ผลัก!!
"กรี๊ด!!" มณีรัตนหยิบผ้ามาคลุมแทบไม่ทันเพราะมีคนผลักประตูเปิดเข้ามา
"เอ่อ...ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะยัง..." ฟาโรห์เซเนติกลืนน้ำลายเสียดังเอือกเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ผิวขาวผ่องราวกับไข่มุก เนินเนื้อที่หน้าอกอวบอิ่มแม้เห็นเพียงเสี้ยวนาทีเลือดลมในกายกลับปั่นป่วนอย่างหนัก ความต้องการจะครอบครองพวยพุ่งออกมาเสียจนแทบระงับไม่ไหว
"โรคจิต! ออกไปจากห้องข้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!!" มณีรัตนหันไปไล่คนหน้าด้านที่ยังยืนอยู่กับที่ไม่ยอมขยับไปไหน
"ข้าจะลงไปรอข้างล่าง แต่ถ้าช้าเกินไปข้าอาจจะขึ้นมาตามอีกรอบก็ได้มณี" ฟาโรห์เซเนติยกยิ้มที่มุมปาก แล้วเอียงตัวหลบตลับอะไรบ้างอย่างที่เธอขว้างมาแทบไม่ทัน
"ไอ้บ้าไอ้โรคจิต!! นาสเจ้าปล่อยให้เขาเข้ามาได้ยังไง ดีนะที่ข้าแต่งตัวใกล้เสร็จแล้วไม่งั้นล่ะก็... " เธอไม่อยากจะคิดถึงก่อนหน้านี้เลย ถ้าเขามาคงได้เห็นตอนที่ยังโป๊มากแน่ๆ
"ขอโทษเจ้าค่ะท่านหญิง ข้าไม่รู้จริงๆว่าเขาขึ้นตามมาเมื่อใด ท่านหญิงข้า..." นาสรีบคุกเข่าขอโทษรีบอธิบายถึงความผิดมหันต์
" ช่างเถอะเจ้าไปเฝ้าหน้าห้องเลย ข้าไม่ต้องการให้ใครมาตอนข้าแต่งตัวอีก" เพื่อเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดนาสก็เฝ้าที่หน้าห้องไปเลยจนกว่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วค่อยออกไป
มาถึงไม่กี่วันก็เจอหน้าเขาอีกแล้ว
ในขณะที่ฟาโรห์เซเนตินั่งรออยู่ด้านล่างนานสองนาน กำลังจะลุกขึ้นไปตามเองอีกรอบ แต่พอดีกับที่มณีรัตนเดินลงมา สวยงามเหมือนทุกครั้งที่เราได้เจอกันเสมอ เธอทำให้เขาตกหลุมรักทุกครั้งที่พบเจอกันแบบนี้อย่างไรกัน
เฟอร์เนียถึงกับเบิกตาโตตะลึงความงามและความสวยสง่า แม้ว่าใบหน้าจะบูดบึ่งมากก็ตาม นี่สินะคนที่ทำให้องค์ฟาโรห์ร้อนรนถึงเพียงนี้
"มีอะไร?" มณีรัตนถามทำลายความเงียบ ดูเหมือนทุกคนจะมองเธอด้วยสายตาที่แปลกมาก
"ข้าจะพาเจ้าเที่ยวอียิปต์ตามที่เคยพูดไว้" ครั้งนี้เขาต้องข่มใจตัวเองไว้ให้ใจเย็นเข้าไว้เพราะเธอยังเคืองเขาอยู่มากทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่
"วันหน้าแล้วกันวันนี้ข้าไม่วาง" มณีรัตนตัดทุกสายสัมพันที่เขาพยายามจะเชื่อมมาหา เธอไม่มีทางญาติดีด้วยง่ายๆหรอก
"อะไรกันข้ามาหาขนาดนี้แล้ว เจ้าจะใจดำปฎิเสธข้าได้ลงคอเชียวรึ?" ตัวเขาเองเริ่มโมโหแล้วสิอุตส่าห์คุยดีๆ แต่ดูเธอทำท่ารังเกียจกันขนาดนี้
"อ่อ กับคนที่ข้าเกลียดอย่างท่านข้าไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจ" คนเจ้าเล่ห์อย่างเขาจะมาไม้ไหนอีก คนอะไรหล่อซะเปล่าแต่นิสัยใช้ไม่ได้เลย
"อย่าให้ข้าต้องบังคับเลยนะ เจ้าเองก็รู้ว่าข้าทำได้นะท่านหญิงมณีรัตน" ฟาโรห์เซเนติกดเสียงต่ำอย่างสุดกลั้นเพราะถูกปฏิเสธซ้ำๆ เกรงว่าหากเธอยังคงดื้อดึงงานนี้คงมีฉุดกันหน่อยแล้ว
"ท่านมันเลวที่สุดเซเนติ" สิ้นสุดคำพูดก็ต้องมาเจ็บแขนอย่างหนักเมื่ออีกฝ่ายคว้าแขนบีบซะแน่น
"ข้าเพียงแค่ต้องการไปเที่ยวกับเจ้า" ฟาโรห์โกรธจนลืมตัวมือที่แข็งราวกับเหล็กบีบแขนเล็กจนกระดูกแทบเป็นแหลกคามือ ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
"ก็ได้เซเนติ" เขายิ้มกว้างแล้วเดินนำเธอออกไปนอกบ้านพักทันที ที่นี่มีม้าตัวสวยรออยู่
ฟาโรเซเนติอุ้มมณีรัตนขึ้นม้าทันที ตามด้วยตัวเองขึ้นตามไปจนเป็นเหมือนการกอดกัน ร่างบางเสียดสีไปกับแผนอกกว้างตามจังหวะม้าเดินที่ไม่เร็วมากนัก หากแต่คนควบม้าต้องสูดหายใจระงับตัวเองอย่างหนักเพราะร่างกายที่เสียดสีกันทำให้สมองนึกถึงภาพขณะกำลังร่วมรักแทนการขี่ม้า
อยากครอบครองนางจนแทบเสียสติ
"ท่านเป็นอะไรรึเปล่าเหตุใดถึงหายใจแรงขนาดนี้" มณีรัตนหันไปด้วยความสงสัยมาก หรือว่าเป็นโรคหอบกันนะ เธอหวังว่าคงไม่อาการกำเริบจนตายคาหลังม้าหรอกนะ
"ข้าแค่หิว ว่าแต่เจ้าเถอะไม่หิวบ้างรึอย่างไร?" ฟาโรห์เซเนติตอบกลบเกลื่อนความต้องการของพระองค์เองถึงแม้ว่าจะไม่แนบเนียนเท่าไร
"หิวสิ ท่านทำลายมื้อเช้าของข้า ไม่รู้ว่าตอนนี้พยาธิตายไปกี่ตัวแล้วเนี่ย!" มณีรัตนเริ่มโมโหหิวแล้ว
"อะไรคือพยาธิ?"
"ช่างเถอะ"
“ถึงแล้ว" ฟาโรห์เซเนติลงม้าก่อนถึงได้อุ้มเธอลงมา แต่ด้วยร่างกายที่เสียดสีกันทำให้เลือดลมที่พึ่งจะสงบเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย
"เปลืองตัวที่สุดเลย!" ไม่ใช่แค่เขาที่รู้สึกร้อนวูบวาบในตอนที่ร่างกายเราสัมผัสกัน เธอก็รู้สึกวูบวาบเหมือนกัน ขนาดมีเสื้อผ้ากันอยู่ยังรู้สึกถึงร่างกายแข็งแกร่ง
"ไปกันเถอะมณี ข้าเตรียมทุกอย่างเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ ส่วนคนของเจ้าคงกินข้างนอกกับคนของข้า" พูดจบแล้วก็จับมือเธอดึงไปไม่รอให้คำอนุญาตจากสักคำ เพราะถ้ารอคำตอบคงจะปฏิเสธตามเคย เธอไม่เคยให้ความร่วมมืออะไรเลยสักอย่าง
"เดี๋ยวสิ โอ๊ยจะรีบไปไหนเนี่ยไอ้บ้า!" เธอจำเป็นต้องเดินตาม แต่เดินแทบไม่ทันนี่สิ ไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปเดินอะไรขนาดนั้น
ความจริงแล้วนี่เป็นแผนที่จะให้เฟอร์เนียหลอกถามเรื่องต่างๆเกี่ยวกับหญิงสาว เพราะว่าคนที่ช่วงพูดช่างเจรจาให้ผู้หญิงหลงใหลได้โดยง่าย
"เจ้าชื่อว่าอะไร?" เฟอร์เนียเริ่มแผนการด้วยความนึกชอบใจในเด็กคนนี้เสียจริง
"นาสเจ้าค่ะ" นาสพยายามไม่ตอบอะไรมากมายเพราะไม่รู้จักและไม่รู้จะพูดอะไรดี
"นายของเจ้างดงามขนาดนี้ นางลงมาจากบนสวรรค์ไงกัน" เฟอร์เนียชมไปตามความจริง นี่ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองคงไม่มีทางเชื่อซีนอร์สเป็นแน่
"ข้าเองก็คิดเช่นนั้น" นาสยิ้มรับนึกดีใจแทนนายตัวเองที่มีแต่คนชื่นชม ความงามของท่านหญิงเป็นที่เลื่องลือในทุกเมืองที่ไป
"ข้าถามเจ้าจริงๆนะ ท่านหญิงมณีงามออกปานนั้นเหตุใดถึงยังไม่มีคู่รักล่ะ หรือว่าท่านหญิงไม่ชอบบุรุษ" คำถามนี้ไม่ใช่แค่เขาที่อยากรู้ แต่องค์ฟาโรห์กำชับในถามในเรื่องนี้เช่นกันและต้องได้คำตอบด้วย
"ที่บ้านท่านหญิงมีข้อห้ามว่าต้องไม่ใช้สามีร่วมกับผู้ใด แต่ทั่วอียิปต์บุรุษเช่นพวกท่านล้วนมีนางบำเรอกันเป็นสิบ คงไม่มีผู้ใดคงไม่ทิ้งพวกนางมาเพื่อท่านหญิงเพียงผู้เดียว"
"งั้นรึ" เฟอร์เนียยิ้มอย่างพอใจในคำตอบที่ได้รับ แต่ก็เหนื่อยใจแทนองค์ฟาโรห์เพราะสนมของพระองค์นั้นมีนับร้อย หากท่านหญิงรู้คงรีบตัดความสัมพันธ์และหนีไปเป็นแน่
ในขณะที่มณีรัตนมองไปพื้นที่รอบๆที่สงบและเย็นสบาย นั่นคงเพราะมีสระน้ำและต้นไม้ จะว่าไปที่นี่ทำเธอทึ่งไม่ต่างกับโอเอซิสสวนดอกไม้เลย
"เจ้าชอบรึ?" ฟาโรห์เซเนติมองตามมณีรัตน
"อืม ที่นี่สวยดีข้าชอบที่ร่มรื่นเย็นสบายแบบนี้มาก" มณีรัตนหันมายิ้มให้อย่างเผลอตัว ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อนึกได้ว่าเคืองเขาอยู่
