คำทำนาย
หญิงชราผมสีดอกเลา เพ่งมอง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาใสซื่อของฉันแล้วเอ่ยถาม
“ เด็กคนนี้ ไม่ใช่เด็กธรรมดาใช่ไหม ”
แม่จับมือฉันบีบเบาๆ และตอบหญิงชราหมอดูคนนั้นว่า
“ ที่เห็นก็ธรรมดานะคะ ปกติทุกอย่าง แม่หมอเห็นว่าลูกสาวของฉัน ไม่ธรรมดาตรงไหนคะ ”
“เด็กคนนี้มีพลังงานอยู่ในตัว เธอมีพลังจิต ติดตัวมาแต่เกิด ด้วยแรงอธิฐานจิตสุดท้าย ”
“ แม่หมอรู้ได้อย่างไรคะ!! ”
แม่ถามหญิงชราหมอดูด้วยสีหน้ากังวล หญิงชราไม่ตอบ เพ่งมองจ้องลึก เข้าไปในดวงตาที่สงบนิ่งของฉัน อีกครั้ง แล้วเอ่ยว่า
“ รู้ได้อย่างไรนั่นไม่สำคัญ...เท่ากับ...เมื่อเธออายุยี่สิบสองปี..เธอจะพบจุดเปลี่ยนของชีวิต...ต้องเจอกับภาระความรับผิดชอบ อันยิ่งใหญ่ ความรัก ที่มีอุปสรรคจากความแตกต่าง...สุดท้าย..”ยายแม่หมอหยุดพูดไปดื้อๆ
สุดท้ายอะไรล่ะโธ่!!.. แบบนี้ ฉันก็ต้องค้างคาใจในคำตอบ และครุ่นคิดไปตลอดจนกว่าตัวเอง จะอายุยี่สิบสองน่ะสิ
ฉันกับแม่หันมามองหน้ากัน อย่างครุ่นคิด เหลือบตาหันมามองหญิงชราอีกที หญิงชราหมอดู ก็หายไปแล้ว ไม่รู้ว่า เธอเป็นใคร ผีหรือคนนะ หายตัวไปได้หน้าตาเฉย
แม่ตกใจ แต่ท่านรีบปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว
“ หมอดูคู่กับหมอเดา หมอไม่เดา จะเอาที่ไหนมาดู แม่ไม่เชื่อหรอก หนูก็ลืมไปซะนะลูก ไม่ต้องเก็บมาคิดให้เปลืองสมอง ”
“ ค่ะแม่ ”
ฉันส่งรอยยิ้มสดใสไปให้ท่าน แต่จิตใจกลับครุ่นคิด เรื่องของตัวเอง จนถึงปัจจุบัน ฉันไม่เคยลืมในสิ่งที่หญิงชราคนนั้นพูดเลยสักนิด
........................................................
วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบ22ปี และเป็นวันที่ฉันเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจหญิง ฉันจึงนัดเพื่อนๆไปฉลองจบ จัดงานวันเกิดของฉันพร้อมกันไปเลย หาเรื่องกินเหล้าชัดๆ ไอ้พวกนี้
เมื่อเราไปถึงร้านอาหาร ก่อนเข้าร้าน ฉันหมุนตัว หันกลับไปมองทางด้านหลัง กวาดสายตาไปทั่วบริเวณนั้น จนเพื่อนๆ มองฉันอย่างแปลกใจ ฉันรู้สึก เหมือนมีใครจ้องมองมาที่ตัวเองตลอดเวลา ด้วยสัญชาตญาณของการเป็นตำรวจ ใครกันนะ ฉันว่าฉันคงไม่ได้คิดไปเอง แต่จะคอยตามฉัน หรือคอยมองฉันทำไมกัน
เพื่อนๆ ลากฉันเข้าไปที่ซุ้มจัดงาน ส่งแก้วเหล้าให้ดื่ม เมื่อแอลกอฮอล์ซึมเข้าสู่ร่างกาย ความกล้าก็บังเกิด ฉันกล้าขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ขอดีดกีต้าร์เองซะด้วย
ฉันดีดกีต้าร์ร้องเพลงรักไปอย่างช้าๆ สายตาดันเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่ง ยืนพิงต้นไม้ ตรงที่แสงไฟสาดไปไม่ถึง รูปร่างเขาสูงโปร่ง ยืนเอามือล้วงกระเป๋า จ้องมองมา ลักษณะ ไม่น่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟ หรือคนในเครื่องแบบ คิดๆ แล้วก็อดระแวงไม่ได้ ถ้าเขาค่อยๆ ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อตัวใน ที่สวมทับตัวด้วยเสื้อตัวนอกเอาไว้ แล้วชักปืนออกมายิงฉันบนเวทีนี้ล่ะก็... ฮึ่ย!!ฉันว่า ฉันชักหลอนแล้วนะ
พวกเพื่อนๆ ส่งเหล้าให้ฉันไม่หยุด ฉันเริ่มมึน จึงเดินเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาเพื่อให้สร่างเมา มองหน้าตัวเองในกระจก ขนาดหัวกระเซิงขนาดนี้ ยังดูดีอีกแฮะ...( สงสัยมันจะเมาจริง )
เมื่อฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ ความมึนทำให้ปะทะกับร่างใหญ่
ปึ๊ก!!
จนทรงตัวไม่อยู่ สองแขนใหญ่แข็งแรงรวบเอวบางของฉันไว้ทันที ฉันกำลังอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนหนึ่ง โดยไม่รู้ตัว
“ I'm sorry ”
ฉันเอ่ยปากขอโทษทันที เมื่อเห็นว่าาเขาเป็นชาวต่างชาติ ใบหน้าเรียว ผิวหน้าเนียนเรียบ ดวงตาคม คิ้วเข้ม จมูกโค้งได้รูป คางเขียวครึ้ม รับกับริมฝีปากหยักลึก ผิวสีแทน อายุของเขาน่าจะห่างจากฉันไม่มากนัก นี่ฉันกำลังสำรวจใบหน้าเขาอยู่เหรอ
เขากอดรัดฉันแนบแน่นไม่ยอมปล่อย จ้องมองใบหน้าของฉันนิ่งนาน จนหัวใจของฉันเต้นแรง รู้สึกร้อนทั้งหน้า เพราะฤทธิ์เหล้า หรือเขินก็ไม่รู้แล้วตอนนี้
“ ไม่เป็นไรครับ ”
เขาเอ่ยปากออกมาเป็นภาษาไทยชัดแจ๋ว ฉันเบิกตากว้าง หน้าแตกยับ แต่กลับเผลอยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร คงเป็นเพราะความเมา ถ้าปกติ กอดฉันนานขนาดนี้ คงถูกฉันทุ่มด้วยท่ายูโดไปแล้ว
“ ค่ะ...ปล่อยฉันก่อนนะคะ ”
“ เอ่อ...ขอโทษครับ ”
เขาปล่อยฉันไห้เป็นอิสระ แล้วทำไมหัวใจฉันจึงรู้สึกโหวงๆนะ รู้สึกชอบเมื่อถูกเขากอด...ความอบอุ่น...แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
บ้าน่าซิน!!คนเพิ่งเจอกัน...จริงสิ...แกกำลังเมานี่นา ฉันพยายามบอกตัวเอง
“ ขะ..ขอ..ตัวก่อนนะคะ ” แล้วจะติดอ่างทำไมให้อายเขานะ
หมับ!!
ฉันหมุนตัวกลับไปหา เมื่อรู้ว่าเขาจับแขนของฉันไว้ เอียงคอถามเขาด้วยสายตาสงสัยแทนคำพูด
“ ฉันชื่อ..เคเซน...เราจะได้พบกันอีกนะ...ซินเซีย ”
พูดจบ เขาก็เดินจากไป ทิ้งปริศนาไว้ให้ ฉังงง อ้าปากค้าง ครุ่นคิดว่าเขารู้จักชื่อของฉันได้อย่างไร
ฉันสะดุ้งโหยง เมื่อไอ้นิวตบมาที่ไหล่แล้วเรียกเสียงดัง
“ ไอ้ซินแกทำอะไรวะ เขารอแกเป่าเค้กอยู่... ไปได้แล้ว ”
ฉันเดินตามนิวออกไป ใจไม่ได้อยู่กับตัวสักนิด สมองเต็มไปด้วยคำถาม ที่ไม่มีคำตอบ
ป๊าบ!!
“ ไอ้ซิน...เป่าเค้กสิวะยืนตาลอยยังกะถูกผีเข้า เทียนจะไหม้หมดแล้ว ”
มีน..เพื่อนอีกคนตบหัวฉัน ให้รู้สติ ฉันก้มลงไปเป่าเทียนอย่างมึนๆ ไม่ได้ยินแม้เสียงเพลงที่พวกมันร้องให้ด้วยซ้ำ
ฉันหลับตาไม่ลง คิดกลับไปกลับมา จนหัวแทบระเบิด คืนนี้...คือจุดเปลี่ยนของชีวิตฉันจริงๆ อย่างนั้นเหรอ... หวนคิดถึงใบหน้าคม และคำพูดของผู้ชายคนนั้น
“ ฉันชื่อ..เคเซน...เราจะได้พบกันอีกครั้ง.... ”
จะได้พบกันอีกครั้ง...อีกครั้ง...อีกครั้ง...เสียงดังราวกับแอ็คโค่ติดอยู่ในหัว จนผลอยหลับไปในที่สุด....