หลังจากที่ลุงขับแท็กซี่ออกไปหาซื้อของตามคำสั่งของเธอแล้ว เดวาก็จัดการหาผ้าขนหนูสะอาด ๆ ที่พอหาได้ในห้องพักมาชุบน้ำแล้วเช็ดคราบเลือดออกจากบาดแผลให้
ดวงตากลมโตเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงนอนหลับไม่ได้สติ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาดัง ๆ เฮ้อ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ทำไมเธอต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย คงต้องโทษความเป็นคนดีของเธอล่ะนะที่ทนปล่อยให้ใครตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้
มือเล็กยังคงใช้ผ้าขนหนูลูบไล้ไปตามแผ่นอกแกร่งช้า ๆ ใบหน้าสวยหวานของเดวาได้แต่ก้มมองรูปร่างสมส่วนกับมัดกล้ามหนาของคนตรงหน้านิ่ง เผลอคิดไปเรื่อยเปื่อยว่าถ้าได้ลูบไล้สัมผัสมันตรง ๆ สักครั้งก็คงดี
และจู่ ๆ แก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ นี่เธอจะบ้าไปแล้วเหรอเดวา! คิดอะไรของเธออยู่เนี่ย
ร่างเล็กสะบัดหัวไปมาเล็กน้อยเพื่อสลัดความคิดฟุ้งซ่าน ก่อนจะพลิกร่างของชายหนุ่มให้หันข้างขึ้นมาอีกนิด ดูเหมือนว่าเลือดนั้นจะหยุดไหลลงไปบ้างแล้ว
เดวาสำรวจอาการบาดเจ็บอื่น ๆ อีกสักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นเพื่อจะเดินกลับไปยังห้องน้ำเอาผ้าไปล้าง แต่แล้วเสียงสั่นจากโทรศัพท์มือถือของใครบางคนก็ดังขึ้นอีกครั้ง และแน่นนอนว่ามันไม่ใช่ของเธอ...
เป็นของผู้ชายคนนั้น?
เดวามองซ้ายมองขวาอย่างชั่งใจ เอาน่า... คงไม่ถือว่าเสียมารยาทหรอกมั้ง เพราะถ้าเกิดว่ามีคนของทางนั้นติดต่อมาเธอก็จะได้แจ้งว่าอยู่ที่ไหนได้ แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่สายเรียกเข้าแต่เป็นข้อความที่ถูกส่งเข้ามาแทน
แผนที่?
ไปกบดานอยู่ที่บ้านพักบนเกาะก่อน ที่นั่นปลอดภัย เมื่อทางนี้เคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะรีบส่งคนไปรับกลับ
ข้อความมีเพียงสั้น ๆ เท่านั้น
เดวาขมวดคิ้วมุ่น นี่หมายความว่าพวกเธอยังไม่ปลอดภัยงั้นเหรอ แล้วไอ้เกาะนี่มันอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย ในขณะที่กำลังเคร่งเครียดกับไอ้แผนที่ที่ถูกส่งมาก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ลุงขับแท็กซี่นั้นกลับมาพอดี
“นังหนู เมื่อกี้ที่ลุงออกไปซื้อของ ตอนขากลับมาเจอไอ้พวกกลุ่มคนชุดดำเดินอยู่ด้านล่างให้ว่อนเลย หรือว่าพวกมันจะตามเรามาถูก”
เดวาไม่รอช้ารีบเดินไปแหวกผ้าม่านดู... ใช่จริง ๆ ด้วย ด้านล่างที่เธอเห็นนั้นมีผู้ชายชุดดำสองคนกำลังเดินไปเดินมาพร้อมกับชูรูปถ่ายในมือให้คนที่ยืนอยู่แถวนั้นดู
“น่าจะใช่นะคะคุณลุง แต่หนูคิดว่าตอนนี้พวกมันยังไม่รู้ว่าเราอยู่ที่นี่” เดวาตอบเสียงเรียบ สีหน้าของหญิงสาวในตอนนี้เริ่มจะดูเคร่งเครียดขึ้นมาบ้างแล้วจริง ๆ
“แล้วเราจะทำยังไงกันดี”
“ตอนนี้เราต้องทำแผลใส่ยาให้เขาก่อนค่ะ จากนั้นหนูคงจะต้องรบกวนคุณลุงให้ไปส่งพวกเราที่ท่าเรืออีกรอบ”
“ท่าเรือ?”