"แค่เจ้าเอ่ยปากเพียงเท่านั้น ข้าจะพามา"
“แต่ว่าตอนนี้ข้าจะกลับแล้ว" มณีรัตนบอกจบก็รีบเดินกลับจนไม่ทันระวังเผลอไป เธอสะดุดรากไม้จนเกือบล้มแต่มีคนจับตัวเองไว้ทัน
"ข้าอุ้มดีกว่า เพราะหากเจ้าสะดุดลงแม่น้ำคงจะแหวกว่ายไม่ไหวแล้วกลายเป็นอาหารให้จระเข้แน่ ข้าบอกไว้ก่อนนะว่ามันดุมาก มันสามารถฉีกแขนฉีกขาเจ้าออกเป็นสองส่วนได้เลยล่ะ" ฟาโรห์เซเนติพูดเชิงขู่ให้กลัวและดูเหมือนจะได้ผลเพราะเธอจะเชื่อถึงได้กอดคอเขาแน่น
“ข้าชอบยามเจ้าไม่ดื้อดึงเช่นนี้”
"ข้าอยากกลับแล้ว"
ฟาโรห์เซเนติชอบใจมากกับสิ่งที่เธอทำ กอดคอแน่นเชียวล่ะ ไม่คิดเลยว่าคำขู่ง่ายๆจะได้ผลเร็วขนาดนี้ แต่จะว่าไปตัวเธอเองก็หอมมากจนอยากรู้ว่าส่วนอื่นเธอจะหอมมากกว่านี้ด้วยรึเปล่า
"ท่านหญิงเกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ" นาสเห็นนายท่านเซเนติอุ้มท่านหญิงมาก็ตกใจรีบวิ่งไปหา เฟอร์เนียแอบยิ้มกับความเป็นเด็กของเธอ
"ข้าไม่เป็นอะไรหรอก เรากลับกันเถอะ" พอตอบจบนาสถึงกับยกมือทาบอกด้วยความโล่งใจ
"ข้าลืมบอกว่าเราจะแวะตลาดก่อน" ฟาโรห์เซเนติกระซิบบอกก่อนจะควบม้าไปต่อไม่ฟังเสียงโวยวายของเธอ จนถึงตลาดถึงได้อุ้มเธอลงมาจากหลังม้า แล้วพาเดินเล่นในตลาดโดยให้เธอใส่ผ้าปิดหน้าเหมือนปรกติเพื่อจะไม่มีใครหลงใหล
"เดี๋ยวสิ! ผ้าผืนนี้สวยจัง" มณีหยิบผ้าขึ้นมาแต่มันเป็นของผู้ชาย
"ผ้านี้สำหรับบุรุษ เจ้าจะซื้อไปให้ผู้ใดกัน"
"ก็ให้เทรัสแล้วก็อัสชาไง ท่านก็รู้จักไม่ใช่รึเซเนติ" ไม่เข้าใจเลยว่าจะเสียงแข็งทำไม เธอแค่ซื้อของไปฝากลูกน้องถึงกับอารมณ์เสียขนาดนี้
"ข้าคิดว่าผ้าสวยดี เจ้าเลือกไปหลายๆผืนสิ" ฟาโรห์เซเนติแกล้งกลบเกลือนด้วยการช่วยเธอเลือกจนได้มาหลายผืนรวมถึงของนาสด้วย
"ผ้าผืนนี้ถ้าใส่นอนคงสบายแน่เลย" มันเป็นผ้าเนื้อบางเบาเหมาะสำหรับใส่นอนมาก ก่อนจะยกมาทาบกับตัวหันไปหาเขา
ฟาโรห์เซเนติแทบไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลยเพราะจินตนาการถึงเวลาที่เธอใส่ชุดวาบหวิวนี้ เพียงแค่คิดก็กระสันไปทั้งตัวด้วยความต้องการครอบครองเพียงผู้เดียวและจะไม่ยอมให้หนีไปไหน
หากเป็นเช่นคำบอกเล่าจริง
มณีรัตนคือของเขา
หลังจากวันนั้นฟาโรห์เซเนติปลอมตัวเป็นพ่อค้าธรรมดาเพื่อมาหามณีรัตนเกือบทุกวัน ถึงแม้บางวันจะได้คุยแค่ไม่กี่คำก็ยอม หรือหนักสุดคือนอนค้างที่บ้านเฟอร์เนียเพื่อที่จะแอบมองหญิงสาวที่จะออกมานอนดูพระจันทร์ทุกคืน นานวันเข้าเหล่านางสนมหลายคนเริ่มสงสัยและสั่งคนให้ติดตาม
ความอิจฉาริษยามีทุกยุคทุกสมัย
นั่นคือสิ่งที่เหมือนกันในทุกคน