“ฉันแค่รู้สึกคุ้นหน้าคุณน่ะค่ะ” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกประหม่าขึ้นมาเหมือนคนที่ทำความผิด แต่พอเห็นคิ้วที่ขมวดของชายหนุ่ม เธอก็ต้องรีบอธิบายเพิ่มออกไป
“ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่แค่ไม่กี่เดือนเองครับ ตั้งแต่ที่จำความได้ก็อยู่ต่างจังหวัดกับแม่มาตลอดเลย”
“เป็นลูกครึ่งเหรอคะ?”
“คุณแชมเปญดูสนใจเรื่องของผมจังเลยนะครับ “
แชมเปญมองลึกเข้าไปยังนัยน์ตาสีเทาที่สะท้อนความสุขุมออกมา แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะติดเล่นไม่ได้จริงจังก็ตาม แต่ก็ทำให้คนฟังไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน
” ผมแค่รู้สึกดีใจที่คนระดับคุณสนใจผมแค่นั้นเองครับ “ดีนหลุดหัวเราะออกมาทำลายความเงียบก่อนจะตอบกลับไป
“ครับ พ่อผมเป็นคนเดนมาร์กส่วนแม่เป็นคนไทยครับ"
"ถ้าคุณแชมเปญไม่มีอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ คิดว่าคงจะต้องรีบไปเปลี่ยนของที่เพิ่งแตกไปก่อนจะโดนจับได้แล้ว" ดีนส่งยิ้มให้ไฮโซสาวเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหมุนตัวกลับไปทำให้ใบหน้าของเขากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
“ดูมันอยากได้คุณแชมเปญมากเลยนะครับ” ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่เอ่ยออกมาตามความคิดหลังเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ดีแลนกลับยังคงมีสีหน้าที่นิ่งเรียบเช่นเดิม
สิ่งหนึ่งที่ทำให้มาเฟียหนุ่มต่างจากคนอื่นคงเป็นความคิดที่คาดเดายากของเขา ซึ่งดูจากการที่แชมเปญเชื่ออย่างสนิทใจว่าผู้ชายที่เจอกันเป็นเพียงพนักงานธรรมดานั่นก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้แล้ว
“ผู้หญิงที่ได้มายาก มันก็ต้องน่าสนใจกว่าคนอื่นเป็นธรรมดา”
"แต่ว่านายจะให้ผมช่วยจัดการให้มั้ยครับ เพราะถ้าคนอย่างมันสนใจใครแล้วก็ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่มันไม่ได้ไปเลย"
"มึงไม่ต้องยุ่ง เพราะกูจะเป็นคนจัดการเอง"
พอได้ยินแบบนั้นลูกน้องก็ก้มหัวรับคำสั่งจากเจ้านายของตนแล้วเดินเลี่ยงออกไป จนเหลือแค่ 'ดีน' พนักงานของร้านดอกไม้ธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น
หลังจากที่สามารถพ้นจากกฤตินมาได้ในตอนนั้น แชมเปญก็แอบปลีกตัวออกมาจากงานเงียบ ๆ จนมาถึงคอนโดในที่สุด หญิงสาวทิ้งตัวลงบนโซฟากลางห้องนั่งเล่นพลางกัดริมฝีปากเบา ๆ อย่างใช้ความคิด
เธอไม่คิดเลยว่าจะเจอกับคนอันตรายแบบนั้นเร็วขนาดนี้ เพราะความจริงแล้วเพื่อนของเธอที่อยู่ไทยก็เคยเตือนถึงลูกของนักการเมืองที่มีประวัติด้านผู้หญิงแบบนี้เหมือนกัน และที่หนักสุดคงเป็นนางแบบสาวที่เคยมีข่าวกับกฤตินอยู่ช่วงหนึ่งแล้วหายตัวไปอย่างปริศนา ทำให้แชมเปญไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้เลย
หากพ่อของเธอมาด้วยกฤตินคงไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามขนาดนี้
“แต่เขารู้จักเราได้ยังไง...”
ไม่กี่วันต่อมา
“ทำตัวตามสบายกันเลยนะ ไม่ต้องเกร็งเพราะฉันมาด้วยหรอก”
ความกังวลของแชมเปญทวีคูณยิ่งกว่าเดิม และมันก็ช่วยยืนยันได้ว่าตอนนี้เธอได้เป็นหนึ่งในเป้าหมายของกฤตินแล้ว จากการที่ยศพลพ่อของกฤตินได้กลายมาเป็นลูกค้ารายใหญ่ร้านเพชรของเธอภายในไม่ถึงเวลาหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นหลังจากงานวันนั้น ทำให้เธอและพี่ชายต้องมาร่วมมื้อค่ำแบบวันนี้
“พี่นนท์ น้องอึดอัดจริง ๆ นะ”
“พี่เข้าใจ แต่อดทนอีกสักพักแล้วเราค่อยขอตัวกลับก็ได้ เดี๋ยวพี่จะอยู่ดื่มต่อให้เอง” ชานนท์กระซิบบอกน้องสาวให้พอได้ยินกันสองคนจากการที่มีบอดี้การ์ดอยู่ทุกจุดของร้านอาหาร ซึ่งเขาดูออกตั้งแต่ที่เห็นแชมเปญไม่ค่อยกินอะไรแล้ว เลยขอตัวออกมาข้างนอกเพื่อจะอยู่ข้าง ๆ น้องสาวของเขา
ถึงชานนท์จะเพิ่งกลับมาจากดูงานต่างประเทศเมื่อคืน แต่เขาก็พอจะรู้สึกได้ว่าระหว่างกฤตินและแชมเปญมีอะไรแปลกไป
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่แชมเปญจะรู้จักกับคนอันตรายที่มีข่าวเสียหายเรื่องผู้หญิงแบบนั้น แต่เพราะอีกฝ่ายมีทั้งเงินทั้งอำนาจ ชานนท์จึงไม่สามารถจะปฏิเสธออกไปตามใจได้
“ขอโทษครับ พอดีงานมีปัญหานิดหน่อย พวกเราเลยออกไปนานเลย” ชานนท์ยิ้มและบอกด้วยเสียงสุภาพพร้อมกับหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามยศพลไปด้วย
“อีกหน่อยทั้งสองคนคงมารับช่วงต่อจากคุณบุญชัยสินะ อย่างว่าแหละเด็กรุ่นใหม่คงทำให้ธุรกิจไปไกลมากกว่าเดิม”
“เรื่องนี้จริงครับ เพราะแค่ผมเห็นคุณแชมเปญวันนั้น ผมก็ตัดสินใจว่าต่อไปนี้จะซื้อเพชรแค่ร้าน Cara ร้านเดียวเท่านั้นเลย” กฤตินช่วยเสริมคำพูดของคนเป็นพ่อ แต่แชมเปญกลับรู้สึกคลื่นไส้มากกว่ารู้สึกดี โดยเฉพาะตอนที่เขาสบตากับเธอด้วยแววตากรุ้มกริ่มซึ่งบ่งบอกถึงเจตนาชัดเจน
“ว่าแต่ทำไมคุณแชมเปญไม่ค่อยทานอะไรเลยล่ะครับ หรือว่าร้านอาหารที่ผมเลือกไม่ถูกปากรึเปล่า?”
“แชมเปญไม่ค่อยสบายน่ะครับ น้องบอกผมตอนออกไปคุยงาน แต่เพราะยังพอทนได้เลยไม่ได้บอกท่าน” ชานนท์ช่วยแทรกก่อนที่สถานการณ์จะแย่ลง ทำให้ยศพลเอ่ยออกมา
“ของแบบนี้จะทนได้ยังไงล่ะ ถ้ารู้สึกไม่สบายก็กลับก่อนได้เลยนะ ฉันไม่ถือสาหรอก”
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งเองครับ”
กลับกลายเป็นทั้งแชมเปญและชานนท์ที่ชะงักไปตอนกฤตินโพล่งออกมา
ทุกอย่างกำลังจะดีแล้วถ้าไม่มีคนที่พยายามจะยัดเยียดตัวเองขนาดนี้ แต่แทนที่จะรู้สึกไม่สบอารมณ์ชานนท์กลับรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาต่อสิ่งที่น้องสาวของเขาจะต้องเจอหากบังเอิญไปเข้าตาผู้ชายคนนี้จริง ๆ ซึ่งตอนนี้กฤตินเองก็กำลังแสดงออกแบบนั้นอยู่อย่างชัดเจน
“ขอโทษครับท่าน แต่ว่าทางเรามีคนขับรถมาด้วยอยู่แล้วครับ อีกอย่างผมคิดว่าอาจจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ทั้งกับน้องสาวผมและคุณกฤตินด้วยน่ะครับ”
“เดี๋ยวแชมเปญรอกลับพร้อมกับพี่นนท์ก็ได้ค่ะ ตอนนี้ยังพอไหวอยู่”
“ไม่ต้องหรอก ให้คนขับรถไปส่งนั่นแหละ ขอโทษแทนลูกชายฉันด้วยที่คิดน้อยไปว่าฝ่ายผู้หญิงจะเสียหายได้”
กฤตินขบกรามอย่างไม่สบอารมณ์ตอนที่โดนคนเป็นพ่อตำหนิต่อหน้าคนอื่น ทำให้ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เขาพลาดโอกาสในการใกล้ชิดกับแชมเปญไป
“พ่อไม่ควรจะปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปแบบนั้นนะ”
“แล้วจะให้ฉันเสียชื่อเสียงไปกับความสิ้นคิดของแกรึไง ครอบครัวนั้นไม่เหมือนกับพวกดารานางแบบที่แกจะหิ้วไปไหนมาไหนได้ง่าย ๆ หรอกนะ” ยศพลปรามลูกชาย เพราะหลังจากที่แชมเปญกลับไปกฤตินก็แสดงออกชัดเจนว่ารู้สึกไม่พอใจแค่ไหน จนเขาต้องเป็นฝ่ายขอตัวกลับมาก่อนแบบนี้
“ก็แค่ไปส่งจะเล่นตัวทำไมวะ จบตั้งเมืองนอกคงผ่านมาตั้งหลายคนแล้วแค่รับเพิ่มอีกสักคนแค่นี้ทำเป็นหวงตัวไปได้” กฤตินสบถออกมาอย่างหัวเสีย
“ก็คงกลัวว่าจะมีผลกับทางบ้านมากกว่า แต่ว่าไม่นานคงยอมเองนั่นแหละ หึ คงเล่นตัวเพิ่มราคาให้ตัวเองได้ไม่กี่วันหรอก”
“แต่ฉันสงสัยจริง ๆ นะว่าผู้หญิงคนนี้ทำให้แกถูกใจมากขนาดไหนถึงได้ชวนฉันมาด้วยแบบนี้ ปกติไม่เคยเห็นแกจะทุ่มให้ใครเท่านี้เลย”
“...หรือว่าคนนี้จะมาเป็นลูกสะใภ้ของฉัน?”