ตอนที่ 1/1 สามีภรรยาในนาม

1218 คำ
จากท้ายไร่มาถึงบ้านมันไม่ง่ายเลย หมายถึง…การบังคับเสียงหัวใจไม่ให้เต้นแรงเหมือนเต้นซุมบ้า มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ฉันแยกตัวจากพี่ผาเข้าบ้าน ส่วนตัวเขานำม้าไปฝากคนงานให้เอาเข้าคอกแล้วค่อยตามมาทีหลัง ฉันจัดการอาบน้ำชำระล้างเนื้อตัวและยังคงสวมชุดดำไว้อาลัยคุณลุงเหมือนเดิม เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากคนด้านนอกในขณะนั่งละเลงครีมบนใบหน้า บ้านนี้มีคนอยู่แค่สองคนคือฉันและพี่ผา ส่วนแม่บ้านอย่างน้าหมี่หรือคนอื่นๆ จะมาทำงานเช้าเย็นกลับ “เข้ามาสิคะ” ฉันอนุญาตเพราะรู้ว่ายังไงก็เป็นเขา พี่ผาเดินตัวหอมเข้าห้อง ผมที่ยังเปียกหมาดๆ เพราะคงพึ่งผ่านการอาบน้ำมาเช่นกัน “พี่ลืมโน๊ตบุ๊คไว้ในห้องเราน่ะ” เขาเอ่ยพอเป็นพิธีก่อนมองหาของที่ว่า “อยู่นี่เอง” “พี่ผา..” ฉันปากไวรีบเอ่ยเรียกชื่ออีกคนเพียงเพราะเห็นเขากำลังจะเดินกลับออกไป คนตัวสูงหันมองกันเล็กน้อยพร้อมคิ้วเลิกสูงรอคำถาม “พี่ผาจะนอนอีกห้องเหรอ” “อื้ม มีอะไรล่ะ หรือว่าเรานอนคนเดียวไม่ได้ พี่จะได้นอนด้วย” “มะ…ไม่ เหนือนอนคนเดียวได้ ก็แค่ถามดูเฉยๆ” เพราะเสียงลนลานของฉันทำให้เขายกยิ้มอย่างนึกขำ “ดูทำหน้าเข้า ถึงยังไงเราก็เป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฏหมาย จะกลัวอะไรอีก” “เหนือไม่ได้กลัวสักหน่อย แค่ไม่ชิน” ประโยคหลังฉันพูดเสียงแผ่วก่อนก้มหน้างุด มองเล็บมือสีชมพูอ่อนของตัวเองแทนใบหน้าคนตัวสูง “คงไม่มีใครชินหรอก จู่ๆ เหนือเรียนจบแล้วรู้ข่าวว่าพ่อพี่ป่วย พ่อพี่ขอให้เราแต่งงานกัน พี่ก็ไม่ชิน สถานะของเรามันไม่ได้เปลี่ยนง่ายขนาดนั้นสักหน่อย” คำพูดของเขาฉันติ๊กถูกทุกอย่าง พี่ผาหาววอด มือปิดปากและหนังตาปรือตกพร้อมจะหลับได้ทุกเมื่อ “พี่ง่วงแล้ว ไปนอนก่อนนะ” “ค่ะ ฝันดีค่ะพี่ผา” “อื้ม เหนือก็รีบนอนได้แล้ว อย่าทำเอ็มวีอีกล่ะ” “รู้น่า ปิดประตูให้ด้วย” ฉันยู่ปากตอบกลับก่อนจะล้มตัวนอนหันหลังพร้อมตลบผ้าห่มคลุมตัว โดนแซวดักทางเรื่องร้องไห้ประหนึ่งแสดงเอ็มวี พี่ผารู้จักฉันดีเกินไปแล้ว เมื่อทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบเชียบ พี่ผาเองก็คงนอนหลับไปแล้ว หากแต่ฉันยังลืมตาโพลงในความมืดมิด ปรับสายตาให้คุ้นชินรวมไปถึงคำพูดของพี่ผาที่ยังคงติดตรึงในหัวราวกาวเหนียวติดสมอง ‘สถานะของเรามันไม่ได้เปลี่ยนง่ายขนาดนั้นสักหน่อย’ นั่นสินะ ถ้ามันเปลี่ยนง่ายขนาดนั้นก็คงเปลี่ยนไปนานแล้ว พี่ผากำลังทำให้ฉันนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน คิดถึงมันทีไรก็มีความสุขปนขมขื่นทุกครั้งไป คืนนั้น… พี่ผาเมามาก ฉันไม่เคยเห็นเขาดื่มเยอะจนเมามายหมดสภาพมาก่อน เพื่อนพี่ผาหิ้วปีกขึ้นมาส่งถึงบนห้อง มีฉันคอยยืนมองดูห่างๆ ด้วยความเป็นห่วง ไม่กล้าเข้าไปใกล้เพราะเสียงครางน่ากลัวในลำคอของคนเมา เสียงกระทืบเท้าตึงตังจนเตียงสั่นไหว ไหนจะละเมอเรียกชื่อผู้หญิงคนนั้นอีก… ผู้หญิงที่เป็นตัวต้นเหตุให้พี่ผาเมาและก็ยังเป็นรักแรกของพี่ผา จากที่ฉันเล่ามาคงเดาได้ไม่ยากนักว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเกิดจากอะไร พี่ผาโดนบอกเลิก เธอคนนั้นสวมเขาให้พี่ชายฉัน ช่างเป็นผู้หญิงสารเลวหน้าไม่อาย ฉันสงสารพี่ผามาก เพื่อนๆ ของเขาฝากให้ฉันคอยช่วยดูแล สภาพแต่ล่ะคนที่แบกพี่ผามาก็ดูไม่ได้เช่นกัน เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องอึมครึมและข้างนอกฝนตกหนักราวพายุถล่ม ฉันฝืนความกลัวที่มีเพื่อจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขา ตั้งใจแค่เช็ดตัวจริงๆ ไม่คิดว่าจะโดนเขาทำแบบนั้นด้วยซ้ำ “เอมเหรอ ชะเอมกลับมาหาผาใช่ไหม” “มะ…ไม่ใช่นะพี่ผา หนูเอง น้ำเหนือไง” ข้อมือที่โดนรวบจนตัวติดกัน ใบหน้าอยู่ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจอีกฝ่าย เพียงชั่วพริบตาเดียวที่พยายามปฏิเสธ ฉันกลับได้รับจูบร้อนเร่าด้วยริมฝีปากดุเดือดของคนเมา จากที่คิดว่าโดนยัดเยียดก็เริ่มคล้อยตามเรื่อยๆ “อะ…อื้อ พี่ผา” “เอมกลับมาหาผานะ…มาหาผา” ฉันดีดตัวออกมาจากเขาได้สำเร็จ มีมือหนาที่ยังควานสะเปะสะปะเพราะคิดว่าฉันคือพี่ชะเอม ทำเอาหัวใจเต้นถี่รัวเกิดเจ็บหนึบขึ้นมาเสียอย่างนั้น แต่ต่อให้ปวดใจมากเท่าไร พี่ผาที่พึ่งโดนทิ้งมาคงเจ็บมากกว่าฉันเป็นร้อยเท่าพันเท่า เขาน่ะเสียศูนย์แบบสุดๆ ไปเลยล่ะ แล้วฉันจะยังมาห่วงความรู้สึกเล็กน้อยของตัวเองอยู่อีกเหรอ สุดท้ายก็อยู่ดูแลเขาไปแบบนั้น ปล่อยให้จูบแรกมันจางหายไป เหมือนกับรักแรกของฉันเอง ชีวิตฉันน่ะมันหันเหตามแรงลมเหมือนกังหันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว หากไม่มีลุงไตรภพคอยส่งเสียเลี้ยงดู ให้ร่ำเรียนสูงๆ ป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ในหลืบในซอกไหน พวกเขามีพระคุณกับฉันมากจริงๆ ด้วยความที่ลุงไตรภพรักและเอ็นดูฉันเสมือนลูกสาวคนหนึ่ง ฉันสอบติดมหาลัยในกรุงเทพฯ ท่านก็ส่งเสียไม่ปริปากบ่นสักคำ นั่นจึงเป็นเหตุให้นานครั้งฉันจะกลับบ้าน แต่ลุงและพี่ผาก็มาหากันตลอด จนพักหลังลุงป่วย เจ็บออดๆ แอดๆ ต้องพักรักษาตัว พี่ผาก็ต้องดูแลพ่อ ดูแลไร่ ทำให้ไม่มีเวลามาหาฉัน มีแต่จะติดต่อผ่านกันทางโทรศัพท์ นานวันเข้าความสัมพันธ์ที่มีต่อเขาก็เริ่มเลือนรางจนกระทั่งฉันมีแฟน ครั้นเรียนจบชีวิตไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเมื่อต้องมารู้ว่าลุงป่วยหนัก ป่วยแบบไม่สามารถยื้อชีวิตตัวเองให้มีลมหายใจบนโลกนี้ได้นานอีกแล้ว ครั้งแรกที่รู้เรื่องทั้งหมด ฉันร้องไห้เอาเป็นเอาตายเพราะยังไงก็รักลุงเหมือนพ่อ เพราะฉะนั้นคำขอสุดท้ายของลุงที่อยากเห็นฉันเป็นฝั่งเป็นฝากับพี่ผา ฉันถึงยอมทำตามอย่างปฏิเสธไม่ลง รู้สึกผิดต่อแฟนตัวเองที่ต้องบอกเลิกเขาทั้งที่เราก็รักกันดี และยิ่งรู้สึกผิดไปอีก เมื่อหัวใจเจ้ากรรมมันเริ่มกลับมาหวั่นไหวให้พี่ผาอีกครั้งทั้งที่ฉันคิดว่าตัวเองทิ้งความรู้สึกบ้าบอนั่นไปตั้งนานแล้ว ฉันเหมือนนางวันทองสองใจเลยว่าไหม จนถึงตอนนี้ก็ยังจัดการกับความรู้สึกปั่นปวนชวนอ้วกของตัวเองไม่ได้จริงๆ นี่ฉันกลายเป็นคนโลเลแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม