หลายวันผ่านไปอาการของมณีรัตนดีขึ้นตามลำดับเพราะการรักษาเป็นอย่างดี โดยที่ฟาโรห์เซเนติคอยดูแลไม่ห่าง หมอหลวงมาตรวจอาการทุกวันและทุกอย่างยังเป็นความลับ
"พระองค์จะไม่บอกถึงฐานะที่แท้จริงให้นางรับรู้หรือขอรับ" เฟอร์เนียไม่เข้าใจว่าทำไมไม่บอกให้ท่านหญิงรับรู้ไปเลย อย่างน้อยก็สามารถใช้อำนาจพานางเข้าไปอยู่ในวังอยู่ในสายตามากขึ้น
"หากนางรู้ว่าข้าเป็นใครนางอาจจะหนีไปไกลจนไม่อาจจะพลิกแผนดินตามหาเจอได้และข้าก็จะไม่พบเจอนางอีก ดังนั้นเจ้าไปกำชับทุกคนให้เรียกข้าว่านายท่านเท่านั้น" เมื่อนึกถึงใบหน้างามที่ปั้นปึงใส่เกือบทุกครั้ง แม้แต่รอยยิ้มยังไม่เคยได้รับจากนางเลย ถ้าหากแม้นางรู้ว่าเขาเป็นใครคงจะหนีไปเป็นแน่ ด้วยความสามารถสูงขนาดนี้มีเหรอว่าจะหลบซ่อนตัวไม่ได้ มณีรัตนฉลาดและเก่งเกินหญิงทั่วไป
"ขอรับนายท่าน" เฟอร์เนียรับคำสั่ง แล้วรีบเดินออกไปกำชับทหารและทาสทุกคนให้ทำตามคำสั่ง แม้จะขัดแย้งกับความคิดตัวเองก็ตาม
"ท่านหญิงจะไปไหนขอรับ?" เฟอร์เนียเห็นมณีรัตนระหว่างลงบันไดก็อดสงสัยไม่นานที่นางฝืนตัวเองเดินลงมาได้ขนาดนี้
"ข้าจะกลับบ้านแล้ว ฝากบอกท่านเซเนติด้วยนะ" มณรัตนยิ้มกว้างให้แล้วเดินเชิดหน้าออกไปเพราะไม่อยากจะอยู่ที่นี่เท่าไร ยิ่งอยู่ใกล้เซเนติมากเท่าไรก็ยิ่งเหมือนถูกคุกคามยังไงพิกล
"เจ้าจะไปไหนมณี เจ้ายังไม่หายดีหากโจรมันมาอีกใครจะดูแลเจ้า" พระองค์รีบเดินลงมาหลังจากที่ไปในห้องพักแล้วไม่เห็นใคร เขาคิดได้ว่านางคงจะกลับบ้านแน่และไม่ผิดด้วยสิ
"ข้าดูแลตัวเองได้น่า" เธอหันไปตอบเสียงแหลมใส่เขาด้วยความไม่ชอบใจ ครั้งนี้ลองมีโจรมีอีกสิแม่จะคว้างมีดใส่ให้พรุนไปทั้งตัว
"มานี้ดีกว่าข้าจะพาไปพักผ่อน"
"ว๊าย!! ไอ้..." มณีรัตนกำลังจะอ้าปากด่า แต่ถูกสายตาดุของเขาจ้องถึงกับไปไม่เป็น
"เงียบเสีย แล้วเก็บเสียงหวานของเจ้าไปใช้ในเวลาจะอื่นดีกว่า" คำพูดที่คุกคามอย่างโจงแจ้งและอุ้มมณีรัตนเดินขึ้นไปบนห้องเหมือนเดิมอย่างเงียบๆ
มณีรัตนกัดฟันจนเป็นสันนูนเด่นด้วยความไม่พอใจคนที่เอาแต่ใจตัวเองจนเกินเหตุแบบเขา ไม่รู้จะมายุ่งอะไรกับเธอนักหนา จะว่าหลงที่หน้าตาก็คงไม่ใช่เพราะเธอก็เหมือนๆผู้หญิงทั่วไป มันไม่มีเหตุผลอะไรให้เขาตามติดขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ
หรือจะเป็นมาเฟียในยุคนี้รึเปล่าวะเนี่ย
ช่างซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆเลย
"เจ้าคิดอะไรอยู่มณี?" ที่นอนอ่อนยวบลงไปตามน้ำหนักที่มากกว่าของฟาโรห์เซเนติ มณีรัตนเอียงมาชนที่หัวไหล่เขาด้วยความไม่ตั้งใจ
"เปล่าหรอก ข้าแค่คิดว่านอกจากที่นี่แล้วมีเมืองไหนน่าเที่ยวต่อบ้าง" จากตอนแรกที่คิดจะปักหลักอยู่ที่นี่เพราะรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ แต่พอรู้ว่าเขาอยู่ใกล้มากขนาดนี้ทำให้อยากหนีไปไกลๆ
"ข้าไม่ให้ไปที่ไหนทั้งนั้น หากเจ้ายังดื้อดึงจะไปให้ได้เห็นทีว่าข้าคงต้องใช้อำนาจบังคับเจ้า!" นี่นางคิดจะหนีข้าไปถึงไหนกัน นางเกลียดกันเรื่องอะไรถึงพระองค์ก็ยังไม่รู้เลย
“ข้าไม่ได้เป็นอะไรกับท่านสักหน่อย มีสิทธิ์อะไรมาบังคับให้ข้าอยู่ที่นี่ด้วยเล่า!" คิดว่ามีอำนาจเยอะรึไงกันห่ะถึงทำตามใจตัวเองได้ เอาไว้เป็นเจ้าเมืองก่อนนะเธอถึงจะทำตาม แล้วอีกอย่างเสียงดุดันของเขาทำแก้วหูเธอแตกแล้วมั้งเนี่ย
"งั้นมาเป็นของข้าตอนนี้เลยดีไหมมณี เจ้าจักได้เชื่อฟังข้าเสียที"
"หยุดความคิดบ้าๆนั้นเลยนะ เอาเป็นว่าข้าจะอยู่ทีนี่ต่อก็ได้ไหนๆก็ลงทุนซื้อบ้านแล้ว" เธอรีบขยับตัวออกห่างด้วยความไม่ไว้วางใจ
ฟาโรห์เซเนติขยับตามนางมาจนไม่มีทางนี้ โน้นหน้าจุมพิตช้าๆอย่างอ่อนหวานจนหญิงสาวอ่อนระทวย แต่ไม่อยากทำอะไรมากไปกว่านี้ เพราะเพียงแค่นี้นางก็ตื่นกลัวจนตัวสั่นแล้ว
"ทุเรศที่สุดเลย! ท่านมันคนฉวยโอกาส ข้าไม่น่าไว้ใจท่านเลยเซเนติ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะข้าจะกลับบ้าน ข้าเกลียดท่านเซเนติได้ยินไหม ข้าเกลียดท่าน!" มือที่จะตบเขาถูกจับไว้อย่างรู้ทันเลยทำได้แค่ด่าไปอย่างเจ็บใจ
"หากเจ้าพูดมากกว่านี้ข้าจะจูบเจ้านานกว่าเมื่อครู่" คำว่าเกลียดที่นางพูดยังชัดเต็มหูและไม่ต้องการจะฟังมันอีกครั้ง
"..." มณีรัตนกัดปากแทบไม่ทัน เธอไม่ลองเสี่ยงพูดออกไปเพราะรู้ว่าเขาพูดจริงและทำจริงแน่นอน เซเนติยิ้มได้อย่างหน้าหมั้นไส้ที่สุด เธอมองเขาเดินออกจากห้องถึงได้ถอนหายใจโล่งอกที่สุด
เฟอร์เนียกำลังจะขึ้นไปตามองค์ฟาโรห์เพราะมีเรื่องสำคัญโดยที่มีแม่ทัพฮอร์รัส องครักษ์เรสฮิบและองครักษ์ซีนอร์สรออยู่ด้านล่าง
