“จะหาตัวไม่เจอได้ยังไงวะ!” กฤตินทุบโต๊ะด้วยความหัวเสีย เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ยังหาตัวผู้ชายคนนั้นไม่ได้สักที นอกจากจะหาตัวไม่เจอแล้วก็ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคนนั้นเลยแม้แต่น้อย รวมถึงพนักงานสองคนนั้นที่มาล็อกแขนของเขาเอาไว้ด้วย
มันไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเขาเลย
ร้านดอกไม้
หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น พอกฤตินเดินออกไปแล้วเธอก็รีบกลับเพื่อจะไปหาดีนทันที แต่ไม่ว่าจะเป็นที่โรงแรมนั้น หรือร้านดอกไม้ที่เขาทำงานประจำ แชมเปญก็ยังไม่พบกับดีนเลย
‘ขอให้เขาไม่เป็นอะไร’ หญิงสาวได้แต่ภาวนาในใจให้ดีนปลอดภัยจากคนอย่างกฤติน เพราะความจริงคือวันนั้นเธอเองก็สามารถพ้นจากเหตุการณ์ที่ถูกคุกคามได้เพราะเขาเช่นกัน และหากดีนเป็นอะไรแชมเปญก็คงจะรู้สึกผิดมากเหมือนกัน
“สวัสดีค่ะคุณแชมเปญ วันนี้ดีนยังไม่มาทำงานเลยค่ะ”
“ยังติดต่อเขาไม่ได้เลยเหรอคะ”
“ค่ะ...”
“แล้วปกติเขาเคยหายไปแบบนี้รึเปล่าคะ” ไฮโซสาวยังคงไม่ละความพยายาม แม้ว่าภายในใจของเธอตอนนี้จะรู้สึกกังวลมากก็ตาม
“ดีนเคยลาหยุดไปทำธุระบ้างค่ะ แต่ปกติจะแจ้งไว้ตลอดนะคะ ครั้งนี้ก็แปลกใจเหมือนกันที่เขาหายไปโดยไม่ได้บอกอะไรเลย”
“ปกติเขาจะลากี่วันคะ”
“ส่วนมากจะไม่เกินสามวันค่ะ”
แชมเปญกัดริมฝีปากอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงตัดสินใจที่จะอยู่รออีกคน “ฉันขออยู่รอที่นี่สักสองถึงสามชั่วโมงได้มั้ยคะ เผื่อว่าวันนี้เขาอาจจะมาทำงาน”
พนักงานทั้งสองคนมองหน้ากันเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าพวกเธอจะลำบากใจหากแชมเปญอยู่รอดีนที่นี่ แต่พวกเธอแค่สงสัยมากกว่าว่าทำไมคนระดับไฮโซสาวถึงได้ดูร้อนใจมากขนาดนี้ และระหว่างทั้งคู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
สุดท้ายแชมเปญก็นั่งรอดีนที่ร้านดอกไม้อยู่พักใหญ่จนกระทั่งคนที่เธอต้องการพบเดินเข้ามาในร้านด้วยชุดพนักงานอย่างเช่นทุกวัน
“เป็นยังไงบ้างคะ” ทันทีที่เห็นร่างสูงที่ต้องการเจอแชมเปญก็ตรงเข้าไปถามไถ่ด้วยความร้อนรน ต่างจากดีนที่ดูเหมือนเขาจะแปลกใจกับการกระทำของเธอในตอนนี้เสียมากกว่า
“คุณแชมเปญหมายถึงอะไรเหรอครับ?”
“ก็ที่คุณไปร้านอาหารวันนั้นไงคะ ไม่ได้บาดเจ็บหรือโดนทำร้ายมาใช่มั้ย”
“อ๋อ...วันนั้น”
แชมเปญขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะดูเหมือนว่าดีนจะมีท่าทีที่ผ่อนคลายมากเมื่อพูดถึงเหตุการณ์วันนั้น กลายเป็นเธอเสียอีกที่ดูจะเป็นกังวลมากกว่าเขา
“เราไปหาที่คุยกันแบบส่วนตัวดีมั้ยครับ” ดีนพูดกับเธออย่างใจเย็นแล้วเดินนำหญิงสาวไปที่ร้านกาแฟด้านข้าง ซึ่งพนักงานคนอื่นพอเห็นว่าเป็นแชมเปญก็ไม่กล้าจะเข้ามาขวางเหมือนกัน
“คุณไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ ใช่มั้ยคะ” พอมาถึงที่ร้านแชมเปญก็ถามออกไปทันที ทำเอาดีนหัวเราะออกมาเบา ๆ กับความใจร้อนของหญิงสาว
“คุณใจเย็นก่อนครับ ทำแบบนี้ผมเองก็ตกใจเหมือนกันนะ”
“ฉันมาหาคุณตั้งสองวันแล้วนะคะ แต่จู่ ๆ คุณก็หายไปหลังเหตุการณ์วันนั้น จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง”
“ผมไปจัดการธุระส่วนตัวมานิดหน่อยครับ ขอโทษถ้าทำให้คุณต้องเป็นห่วง”
แชมเปญนิ่งไปราวกับเพิ่งได้สติ เพราะเธอกับดีนเคยเจอกันแทบจะนับครั้งได้ แต่ตอนนี้เธอกลับเป็นฝ่ายล้ำเส้นเขาราวกับสนิทสนมกันมานาน
เธอคงกลายเป็นผู้หญิงแปลกในสายตาของเขาไปแล้ว
“ขอโทษค่ะ ฉันกังวลมากเกินไป...แต่ว่าหลังวันนั้นไม่มีเหตุการณ์อะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นกับคุณใช่มั้ยคะ? ฉันกังวลว่า...เขาคนนั้นอาจจะไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่าย ๆ”
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับผมครับ ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้ถือสา เพราะผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจ”
‘เป็นไปไม่ได้’
หญิงสาวนึกในใจพลางคิดถึงเรื่องในวันนั้นไปด้วย ว่ามันไม่มีทางเลยที่กฤตินซึ่งดูอารมณ์เดือดดาลในวันนั้นจะปล่อยผ่านทุกอย่างไปอย่างง่ายดาย แต่ว่าสุดท้ายภาพตรงหน้าของเธอในตอนนี้ก็ยืนยันแล้วว่ากฤตินไม่ได้มาตามเอาคืนดีนจริง ๆ
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย
“หรือคุณกับเขาเคยมีปัญหากันมาก่อนรึเปล่าคะ?”
“หึ...ถ้าผมมีปัญหากับใครจริง ๆ ผมคงไม่ใช้วิธีเอาคืนแบบนั้นหรอกครับ”
‘ต่อมาเป็นข่าวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนบ้างนะคะ มีรายงานว่าตำรวจได้ทำการเข้าจับกุมนายปกรณ์ เจ้าของโรงแรมย่านxx ที่ได้ทำการหลอกลวงผู้ร่วมลงทุนกว่า 10 ราย ทำให้สูญเงินไปกว่า 35 ล้านบาท เบื้องต้นทางผู้ต้องหาและลูกชายได้ทำการหลบหนีส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพลิกคว่ำอาการสาหัสเมื่อคืนนี้ค่ะ’
‘นี่ล่ะครับ สมัยนี้กลโกงน่ากลัวจริง ๆ นะครับ ขนาดเป็นคนที่คนส่วนมากให้ความเชื่อถือยังโกงกันได้เลย’
‘ใช่ค่ะ แต่ว่าสุดท้ายยังไงทุกคนก็ต้องได้รับผลการกระทำของตัวเองนะคะ...’
เสียงรายงานข่าวจากมือถือของพนักงานร้านกาแฟดังแว่วมาให้พอได้ยิน ซึ่งฟังดูอาจจะเป็นข่าวน่าสลดใจสำหรับบางคนต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุน่าสยดสยองเมื่อคืน ทว่ากลับเป็นข่าวที่ทำให้บางคนอารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้างในช่วงเช้าแบบนี้เช่นกัน
ดีนหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มเล็กน้อยโดยที่เขายังคงไม่ได้รีบร้อนจะปลีกตัวจากแชมเปญหากเธอยังคงไม่สบายใจเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่แบบนี้
“ฉันไม่ได้อยากจะทำให้คุณกังวลเลยนะคะ แต่ว่าถ้าช่วงนี้คุณระวังตัวไว้ก็น่าจะดีกว่า”
“คุณไม่ได้กำลังคบกับเขาอยู่เหรอครับ? พอดีวันนั้นผมไม่ทันได้สังเกตแต่เห็นว่าพวกคุณนั่งทานอาหารด้วยกันแค่สองคน”
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันกับเขาไม่ได้คบและไม่ได้ชอบกันด้วย” แชมเปญรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
“งั้นคุณสบายใจได้เลยครับ เพราะผมมั่นใจว่าตัวเองจะไม่เป็นอะไร กลับกันคนที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดก็คือคุณต่างหาก”
ในตอนแรกแชมเปญเองก็พอจะเข้าใจความหมายที่ดีนบอกได้ เพราะเธอก็พอจะรู้ว่าชีวิตของเธอน่าเป็นห่วงขนาดไหน แต่เธอเองก็คิดไม่ถึงว่ากฤตินจะทำแบบนี้เหมือนกัน
“คิดจะเล่นตัวไปถึงเมื่อไหร่? ฉันเบื่อที่จะต้องแสดงละครตามเธอแล้วนะ” กฤตินบีบที่แขนของหญิงสาวอย่างแรงจนเธอเบ้หน้า แต่ถึงอย่างนั้นแชมเปญก็ยังคงตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว เพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองยังไม่ได้หมดหนทางขนาดนั้น อย่างน้อยในตอนนี้กฤตินก็ไม่สามารถจะทำอะไรตามใจตัวเองได้เหมือนที่เขาเคยทำกับผู้หญิงคนอื่น
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันมีคนรักอยู่แล้ว คุณจะลดตัวมายุ่งกับคนมีแฟนแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ?”
“คิดว่าฉันโง่รึไง หรือเห็นฉันกระจอกขนาดจะไม่รู้ประวัติของเธอ”
“บอกมาว่าเธอรู้จักกับไอ้เวรนั่นใช่มั้ย!” เพราะยังไม่สามารถจะหาตัวผู้ชายคนนั้นเจอได้ กฤตินเลยคลุ้มคลั่งมากกว่าเดิม แต่ระหว่างที่เขากำลังตามหาตัวคนที่มาหาเรื่องเขาอยู่ ชายหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนเดียวกับที่มาขัดขวางเขากับแชมเปญในวันงานเลี้ยง
ซึ่งแชมเปญเองก็อาจจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนั้นเหมือนกัน
“ฉันไม่รู้จักเขาค่ะ ต่อให้คุณจะถามอีกกี่ครั้งฉันก็จะตอบแบบเดิม”
“รู้ใช่มั้ยว่าที่ฉันบ้าแบบนี้เพราะใคร แต่เธอก็ยังโกหกฉันอยู่”
“หรือไอ้เวรนั่นเป็นผู้ชายที่เธอเคยนอนด้วยงั้นเหรอ?”