“ค่ะ” มาถึงตอนนี้เดวาตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยให้ถึงที่สุด ไหน ๆ ก็ตกกระไดพลอยโจรมาแล้ว จะให้ทิ้งไปกลางคันแบบนี้มันก็ไม่ใช่เธอ
อุปกรณ์และยาต่าง ๆ ถูกซื้อหามาได้ครบถ้วน หลังจากนั้นการทำแผลง่าย ๆ ที่เดวาพอจะทำได้จึงเริ่มขึ้น เวลาผ่านไปเพียงไม่นานเธอก็จัดการใส่ยาและพันผ้าพันแผลให้ชายหนุ่มเสร็จ แขนเล็กยกขึ้นมาปาดเหงื่อที่หน้าผากเบา ๆ
“เขาปลอดภัยแล้วเหรอ” ชายวัยกลางคนผู้ร่วมชะตาเดียวกันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงพร้อมกับชะโงกหน้าเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มด้วย
“ก็น่าจะปลอดภัยนะคะ ถ้าไม่มีอะไรอย่างอื่นแทรกซ้อน แต่ก็น่าจะมีไข้แน่ ๆ”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า “แล้วจะไปกันเลยไหม ลุงจะได้ไปส่งที่ท่าเรือ”
“ค่ะ ไปกันเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าดึกขนาดนี้แล้วจะหาเรือได้ไหม” ถึงจะเป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจและขึ้นชื่อเรื่องประชากรหนาแน่นแต่ตอนนี้มันก็ดึกมาก และเธอเองก็เหนื่อยจนตาแทบจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่อยู่แล้ว
“ไม่ต้องห่วง ลุงพอมีพรรคพวกอยู่ที่นี่ ยังไงหาเรือให้นังหนูกับพ่อหนุ่มได้แน่”
ต้องขอบคุณสกิลการเลือกขึ้นแท็กซี่ของเธอนะเนี่ยที่ทำให้เธอเลือกขึ้นมาถูกคัน และแน่นอนว่าพวกเธอนั้นติดหนี้บุญคุณชายวัยกลางคนตรงหน้าแล้วอย่างปฏิเสธไม่ได้
เมื่อจัดการหาเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ให้คนบาดเจ็บเรียบร้อยแล้วเดวากับลุงขับแท็กซี่ก็ช่วยกันประคองร่างของดาร์เรนกลับมานั่งในรถ จนถึงตอนนี้แล้วชายหนุ่มก็ยังไม่ได้สติขึ้นมา ข้าวของจำเป็นเล็กน้อยถูกซื้อหาตามซุปเปอร์มาเก็ตที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง จากนั้นรถแท็กซี่คันสีขาวก็มุ่งหน้าสู่ท่าเรือนวร์ก (Newark) หรือท่าเรือนิวอาร์ก
ใช้เวลาเพียงไม่นานมากพวกเขาก็ได้เรือ... เป็นเรือประมงลำขนาดกลางที่สภาพดูเก่าแก่ใช้ได้ แวบแรกที่เดวาเห็นก็ถึงกับหวีดร้องในใจว่าเจ้าเรือสังกะสีนี่มันจะพาพวกเธอไปถึงเกาะส่วนตัวของตระกูลบาร์เนทท์ได้แน่ ๆ ใช่ไหม
“ไม่ต้องห่วง ถึงมันจะดูโทรมไปหน่อย แต่ก็อึดใช่เล่น ยังไงก็โต้คลื่นพาพวกหนูไปส่งได้ถึงที่แน่ ๆ” ชายอีกคนที่อายุน่าจะใกล้เคียงกันกับลุงขับแท็กซี่พูดขึ้นยิ้ม ๆ เมื่อเห็นสายตาที่เดวามองเรือของเขา ทั้งผมและเคราดกเป็นสีขาวสีเดียวกัน
“แหะ ๆ ค่ะ” เดวายิ้มแห้งแก้เก้อ จากนั้นก็หันไปทางคุณลุงขับแท็กซี่ที่พาพวกเธอมาส่ง “ขอบคุณคุณลุงมากนะคะ สำหรับทุกอย่าง”
“ฮ่า ๆ ๆ ไม่เป็นไรหรอก แค่ไอ้หนุ่มนั่นฟื้นขึ้นมาแล้วอย่าลืมเตือนเรื่องค่าจ้างของลุงก็พอ”
“ค่ะ คุณลุง เดี๋ยวถ้าเขาฟื้นหนูจะเตือนย้ำเขาให้แน่นอน” เดวารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ
“อ่ะ นี่เบอร์โทรของลุง ถ้าวันที่จะกลับแล้วหารถไม่ได้ก็โทรมา” นามบัตรธรรมดา ๆ ถูกยื่นมาให้กับเดวา
หญิงสาวรับมันมาอ่านด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ คุณลุงสมิธ”
เรือประมงมุ่งหน้าสู่เกาะส่วนตัวตามแผนที่ที่อยู่ในมือถือของดาร์เรนทันที เดวานั้นต้องคอยประคองร่างของชายหนุ่มไว้เพราะกลัวว่าแผลที่เพิ่งถูกปฐมพยาบาลมาจะกระเทือนจนปริแตก คลื่นลมที่พักถาโถมเข้ามาทำให้เรือนั้นโยกโคลงเคลงจนหญิงสาวแทบอ้วก อยากจะบอกเลยว่าเธอน่ะเมาเรือเป็นที่สุด
เกาะส่วนตัวของตระกูลบาร์เนทท์นั้นค่อนข้างที่จะอยู่ไกลพอสมควร เพราะงั้นการเดินทางจึงใช้เวลาไปค่อนข้างมาก และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจนได้ ทันทีที่ลงจากเรือ หญิงวัยชราที่เดาว่าน่าจะเป็นคนดูแลบ้านพักที่นี่ก็รีบเดินตรงเข้ามาหาพวกเขา
“คุณดาร์เรน!” เมื่อเห็นสภาพบาดเจ็บของผู้เป็นเจ้านายก็ดูตกใจไม่ใช่น้อย
“เอ่อ ช่วยประคองเขาเข้าไปในบ้านก่อนดีกว่าไหมคะ” เพราะว่าเธอนั้นหนักจะตายอยู่แล้วเนี่ย อิตาลุงที่เป็นเจ้าของเรือนั่นก็ยังไง พอมาส่งพวกเธอถึงเกาะปุ๊บเท้าแทบจะยังไม่แตะพื้นทรายก็หันหัวเรือกลับไปทันที
“แล้วคุณเป็น...”
“ฉันเป็นคนที่ช่วยชีวิตเจ้านายของคุณเอาไว้ค่ะ” เดวาตัดบท ตอนนี้เธอไม่อยากจะเสียเวลาไปอีกแม้แต่เพียงวินาทีเดียว เธอเหนื่อยมากอยากอาบน้ำ และเธอก็หิวมาก ๆ ด้วย
“ค่ะ ๆ งั้นเชิญค่ะ” ร่างงองุ้มเดินโขยกเขยกเข้ามาช่วยเดวาประคองแขนของชายหนุ่มอีกฝั่ง
“ที่นี่ไม่มีคนอื่นเหรอคะ” เดวาเอ่ยถาม สภาพแบบนี้หญิงชราคงไม่น่าจะช่วยเธอแบกได้
“ไม่มีมีค่ะ ที่นี่มีฉันดูแลอยู่คนเดียว”
เดวากลอกตามองบนอีกครั้ง พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เอาแบบนี้จริงดิ! ให้มันเกิดแต่กับคนสวยนี่แหละ ร่างเล็กตัดสินใจแบกร่างของดาร์เรนขึ้นด้านหลังแล้วเดินเข้าไปในตัวบ้านพักตากอากาศอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกตะลึงของหญิงวัยชราที่ได้แต่ยืนอ้าปากค้าง
บ้านพักตากอากาศหลังนี้เป็นบ้านพักเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเกาะขนาดประมาณยี่สิบสี่เอเคอร์ ล้อมรอบไปด้วยต้นสนซีดาร์ยักษ์ดูสวยงาม ด้านหน้าอยู่ติดชายหาดที่เนื้อทรายขาวเนียนละเอียด บรรยากาศดูเงียบสงบพร้อมวิวภูเขารอบด้านเหมาะแก่การพักผ่อน นี่มันสวรรค์บนดินชัด ๆ
“เดี๋ยวฉันจะไปเอาพวกเสื้อผ้าตัวใหม่มาให้เปลี่ยนนะคะ”
“เดี๋ยวค่ะ!” เดวาเอ่ยเรียกคนที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องไว้ “คือ... คุณชื่ออะไรเหรอคะ ฉันชื่อเดวาค่ะ”
“โซเฟียค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณเดวา” หญิงชราก้มศีรษะลงเล็กน้อย
“เอ่อ... คือฉันอยากถามหน่อยค่ะ ที่นี่ตามหมอมาไม่ได้เหรอคะ หรือว่าสามารถโทรหาใครให้มาดูเขาหน่อย เขาโดนยิงมาค่ะ และฉันก็เพิ่งทำแผลแบบง่าย ๆ ไปให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะติดเชื้อหรือว่ามีอะไรแทรกซ้อนหรือเปล่า” มันน่าแปลกมากที่บนเกาะทั้งเกาะแห่งนี้จะไม่มีใครเลย มีเพียงหญิงชราตรงหน้าที่อยู่เพียงคนเดียว
“ไม่มีหรอกค่ะ” แต่ทว่าคำตอบของโซเฟียกลับยิ่งทำให้เดวางงหนักเข้าไปอีก
“หมายความว่ายังไงเหรอคะ”
“หมายความว่าเกาะแห่งนี้เป็นเกาะส่วนตัว คนนอกแม้แต่หมอก็ไม่สามารถเข้ามาได้ค่ะ ที่นี่ไม่มีสัญญาณและไม่มีเรือออกไปด้วย ทำได้เพียงแค่รอให้คนจากทางฝั่งของบาร์เนทท์มารับออกไปเท่านั้น”