“ความลับคืออาวุธ... แต่ในสนามนี้คำโกหกคือดาบสองคม ที่อาจฟันทั้งคนอื่นและตัวเราเอง”
รุ่งเช้าวันที่ห้า
ท้องฟ้ายังมืดหม่น ทั้งที่พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว
ไม่มีใครพูดถึงเกมเมื่อคืน
ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะสบตากัน
เตชินท์นั่งเหม่อที่บันไดไม้ใกล้ลานพัก
ในมือเขาคือลูกแก้วสีดำที่ยังไม่ได้ใช้
เขาเก็บไว้เงียบๆ เหมือนเป็น “พยานของความลังเล”
พริมเดินมาใกล้เขา เธอมีท่าทางสงบนิ่งเหมือนเดิม
แต่ในแววตานั้นเริ่มมีรอยเหนื่อยล้า
“นายจะทิ้งความลังเลได้เมื่อไหร่?”
“ในโลกนี้ คนที่ลังเล... ไม่ได้อยู่ถึงตอนจบหรอก”
เตชินท์ไม่ตอบ เขาเพียงลุกขึ้น
และพรมเสียงในใจไว้ให้เธอไม่ได้ยิน
“บางทีฉันอาจไม่ต้องอยู่ถึงตอนจบ... ถ้ามันหมายถึงต้องเป็นคนแบบเธอ”
เวลา 09:00 น.
เสียงลำโพงแทรกสายลมเช้าวันใหม่
“ผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่ 41 คนโปรดเดินไปยัง ‘ลานชั่งวิญญาณ’ ด้านตะวันตกพร้อมเตรียมของใช้ส่วนตัว 1 อย่าง”
“เกมถัดไป จะทดสอบ ‘น้ำหนักของความลับ’ ที่คุณแบกมาทั้งชีวิต”
ผู้เล่นทั้งหมดถูกพาไปยัง ลานทรายสีน้ำตาลแดง ล้อมด้วยเสาไม้ลวดลายชั่งน้ำตรงกลางมี "ตราชั่งขนาดยักษ์" สองฝั่งตั้งอยู่บนฐานศิลาสลัก
บนแท่น มีโคมไฟไทยโบราณส่องลงบน “กล่องไม้ปิดผนึก” ที่วางอยู่ด้านหน้ากล่องแต่ละใบมีชื่อของผู้เข้าแข่งขัน
ชื่อเกม: ลานชั่งวิญญาณ
กติกา: เกมนี้ไม่มีด่านให้วิ่ง ไม่มีกับดักให้หลบ… มีแต่ “ความลับ” ให้เปิดเผย
1. ผู้เข้าแข่งขันจะต้องนำ "ของส่วนตัว" ที่พกมา มาใส่ในกล่องไม้ตรงกลาง
2. จากนั้น ต้องตอบคำถามส่วนตัวจากระบบ 3 ข้อ
3. ถ้าคำตอบ "ขัดแย้งกับของที่ใส่ไว้" หรือ "ไม่ตรงกับข้อมูลที่ระบบรู้" ตราชั่งจะชี้ว่า “โกหก”
4. หากโกหกครบ 2 ข้อขึ้นไป... ผู้เล่นจะ "ถูกชั่ง"
และหากระบบตัดสินว่า “วิญญาณหนักเกินไป” จะถูกดึงลง "บ่อเวรกรรม" ใต้แท่น
หมายเหตุ: การโกหก "เพื่อปกป้องตัวเอง" ไม่ใช่ข้ออ้างที่ยอมรับได้ในเกมนี้
เสียงผู้เข้าแข่งขันเริ่มสั่น
“ของส่วนตัวเหรอ?”
“จะรู้ได้ยังไงว่าเราพูดโกหก?”
“นี่มันเกมล้วงข้อมูลไม่ใช่เหรอ!?”
คนแรกที่ขึ้นแท่นคือ หมายเลข 036 ‘ไผ่’
ชายหนุ่มผอมแห้งอายุราว 19 ปี
เขาหยิบ “พวงกุญแจการ์ตูนเด็ก” ใส่ลงในกล่องไม้
ระบบถามทันที
1. คุณเคยฆ่าใครมาก่อนหรือไม่?
“ไม่เคยครับ!”
ตรวจสอบแล้ว: โกหก (พบประวัติลักลอบวางเพลิงบ้านเจ้าหนี้)
2. สิ่งที่คุณรักที่สุดคืออะไร?
“ครอบครัวครับ!”
ตรวจสอบแล้ว: เป็นจริง
3. ถ้าเหลือข้าวคำสุดท้าย คุณจะกินเอง หรือให้คนอื่น?
“ให้คนอื่นครับ!”
ตรวจสอบแล้ว: โกหก (เคยทิ้งเพื่อนระหว่างหลบหนีเพื่อขโมยเสบียง)
สรุป: วิญญาณหนักเกินตาชั่งกำหนดดึงลงบ่อเวรกรรมโดยอัตโนมัติ
เสียง “ครืด...” ของแท่นเปิดดังขึ้น
ร่างไผ่ตกลงไปในเงาดำสนิท
เสียงกรีดร้องจางหายไปในไม่กี่วินาที
ผู้เล่นแต่ละคนขึ้นทีละคน
บางคนรอดเพราะ "พูดตรง ๆ" แม้จะน่าอับอาย
บางคนตกเพราะ “โกหกด้วยเจตนาดี” ก็ไม่รอด
หมายเลข 114 พริม ขึ้นแท่นเป็นคนที่ 29
เธอวาง “เข็มกลัดรูปช่อดอกจำปี” ลงในกล่อง
1. คุณเคยทำงานให้กับคนในระบบนี้หรือไม่?
“เคยค่ะ”
ตรวจสอบแล้ว: จริง (พริมเคยเป็นนักวิเคราะห์จิตวิทยาในทีมออกแบบเกม)
2. คุณเคยหลอกใครให้ตาย เพื่อความอยู่รอดของตัวเองไหม?
“...เคยค่ะ”
ตรวจสอบแล้ว: จริง
3. ถ้าเกมนี้มีคนชนะได้แค่คนเดียว คุณจะฆ่า ‘เตชินท์’ ไหม?”
เธอเงียบ…
นานหลายวินาที
“...ถ้าจำเป็น ฉันจะฆ่าเขาค่ะ”
ตรวจสอบแล้ว: จริง
ระบบระบุ: วิญญาณหนักปานกลาง แต่ยอมรับ ‘บาป’ ได้ตรง
ผ่านการชั่งน้ำหนัก
หมายเลข 027 เตชินท์ ถูกเรียกขึ้นเป็นคนที่ 33
เขาหยิบ "รูปพ่อแม่เก่าๆ" ใส่ลงในกล่องไม้
ภาพเก่า ยับ แต่สะอาด
1. คุณเคยขโมยของไหม?
“…เคยครับ”
ตรวจสอบแล้ว: จริง (เคยลักของจากร้านชำตอนเด็ก)
> 2. คุณเคยคิดจะฆ่าคนในเกมนี้ไหม?”
“...เคยครับ”
ตรวจสอบแล้ว: จริง (ตอนถือลูกแก้ว)
3. ถ้าคุณต้องเลือกระหว่างคนที่ไว้ใจ กับการรอดชีวิต... คุณจะเลือกอะไร?”
“...ผมไม่รู้ครับ”
ตรวจสอบแล้ว: เป็นความจริง (ไม่มีสัญญาณโกหก)
สรุป: ผ่านการชั่งน้ำหนัก
“คุณมีบาป... แต่คุณยอมรับมันได้”
เสียงระบบกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ
สุดท้ายมีผู้รอด 28 คน
เกมถัดไปจะมี “ระบบลงคะแนนคัดออก” จากผู้เล่นด้วยกันเอง
โดยไม่ใช้ระบบอัตโนมัติอีกต่อไป
ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป... เกมจะคัดคนออก
โดยการ "เลือกฆ่ากันเอง" ในทุกๆ 24 ชั่วโมง
เสียงลำโพงเงียบ
ผู้เล่นที่เหลือยืนแน่นิ่ง
พริมมองเตชินท์
เขาไม่พูด
เธอก็ไม่ยิ้ม
เกมที่แท้จริง... เพิ่งจะเริ่ม