ตอนที่ 4 หนีการไล่ล่า

1931 คำ
“ห๊ะ!” ลุงขับแท็กซี่อ้าปากเหวอ มาอิหรอบนี้รถของเขาจะอยู่รอดปลอดภัยไหมเนี่ย ร่างของเดวาก้าวข้ามมายังเบาะด้านหน้า ก่อนจะย้ายมานั่งฝั่งทางคนขับด้วยความทุลักทุเล “ลุง เขยิบไปสิ ปล่อยคันเร่งเลย เร็วเข้า!” “ครับ ๆ” ดาร์เรนนั้นได้แต่มองความโกลาหลเบื้องหน้าด้วยแววตานิ่งเฉย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ลดปืนลงเรียบร้อยแล้ว มือล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงสั่นของมัน ข้อความสั้น ๆ สามประโยคนั้นถูกส่งเข้ามา จงลี้ภัย... และทันทีที่ขับพ้นตรอกแคบออกมาได้ก็กลับสู่ทางหลวงอีกครั้ง ถนนในย่านเมืองนิวยอร์กเวลานี้ยังคงเต็มไปด้วยรถรา ถึงจะไม่มากเท่าช่วงกลางวันแต่มันก็ทำให้เดวาไม่สามารถขับฝ่าไปได้เร็วมากนัก เสียงดังสนั่นหวั่นไหวของปืนที่ไล่ตามมาทำให้เธอรู้ว่ายังคงหนีไม่พ้นจากพวกกลุ่มคนชุดดำ ดวงตากลมโตเหลือบมองกระจกด้านหลังก็เห็นว่าดาร์เรนนั้นแทบจะไม่ได้สติแล้ว เท้าจึงเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นไปอีก ยังไงเธอก็ต้องหนีให้รอด จะมาตายแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่เพราะดันบังเอิญมายุ่งเรื่องของคนอื่นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจแบบนี้ไม่ได้นะ เธอยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลย ปัง!! ปัง!! ปัง!! เสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด ตามมาด้วยเสียงหวีดร้องและเสียงบีบแตรรถของคนในละแวกนั้น มีหลายคันที่หักหลบกะทันหันและเสียหลักจอดนิ่งสนิทอยู่ข้างทาง แต่ถึงอย่างนั้นเดวาก็ยังคงเหยียบคันเร่งต่อไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อย่างที่บอกเธอเองก็พอจะคุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้ดี พวกมาเฟีย... พวงมาลัยเลี้ยวหลบกระสุนได้อย่างชำนาญ แต่ทว่าการตามล่าก็ยังไม่สิ้นสุด รถเก๋งสีดำสองคันยังคงไล่ตามมา “นี่คุณ! แล้วไอ้คฤหาสน์บาร์เนทท์นั่นมันไปทางไหนล่ะ” เดวาหันไปตะโกนถามคนที่อยู่ด้านหลัง ถึงจะพอเคยได้ยินชื่อของบาร์เนทท์ ช่อว์ คอร์ปอเรชั่น มาบ้างแต่เธอก็ไม่รู้ว่าไอ้คฤหาสน์นั่นมันตั้งอยู่ที่ตรงไหน “ไปนิวเจอร์ซีย์” แต่ทว่าคราวนี้คำตอบที่ถูกส่งกลับมาก็ทำให้เธอถึงกับต้องร้อง ‘ห๊ะ’ เหมือนกัน “ห๊ะ? ไปไหนนะ” เดวาถามย้ำอีกครั้ง “ขับไปที่นิวเจอร์ซีย์” รัฐนิวเจอร์ซีย์เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ โดยอยู่ติดกับรัฐนิวยอร์กประมาณสามสิบสองกิโลเมตร หรือยี่สิบสามจุดหกไมล์ และถ้าจะขับรถไปก็ต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงสี่สิบนาทีโดยประมาณ “โถ่พวกคุณ เห็นใจผมเถอะนะ ผมคนหาเช้ากินค่ำ แล้วนี่รถผมก็ไม่รู้โดนรอยกระสุนไปตั้งเท่าไรแล้ว จะกลับมาวิ่งได้อีกไหมผมก็ยังไม่รู้เลย” ลุงขับแท็กซี่โอดครวญ แค่เอารถของเขามาวิ่งหลบกระสุนแบบนี้เขาก็แทบจะร้องไห้แล้ว นี่ยังจะให้วิ่งไปถึงนิวเจอร์ซีย์อีกเหรอ “ห้าหมื่นดอลลาร์ ฉันจะให้เป็นค่าจ้างหลังจากที่นายไปส่งฉันถึงที่หมายแล้ว” คำพูดของดาร์เรนทำให้ชายขับรถแท็กซี่ถึงกับชะงัก สมองก็ทำการประมวลผลอย่างรวดเร็วทันทีว่าเงินค่าจ้างที่จะได้รับมามันคุ้มค่ากับชีวิตที่ต้องเสี่ยงขนาดนี้ไหม และท้ายที่สุดแล้วก็ได้คำตอบว่า... “ตกลงครับ! ถ้างั้นเดี๋ยวเอารถของผมไปส่งพวกคุณก็ได้” เดวาหันมองชายวัยกลางคนอย่างไร้วาจาจะกล่าว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเหยียบคันเร่งต่อไป ก็เธอมีทางเลือกซะที่ไหนกันล่ะ ให้จอดรถแล้วลงไปเลยตอนนี้ก็คงจะไม่รอดเหมือนกัน แล้วอีกอย่างสถานการณ์มันก็นำพามาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ได้วะ! เอาไงก็เอากัน จะถือซะว่าเธอช่วยเหลือลูกนกลูกกาตาดำ ๆ แล้วกัน ไปถึงที่นั่นเมื่อไรก็ค่อยแยกทางแล้วกลับไปทำตามแพลนท่องเที่ยวที่วางไว้ต่อก็ได้ รถแท็กซี่ยังคงพุ่งทะยานต่อไปโดยที่ด้านหลังก็ยังคงมีรถเก๋งสีดำอีกสองคันที่ตามมา เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เดวาตบพวกมาลัยรถเบา ๆ อย่างพยายามคิดหาทางออก ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเขาคงไม่รอดแน่ ยังไงก็ต้องหาทางสลัดพวกมันให้หลุด การไล่ล่ายังคงดำเนินต่อมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงเส้นทางที่จะออกไปสู่รัฐนิวเจอร์ซีย์ เสียงสัญญาณเตือนของรถไฟพร้อมกับที่กั้นค่อย ๆ เคลื่อนลงมาช้า ๆ ทางด้านขวาคือขบวนส่งสินค้าที่กำลังแล่นมาด้วยความเร็วสูง “ดะ เดี๋ยวนะนังหนู นี่คิดจะทำอะไร” ลุงขับแท็กซี่จับสายคาดเบลท์ไว้แน่นเมื่อรู้สึกได้ถึงความเร็วรถที่เพิ่มขึ้นแทนที่จะชะลอลง และอีกไม่กี่ร้อยเมตรข้างหน้ารถของพวกเขาก็จะชนเข้าปะทะกับราวกั้นรถไฟ “ทุกคน จับไว้ให้แน่น ๆ ล่ะ” เดวาเอ่ยบอกกับคนในรถ จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ เอาน่า เธอต้องทำได้เดวา อย่าให้เสียชื่อพ่อแม่และโคตรเหง้าวงศ์ตระกูลที่ให้กำเนิดมา ดาร์เรนไม่ได้คิดจะเอ่ยปากห้ามปราม เขารู้ว่าหญิงสาวกำลังจะทำอะไร ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้แต่ก็อดทึ่งในใจ เงียบ ๆ ถึงความบ้าระห่ำของเดวาไม่ได้ หึ... น่าสนใจดีนิ ฝ่าเท้าของเดวาเหยียบคันเร่งจนมิดพร้อมกับปรับเข้าเกียร์อีกครั้ง ดวงตากลมโตมองไปด้านหน้าด้วยสายตาแน่วแน่ “เฮ้ยยย! ชนแน่!” ลุงขับแท็กซี่แหกปากลั่นพร้อมกับยกมือขึ้นมากันที่หน้าของตัวเองโดยอัตโนมัติ รถแท็กซี่พุ่งฉิวไปด้านหน้าราวกับจรวดนาซ่าที่เคลื่อนตัวออกจากกระสวยอวกาศ และอีกเพียงไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรมันก็จะปะทะชนเข้ากับขบวนรถส่งสินค้าที่แล่นมา อีกห้าสิบเมตร... อีกสามสิบเมตร... อีกสิบเมตร... โครม! บึ้ม! เสียงรถที่ปะทะเข้ากับราวกั้นอีกทั้งทะลุมาเจาะคาช่องของขบวนรถไฟทำให้มันถูกลากไปตามราง เกิดประกายไฟอย่างหนักเพียงชั่วครู่ก่อนมันจะระเบิดลุกไหม้จนควันไฟพวยพุ่ง แต่ทว่ารถคันที่ระเบิดกลับไม่ใช่รถแท็กซี่คันสีขาวแต่กลับเป็นรถเก๋งคันสีดำด้านหลังที่ตามมา อีกคันหนึ่งระเบิดลุกไหม้แถมยังถูกลากไปไกล ส่วนอีกคันยังคิดแหง่กอยู่อีกฝั่งไม่สามารถข้ามตามมาได้ “พระเยซูคริสต์ พระแม่มารีย์โปรดช่วยลูกด้วย ลูกยังไม่อยากตาย” ชายวัยกลางยังคงนั่งหลับตาปี๋พร้อมกับสวดภาวนาอ้อนวอน “คุณลุงคะ” เดวาเอ่ยเรียกคนด้านข้าง “คุณลุงคะ ลืมตาได้แล้วค่ะ พวกเราปลอดภัยแล้ว” ลุงแท็กซี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ และเมื่อเห็นว่ารถยังคงแล่นต่อไปได้โดยที่ไม่เกิดอะไรขึ้นก็รีบหันกลับไปมองด้านหลัง ควันไฟและเพลิงไหม้ยังคงลุกท่วมเห็นได้ชัดมาจากที่ไกล ๆ “โอ้! นังหนูนี่ตีนผีสุดยอดจริง ๆ เลยให้ตายเถอะแม่เจ้าโว้ย!” เสียงร้องอุทานเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้นระคนโล่งใจ เดวาหันมาส่งยิ้มแฉ่งให้ เธอเองก็ไม่ได้คิดจะถ่อมตัวหรอกนะ “มันแน่อยู่แล้วค่ะลุง ฝีมือระดับหนูรับรองหายห่วง” ดาร์เรนมองคนทั้งสองตรงหน้าที่กำลังหัวเราะร่าอย่างชอบอกชอบใจ ชายหนุ่มเองก็แอบถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ ตอนนี้พวกเขาคงหนีพ้นแล้ว อย่างน้อยก็น่าจะปลอดภัยจนกว่าจะไปถึงนิวเจอร์ซีย์ ดวงตาคมเข้มจึงค่อย ๆ หลับลงด้วยความอ่อนล้าโดยฝากชีวิตไว้กับคนแปลกหน้าอีกสองคน ใช้เวลาเพียงไม่นานมากพวกเขาก็มาถึงรัฐนิวเจอร์ซีย์จนได้ เดวาขับรถไปจอดยังโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากทางหลวงหน่อย ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะต้องพาชายหนุ่มนั้นไปที่ไหน ครั้นจะหันไปถามก็เห็นว่าคนบาดเจ็บนั้นหมดสติไปแล้ว เธอจัดการเข้าเช็คอินที่พักในชื่อของเธอ พร้อมกับวานให้ลุงขับแท็กซี่ช่วยพาร่างของดาร์เรนเข้ามาส่งที่ห้องพัก จากนั้นก็หยิบนามบัตรที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทของชายหนุ่มมายื่นให้คุณลุง “โอ๊ะ! ตระกูลบาร์เนทท์” เมื่อเห็นรายละเอียดที่อยู่ในนามบัตรชายวัยกลางคนก็อุทานออกมา เพราะแทบจะไม่มีใครในอเมริกานี้ไม่รู้จักตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่และผลิตอาวุธสงครามอย่างบาร์เนทท์ ช่อว์ คอร์ปอเรชั่น “ก็อย่างที่เห็นว่าตอนนี้เขาบาดเจ็บหนักมาก คงต้องรอให้เขาฟื้นก่อนถึงจะมาจ่ายค่าจ้างให้ลุงได้นะ” เดวายกมือขึ้นมาปาดเหงื่อหลังจากที่จัดการถอดชุดสูทสีดำสนิทออกให้ร่างสูงแล้ว “ได้ ๆ ไม่เป็นไร เอาไว้ลุงค่อยติดต่อไปทีหลังก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ต้องการอะไรอีกหรือเปล่า” ชายคนขับรถพยักหน้าหงึกหงัก เขาไม่กลัวอยู่แล้วว่าตัวเองจะถูกเบี้ยวค่าจ้าง เพราะยังไงคนที่เขาช่วยไว้ก็เป็นถึงทายาทของตระกูลบาร์เนทท์ เดวาเดินไปยังหน้าต่างแล้วแง้มม่านเปิดออก ดวงตากลมโตสอดส่องมองไปยังด้านล่างจนทั่ว สถานการณ์ตอนนี้ยังคงดูปกติ ไม่มีพวกคนท่าทางน่าสงสัยมาป้วนเปี้ยน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไว้ใจไม่ได้ พวกนั้นสามารถลอบสังหารและไล่ล่าจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดได้ขนาดนี้ มันคงไม่ยอมรามือไปง่าย ๆ หญิงสาวเดินกลับไปที่เตียงนอนอีกครั้ง เธอจัดการถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปรอะชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสดออก จากนั้นก็รีบสำรวจดูอาการบาดเจ็บทันที กระสุนหนึ่งนัดถูกยิงเข้าที่สีข้าง แม้จะไม่ฝังในเพราะกระสุนนั้นทะลุออกไปแล้วแต่ก็เป็นบาดแผลฉกรรจ์ ถ้าไม่รีบใส่ยาหรือว่าได้รับการรักษาก็น่าจะเป็นอันตรายอยู่เหมือนกัน “ทำไงดี ให้พาไปโรงพยาบาลก็คงไม่ได้อีก” เดวาพึมพำกับตัวเอง เพราะยังไงแล้วถึงเธอจะช่วยทำแผลได้บ้างแต่บาดแผลขนาดนี้ก็ต้องได้รับการรักษาที่ถูกวิธีอยู่ดี เอาเถอะ... ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นเหมือนกัน เดวานิ่งคิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเดินไปหากระดาษแผ่นเล็ก ๆ และหยิบปากกาในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาจดอะไรบางอย่างลงไป ใช้เวลาไม่นานนักเธอก็ยื่นมันไปให้กับลุงขับแท็กซี่ “คุณลุงช่วยไปที่ร้านขายยาแล้วซื้อของพวกนี้มาให้หนูทีนะคะ” “หนูจะ...” “หนูจะช่วยทำแผลให้เขาก่อนค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม