intro
intro
Part อดีต
ณ โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง
“เฮ้ย! ไอ้หน้าเถื่อน! ได้ข่าวว่าแม่มึงพึ่งแต่งงานใหม่เหรอ? แม่มึงแต่งงานกี่ครั้งแล้วล่ะ? บ้าผู้ชายฉิบหาย “
เด็กผู้ชายเกเรกลุ่มหนึ่งมักจะรวมตัวกันล้อปมด้อยของเพื่อนด้วยการเอาพ่อแม่เพื่อนมาล้อ
หัวหน้ากลุ่มเด็กเกเรกลุ่มนั้นเป็นหัวหน้าห้องที่สวมแว่นและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเรียบร้อยทุกระเบียบนิ้ว
บุคลิกภาพดูสุภาพและอ่อนโยนแต่นิสัยกลับตรงกันข้าม
“เงียบทำไมวะ อายเหรอ? หรือกำลังใช้นิ้วมือ นิ้วตีนนับว่าแม่มีผัวมาแล้วกี่คน?”
ผิดกับเด็กที่ถูกล้อ เขามีใบหน้าดุดัน แววตาเต็มไปด้วยความพยศ รูปลักษณ์ภายนอกผิดระเบียบโรงเรียนแทบทุกระเบียบนิ้ว ผมยาวกว่าปกติ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย และที่สำคัญไม่เคยสนใจจะรังแกใครเหมือนที่เด็กกลุ่มแรกทำ
“อย่ามายุ่งกับกู”
นั้นคือประโยคเดียวที่เขาพูดหลังจากที่ถูกล้อ
‘เจเดน’ ลุกขึ้นจากเก้าอี้หวังจะปลีกตัวออกห่างจากคนกลุ่มนี้แต่ทว่า ‘เตชิน’ เด็กเรียนเก่งประจำโรงเรียนกลับเตะเก้าอี้ที่เจเดนนั่งอยู่จนเก้าอี้ตัวนั้นเสียหลักแล้วเจเดนก็ล้มคว่ำไปกับพื้น
“ฮ่า ๆๆๆ นอกจากแม่มันจะบ้าผู้ชายแล้วมันยังโง่อีกวะมึง”
คนกลุ่มนั้นต่างหัวเราะเยาะอย่างสะใจ ปลายคางเจเดนแตกเนื่องจากใบหน้ากระแทกกับพื้นห้อง
เด็กชายพยายามยับยั้งชั่งใจไม่ให้ตัวเองเผลอเอาคืน เพราะเมื่อไหร่ที่อารมณ์ขึ้นเขารู้ตัวดีว่าตัวเองอารมณ์รุนแรงขนาดไหน
เจเดนหยัดตัวขึ้นมายืนอีกครั้ง เขาจะเดินออกจากห้องไปให้พ้น เหลืออีกแค่ก้าวเดียวที่จะผ่านพ้นไปแต่กลับถูกคนในห้องโยนลูกบอลใส่กลางหัวจนปวดร้าวไปทั้งหัวเลย
“มึงน่าสมเพชมากเลยรู้ตัวมั้ย นอกจากมีแม่บ้าผู้ชายแล้วยังต้องเป็นที่รองรับมือรองรับตีนพวกกูอีกด้วย อั่ก!”
“เฮ้ย! เตชิน!”
ราวกับความอดทนขาดสะบัด เจเดนพุ่งหมัดเข้าใส่กลางหน้าเตชินจนแว่นหัก เมื่อเทียบขนาดตัวต่างกันอย่างชัดเจนเพราะเด็กที่เกิดมาพร้อมดีเอ็นเอลูกครึ่งมักจะตัวใหญ่กว่าเด็กไทยแท้อย่างแน่นอน
“อย่ามาเสือกเรื่องกู!”
เจเดนรัวหมัดใส่เตชินจนเพื่อนร่วมแก๊งเตชินต้องจับเจเดนแยกออกไปเพราะหัวหน้าตัวเองตอนนี้มีสภาพที่สะบักสะบอม
“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้! เธอทำอะไรของเธอเจเดน!”
เสียงครูประจำห้องดังขึ้น เจเดนถูกจับแยกออกไปแล้วครูก็มุ่งตัวไปหาเตชินที่ตอนนี้รับบทเป็นผู้กระทำ เล่นละครเป็นเหยื่อทั้งที่แท้ที่จริงแล้วตัวเองเป็นคนกระทำ
ส่วนเจเดนที่ความจริงแล้วเป็นเหยื่อกลับถูกมองว่าเป็นผู้กระทำเพียงเพราะเหตุการณ์เสี้ยววินาทีที่คนเป็นครูตัดสินผ่านสายตา
“เกิดอะไรขึ้นเตชิน ทำไมถูกรังแกแบบนี้”
เพราะ ‘รูปลักษณ์’ ภายนอกเจเดนจึงถูกตัดสินว่าเป็นคนผิดอย่างไม่มีข้อกังขา
“ผมแค่ชวนเจเดนไปทานข้าวเที่ยงครับเพราะเห็นเจเดนนั่งคนเดียว แต่จู่ ๆ เจเดนก็โมโหเพราะรำคาญที่ผมวอแวด้วยเลยต่อยผมครับ”
คำพูดหลอกลวงถูกปะติดปะต่อกันเป็นเรื่องราว เจเดนที่ฟังอยู่แทบจะพรวดเข้ามาต่อยปากเตชินท์อีกครั้งหนึ่งแต่กลับถูกครูอีกคนล็อกตัวเอาไว้แทน
“มันโกหก! มันล้อแม่ผม มันรังแกผมก่อน”
เจเดนพูดเสียงแข็ง ท่าทีก้าวร้าวทำให้ครูชายตามองลูกศิษย์ตัวเองด้วยความไม่ชอบใจ
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะเจเดน! เตชินเป็นเด็กดีมาตลอดมีแต่เธอนั่นแหละที่ก้าวร้าว ขอโทษเพื่อนเดี๋ยวนี้!”
“ไม่! มันโกหก!”
เจเดนปฏิเสธเสียงแข็ง แววตาเขาแข็งกระด้างและพยายามจะสลัดตัวเองออกไปจากการถูกครูล็อกตัวเอาไว้
“เธอนี้มันก้าวร้าวไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ พฤติกรรมแย่แบบนี้ฉันต้องอบรมและเรียกผู้ปกครองมารับฟังด้วยแล้ว”
“ปล่อย!”
“ครูค่ะ! แต่เจเดนเขาพูดความจริงนะคะ หนูเห็นว่าเตชินแล้วเพื่อนเตชินรุมรังแกเจเดนอยู่ คางเจเดนแตกด้วย”
เด็กสาวคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาหลังจากที่อยู่ในเหตุการณ์หลังจากที่ครูมา ภาพที่เธอเห็นก่อนหน้าไม่ใช่อย่างที่เตชินพูดเธอเลยแย้งขึ้นมา
“คางเจเดนแตกเพราะผมผลักเจเดนออกตอนที่ถูกต่อยครับ ผมไม่ได้ตั้งใจผมแค่พยายามระวังตัว เราขอโทษนะเจเดน”
“ไม่จริง เราเห็นเธอเตะเก้าอี้เจเดนจนเจเดนล้ม เธอล้อแม่เขาแล้วก็โยนบอลใส่หัวเจเดนด้วย! นั้นไงค่ะลูกบอล!”
'สโนว์’ เด็กนักเรียนที่พึ่งย้ายเข้ามาใหม่ยืนยัน
เสียงแข็งเพราะเธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอวิ่งไปหาครูประจำชั้นแต่กลับหาไม่เจอพอย้อนกลับมาก็เห็นว่าครูอยู่ในเหตุการณ์แล้ว
“เปล่าครับครู บอลนั้นผมเอามากะว่าจะชวนเจเดนเล่นครับแต่ก็โดนเจเดนปัดทิ้งไป”
ผู้กระทำยังคงรับหน้าที่เป็นเหยื่อ และคนที่เป็นเหยื่อจริง ๆ กลับถูกใส่ร้ายจนกลายเป็นคนผิด
เจเดนโกรธจนกำมือตัวเองเอาไว้แน่น
“พอเลย พอ! ครูรู้จักนิสัยนักเรียนทุกคนดีเธอพึ่งมาเธอไม่รู้ว่าเจเดนก้าวร้าวแค่ไหน ครูต้องลงโทษเธอเจเดน”
สโนว์มุ่นคิ้ว
“ครูไม่ได้รู้จักนักเรียนดีเลยต่างหากละ หนูพึ่งมาหนูยังรู้เลยว่าเตชินนิสัยแย่แค่ไหน”
“สโนว์! อย่าก้าวร้าวกับครูนะ! ไปหยิบไม้มาพีรดล ครูจะลงโทษเจเดน”
พีรพลหนึ่งในกลุ่มของเตชินรีบวิ่งไปเอาไม้ในห้องพักครูมาให้ครู เจเดนที่ถูกตัดสินว่าผิดถูกครูตีเข้าที่ฝ่ามือแรง ๆ สองครั้งก่อนจะโทรเพื่อแจ้งให้ผู้ปกครองทราบถึงการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้
เจเดนวิ่งออกจากห้องไปหลังจากถูกครูตี เขาอยากร้องไห้อยากอ่อนแอแต่เด็กแข็งกระด้างอย่างเขากลับไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด
“กินมั้ย? เราไปต่อแถวแย่งมาได้เป็นชิ้นสุดท้ายเลยนะ”
สโนว์ยื่นขนมปังเมล่อนแสนอร่อยที่นักเรียนทั้งโรงเรียนแย่งชิงกัน เจเดนเคลื่อนสายตาขึ้นไปมองนักเรียนใหม่ที่เข้ามาได้ไม่ถึงเดือน
เขาละสายตาและเมินเธอพร้อมเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงห่างเหิน
“ออกไป อย่ามายุ่งกับฉัน”
ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปคนอื่นคงวิ่งหนีไปแล้วแต่สโนว์กลับทิ้งตัวลงไปนั่งบนหญ้าข้าง ๆ กับที่เจเดนนั่งอยู่จนอีกฝ่ายชำเลืองสายตามองอย่างไม่พอใจ
“เธออย่าโทษตัวเองนะ เราเห็นทุกอย่างเราคนหนึ่งแหละที่รู้ว่าเธอไม่ผิด เราจะวิ่งไปบอกครูแล้วแต่ไม่ทัน เราต้องขอโทษด้วย”
เจเดนถอนหายใจ เขาเหม่อมองออกไปยังสนามฟุตบอลที่เด็กรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน
“ไม่ใช่ความผิดเธอ”
“ถ้างั้นช่วยรับขนมชิ้นนี้ไปกินนะ อย่างน้อยก็ไถ่โทษที่เราเห็นเหตุการณ์แต่ช่วยเธอได้ไม่ดีมากนัก”
สโนว์ระบายยิ้มกว้างออกมาเมื่อเจเดนสบตากัน เธอยื่นขนมไปในมือเจเดนที่เอาแต่เงียบ
“เราอยากเป็นเพื่อนกับเธอ เราว่าในห้องเรียนที่เราอยู่มีเธอที่จริงใจที่สุดแล้ว”
“......”
“เป็นเพื่อนกันนะเจเดน”
รอยยิ้มสดใสของผู้หญิงตรงหน้าช่างต่างกับความเงียบขรึมของเจเดนที่มองไป สโนว์สว่างไสวเกินกว่าจะเป็นเพื่อนกับเขาได้
แต่ไม่รู้ทำไมถึงตอบตกลงออกไป
“อือ”
คงเพราะถ้ามีสโนว์เป็นเพื่อนเจเดนก็จะรู้สึกว่าอย่างน้อยก็มีคนที่ยืนอยู่ข้างตัวเองบ้าง นั่นคือความสัมพันธ์เริ่มต้นระหว่างเจเดนและสโนว์
Talk
คู่นี้เขามีสตอรี่น้า ฝากเอ็นดูด้วยนะคะเรื่องนี้ไรต์พยายามเพิ่มปมเข้ามาแต่ดราม่าไม่หนักแน่นอน ฟิลกู๊ดจุ๊บ ๆ แน่นอนค่า
ครบ 20 เม้นมาอัปน้า