รุ่งเช้า ฟ้าหม่นและอากาศเย็นกว่าทุกวัน ลมแรงราวกับฝนจะตก แต่ไม่มีเมฆฝนสักก้อน มนตรีคว้าจอบเก่าที่ขึ้นสนิม เดินตรงไปยังศาลยายคำซึ่งตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน ศาลนั้นเก่าโทรมจนไม้ผุพัง แต่ยังมีพวงมาลัยแห้งแขวนอยู่และกลิ่นธูปเก่าคลุ้งอยู่ในอากาศ
เสียงนกกาเงียบงัน บรรยากาศวังเวงจนน่าขนลุก แต่เขากลับไม่สนใจอะไรสักอย่าง เพราะในหัวมีแต่ความคิดจะขุดหา ของดี ที่อาจซ่อนอยู่ใต้ศาลของยายคำ
ขณะที่กำลังลงมือขุด ดินชื้นหนืดได้ติดจอบ ทุกครั้งที่เขายกขึ้น ได้มีเสียงเหล็กเสียดกับอะไรที่แข็ง ๆ ดังแกรก ๆ เหมือนจะกระทบของที่ไม่ควรอยู่ใต้พื้นนั้น ชาวบ้านที่เดินผ่านตรงนั้นต่างก็รีบเบือนหน้า ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ศาลยายคำ
ลุงกำนันซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในละแวกนั้น เดินเข้ามาตักเตือนเสียงเข้ม
“พ่อหนุ่ม...อย่าขุดต่อเลยเถอะ ของพวกนั้นมันไม่ชอบให้ไปรบกวนหรอก”
มนตรีเช็ดเหงื่อแล้วยิ้มบาง ๆ “ผมไม่เชื่อเรื่องพวกนี้หรอกลุง ขุดอีกนิดน่ะนะ เดี๋ยวก็พอ”
แต่ทันทีที่จอบฟาดลงอีกครั้ง เสียง แต๊ก! ดังสนั่น เขาชะงักแล้วก้มลงดู เห็นว่าสิ่งที่จอบกระทบคือ หัวกะโหลกมนุษย์ ที่ถูกเผาจนดำคล้ำ คราบเถ้าดำติดอยู่รอบขอบดิน ดวงตาในโพรงที่ว่างเปล่าเหมือนมองกลับมา มนตรีล้มลง ด้วยความตกใจ
จังหวะนั้นเอง...ลมพัดโบกแรงจนเศษดินปลิวว่อน ใบไม้บนต้นโพธิ์ร่วงกราว เสียงหวีดดังราวกับหญิงชรา หัวกะโหลกกลิ้งหมุนช้า ๆ แล้วหยุดตรงปลายเท้ามนตรี เสียงหัวเราะแผ่วเบาลอยมากับลม
“เจ้าลืมคำสัญญา...”
มนตรีสะดุ้งสุดตัว เหงื่อซึมเย็นวาบไปทั่วหลัง เขาหันมองรอบตัว — ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแม้แต่ลุงกำนันเขาก็ไม่เห็น กลิ่นไหม้แรงขึ้นเรื่อย ๆ จนแสบจมูก เหมือนกลิ่นศพที่เพิ่งเผาได้ไม่หมดดี
เขาทิ้งจอบ วิ่งกลับบ้านสุดแรงเท่าที่จะมีเหมือนคนบ้าคลั่ง แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่เห็นนั้นทำให้หัวใจเขาแทบจะหยุดเต้น — พื้นไม้ในบ้านเต็มไปด้วยรอยเท้าดำไหม้เป็นทางยาวจากประตูไปจนถึงห้องนอนของเขา กลิ่นไหม้ลอยอวลหนักกว่าเดิม ใบหน้าตื่นตระหนก ของเขาเริ่มหวาดกลัว
เขาเดินตามรอยนั้นอย่างช้า ๆ มือสั่นเทา เสียงพื้นไม้ดังเอี๊ยดในทุกก้าวที่เหยียบ จนมาหยุดหน้าห้องนอน ประตูแง้มไว้นิดหนึ่ง
“...ใครอยู่ในนั้น?” เขาเอ่ยถามเสียงสั่น
ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงแต่ลมที่พัดเข้ามาจากหน้าต่าง แต่ในลมนั้นแฝงกลิ่นเถ้ากระดูกและควันไฟเก่า ๆ เสียงกระซิบแผ่วเบาดังจากในห้อง
“วันนี้...วันสารทแล้ว...ข้ากลับมาเยี่ยม...”
มนตรีผลักประตูออกช้า ๆ และสิ่งที่เห็นในแสงสลัวนั้นทำให้เขาช็อกสุดขีด — ไหดินเผาเก่าที่เขาฝังไว้เมื่อสองวันก่อนมันตั้งอยู่บนกลางเตียง ฝาปิดเปิดออก เถ้ากระดูกค่อย ๆ ลอยขึ้นหมุนวนเหมือนถูกลมหอบ เสียงหัวเราะของหญิงแก่ดังสะท้อนอยู่ทั่วทุกมุมห้อง
“เจ้าสัญญาว่าจะดูแลข้า...แต่เจ้ากลับจะขายข้า”
เทียนที่วางไว้บนหิ้งดับพรึ่บในเวลาเดียวกัน ลมเย็นจัดพัดเข้ามาจากทุกทิศทาง เสียงกระซิบซ้ำไปมา
“คืนสารท...ข้ากลับมาแล้ว”
เถ้าขาวปลิวว่อนทั่วห้อง ก่อนที่ทั้งหมดจะดับวูบในความมืด เหลือเพียงกลิ่นไหม้ติดอยู่ในอากาศ...และเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ยังไม่หายไป...ส่วนมนตรี ก็ช็อกสลบไปด้วยความกลัว