ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดผู้ชายร่างโตเอาไว้ เขาแสนดีกับฉันเสมอ ไม่ว่าจะตอนสมัยเรียนหรือว่าตอนนี้
“ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้โสก็ร้องไห้ให้พอ พอร้องจนสาแก่ใจแล้วก็เข้มแข็งเพื่อลูกของโส เขาคงอยากจะให้โสเข้มแข็งนะรู้ไหม” แดเนียลเอ่ยพร้อมกับลูบหัวของฉันเบาๆ เขาช่างแสนดีแสนดีเหลือเกินแสนดีเสมอ
ฉันรู้อยู่เต็มอกว่าผู้ชายที่ฉันกอดอยู่ในตอนนี้เขารักฉันมาตั้งแต่สมัยเรียน ตอนนี้ฉันไม่รู้หรอกว่าเขายังรักฉันอยู่หรือเปล่า แต่เพียงแค่เขาปกป้องฉันฉันก็รู้สึกซาบซึ้งหัวใจแล้ว
ฉันในตอนนี้เหมือนนกที่ปีกหักไม่สามารถบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ มีมนุษย์ผู้ใจดีคอยปกป้องและให้ที่พักพิง ให้ฉันพักอาศัยและบรรเทาความเจ็บปวดในหัวใจ
“ขอบคุณนะที่ดีกับโส ขอบคุณที่ปกป้องโส”
“อืม อย่าคิดมากเลย ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษโส ถ้าฉันขับรถด้วยความระมัดระวัง โสก็คงจะไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้ ถ้าโสเป็นอะไรไปฉันคงโทษตัวเองไปตลอดชีวิตเป็นแน่” เขาเอ่ยเสียงเบาทำหน้าตาสำนึกผิด
ฉันเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขาทั้งน้ำตา รู้สึกเสียใจที่ตัวเองเป็นต้นเหตุเรื่องนี้ ฉันเป็นคนที่วิ่งไปให้รถชนเองเพราะความคิดโง่ ๆ ที่ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายแล้ว
ถ้าเกิดว่าฉันตายคนที่รู้สึกผิดก็คงจะเป็นแดเนียลนั่นเท่ากับว่าฉันได้สร้างบาปกรรมให้กับผู้ชายที่แสนดีที่สุดอย่างเขา
“มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก โสเป็นเป็นคนวิ่งให้รถชนเอง ตอนนั้นโสคิดไม่ออกมันมืดมนไปหมด โสคิดไม่ตก โสไม่รู้ว่าโสกับลูกจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง” ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้น แดเนียลยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มให้ฉันอย่างแผ่วเบา
“ทำไมไม่คิดว่าถ้าโสตาย ผู้ชายอย่างฉันจะเสียใจมากแค่ไหน ถ้าโสตายฉันก็คงเสียใจมากที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างเวลาที่โสทุกข์”
“ฮือ ๆ แดเนียล นายดีกับโสเสมอเลย ดีกับเพื่อนอย่างโสเสมอเลย” รอยยิ้มของเขาหุบลงทันทีเมื่อฉันเอ่ย แต่เขาก็ฝืนยิ้มขึ้นมาใหม่ ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมที่เห็นความเจ็บปวดแฝงอยู่ในแววตาของเขา
“อืม ไม่เป็นไร โสพักผ่อนเถอะนะเดี๋ยวฉันจะไลน์สั่งของกับลูกน้องของพ่อก่อน”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ายิ้มให้เขา แดเนียลยิ้มตอบพร้อมกับประคองร่างฉันนอนลงบนเตียง
“ไม่ต้องเกร็งตัวนะเดี๋ยวมันจะเจ็บแผล เดี๋ยวฉันประคองโสเอง”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้าพร้อมกับค่อย ๆ เอนกายตามที่ท่อนแขนแกร่งของแดเนียลประคองให้นอนลง เขาห่มผ้าให้ฉันพร้อมกับปรับอุณหภูมิแอร์ให้อยู่ในอุณหภูมิที่กำลังพอดี ก่อนจะเดินไปนั่งแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดทำอะไรสักอย่าง
“แล้วอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” เขาเงยหน้าขึ้นถามฉัน
“ไม่ค่ะ” ฉันส่ายหน้าเบาๆ
“แล้วจะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดี”
“ไม่รู้เลยค่ะ ไม่แน่โสอาจจะไปเช่าบ้านหลังเล็กๆสักหลังแล้วขายของออนไลน์ โสเองไม่สามารถที่จะออกไปหางานได้ เพราะท้องของโสโตแล้ว”
“ให้ฉันช่วยไหม ฉันยินดีช่วยโสเสมอ เราจะเลี้ยงดูเขาให้เติบโตไปด้วยกัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ โสจะทำงานแล้วเลี้ยงดูเขาความรักของโส ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีพ่อโสจะเป็นทุกอย่างให้เขาจะเป็นทั้งพ่อและแม่เลี้ยงดูเขาให้เติบโต เป็นเด็กที่มีคุณภาพไม่เป็นภาระของสังคม” ฉันพูดพร้อมกับพยายามปรามน้ำตาที่มันเตรียมจะไหลออกมาประจานความอ่อนแอของฉัน รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่มีผู้นำครอบครัวหรือคนในครอบครัวดีๆเหมือนคนอื่น
“ไปอยู่กับฉันไหม” แดเนียลเอ่ยขึ้นแต่เขาไม่ได้จ้องหน้าของฉัน เขากำลังพิมพ์อะไรบางอย่างอยู่ในโทรศัพท์น่าจะสั่งของเหมือนที่ตอนที่เขาบอกฉันนั่นแหละค่ะ
“ไม่เป็นไรหรอกโสไม่อยากเป็นภาระของนายน่ะ แค่นี้โสก็เกรงใจและเป็นภาระนายมากแล้ว”
“ฉันไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยนะโสรยา โสไม่เคยเป็นภาระของฉัน ฉันอยากดูแลโสอยากอยู่กับโส อยากอยู่เคียงข้างโส” เขาเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองฉันแล้วเอ่ยคำยืนยันหนักแน่นที่จะอยู่เคียงข้างฉัน เอาตรงๆฉันรู้สึกดีนะคะที่มีใครมาพูดแบบนี้ อย่างน้อยมีคนรักและหวังดีกับเรามันก็ยังดีกว่ามีคนที่เกลียดเราใช่ไหมคะ
“ยิ่งนายดีกับโสโสก็ยิ่งละอายใจ”
“อย่าละอายใจไปเลยฉันบอกแล้วว่าฉันจะปกป้องดูแลโสกับลูกฉันก็จะทำ ฉันจะไม่ให้ใครมาทำร้ายโสกับลูกไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจ ถ้าเกิดว่าใครมันคิดไม่ดีกับโสฉันจะจัดการมันเอง”
“ขอบคุณนะ”
“ไปอยู่บ้านฉันนะ”
“เอ่อ...” ฉันอึกอักพร้อมกับทำท่าทางกระอักกระอ่วนใจ ฉันขึ้นชื่อว่าแต่งงานมีครอบครัวมีสามีแล้วจะให้ไปอยู่บ้านหลังเดียวกันกับแดเนียลมันก็คงจะไม่ใช่ฉันไม่ได้กลัวคนครหาว่าฉันเป็นผู้หญิงไม่ดีหรอกแต่ฉันกลัวผู้ชายที่แสนดีจะถูกครหาต่างหาก ฉันไม่อยากให้ผู้ชายที่แสนดีอย่างแดเนียลมาแปดเปื้อนเรื่องไม่ดีเพราะผู้หญิงอย่างฉัน
“ไม่หรอกค่ะ โสไปเช่าบ้านอยู่ดีกว่า”
“งั้นโสก็ไปเช่าบ้านฉันแล้วกัน”
“ไม่เอาค่ะ โสกลัวคนจะว่านายมากกว่า โสมีสามีมีลูกแล้วถ้าไปอยู่บ้านนาย โสกลัวว่าคนจะว่านาย โสไม่อยากให้ใครมาว่าคนดีๆแบบนาย”
“ถ้ามัวแต่สนใจคำพูดของคนอื่นชีวิตคงไม่มีความสุข บางทีโสก็ลองมองข้ามเรื่องพวกนั้นแล้วคิดตามคำพูดของฉันนะ อยู่กับฉันฉันสามารถดูแลโสได้ แต่ถ้าโสไปอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแลถ้าเกิดลื่นล้มใครจะช่วย ถ้าเกิดมีคนมาก่อกวนโสใครจะปกป้องโสล่ะ ต่อให้โสพยายามปฏิเสธฉันฉันก็ยังยืนยันหนักแน่นว่าจะให้โสไปอยู่กับฉันให้ได้”
“แดลเนียล ฮึก!”
“ฉันจะปกป้องโสเอง อย่ากังวลอะไร ต่อให้ใครมันพูดอะไรฉันก็ไม่แคร์ ว่าแต่โสยังคิดจะกลับไปหาไอ้ระยำโทมัสอีกไหม”
“ไม่ โสไม่มีวันกลับไปเป็นแบบเดิมได้อีก ถ้าหย่าขาดกับเขาได้ก็ยิ่งดี”
“งั้นโสไปอยู่กับฉันนะ ถ้าโสอยากหย่าก็บอกฉัน เดี๋ยวฉันจะให้ทนายประจำตระกูลจัดการเอง ถ้าโสกังวลใจเรื่องคนจะว่า ฉันจะพาไปอยู่บ้านที่ฉันเคยซื้อเอาไว้ เราจะอยู่กันแค่สองคนไม่ให้ใครมาวุ่นวายจะได้ไม่มีใครมาพูดให้เราเสียหาย” แดเนียลยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาพร้อมที่จะกางปีกปกป้องฉันเหมือนที่ปากของเขาพูด
“แล้วพ่อแม่แดเนียลท่านจะไม่ว่าเหรอ ที่เอ่อ...” ฉันเอ่ยถาม ถึงจะไปอยู่กันแค่สองคนแต่ยังไงพวกท่านก็ต้องรู้อยู่ดีว่าฉันกับเขาอยู่ด้วยกัน
“พ่อแม่ฉันไม่ว่าหรอก ท่านใจดีจะตาย”