Chapter 8: ผู้หญิงที่หวังให้เป็นเมีย

1501 คำ
“ลงรถสิคุณ ถึงโรงพยาบาลแล้ว” ศึกรบสะกิดแขนบางของกนากานต์แล้วบอกให้เธอเริ่มขยับตัว หญิงสาวทำแก้มป่องแล้วหันหน้ามองออกนอกรถตลอดระยะทางที่ชายหนุ่มขับรถมาโรงพยาบาล คงเคืองที่เขาแอบจูบตอนเผลอ แต่หากวันแรกไม่เริ่มรุกด้วยจูบเมื่อไหร่ถึงจะเย่อวะ? วันแรกจูบ อาทิตย์แรกได้ดูดนมหรือไม่ก็ทำให้เสร็จคานิ้ว เดือนแรกก็ได้เย่อชัวร์ เนี่ย... คิดมาดีแล้วถึงทำ นี่ค่อยเป็นค่อยไปแล้วนะ ไม่อยากฝืนใจ... ศึกรบคิดแล้วโน้มตัวไปหอมแก้มบางอีกฟอด “ว้าย! ไอ้บ้ากามนี่!” สาวน้อยกรีดร้องขึ้นมาแล้วทุบไปที่อกเขาตุ้บหนึ่ง “นี่คุณ... สัญญาสามเดือนเริ่มตั้งแต่วินาทีที่อัดเทปแล้วนะ เลิกเรียกผมว่าไอ้บ้ากามได้แล้ว ‘พี่โซขา’ ‘ผัวขา’ หัดพูดไว้ให้ชินปากเลย เดี๋ยวความแตกต่อหน้าคนอื่น ค่ารักษาน้องก็ชวด ทิปก็ชวดนะ บอกไว้ก่อนเลย” ชายหนุ่มทำเป็นขู่ “ค่ะ... ผัวขา...” กนากานต์มองเขาตาเขียว กัดฟันกรอดแล้วพูดเสียงลอดไรฟัน “น่ารักมากเบบี้ของพี่โซ” เขาพูดแล้วยิ้มพลางส่งมือไปหยิกแก้มนิ่มของคนรักหลอก ๆ หนึ่งที “อ้อ... แล้วไม่เกินสามวันผมจะให้คนจัดการย้ายน้องคุณไปอยู่โรงพยาบาล LK นะ ตั้งแต่พรุ่งนี้คุณต้องหาเวลาวันละสามชั่วโมงไป LK ทุกวัน เพื่อไปเจอผม ถ้าวันไหนผมหยุด... ส่วนใหญ่จะเป็นเสาร์อาทิตย์ คุณก็ต้องมาหาผมที่บ้านหรือที่ที่ผมนัดคุณไป ตอนเอาโทรศัพท์คุณมาผมกดโทรหาเบอร์ผมเรียบร้อยแล้ว เมมชื่อไว้ในโทรศัพท์ให้คุณแล้วด้วย เบอร์โทรอยู่ในชื่อ ‘ผัวขา’ ถ้ามีเหตุด่วนเหตุร้าย มาหาไม่ได้หรือติดอะไรก็โทรมา” หนุ่มหล่ออธิบายยาว “วันเสาร์วันอาทิตย์ไม่มีใครอยู่กับคุณนี่นา ทำไมต้องไปแสดงเป็นแฟนคุณด้วย?” สาวน้อยอดถามไม่ได้ นี่เสาร์อาทิตย์ก็จะไม่ให้เธอหยุดเลยหรือ? โรงงานนรกหรือเปล่าเนี่ย? “ชีวิตผมมันไม่ได้ราบเรียบนะคุณ เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้พักหรอก ไม่แม่เลี้ยงผม ก็น้องสาวชอบมาเสนอหน้าที่เพนต์เฮาส์ คุณต้องมาแสดงตัวว่าเป็นแฟนผม พวกนั้นจะได้ไม่ต้องมายุ่ง ชอบสาระแนมาบอกว่ามีญาติคนโน้น เพื่อนคนนี้อยากให้ผมรู้จัก ผมเซ็งมาก” ศึกรบชอบผู้หญิงนะ ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่หาเองได้ ไอ้ที่เอามาประเคนถึงที่ไม่ชอบหรอกนะ แถมยังมาแบบต้องการฐานะ อยากอยู่เป็นคู่รักระยะยาวยิ่งไม่เป็นที่พึงใจสำหรับศึกรบเลยแม้แต่น้อย “พวกเขาเป็นห่วงคุณหรือเปล่า? คุณนี่ดูหน้าตาท่าทางคงแก่กว่าฉันอย่างต่ำห้าปี อายุอานามก็มีลูกมีเมียได้แล้วแต่ยังเที่ยวกลางคืน ไม่มีแฟน ครอบครัวคงเป็นห่วง” สาวน้อยแสดงความเห็นแบบปลอม ๆ ที่ศึกรบมองปราดเดียวก็รู้ว่าเสแสร้งทำเป็นปลอบใจแต่แอบด่าว่าเขาแก่ “ผมเพิ่ง 30 สำหรับหมอมันคืออายุเริ่มของการทำงานจริงจังเลยนะ กว่าจะจบเฉพาะทางได้ไม่ใช่ง่าย ๆ นะคุณ พวกหมอเขาก็เริ่มชีวิตแต่งงานส่วนใหญ่หลัง 30 กันทั้งนั้น เร็วสุดก็ 29 แล้วอีกอย่างแม่เลี้ยงของผมน่ะเคยเป็นเมียน้อยพ่อ ถ้าแม่ผมไม่ตายไม่มีทางได้ขึ้นมาเป็นเมียหลวงหรอก ส่วนยัยน้องผมก็ลูกนอกสมรสที่จ้องจะเอาสมบัติตระกูลไปผลาญ แบบนี้คุณคิดว่าพวกเขาเป็นห่วงผมหรืออยากหาคนมาช่วยสูบเงินจากผมกันล่ะ?” ศึกรบบอกเล่าชีวิตของตัวเองให้กนากานต์ฟัง เมื่อสาวน้อยได้ฟังก็เกิดสงสารเขาขึ้นมานิดหน่อย “ชีวิตคนเรามันก็แบบนี้แหละผัวขา มีขึ้นมีลง มีดีมีร้าย คนที่เขาหวังประโยชน์จากผัวขาก็ต้องมีอยู่แล้ว คนที่เขาต้องการช่วยผัวขาก็ต้องมี ยกตัวอย่างเช่นเบบี้เป็นต้น ถึงเบบี้จะช่วยแลกเงินแต่ก็ถือว่าช่วยนะผัวขา” กนากานต์แกล้งพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน เรียกเขา ‘ผัวขา’ อย่างที่เขาเพิ่งบอกไปเหมือนเป็นการประชด เมื่อได้ยินศึกรบก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ น่าแปลกที่เขาพรั่งพรูเรื่องราวในชีวิตของเขาให้สาวน้อยเบบี้ฟังอย่างไม่เคอะเขินทั้งที่จริงแล้วเขาไม่ค่อยบอกเรื่องนี้กับใครเท่าไหร่ อย่าว่าแต่คนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันวันแรกเลย ขนาดเพื่อนที่คบกันมาหลายปีเขายังไม่เคยบอก แต่เบบี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าอีกแล้ว ต่อไปนี้เบบี้คือแฟนรับจ้าง ในอนาคตอันใกล้ก็ต้องเป็นเมีย... ศึกรบตกลงใจในวินาทีนั้นว่าเขาต้องการเบบี้ แค่เจอกันวันแรกเขาก็รู้ตัวแล้วว่าเขาต้องได้เธอ ยังไงเสียเบบี้ก็ต้องตกเป็นเมียเขาแน่ ๆ ...ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เขาต้องได้เธอ! *************************** แซมยืนตัวเกร็งอยู่ในห้องวีไอพีห้องที่สาม... ห้องที่ยังว่างอยู่ เบื้องหน้าของเขาคือหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นรูปหล่อ ว่าที่เจ้าของผับคนใหม่ที่ชื่อคุณน่านน้ำ ไค ทานากะ หรืออีกนัยหนึ่งคือ... ผัวเก่าเบบี้... เท่าที่เขาทราบมาน่ะนะ “ไอ้คนที่อุ้มเบบี้ออกไปเป็นใคร? นายต้องรู้ใช่ไหม? เพราะนายเป็นผู้จัดการชั้นวีไอพี ลูกค้าที่เดินออกมาจากห้องนั้นนายก็บอกว่าเป็นแขกวีไอพี” น่านน้ำถามเสียงเยือกเย็น เขาปรับสรรพนามที่เรียกแซมให้รื่นหูขึ้นเพราะเริ่มควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นแล้ว “เขาเป็นคุณหมอครับ ที่โรงพยาบาล LK...” “เหอะ! ก็แค่หมอตัวเล็ก ๆ... นึกว่าจะเจ๋ง” “เออ... เขาเป็นคุณหมอที่เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลเครือ LK ทั้งหมดในไทยน่ะครับ แล้วคุณพ่อเขาเพิ่งเสียเมื่อสามเดือนก่อน สรุปคือตอนนี้เขาเป็นหมอที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลด้วย...” มาถึงตอนนี้แซมตอบเสียงแผ่วเบาลงมาก หนุ่มร่างใหญ่แต่ท่าทางตุ้งติ้งคอยสังเกตท่าทีของเจ้านายใหม่ตลอดเวลา กลัวว่าน่านน้ำจะระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง “แล้วมันมีสิทธิ์อุ้มเบบี้ออกไปได้ไงวะ! แล้วนี่ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมเบบี้ไม่กลับมาทำงาน?” น่านน้ำคำรามถามอย่างน่ากลัว จริงดังที่แซมคาดไว้ เจ้านายหนุ่มดูท่าทางจะไม่พอใจกับข่าวที่ได้รับฟัง “คือ... คือว่า... เบบี้ไลน์มาบอกว่าปวดหัว ขอลางานน่ะครับ” แซมตอบกระอ้อมกระแอ้ม “แล้วนายก็ให้เบบี้ลาเหรอ?!” เขาตวาดถามเสียงดัง “ก็... คุณไคจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ? ก็น้องเขาบอกเขาปวดหัว” แซมทำหน้าราวกับจะร้องไห้ น่านน้ำสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วค่อย ๆ ผ่อนออกมาทีละน้อย เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนแต่ไหนแต่ไร ยิ่งมาเจอเหตุการณ์ที่กนากานต์ทำเป็นเมินใส่ ใจเขาก็ยิ่งร้อนรน “ปวดหัวก็ดี... ปวดหัวก็ต้องไปเยี่ยม นายรู้ใช่ไหมว่าเบบี้พักที่ไหน?” หนุ่มหล่อผิวแทนลุกขึ้นแล้วพาดแขนลงไปบนไหล่ของแซมพลางดันตัวคล้ายบังคับให้แซมเดินไปพร้อมเขา “เออ... ก็เคยไปหาน้องที่บ้านอยู่ครับคุณไค” แซมตอบ ไม่รู้เจ้านายใหม่จะมาไม้ไหน “ดี... พาฉันไปบ้านเบบี้...” ตั้งแต่น่านน้ำกลับจากญี่ปุ่นเขาก็ตามหากนากานต์มาตลอดหนึ่งปี แต่เธอกลับย้ายบ้าน ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น มาเจออีกทีก็เห็นเธออยู่ในผับนี้แล้ว ที่ช้ำใจคือเจอเธอจากไปกับชายคนอื่นนี่แหละ “ได้ครับ... พรุ่งนี้กี่โมงดีครับ?” แซมถามด้วยความนอบน้อม “อะไรคือพรุ่งนี้กี่โมง? ไปตอนนี้สิวะ เบบี้ปวดหัวต้องไปเยี่ยม” น่านน้ำตอบแล้วบีบไหล่แซมแน่นจนหนุ่มตัวโตนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ “เออ... แต่ผับยังไม่ปิด... ลูกค้าวีไอพีก็ยังอยู่นะครับ” “ให้คนอื่นดูไป ตอนนี้ผับนี้ทั้งผับก็ไม่สำคัญเท่าเบบี้” ชีวิตเขาทั้งชีวิตตอนนี้ไม่มีอะไรจะสำคัญเท่ากับเบบี้ของเขาอีกแล้ว เขาเคยเสียเธอไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อโชคชะตานำพาเธอมาอยู่ตรงหน้าเขา เขาจะไม่ยอมเสียเธอไปเป็นครั้งที่สอง เขารักเธอมากมาย ถึงเขาจะเคยร้ายกับเธอแต่เขาก็สุดรัก ดังนั้นเมียของเขาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้หญิงที่ชื่อเบบี้เท่านั้น!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม