัน!” แซมมี่ เพื่อนสาวในกลุ่มอีกคน วิ่งพรวดเข้ามาพร้อมกระเป๋าสะพายแทบหลุด ไอคิตตี้กับตะวันตามมาติด ๆ แต่แซมมี่นี่คือวิ่งนำโด่งสุด “เป็นไงบ้างวะ!” เธอถามเสียงดัง พร้อมหายใจหอบ “กูได้ยินข่าวจากอีคิตตี้ กูนึกว่ามึงจะฆ่าใครตายแล้วเว้ย!” ปันปันที่นั่งกอดแขนตัวเองอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เงยหน้าขึ้นช้า ๆ หน้าเธอซีดเหมือนคนโดนซัดมาเป็นชั่วโมง “ไม่รู้วะหมอยังไม่ออกมาเลย…” แซมมี่ฟาดไหล่เพื่อนแรงจนคิตตี้สะดุ้ง “แล้วมึงทำเหี้ยไรไม่คิด!! เกิดแทงผิดจุดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา มึงไม่ใช่หมอนะคะเพื่อนนน!” ปันปันกัดฟัน “ไอเหี้ย ตอนนั้นมันคิดได้แค่นั้นป่าววะ น้องจะตายอยู่แล้ว! มึงจะให้กูยืนดูเฉย ๆ หรือไง!” ตะวันยืนข้างหลังหน้าเครียด แต่ไม่พูด คิตตี้กัดริมฝีปากตัวเองกลัวเพื่อนไปอีกคน แซมมี่ชะงักไปครึ่งวินาที ก่อนจะถอนหายใจยาวแบบแม่เครียดลูก “มึงนี่มัน… ไอ้เวรเอ๊ย” แล้วเธอก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างปันปัน ดึงไหล่เพื่อนมาพิง น้ำเสียงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด “กูกลัวมึงทำพลาดเว้ย แต่ถ้าเป็นกู…กูก็คงทำเหมือนมึงแหละ” ปันปันสั่นไหล่น้อย ๆ เหมือนจะร้องแต่ฝืนไว้ “กูกลัว แซม… กูกลัวมาก” คิตตี้กับตะวันเดินเข้ามายืนล้อมรอบเหมือนกำแพงเพื่อน แซมมี่ลูบหัวเพื่อนอย่างเหนื่อยใจแต่รักมาก “เออๆ รอกันไปแบบนี้แหละ พวกกูอยู่ด้วย ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นไอ้เหี้ย” ไม่นาน ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกผลักเปิดออก ปันปันสะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปทันที แซมมี่ คิตตี้ และตะวันก็กรูกันตามไปแบบไม่คิดชีวิต “หมอคะ! น้องเขาเป็นไงบ้างคะ?” ปันปันถามด้วยน้ำเสียงสั่นชัดเจนจนหมอต้องหันมามองเป็นพิเศษ แพทย์เวรผู้หญิงถอดถุงมือออกก่อนจะยิ้มบาง ๆ ให้ ท่าทีผ่อนคลายลงกว่าเมื่อครู่มาก “ตอนนี้คนไข้อาการคงที่แล้วนะคะ” หมอพูดด้วยเสียงนุ่ม ปันปันถึงกับยกมือขึ้นปิดปาก น้ำตารื้นปลายตาทันที หมอยังพูดต่อ “ดีที่ก่อนส่งมา มีคน ปฐมพยาบาลปล่อยลมในช่องอกได้ถูกต้อง ไม่งั้นปอดข้างนั้นคงยุบหมดแล้วค่ะ… เก่งมากเลยนะคะ ใครเป็นคนช่วยเด็ก?” แซมมี่กับคิตตี้หันไปมองปันปันพร้อมกัน ส่วนตะวันตบไหล่เพื่อนเบา ๆ เหมือนจะบอกว่า เออ มึงเก่งจริง ปันปันหน้าแดง ทั้งดีใจ ทั้งโล่ง ทั้งช็อก ทั้งเหนื่อยปนกันไปหมด เธอก้มศีรษะให้หมอแทบจะทันที “ว่าแต่…หมอคุ้น ๆ หน้าเรานะคะ เราสองคนเคยเจอกันหรือเปล่า” แพทย์หญิงเอียงคอถามพลางมองปันปันด้วยความสงสัย “เอ่อ…ไม่นะคะ ปันไม่คุ้น—” ยังไม่ทันพูดจบ ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกผลักออกจากด้านใน “แม่ครับ…” เสียงผู้ชายทุ้มต่ำดังขึ้น ทำปันปันเผลอหันไปตามเสียงอย่างอัตโนมัติ แค่หนึ่งวินาทีที่มองเห็น…หัวใจเธอก็เหมือนหยุดเต้น ศิลา ในชุดผ่าตัดสีเขียว หน้ากากอนามัยดึงลงค้างอยู่ที่คาง ลมหายใจยังหนักเล็กน้อยเหมือนเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมา ผมที่เคยเรียบร้อยก็ดูยุ่งแบบมีเสน่ห์จนใจเต้นโครมแทบหลุดออกจากอก หล่อ…โคตรหล่อ หล่อกว่าเดิมแบบที่ปันปันต้องด่าเพื่อตัวเองในใจว่า มองอะไรของมึงเนี่ย! “อ้าว กลับมาตั้งแต่เมื่อไร” ตะวันร้องขึ้นทันทีที่เห็นศิลาโผล่ออกมาจากห้องฉุกเฉิน แพทย์หญิงข้าง ๆ เลิกคิ้วมองทั้งสองด้วยความสงสัย “อ้าว…นี่รู้จักกันอยู่แล้วหรอ?” “ครับ เพื่อนสมัยมัธยมครับ” ศิลาตอบเรียบง่าย แต่หางเสียงดันฟังอบอุ่นจนปันปันหลบตาแทบไม่ทัน “อ๋อ อย่างนี้เอง…ดีจังเลย!” แพทย์หญิงยิ้มกว้างก่อนหันไปบอกทุกคน “งั้นไปห้องทำงานแม่กันไหมลูก นาน ๆ ทีจะได้เจอเพื่อนของศิลา แม่อยากคุยกับหนูด้วยเรื่องที่ช่วยคนไข้เมื่อกี้ด้วย” คำเชิญนั้นทำปันปันถึงกับสะดุ้ง เธอรีบหันไปส่ายหน้าให้ศิลาน้อย ๆ แบบลนลานว่า ไม่ไปเว้ย! อย่าพาไป! แต่ศิลาที่เห็นชัดทุกอิริยาบถของเธอกลับ…ยิ้ม ยิ้มแบบมุมปากที่ชวนหงุดหงิดจนหัวใจเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็หันตอบแม่ด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ครับ ผมก็อยากคุยกับเพื่อนเหมือนกัน ไม่ได้เจอกันมาตั้งนาน” ปันปันถึงกับอ้าปากค้างนิด ๆ อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง นี่มึงแกล้งกูใช่ไหมศิลา!? แพทย์หญิงหัวเราะเบา ๆ อย่างถูกใจ “ฮ่า ๆ เอาสิ งั้นแม่ไปซื้อน้ำให้ก่อนนะ ศิลาพาเพื่อนขึ้นไปห้องทำงานแม่เลย พวกหนูตามศิลาไปได้เลยนะจ๊ะ” ปันปันกับคิตตี้มองหน้ากันแบบตะลึง ส่วนแซมมี่กับตะวันก็ยืนอ้าปากหวอ ๆ แล้วศิลาก็เป็นฝ่ายออกเดินนำไปก่อน ช้า ๆ เหมือนจงใจให้ปันปันต้องเดินตาม หัวใจเธอเต้นระรัวจนแทบจะตีกลองได้แล้วตอนนี้ “เหี้ยยย! กูเพิ่งเคยเห็นผัวเก่ามึงนะ อีปัน…อย่างหล่ออ่ะ!” คิตตี้แทบจะเกาะแขนปันปันด้วยความตื่นเต้น ดวงตาวาวเหมือนเห็นไอดอลตัวท็อป แซมมี่ที่ยืนกอดอกอยู่ข้าง ๆ รีบเสริมทันที “หล่อมาตั้งนานแล้วจ้า ไม่งั้นเพื่อนมึงจะไปตามจีบเขาก่อนหรอฮะ?” น้ำเสียงคือหมั่นไส้นิด ๆ ตามสไตล์เพื่อนที่รู้เบื้องหลังทั้งหมดตั้งแต่สมัยมัธยม คิตตี้ทำตาเหลือก “โอ๊ยย มึงก็น่าจะบอกกูไว้บ้างปะ จะได้เตรียมใจ! กูคิดว่ามันจะหน้าตาธรรมดา ๆ แบบแฟนเธอคนก่อน ๆ ซะอีก!” ปันปันชะงัก แฟนก่อน ๆ คือไร กูแค่คุยเฉยๆป่ะ! แต่ยังไม่ทันเถียง ตะวันก็เดินเข้ามาพร้อมถอนหายใจยาว “กูบอกแล้วว่าไอศิลามันหล่อแต่เด็ก ตอนอยู่มัธยมแม่งฮอตแค่ไหน พวกมึงไม่รู้กันหรอก” คิตตี้รีบหันไปมองตะวันที่กำลังหัวเราะให้ความวุ่นวายนี้ “แล้วมึงสนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไรอ่ะ?” ตะวันตอบหน้าตาเฉย “ตั้งแต่ ม.6 เทอมหนึ่งอะ ช่วงนั้นกูกับมันติวด้วยกันประจำ…แต่พอจะจบเทอมสองมันลาออกไปเฉย กูก็งงอยู่พักหนึ่ง” “นี่พวกมึงสามคนเรียนที่เดียวกันมาหรอ?” คิตตี้ เพื่อนสาวแต่กายเป็นชาย เอียงคอถามอย่างสงสัย พลางยกคิ้วให้สามคนตรงหน้าเหมือนจะซักไซ้ให้รู้เรื่อง ปันปัน แซมมี่ และตะวันตอบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย “เออออออ—” เสียงประสานจนคิตตี้ต้องหลุดหัวเราะ “หูยยย ประสานเสียงเหมือน SNSD รวมตัว นี่กูถามผิดเวลาเหรอเนี่ย” ตะวันส่ายหน้า “ไม่ผิดเวลา มึงแค่ถามช้าไปสามปี” แซมมี่หัวเราะคิกก่อนจะหันไปสะกิดคิตตี้ “ใช่ค่ะคุณคิตตี้ พวกกูเรียนมัธยมที่เดียวกันหมด รวมถึง ผัวเก่าของอีปัน ด้วย พอใจมึงยัง?” คิตตี้เบิกตาอย่างกับเจอข่าววงในระดับประเทศ “เชี้ย… แปลว่าพวกมึงโตมาพร้อมกันหมดเลยดิ ยกเว้นกูที่หลงเข้ามาเป็นนางเอกประกอบ!” ปันปันตีไหล่คิตตี้ทีหนึ่ง “ประกอบเหี้ยอะไร มึงนี่แหละตัวหลัก เสียงดังสุดในกลุ่ม” คิตตี้ทำหน้าเชิด “กูก็ว่าแล้ววว ความสวยมันเด่นเกินเพื่อน” ตะวันกลอกตา “เก่งทุกอย่างยกเว้นเก็บปาก” แต่ในขณะที่กำลังเมาท์กันมัน ๆ ศิลาก็ชะงักเท้าอยู่ข้างหน้า หันมามองกลุ่มพวกเธอเหมือนกำลังรอฟังด้วย คิตตี้กระซิบเบา ๆ “มึง ๆ ผัวเก่ามึงหันมามองว่ะอีปัน หยุดเถียงก่อน!” ปันปันสะดุ้ง หุบปากทันที ส่วนศิลายิ้มมุมปาก…เหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างกับเธอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม