ลินจงนั่งมองหน้าลิตาอย่างจนใจ เธอมาเยี่ยมเยียนลูกชายที่แยกตัวออกจากเรือนหอหลังใหญ่แสนสุขสบายมาอยู่บ้านพักแขกหลังเล็ก ๆ มีเพียงห้องนอนเดียวกับห้องอาบน้ำฝักบัวและห้องครัวเล็ก ๆ เมื่อคิดว่าชะตาชีวิตของลูกชายตกต่ำเพราะลิตา หญิงวัยกลางคนก็อยากจะด่าสาวน้อย แต่พอคิดได้อีกว่าลิตาอุ้มท้องหลานเธออยู่ลินจงจึงได้แต่นั่งถอนหายใจ
“เฮ้อ! อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดสินะ... ในเมื่อได้เป็นเมียน้อยเขาแล้วก็ต้องทำใจนะลิตา ฉันเองก็เป็นเมียน้อยเขา โชคดีกว่านิดหน่อยที่คุณนายใหญ่เขายอมรับ ท่านเจ้าสัวก็ยกย่องออกหน้าออกตา พอคุณนายใหญ่เขาตายถึงได้ขึ้นมาเป็นคุณนายใหญ่กับเขาบ้าง ถ้าเธอจะรอหนูผักตายก็คงลำบากหน่อย คงจะเป็นได้แค่เมียน้อยไปชั่วชีวิต”
“แต่... คุณผักบอกว่าจะหย่ากับเฮียโจวนี่คะ เขาจะยอมให้เฮียโจวจดทะเบียนแต่งงานกับหนู ลูกจะได้ไม่เป็นลูกนอกสมรส ส่วนเขาก็ตัดสินใจจะแต่งงานใหม่กับลูกคนอื่นของเจ้าสัวแล้ว” ลิตาท้วงแม่สามีทันที
“ ผักพูดแบบนั้นเพราะโมโหน่ะสิ ผักเขารักอาโจวมาตั้งแต่เด็ก ตอนยังเล็กก็รบเร้าให้ฉันพามาเล่นที่บ้านนี้บ่อย ๆ เพราะติดอาโจว เขาไม่ตัดใจง่าย ๆ หรอก ที่สำคัญ... ผักยังไม่รู้ว่าลูกอีกสองคนของเจ้าสัวนิสัยใจคอเป็นยังไง ถ้าผักรู้ผักอาจไม่ยอมหย่ากับอาโจวก็ได้” ลินจงบอกเมียน้อยลูกชายไปเพราะเธอเองก็รู้ถึงเหตุผลที่สามีไล่ลูกชายทั้งสองออกจากบ้านเป็นอย่างดี
เป็นเธอเองที่เห็นพวกเขาสองคนพาผู้หญิงคนหนึ่งมาเล่นรักที่บ้านพักแขกหลังนี้นี่แหละ เธอไปบอกท่านเจ้าสัวเพราะคิดว่ามันบัดสี คิดจะให้เจ้าสัวตักเตือนลูกชายทั้งสองแต่ไม่คิดว่าตอนนั้นอารมณ์เจ้าสัวก็รุนแรง ลูก ๆ ก็ร้อนเป็นไฟ ปะทะกันเข้าก็ถึงกับแตกหักต้องตัดพ่อตัดลูกกันทีเดียว
“ลูกคนอื่นของเจ้าสัวนิสัยเสียเหรอคะ?” ลิตาถามแล้วทำตาใส เธอมาอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ได้สี่ปี ได้ยินมาว่าเจ้าสัวมีลูกชายสามคนแต่นอกจากทวีปเธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตาลูกชายคนอื่นแม้แต่น้อย
“เฮ้อ! ถ้าสองคนนั้นอยู่เธออาจตกหลุมรักพวกเขาแทนที่จะตกหลุมรักอาโจวที่มีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ได้... พวกเขาไม่ได้นิสัยเสียหรอก ลูกเจ้าสัวคนที่สองชื่ออาเชียน ชื่อจีนว่าหลี่เชียน ตอนนั้นเจ้าสัวท่านอยากให้ตั้งชื่อลูกชายสองคนคล้องจองกัน คนหนึ่งชื่อ ‘โจว’ ที่แปลว่า ‘ทวีป’ อีกคนเลยตั้งไว้ว่า ‘เชียน’ แปลว่า ‘จำนวนหนึ่งพัน' สรุปอาเชียนเลยได้ชื่อไทยว่าพันทวี ตอนที่ฉันตั้งท้องอาโจว ทุกคนในบ้านดีใจมาก รวมถึงคุณนายเหมย คุณนายใหญ่ของตระกูล แต่ต่อมาไม่นานคุณนายเหมยก็ตั้งท้องเหมือนกันทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้พยายามเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล น่าจะเพราะคุณนายเหมยร่างกายอ่อนแอและอายุมากแล้ว ตอนท้องอายุสี่สิบต้น ๆ เห็นจะได้ เพราะแบบนี้ตอนคลอดอาเชียนคุณนายถึงเจ็บออด ๆ แอด ๆ และตายหลังคลอดได้แค่ไม่กี่อาทิตย์ แต่อาเชียนก็แสนดี ถึงไม่มีแม่แต่ก็ไม่เคยเกลียดเมียน้อยที่ขึ้นมาแย่งตำแหน่งแม่อย่างฉัน อาเชียนอาจจะดูเงียบ ๆ แต่เป็นคนมีเหตุผล ฉลาด หัวไวตั้งแต่เด็ก" ลินจงเล่าไปยิ้มไปเหมือนกำลังเล่าเรื่องลูกชายของตัวเองอยู่
“แล้วลูกอีกคนของท่านเจ้าสัวล่ะคะ?” ลิตาถามต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“อีกคนยิ่งน่ารัก... ชื่อทวิช ที่แปลว่า ‘นก’ ชื่อจีนว่าหลี่อิง ‘อิง’ ที่มาจากคำว่า ‘นกอินทรี’ คนนี้นิสัยร่าเริง ยิ้มง่าย ขี้อ้อน ฉันเลี้ยงของฉันมากับมือเพราะแม่เขาเป็นเมียน้อยคนที่สองของท่านเจ้าสัว ทิ้งอาอิงไว้แล้วหนีตามชู้ไปตั้งแต่ยังเด็ก น่าสงสารมาก ฉันเลี้ยงเหมือนลูกชายฉันเองทีเดียว...” ลินจงเล่าแล้วทำเสียงเศร้า นึกโกรธตัวเองที่วันนั้นไปบอกเจ้าสัวว่าพวกเขาเล่นรักกับผู้หญิงคนเดียวกัน ส่วนตัวของเธอแม้จะเห็นว่ามันบัดสีแต่ก็เป็นเรื่องที่พอจะพูดคุยทำความเข้าใจได้เพราะสองหนุ่มอาจจะทำไปด้วยความคะนองแต่กลับกลายเป็นว่าท่านเจ้าสัวโกรธจัดและประกาศกร้าวว่าจะไม่มีสะใภ้คนเดียวจากลูกชายสองคนเด็ดขาด
แต่... ตอนนี้ความคิดของเจ้าสัวเทียนคงเปลี่ยนไปแล้ว เขาถึงอนุญาตให้ผลดาแต่งงานใหม่กับลูกชายอีกสองคนของเขาแทนที่ทวีปได้
แล้วไง? ถึงเจ้าสัวอนุญาตแต่ถ้าหนูผักรู้ว่าสองคนนั้นนิยมรักสามคน ใส ๆ โลกสวยอย่างหนูผักก็คงต้องถอยทัพเหมือนกัน
ลินจงคิดในใจแล้วพลันเห็นบ้านพักแขกหลังถัดไปเหมือนมีเงาของคนหลายคนเดินเข้าไปในตัวบ้าน ด้วยความสงสัยหญิงวัยกลางคนจึงชะเง้อคอมองดู
“เอ๊ะ! นั่นใครกันเดินเข้าบ้านพักแขก?” ลินจงพูดเหมือนถามตัวเอง
“เมื่อตอนกลางวันหนูเห็นลุงเฮงช่วยขนกระเป๋าแขกเข้าไปในบ้าน หนูคิดว่าเป็นแขกของบ้านใหญ่เสียอีก คุณนายไม่ทราบเหรอคะว่าเป็นใคร?” ลิตาตอบแม่สามีไป เริ่มมีความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาบ้างแล้ว
“ไม่รู้ว่าใครกัน ไม่เห็นท่านเจ้าสัวบอกว่ามีใครจะมาพักด้วยนี่นา เดี๋ยวฉันจะเดินไปดูเสียหน่อย” ว่าแล้วลินจงก็ลุกขึ้นยืน ลิตาเองก็ลุกขึ้นเดินตามหลังแม่สามีไปด้วย เผื่อจะได้ทำความรู้จักแขกของบ้านนี้ในฐานะภรรยาของลูกชายเจ้าสัวเทียน
เพียงครู่เดียวลินจงก็เดินลัดเลาะแนวรั้วต้นชาฮกเกี้ยนเตี้ย ๆ ที่กั้นแบ่งอาณาเขตบ้านสองหลังไปถึงหน้าบ้านพักแขกข้าง ๆ ลินจงกดกริ่งตรงประตูบ้าน เธอและลูกสะใภ้รอไม่นานก็มีคนเปิดประตู
“สวัสดีครับแม่ลินจง” ทวิชเปิดประตูบ้านออกและทักทายหญิงวัยกลางคนทันที เขาคงจะส่องดูจากตาแมวประตูแล้วถึงรู้ว่าผู้มาเยือนเป็นใคร
ลินจงยังคงมีเค้าความสวยแม้จะอวบขึ้นบ้าง ผมยาวถูกมัดเป็นมวยไว้ตรงท้ายทอย ใบหน้าประดับเครื่องสำอางพองาม แต่ผมสีดำที่มีสีขาวขึ้นแซมทำให้เห็นว่ากาลเวลาล่วงผ่านไปห้าปีทำให้ลินจงเปลี่ยนไปอยู่บ้าง
“อาอิง!” ลินจงทำตาโตแล้วเรียกชื่อหนุ่มหล่อหน้าใสด้วยหัวใจที่ตื่นเต้นยินดี เธอเลี้ยงเด็กชายไร้แม่ทั้งสองคนมากับมือตั้งแต่เล็กจนโต รักเหมือนลูกแม้จะรักไม่เท่าทวีปที่เป็นเลือดในอก เมื่อครั้งที่ท่านเจ้าสัวตัดขาดกับพวกเขาเพราะเธอเป็นคนไปบอกเรื่องที่พวกเขาใช้ผู้หญิงร่วมกันเธอเองก็รู้สึกผิดไม่น้อย พอเห็นชายหนุ่มกลับมาที่บ้านตระกูลหลี่ หน้าตาสดใส เหมือนมีความเป็นอยู่ที่สุขกายสบายใจเธอก็อดดีใจไม่ได้
“อาอิงกลับมาแล้วเหรอ? อาเชียนก็กลับมาใช่ไหมลูก? ไปหาอาปาหรือยัง? อาเชียนอยู่ไหน? เรียกออกมาหาแม่หน่อยเร็ว” ลินจงรัวคำถามใส่ชายหนุ่มจนเขาตอบไม่ทัน
ทวิชอมยิ้มแล้วก้มลงกอดผู้ที่เลี้ยงเขามาแทนแม่ ขณะกอดร่างของหญิงวัยกลางคนสายตาเขาก็ปะทะเข้ากับสายตาอยากรู้อยากเห็นของเด็กสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังของลินจง
ทวิชยิ้มให้เจ้าหล่อนทันที เป็นยิ้มที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์ ฟันขาวเรียงตัวสวย ดวงตาเป็นประกายรับกับจมูกโด่งทำให้เขายิ่งดูดีมากขึ้นเป็นเท่าตัว ตรงข้อมือของเขามีรอยสักรูปนกอินทรี ใบหูขวาใส่ต่างหูสีทองเป็นแท่งเรียวยาว ดูโดยรวมเหมือนพวกนักร้องไอดอล เมื่อมองหน้าเขาลิตาที่ได้รับรอยยิ้มจากเขาก็ถึงกับแทบหยุดหายใจเลยทีเดียว
ลิตายิ้มแบบเก้อเขินส่งให้ชายหนุ่ม เธอสวมเสื้อยืดสีฟ้ารัดรูปเน้นให้เห็นสัดส่วนเว้าโค้งยั่วยวนแบบไม่น่าเกลียดนัก ท้องสาวที่มีอายุครรภ์ห้าเดือนยังดูไม่ค่อยนูนพองเท่าไหร่ แค่ดูคล้ายสาวอวบเท่านั้น เด็กสาวสวมกางเกงยีนขายาวสีเข้มพอดีตัว โดยรวมไม่ได้ดูเซ็กซี่จนน่าเกลียดแต่ดูออกแนวเด็กวัยรุ่นหน้าใส ยั่วแบบซื่อ ๆ กำลังดี
“พวกผมไปหาอาปามาแล้วครับ ว่าแต่... คุณแม่มากับใครครับ?” ทวิชเอ่ยถามแล้วบุ้ยใบ้ไปทางเด็กสาวด้านหลัง
“เออ... นี่ลิตา คนของอาโจว” ลินจงลังเลก่อนจะแนะนำลิตาให้ทวิชรู้จัก
“สวัสดีค่ะเฮียอิง” เด็กสาวรู้งานรีบยกมือกระพุ่มไหว้ทวิชทันที เรียกชื่อเขาตามที่ลินจงเรียกอย่างสนิทปากราวกับเคยเจอกันมาก่อน
ทวิชรับไหว้เด็กสาวก่อนที่ลินจงจะถามถึงพี่ชายของเขาซ้ำอีกครั้ง
“อาเชียนอยู่ไหน? เรียกอาเชียนออกมาหาแม่หน่อยสิอาอิง แม่อยากเจออาเชียน แม่เข้าไปนั่งรอในห้องรับแขกนะ” ลินจงบอกชายหนุ่มเสร็จแล้วจึงถือวิสาสะเดินเข้ามาในบ้านทันทีโดยมีลิตาเดินตามมาติด ๆ แต่พอเห็นคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกหญิงวัยกลางคนก็มีอันต้องชะงักเท้า
ในห้องรับแขกเล็ก ๆ มีร่างใหญ่ของพันทวีนั่งอยู่ ด้านข้างของเขามีร่างเล็กของผลดานั่งคู่กัน แค่เห็นหน้าสะใภ้ตัวจริงลินจงก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับแล้ว มันกระอักกระอ่วนใจชอบกลเพราะเธอเองก็รู้สึกผิดในสิ่งที่ลูกชายทำลงไปเหมือนกันแต่คนที่กระอักกระอ่วนกว่าลินจงยังมี...
ลิตาก้มหน้าหลบสายตาผลดา เธออยากจะรู้จักแขกแต่ไม่อยากเจอผลดา เธอไม่คิดว่าเมียหลวงจะมาอยู่ในบ้านของอาคันตุกะที่พักอยู่ข้างบ้านของเธอ
“แม่ลินจงมาหาน่ะเฮียเชียน พา ‘คนของเฮียโจว’ มาด้วย” ทวิชที่เดินตามเข้ามาพูดขึ้นเสียงดัง นัยน์ตามีแววสนุกสนาน
คำว่า ‘คนของอาโจว’ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเมียน้อยเฮียโจว มาแสดงตัวต่อหน้าแขกแบบนี้แสดงว่าท่าทีเรียบร้อยก็คงเป็นแค่หนังชั้นนอก แหม... อยากจะลอกหนังออกมาให้เห็นธาตุแท้ด้านในจริง ๆ เชียว