เช้าวันต่อมาในห้องนอนหรู พายขยับตัวเล็กน้อย ความหนักอึ้งที่แขนและขากระจายไปทั่วร่างยังคงเตือนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
เธอลืมตาขึ้นช้า ๆ ภาพแรกที่เห็นคือเพดานสูงโปร่ง และกลิ่นหอมอุ่น ๆ ของผู้ชายที่ยังติดอยู่รอบตัว หัวใจดวงน้อยเต้นแรงทันทีเมื่อหันไปเห็นร่างสูงเปลือยท่อนบน กอดเธอไว้อย่างหลวม ๆ บนเตียงกว้าง
“ไม่นะ…นี่ฉัน…อยู่ในห้องเขาจริง ๆ เหรอเนี้ย ยัยพายเอ้ย!!” พายพึมพำเบา ๆ ใบหน้าแดงซ่านทันตา
ร่างเล็กพยายามดันแขนแกร่งที่โอบเอวเธอออกอย่างเบาที่สุด แล้วค่อย ๆ ขยับกาย ลุกขึ้นช้า ๆ ไม่ให้เขาตื่น เธออยากหนีออกไปจากที่นี่ อยากลบเลือนความร้อนแรงเมื่อคืนที่ยังวนเวียนอยู่ในหัว
แต่ทันทีที่ปลายเท้าแตะพื้น
“จะไปไหน…หืม?”
เสียงทุ้มพร่าหนักดังขึ้นจากด้านหลัง เทมยังหลับตา แต่แขนแกร่งกลับรัดเอวเล็กแน่นขึ้นกว่าเดิม เทมดึงร่างพายให้ล้มลงนอนบนอกเขาอีกครั้ง
“ปล่อยนะ…ฉัน…ฉันจะกลับห้อง” พายรีบพูดเสียงสั่น หน้าแดงจัดอย่างห้ามไม่อยู่
เทมปรือตาขึ้น ดวงตาคมเข้มฉายแววขี้เล่นเจือเจ้าเล่ห์ เขายกยิ้มที่มุมปาก ที่ยัยตัวเล็กไม่สามารถดิ้นออกไปจากอ้อมกอดเขาได้
“กลับห้องเหรอ…เมื่อคืนเธอก็อยู่ในห้องพี่ทั้งคืน จะรีบหนีไปไหนล่ะ”
พายหันขวับกลับมาตาเขียวจัด ใบหน้าแดงก่ำไม่ใช่เพราะเขินเพียงอย่างเดียว แต่เพราะโกรธที่ถูกเอาเปรียบทั้งคืน
“คุณได้สิ่งที่คุณต้องการไปแล้ว…ก็ปล่อยฉันกลับสักทีเถอะ”
คำพูดนั้นเหมือนคมมีดกรีดลงกลางใจ เทมชะงักไปครู่หนึ่ง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าค่อย ๆ จางหายไป เหลือเพียงสายตาคมที่เฝ้าจ้องร่างเล็กในอ้อมกอดอย่างเงียบๆ ในหัวของเขา เรื่องเมื่อคืนผุดขึ้นมาทันที คำพูดดื้อดึงของพาย เสียงสั่นเครือที่ยืนยันว่า
“ฉันไม่ได้มาขายตัว”
ความคับแน่นรัดของร่างกายที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อน ความเจ็บปนหวานในดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทั้งหมดนั้นคือเรื่องจริง เธอไม่ได้มาขายตัวอย่างที่เขาเคยปรามาส
แม้ในใจจะสะดุดกับความจริงเมื่อคืน แต่คนอย่างเทม ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยไม่เคยแสดงความเห็นใจกับใคร เทมขยับตัวขึ้นนั่งเอนหลังพิงหัวเตียงอย่างสบาย ๆ แต่สองแขนแกร่งยังโอบรั้งร่างบางอยู่ในอ้อมแขน ริมฝีปากหยักยกยิ้มกวนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แล้วทำไมถึงไปทำงานที่นั้น ไม่รู้จริง ๆ เหรอ ว่าที่นั้นมันอันตรายแค่ไหน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างขุ่นเคือง
“ฉันจะทำงานที่ไหน มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ!” เสียงหวานสั่น แต่หนักแน่นทุกคำ
เทมหรี่ตาคมกริบ มองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ปนจริงจัง
“ไม่เกี่ยวเหรอ…แน่ใจ?”
พายเม้มริมฝีปากแน่น พยายามไม่หวั่นไหวกับคำพูดนั้น แต่หัวใจกลับเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้
“ต่อไปนี้…ห้ามไปทำงานที่นั่นอีก” เขาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำชัดถ้อยชัดคำ สายตาคมเข้มยังคงเต็มไปด้วยความถือสิทธิ์ พายเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตากลมวาววับด้วยความโมโห
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน!” น้ำเสียงหวานสะบัดสวนกลับอย่างไม่กลัวเกรง
ริมฝีปากหยักยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ในแววตาคมกลับแฝงแววบางอย่างที่ไม่อาจปิดบังได้
“สิทธิ์ของคนที่ขึ้นเตียงกับเธอเมื่อคืน…มันมากพอรึยัง?”
“คุณมันก็แค่คนเห็นแก่ตัว ฉันไม่ได้เป็นของคุณ!” พายหน้าแดงวูบทั้งโกรธ ทั้งอาย เธอกำมือแน่น
ความดื้อรั้นนั่นทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าคมหายวับ ดวงตาเข้มฉายแววคมกริบทันที เทมโน้มตัวเข้ามาใกล้รั้งพายเข้ามากอดแน่นขึ้นกว่าเดิมจนเธอแทบขยับไม่ได้ เสียงทุ้มต่ำเอ่ยชัดถ้อยชัดคำอีกครั้ง เขากดดันทุกพยางค์
“พี่เตือนเธอดี ๆ แล้วนะพาย ถ้าบอกไม่ฟัง....ก็ลองดู”
อุณหภูมิรอบตัวเหมือนลดต่ำลงทันที ร่างเล็กชะงักไปวูบหนึ่ง สบตาคมกริบที่ฉายแววจริงจังเจืออันตรายจนเธอเผลอใจสั่น
“ไม่ต้องมาขู่ฉัน ฉันไม่กลัวคนอย่างคุณ” พายกัดริมฝีปากแน่น ตอบเสียงแข็งสั่น ๆ
เทมยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง คราวนี้เป็นรอยยิ้มเย็นเฉียบ
“ไม่ใช่ขู่…แต่พี่จะทำจริง ๆ ถ้าเธอยังไม่ฟัง”
เทมหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาคมกริบกวาดมองพาย
“ถ้าพี่ยังเห็นเธออยู่ที่นั่น…พี่จะลากเธอกลับมากระแทกให้จมเตียงไปเลย” เขาเอ่ยออกมาเสียงทุ้มต่ำกว่าทุกครั้งอย่างไม่ไว้หน้า
คำพูดนั้นที่ออกมาเหมือนขู่ แต่ในน้ำเสียงกลับมีทั้งความหวงและความต้องการปนกันจนทำให้บรรยากาศรอบตัวร้อนขึ้นทันที พายก้มหน้าหนี ตาเขียวขึ้นเพราะโกรธ แต่ริมฝีปากกลับสั่นเครืออย่างคนพ่ายแพ้
“จะ…จะทำก็ทำสิ” เธอสวนกลับเสียงแข็ง แต่คำพูดกลับแหบพร่าเหมือนไม่แน่ใจนัก ดวงตากลมสั่นไหวโต้ตอบกับเขา
เทมเห็นท่าทีที่พยายามอวดเก่งของพายแบบนั้น ถึงกับยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดู เขาไม่พูดอะไรเพิ่มเติมให้ยืดยาว แต่โน้มตัวลงมาจูบที่ขมับพายเบา ๆ ครั้งหนึ่งก่อนจะกระซิบข้างหูอย่างอ่อนโยนและกดดันในทีเดียว
“งั้นคืนนี้…ก็อย่าให้พี่ต้องไปลากจริงๆ”
มือหนาหยิบผ้าคลุมขึ้นมาคลุมไหล่เธอ ก่อนจะอ้อมมาดึงร่างเล็กเข้ามาแนบอกอีกครั้ง คราวนี้สัมผัสมีทั้งความปลอดภัยและความดุดันในคราวเดียว เป็นการเตือนและการปลอบที่ทำให้พายรู้สึกได้ว่าถึงเขาจะปากร้าย แต่ข้างในมีทั้งความห่วงและความหวังดี ไม่อยากให้เกิดอันตรายกับเธอ พายดึงสองมือของเทมที่โอบเอวเธอไว้แน่นออก ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ปล่อยได้แล้ว ฉันจะไปอาบน้ำ”
เทมยอมปล่อยร่างเล็กอย่างว่าง่าย พายกะพริบตาถี่ ๆ อย่างลังเล ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากเตียง เดินกอดผ้าห่มแน่นเพื่อปกปิดร่างกายเล็กที่เต็มไปด้วยร่องรอยเมื่อคืน เธอก้าวเร็ว ๆ มุ่งหน้าไปยังห้องน้ำ
หลังประตูปิดลง เทมเอนตัวลงกับหมอน หลับตาลงแต่ในหัวกลับวุ่นวาย ภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาเมื่อคืนวนเวียนไม่หยุด และสิ่งที่เธอพูด...
“ฉันไม่ได้มาขายตัว” มันทำให้หัวใจเขาหน่วง ๆ อย่างบอกไม่ถูก
เสียงน้ำจากฝักบัวดังซู่ลงมากระทบพื้นห้องน้ำ พายยืนพิงกระจกบานใหญ่ มือเล็กสั่นน้อย ๆ เมื่อค่อย ๆ ดึงผ้าขนหนูออก ร่างเปลือยเปล่าเผยให้เห็นร่องรอยแดงช้ำตามต้นคอ เนินอก
“บ้าเอ้ย!! ทำไมถึงใจง่ายยอมเขานะยัยพาย” เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง แต่อีกมือกลับเลื่อนขึ้นไปแตะรอยจ้ำสีเข้มที่ซอกคอ สัมผัสเพียงปลายนิ้วก็ทำให้ภาพเมื่อคืนย้อนกลับมาอย่างห้ามไม่ได้
เสียงครางแหบพร่าของเขา เสียงหอบกระเส่าใกล้หู สัมผัสหนักแน่นที่กดร่างเธอจมเตียง สายตาคมกริบที่เหมือนจะกลืนกินทุกอย่าง
“ไม่ใช่สิ…ฉันไม่ได้เต็มใจสักหน่อย” พายกัดริมฝีปากแน่น พยายามสะบัดหัวไล่ภาพพวกนั้นออกไป แต่ยิ่งไล่ มันกลับยิ่งชัดเจน เธอมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก แก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัว ดวงตาวาววับคล้ายกับกำลังยอมรับในบางสิ่งที่ปากยังปฏิเสธ
“ทำไมหน้าแดงแบบนี้ยัยพาย!!” เธอพึมพำกับเงาในกระจก แต่ปลายนิ้วกลับยังไล้ไปตามร่องรอยบนผิวกายอย่างแผ่วเบา หัวใจสั่นแรงไม่เป็นจังหวะ พายหายใจถี่ขึ้นทีละนิด ก่อนจะรีบเปิดน้ำแรง ๆ เพื่อกลบเสียงหัวใจตัวเองที่ดังก้องในอก