"พวกเจ้ามีอะไรก็รีบรายงานข้ามาเร็ว" น้ำเสียงขุนมัวอย่างชัดเจนจนไม่มีใครจะพูดอะไรออกมา
"เรื่องที่พระองค์ให้ข้าตรวจสอบนั้นเป็นจริง กษัตย์อินโทเนียซ่องสุ่มกำลังและคิดกบฎต่ออียิปต์" ฮอร์รัสค่อนข้างหนักใจมาก ด้วยว่าเมืองอินโทเนียนั้นก็มีอำนาจและยิ่งใหญ่ถึงจะไม่เท่าอียิปต์ก็ตาม
" อย่างนั้นเจ้าจงไปเตรียมทหารให้พร้อม ข้าจะยกทัพไปด้วยตัวเอง" น้ำเสียงแข็งกระด้างแผ่กระจายไปโดยรอบจนไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว แต่ใครก็ตามที่คิดท้าทายอียิปต์โทษของมันคือตายสถานเดียวเท่านั้น
"ข้าจะไปเตรียมทหารให้พร้อมพระองค์วางใจได้ นี่จะเป็นบทเรียนให้เมืองอื่นได้เห็นว่าคิดกบฎต่ออียิปต์จักเป็นเช่นไร" ฮอร์รัสนึกถึงเมืองหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้วที่บังอาจดูหมิ่นองค์ฟาโรห์แล้วมีจุดจบก็ไม่ต่างกัน นี่คงจะเป็นอีกเมืองที่จะถูดบดขยี้ด้วยกองทัพมหาศาล
หลังจากหาลือวางแผนกันจบก็ออกมาดื่มเหล้าองุ่นชั้นเลิศที่เฟอร์เนียซื้อมาจากพ่อค้าต่างถิ่น พูดคุยกันอย่างสนุกสนานโดยมีทาสสาวมาคอยรินให้ไม่ขาดสายจนค่ำมาก แล้วต่างคนเลยแยกย้ายกลับ ส่วนองค์ฟาโรห์ก็บรรทมที่บ้านเฟอร์เนีย
ฟาโรห์เซเนติไม่พักที่วังมาหลายวันแล้ว
สาเหตุก็รู้กันดีว่าเพราะเหตุใด
"ท่านดื่มเหล้ามาเหรอ?" มณีรัตนตกใจกับอ้อมกอดที่มาพร้อมกลิ่มเหล้าองุ่นจนต้องหันหน้าหนี
"ใช่ ว่าแต่เจ้ามาทำอะไรตรงนี้ เหตุใดเจ้ายังไม่นอน" อ้อมกอดกระชับแน่นขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าดุดันก้มลงมาใกล้เพื่อฟังคำตอบจากมณีรัตน แต่สิ่งที่ได้คือใบหน้าสวยที่หันหนี
"ข้าควรนอนแล้ว ท่านก็ด้วย" มณีรัตนแกะมือที่กอดแน่นออก แล้วรีบเดินไปนอนห่มผ้าจนถึงลำคอและหลับตาลงในทันที
"อีกไม่กี่วันข้าต้องเดินทางไกลมาก ระหว่างนั้นข้าไม่รู้จะทำอย่างไรที่จะไม่คิดถึงเจ้าจนเสียสติ" ฟาโรห์เซเนตินั่งลงบนเตียงนอน แล้วบอกถึงความในใจเพราะรู้ว่านางยังไม่หลับ นางเพียงแต่แกล้งทำเป็นหลับเท่านั้นเอง
"งั้นก็พกนี่ไว้ มันเป็นของที่อยู่ข้างกายข้าตลอดเมื่อท่านกลับมาค่อยเอามาคืนข้า" มณีรัตนหยิบมีดพกเล่มเล็กยื่นให้เขา เธอสับสนในการกระทำตัวเองเหมือนกันและไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงดี
"ข้าจะเก็บไว้อย่างดี เจ้านอนเถอะ" ฟาโรห์เซเนตินอนลงข้างกาย แต่ไม่ใกล้มากเพราะรู้ว่านางไม่ชอบ เขารอจนได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอถึงได้ขยับกายเข้าใกล้และกอดจนแนบชิด
"เจ้าคิดอย่างไรกับข้ากันแน่" ในตอนนี้หัวใจที่แข็งแกร่งเต็มไปด้วยความสับสนและว้าวุ่นเป็นอย่างหนัก ด้วยว่านางน่าจะดีใจที่พระองค์ไปไกลๆ แต่กลับให้ของแทนใจมาเสียอย่างนั้น
ตกดึกอากาศหนาวเย็นขึ้นจนร่างบางขยับหาความอุ่นจากกายใหญ่จนแนบชิดแทบทุกสัดส่วน ฟาโรห์เซเนติตื่นมาเพราะมณีรัตนดิ้นไปมาขดตัวเข้าหาด้วยความหนาวเหน็บเลยหยิบผ้ามาห่มให้ แล้วประคองศรีษะเล็กมานอนซบอกแล้วถึงโอบกอดให้ได้ความอบอุ่นและแอบสูดกลิ่นหอมจากเส้นผมหอมกรุ่นของนางถึงได้หลับต่อ
เช้าวันต่อมามณีรัตนตื่นมาก่อนถึงกับหน้าแดงเมื่อรู้ว่าอยู่ในอ้อมกอดใคร แต่ก็ไม่กล้าขยับตัวมากนักเพราะเขาจะตื่น เธอเลยค่อยๆแกะมือเขาออกอย่างใจเย็นที่สุด แต่ก็ไม่ทันเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มและกอดเธอแน่ขึ้นอีก
"นอนต่อเถอะตอนนี้ยังเช้ามากและข้ายังง่วงอยู่ด้วย" ตื่นมาเจอหน้าแดงของเธอทำให้ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้สึกตัว ก่อนจะกอดกระซับแล้วหลับไปต่อ
"มันก็เช้าจริงแหละพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลย" ตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วว่าผ้าห่มหรืออ้อมกอดของเขากันแน่ที่ทำให้เธอนอนอบอุ่นมาทั้งคืน
แต่ก็ช่างเถอะนอนต่อดีกว่า
ถึงยังไงเขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ
ฟาโรห์เซเนติยิ้มบางๆออกมาเมื่อเห็นว่านางมิได้ขัดขืนอันใด กลับนอนต่อตามที่บอกพระองค์ชอบเวลานี้ที่สุดและอยากให้เป็นแบบนี้นานๆ
เวลาที่ความเกลียดชัง ความอวดดี ถือทิฐิตลอดทุกเวลาที่นางใช้มาปิดกั้นความรู้สึกนั้นหายไป พระองค์จะกอดเก็บความรู้สึกนี้ให้เท่านาน ยามเมื่อต้องออกศึกไปปราบกฎบคงคลายความคิดถึงคนึงหาได้ไม่มากก็น้อย เป็นห่วงก็แต่นางยามที่พระองค์ไม่อยู่จะมาชายอื่นมาตีสนิทด้วยใจเสน่หา ความงดงามเช่นนั้นอันตรายต่อใจชายที่แข็งแกร่งเสมอ เมื่อคิดได้อย่างนี้ยิ่งกังวลมาก
เพื่อเป็นการป้องกันไว้คงต้องสั่งให้เฟอร์เนียคอยคุ้มกันดูแลตลอดเวลาที่พระองค์ไม่อยู่เสียแล้ว หากใครมาชมชอบคงไม่ดีแน่และมันสมควรตาย