เตชินทร์ก้มลงเก็บเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาสวมใส่ หลังจากมรสุมพายุอารมณ์ร้ายผ่านไป เขานั่งมองร่างอันบอบบางที่นอนอยู่บนโซฟาใหญ่ในสภาพที่อิดโรย...
“...” ดวงตากลมโตจ้องมองเพดานสีขาวด้านบน เกวลินกำลังเรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมด สายตาของเธอเหลือบมองร่างของชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกันกับเธอ ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว ครั้งนี้ไม่ได้เกิดเพราะฤทธิ์ยา แต่มันเกิดเพราะความอับอายของตัวเองที่ต้องเผชิญกับความเป็นจริง
“ข้าว...”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียก ขณะที่เขาอยู่ในสภาพที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ลำคอตีบตันแห้งผาก บทสนทนาที่จะโต้ตอบกับเธอนั้นกลับกลืนหายไป เหมือนกับไม่รู้ว่า ตัวเองจะเริ่มต้นอะไรก่อนดี
“...”
เกวลินไม่ตอบ เธอผุดลุกนั่ง พร้อมกับกระชับเศษชุดของเธอแนบอก สายตาของเธอสอดส่องมองหาสิ่งที่จะมาปิดบังร่างกายของเธอเพิ่มอีก
“พี่...พร้อมรับผิดชอบเรานะ”
เตชินทร์เอ่ยขึ้นในที่สุด เขาเป็นผู้ชายและเป็นสุภาพบุรุษพอ ที่จะต้องเอ่ยเรื่องนี้ก่อน และแน่นอน ว่าเขาได้เปรียบเรื่องนี้กว่าเธออยู่แล้ว เขาไม่เสียหายอะไร แต่เธอนี่สิ
“มะ-ไม่เป็นไรค่ะ พี่กลับไปเถอะค่ะ แล้วลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปเถอะค่ะ ข้าวไม่ต้องการรับผิดชอบอะไร”
“แต่พี่...”
“ไม่ค่ะ! ข้าวไม่ต้องการ พี่กลับไปเถอะ”
เกวลินไล่เขาอีกครั้ง ในตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออกหรอก เรื่องที่เกิดขึ้น สาเหตุเป็นเพราะเธอเอง เขาไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรกับเธอทั้งนั้น แค่นี้ เธอก็อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว
“ข้าว...”
เตชินทร์ชะงักไปกับคำพูดของเธอ มาแบบนี้ เขาเองก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน เสร็จกิจก็เฉดหัวทิ้งเลยงั้นเหรอ เขาไม่เข้าใจนะแบบนี้ ปกติ เตชินทร์เจอแต่สาวๆ ที่อ้อนวอนให้เขารับผิดชอบตลอด หรือขอเงินเพิ่ม แต่นี่อะไรกัน เธอเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร
“พี่กลับไปได้แล้วค่ะ...” เกวลินเอ่ยปากไล่เขาอีกครั้ง
“โอเค…!”
เตชินทร์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 187 เซ็นต์ และก้าวเท้าออกไปทันที โดยไม่ดึงดันที่จะคุยกับเธออีกต่อไป ไม่แคร์ ก็ไม่จำเป็นจะต้องง้ออะไร เสร็จภารกิจก็แยกย้ายกันไปก็จบ!
แกร๊ก! ปึ่ง! เสียงประตูเปิดปิดดังสนั่น
เกวลินมองตามหลังชายหนุ่มไป เธอรู้ว่า คำพูดของเธอที่เอ่ยกับเขานั้น มันจะทำให้เขารู้สึกหน้าชา แต่...ใดๆ เลย เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเอง ที่ผ่านสถานการณ์เลวร้ายมาแบบนั้น หนำซ้ำ เธอก็ยังเป็นคนที่ร้องขอให้เขาช่วยเธออีก มันเป็นเรื่องที่หน้าอายอย่างที่สุด และเกวลินจะยังอ้อนวอนให้เขารับผิดชอบเธออีกเหรอ? เธอจะต้องทำแบบไหนถึงจะถูก จะแก้สถานการณ์ตัวเองอย่างไรดีล่ะ?
ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงสมาร์ทโฟนของเธอดังขึ้น สายตาของเธอเหลือบมองสายเรียกเข้านั้น ‘น้ำตาล’ เพื่อนรักและเพื่อนร่วมชะตาเพียงหนึ่งเดียวของเกวลินในตอนนี้
เกวลินกับอลินดา ต่างก็เผชิญเหตุการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้ พร้อมๆ กัน ไม่รู้ว่า อลินดา เพื่อนของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง จะเจอฤทธิ์ยาแล้วแก้สถานการณ์แบบเธอบ้างมั้ย ดวงตากลมโตร้อนผ่าว น้ำในตาเริ่มคลอเบ้า เกวลินรู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก
“ฮัลโหล...ข้าว...เธอได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า? เธอเป็นอะไร? เมื่อคืนเธอ &%@!&%$” ปลายสายยิงคำถามแบบรัวๆ ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เช้าวันใหม่ อลินดาก็รีบโทรหาเพื่อนในทันที
“...” เกวลินเงียบ เธอกำลังรวบรวมพลังที่จะตอบกลับเพื่อนรักของเธอ เสียใจ เจ็บปวด สมเพชตัวเอง ทุกอย่างมันประเดประดังเข้ามาหมด...
**************
ปัจจุบัน...
“เฮ้อ...”
เกวลินสะบัดศีรษะของตัวเองเบาๆ เพื่อสลัดความทรงจำอันเลวร้ายของเธอเมื่อครู่ มันไม่สามารถจะกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว เกวลินควรลืมมันไปซะที พี่รหัสของเธอ ติดต่อกลับมาอยู่หลายครั้งนับจากวันนั้น แต่เกวลินปฏิเสธเขาทุกทาง เธอไม่ต้องการให้เขามารับผิดชอบอะไรกับเธอทั้งสิ้น ‘พี่ชินทร์ ไม่ผิด และไม่สมควรที่จะต้องมารับเรื่องนี้’
ติ๊ด!ๆๆ เกวลินกดสมาร์ทโฟนต่อสายถึงเพื่อนรักของเธอ
“อืม...ว่าไงข้าว”
ปลายสายตอบรับกลับมา
“ฉันจะชวนเธอไปหาอะไรกินข้างนอกหน่อย เธอว่างหรือเปล่าน้ำตาล”
“ได้สิ...เอาร้านไหนล่ะ เธอเลือกได้เลย แต่เธอต้องมารับฉันนะ”
“งั้น เอาร้านประจำของเราก็แล้วกัน เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงฉันถึงบ้านเธอนะ ออกมารอฉันหน้าบ้านได้เลย”
“โอเค...”
**************
@ Relaxed restaurant...
“เธอมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าข้าว ถึงนัดฉันออกมา”
‘อลินดา’ เอ่ยถามเพื่อนทันทีที่มาถึง เกวลินนัดเธอมาร้านอาหาร ความจริงก็ไม่น่าจะอยากทานอาหารอย่างที่เพื่อนของเธอบอกเป็นแน่ เพื่อนของเธอจะต้องไม่สบายใจ ไม่งั้น ก็คงไม่นัดออกมาแบบนี้...
“ใช่...วันนี้ พี่รหัสฉัน แชทข้อความหาฉันอีกแล้ว”
“แสดงว่า พี่ชินทร์อาจจะชอบเธอแล้วหรือเปล่า”
“ชอบอะไรน้ำตาล แค่มีอะไรกัน เพราะอุบัติเหตุไม่ตั้งใจเนี่ยนะ ฉันกับพี่ชินทร์ เราเจอกันไม่กี่ครั้งเองนะ และที่สำคัญ ชีวิตของฉัน ไม่เคยมีผู้ชายอย่างพี่ชินทร์อยู่ในลิสต์รายการของฉันเลยนะ เธอก็รู้นี่น้ำตาล ว่าเพราะอะไร”
“อืม...ใช่ พี่ชินทร์เป็นผู้ชาย ที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรเข้าใกล้ พี่เขาเจ้าชู้ เพลย์บอย และในมหาลัย พี่ชินทร์ก็เป็นดาวเด่นในเรื่องนี้ด้วย วันหนึ่งถ้าเธอเผลอเข้าไปยุ่งกับพี่ชินทร์ เธออาจจะโดนพวกสาวๆ ของพี่เขาดักทำร้ายเข้าสักวัน...แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าพี่ชินทร์จะรู้สึกผิดถึงขนาดต้องตามตื้อเธอขนาดนั้นเลยเหรอข้าว”
“ฉันก็ไม่รู้ แต่ล่าสุด ฉันก็บล็อกพี่เขาไปแล้ว ตัดปัญหาทุกอย่าง ฉันบอกพี่เขาเป็นร้อยๆ ครั้ง ว่าไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรฉันหรอก ฉันไม่ติดเรื่องนี้แล้ว”
“ช่างตรงกันข้ามกับฉันเลยนะ ที่พี่วินท์ไม่เคยจะตามตื้อรับผิดชอบฉันแบบพี่ชินทร์เลย”
อลินดาอดเปรียบเทียบคู่ของเธอกับเพื่อนไม่ได้ พี่วินท์ (กวินท์) ไม่เคยที่จะสนใจเธอเลย อลินดาปฏิเสธเขาแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นเขาก็ไม่สนใจใยดีเธออีกเลย
“พี่วินท์ เขาเป็นพี่ชายเธอนะน้ำตาล และอยู่บ้านเดียวกันกับเธอด้วย ตอนนี้พี่วินท์เขาอาจจะรู้สึกผิดอยู่ก็ได้ ที่มีอะไรกับน้องสาวตัวเอง ทั้งที่ไม่ใช่พี่ชายน้องสาวกันจริงๆ ก็เถอะ”
“แต่ว่าเราสองคน ก็คุยกันแล้ว ว่าจะ Move on กับเรื่องเลวร้ายของเราสองคนไปแล้วนะ เรื่องที่เกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะไอ้พี่บาสคนเดียวเลย นิสัยไม่ดี หลอกเราสองคน ทุเรศมากๆ น่าเจ็บใจชะมัด”
“ใช่ เราเจอคนเลว แต่ก็ยังโชคดี ที่พวกพี่ชินทร์เข้ามาช่วยไว้ทัน แต่...มันก็ไม่ได้ดีซะทีเดียว หนีจากไอ้พี่บาสที่วางยาเรา แต่ยาดันไปออกฤทธิ์ตอนที่พี่ชินทร์ไปส่งฉันนี่สิ ไม่รู้ว่าอันไหน จะดูแย่กว่ากัน โชคดีก็เหมือนกับโชคร้าย ไม่ต่างกันเลย”
“แต่ทำไมเธอไม่ลองคุยกับพี่ชินทร์ดีๆ ล่ะ บางทีพี่ชินทร์อาจจะอยากรับผิดชอบเธอจริงๆ ก็ได้นะข้าว รับผิดชอบที่หมายถึงการแต่งงานอะไรทำนองนั้น”
“แต่งงาน? เธอจะบ้าเหรอน้ำตาล ฉันกับพี่เขาคุยกันไม่กี่ครั้งเองนะ และถ้าแต่งงานไป เธอคิดว่าจะอยู่กันรอดเหรอ?”
เผลอๆ แต่งได้สามวันก็ตีกันตายพอดี เกวลินเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ที่สุดในโลก เขาคือผู้ชายในแบบที่เธอไม่ชอบ เธอจะแต่งงานกับเขาไปทำไมกัน...
**************