6

1448 คำ
องค์ฟาโรห์เสด็จกลับวังเร็วกว่ากำหนดการณ์ที่วางไว้ บรรดาขุนนางต่างรีบมาต้อนรับรวมถึงนางสนมที่แย่งกันมาเพื่อต้อนรับเช่นกัน เฟอร์เนียรีบเข้ามาต้อนรับหลังจากที่ขุนนางแจ้งข่าวให้ทราบ "เจ้าไปอยู่ไหนมาเฟอร์เนีย" "ข้าไปหาพ่อเฒ่านาซีมาขอรับ" เฟอร์เนียรีบบอกเพราะดูเหมือนพระองค์จะอารมณ์ไม่ดี "ทรงโกรธเคืองอันใดมาหรือขอรับ?" พ่อเฒ่านาซีเดินมาคุกเข่าต้อนรับเป็นคนสุดท้ายพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ แล้วมองด้วยความสงสัย "ข้าแค่เหนื่อย" พูดเสร็จก็เดินหนีไปที่ตำหนักที่พักส่วนพระองค์ "พวกเจ้าตามข้ามานี่สิ" พ่อเฒ่าเรียกทหารคนสนิทที่น่าจะรู้อะไรให้ตามมาและเสนาบดีเฟอร์เนียก็เดินตามไปด้วย "พวกเจ้าจงเล่ามาให้หมดเหตุใดพระองค์ถึงพระพักต์บูดบึ้งเช่นนั้น อีกทั้งยังแสดงออกมาราวกับโกรธเกรี้ยวผู้ใดมา" พ่อเฒ่านาซีถามด้วยความสงสัยมากและต้องการรู้ต้นสายปลายเหตุ "คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้... " ฮอร์รัสเริ่มต้นเล่าเรื่องตั้งแต่ที่องค์ฟาโรห์พบท่านหญิงที่งดงามและผิดแปลกจากหญิงทั่วไปที่เคยพบเจอ ก่อนจะชวนทานอาหารค่ำด้วยกันโดยปกปิดฐานะตัวเองเอาไว้ทุกอย่าง แต่ว่านางเกิดเข้าใจผิดคิดว่าโจรชุดดำที่บุกเข้ามาพวกนั้นเป็นคนของพระองค์เลยหนีไป จากนั้นบังเอิญเจอกันอีกครั้งที่สวนดอกไม้ก่อนจะกลับ แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงเกรี้ยวกราด แต่จำเสียงที่พระองค์พูดออกมาราวกับคนหมดแรงได้ดี "ข้าพอจะเข้าใจ แล้วเหตุใดขึ้นพวกเจ้าไม่ตามหาหญิงผู้นั้นเสียล่ะ?" เฟอร์เนียถามเพิ่ม "องค์ฟาโรห์ไม่ได้รับสั่งมาและอีกอย่างพระองค์อาจจะไม่อยากเจอนางอีกแล้วก็ได้" ซีนอร์สออกความคิดเห็น แม้จะเห็นด้วยกับเฟอร์เนียก็ตาม "เจ้าโง่ไหนลองวาดรูปนางมาสิ" เฟอร์เนียขำเล็กน้อย องครักษ์ส่วนตัวใยไม่รู้ใจองค์ฟาโรห์เสียเลยว่ารู้สึกอะไรอยู่ในตอนนี้ เรสฮิบเป็นคนวาดภาพเองเพราะมีฝีมือทางด้านนี้อยู่บ้าง แต่ถึงจะวาดภาพออกมาได้ดีก็ยังไม่สามารถถ่ายทอดความงามของนางออกมาไม่หมด ท่านหญิงผู้นั้นนางงดงามมากเสียจนสามารถทำให้จิตใจที่แข็งแกร่งของชายสั่นสะท้านได้ "นี่มันท่านหญิงที่มาซื้อบ้านข้างๆข้า" เสนาบดีเฟอร์เนียร้องออกมาด้วยความตกใจ นั่นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่องค์ฟาโรห์เดินมาพอดี "เจ้าว่าอะไรนะเฟอร์เนีย?" ทุกคนที่นั่งล้อมวงคุยกันต่างหันไปที่ต้นเสียงพร้อมกันหมด ไม่มีใครคิดว่าพระองค์จะมาได้อย่างเงียบขนาดนี้และเดินมาที่นี่เองโดยไร้ผู้ติดตาม ทั้งที่สามารถสั่งให้ไปหาที่ตำหนักส่วนพระองค์ได้ "เอ่อ..คือว่า…" เฟอร์เนียเริ่มพูดอึกอัก "หากเจ้ามัวยึกยักข้าคงต้องตัดลิ้นเจ้าทิ้ง" ฟาโรห์เซเนติพูดเสียงแข็งด้วยความโมโห "ท่านหญิงผู้นี้พึ่งซื้อบ้านข้างบ้านข้าขอรับ" เฟอร์เนียรีบพูดไปเพื่อความปลอดภัยของลิ้นตัวเอง หากยึกยักชักช้าพระองค์คงไม่ใจดีแบบนี้แน่ "นางอยู่ใกล้เหลือเกิน เห็นทีข้าต้องไปเยี่ยมนางบ้างซะแล้ว" พระองค์ยิ้มกว้างออกมาอย่างชอบใจกับสิ่งที่รู้ หากว่ามณีรัตนอยู่ใกล้แค่นี้เท่ากับว่านางอยู่ในสายตาพระองค์ตลอดเวลา แต่จะดีกว่านี้ถ้านางใจอ่อนยอมอยู่ด้วยกันในวังหลวง "ข้ารู้ว่านางมีอัญมณีสีแดงราวกับเลือดติดตัวมาตัวใช่หรือไม่ขอรับ?" พ่อเฒ่าเริ่มถามถึงสิ่งที่สงสัย " ท่านรู้ได้อย่างไรพ่อเฒ่า ท่านมีอะไรจะบอกในสิ่งที่ข้าไม่รู้รึเปล่า?" ฟาโรห์เซเนติทรงประหลาดใจเพราะยืนแอบฟังอยู่สักพักตั้งแต่เริ่มเล่าเรื่อง แต่ซีนอร์สและเรสฮิปไม่ได้พูดถึงมณีสีแดงนั้นเลย "พระองค์ทรงจำคืนบูชาเทพเจ้าและกล่าวสัตย์สาบานได้รึไม่ขอรับ?" "เจ้าจะพูดอะไรก็พูดมาเถิดพ่อเฒ่า" ใช่ว่าเขาจะจำไม่ได้ แต่เรื่องบางเรื่องยังไม่กระจ่างเท่าไร "ดินแดนอียิปต์แห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์ขลังและหลายคราที่มีผู้คนแปลกๆหลงเข้ามาก่อนจะหายไปตลอดกาล คนพวกนั้นต่างตื่นเต้นและหวาดกลัวมาก บ้างถูกฆ่าตาย บ้างฆ่าตัวตาย บ้างถูกจับไปเป็นทาส สิ่งที่พวกนั้นพูดออกมาซ้ำๆคือต้องการกลับบ้านและออกไปจากดินแดนแห่งนี้ขอรับ นั่นทำให้ภาษาของเรานั้นค่อยๆผสมผสานจนผิดแปลกจากดินแดนอื่น แต่ถึงอย่างนั้นในระยะสิบกว่าปีนี้ไม่มีข่าวเรื่องคนแปลกๆพวกนั้นหลงเข้ามาเลย จนกระทั่งท่านหญิงผู้นั้น” “แล้วอย่างไร?” “เมื่อประมาณสองร้อยปีก่อนได้มีเจ้าหญิงผู้ซึ่งงดงามและนางอภิเษกสมรสเป็นพระราชินี แต่องค์ฟาโรห์ตอนนั้นมีนางสนมนับร้อยและหลงใหลสนมนางหนึ่งจนไม่ไยดีต่อราชินี ซ้ำยังย้ำยีจิตใจสารพัดจนนางทนไม่ไหว พระนางไปสวดมนต์อ้อนวอนต่อทวยเทพเจ้าทุกวันก่อนจะดื่มยาพิษ แต่ก่อนที่พระนางจะสิ้นลมหายใจ พระนางอธิฐานว่าหากได้กลับมาที่นี่อีกครั้งจักขอรักเพียงตัวเองเท่านั้น ขอให้องค์ฟาโฟห์เป็นฝ่ายไล่ตามพระนางและอยู่ด้วยความหวาดระแวงว่าจะเสียพระนางไป" พ่อเฒ่านาซีหยิบน้ำมาดื่มเพราะเล่าเรื่องได้ยาวมาก "แล้วเกี่ยวข้องอันใดกับอัญมณีขอรับท่านพ่อเฒ่า" เฟอร์เนียถามด้วยความสงสัยมากขึ้นเพราะที่ฟังมาไม่พูดถึงอัญมณีสักนิดเดียว "นางสวมสร้อยและแหวนทับทิมที่เปร่งกระกายราวกับเลือดในยามต้องแสง ไม่มีผู้ใดกล้าสัมผัสเพราะหวั่นเกรง แต่พอถึงพิธีพระศพอัญมณีนั้นกลับหายไป" พ่อเฒ่าเล่าต่ออย่างเหนื่อยหอบตามวัยชรา วันนั้นพ่อเฒ่าฝันเห็นอัญมณีนั่นและหวั่นใจ "แสดงว่านางคือเจ้าหญิงผู้นั้นและข้าคือองค์ฟาโรห์ เวลาหวนคืนมาบรรจบกัน ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในดินแดนเดียวกัน คำขอของนางได้เริ่มต้นอย่างนั้นรึพ่อเฒ่า?" ฟาโรห์เซเนติยังไม่หายสงสัย "ขอรับพระองค์ ในภายภาคหน้านางอาจจะเป็นราชินีเคียงข้างท่าน หรืออาจจะหนีกลับไปบ้านที่นางจากมาก็ได้ขอรับ" "ข้าไม่มีวันให้นางหนีไปเด็ดขาด" ฟาโรห์หวั่นเกรงในใจ หากเป็นเรื่องจริงคงโหดร้ายมาก "รับท่านหญิงมณีมาอยู่ในวังเลยดีหรือไม่ขอรับ?" ซีนอร์สออกความเห็นที่น่าจะดีที่สุด ในวังหลวงมีทหารมากมายเฝ้ายามอยู่ตลอดเวลา นางไม่มีทางจะหนีออกไปได้อยู่แล้ว "ต้นไม้สูงชันปานนั้นนางยังวิ่งได้อย่างคล่องแคล่ว แล้วเจ้าคิดว่าวังหลวงนางจักหาทางหนีออกไปไม่หรืออย่างไร ที่นี่ขังนางไม่ได้" "ข้าจะไปคุยกับนางเอง ส่วนพวกเจ้าไปเตรียมที่พักให้นาง ข้าต้องการให้อยู่ใกล้ข้าที่สุดและอีกไม่นานข้าจะพานางมาอยู่ที่นี่" ฟาโรห์เซเนติหันไปสั่งเรสฮิบที่นั่งเงียบกริบตามวิสัย "ขอรับ" เรสฮิบก้มหน้ารับคำสั่งแล้วออกไปจัดเตรียมทุกอย่างตามที่พระองค์ต้องการ ในขณะที่มณีรัตนกำลังเพลิดเพลินกับบ้านพักหลังใหม่ที่ใหญ่โตและสวยงาม เธอไม่มั่นใจว่าจะอยู่ที่นี่นานไหม ไม่รู้ว่าจะเจอคนที่สามารถช่วยให้กลับบ้านได้รึเปล่า สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกคือการมาที่นี่ทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเธอต้องการมาเมืองนี้และอยู่ที่นี่ก่อนจะกลับไป บางทีอาจจะมีพ่อหมอหรืใครช่วยเธอได้ เที่ยวให้เต็มที่และหาทางกลับบ้าน "ท่านหญิงมีคนมาขอพบเจ้าค่ะ" นาสรีบวิ่งไปบอกมณีรัตนที่กำลังแต่งตัวจะไปเที่ยวข้างออก "ใครเหรอ ข้าจำได้ว่าไม่รู้จักใครสักคนเลยในที่นี่" มณีรัตนขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเพราะคนที่รู้จักเธอจริงก็มีแค่นาส เทรัส อัสชาเท่านั้นเอง หรือว่าจะเป็นเซเนติ เขาคงไม่ตามเธอไปทุกทีหรอกมั้ง "นายท่านเซเนติเจ้าค่ะ" นาสเองก็กังวลใจไม่น้อยเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับนายของเธอ แล้วนายของเธอไม่ต้องการจะสานสัมพันธ์กับผู้ใด " ไล่เขาไปซะ!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม