EP : 6

1896 คำ
หมับ! “อย่ามาแตะตัวนะพี่กาย” “ทำไม? ทำไมจะแตะไม่ได้วะ” “ไม่ชอบ ไม่อยากให้มาแตะ ขยะแขยง!” “หึ! พี่มากกว่าไหมต้องพูดคำนี้ พี่ต่างหากรึเปล่าที่ต้องขยะแขยงผู้หญิงสกปรกอย่างเธอ!” “ถ้างั้นก็ปล่อยแล้วไสหัวไป จะไปฉลองวันเกิดกันเค้กกินตับหรือสมสู่กันท่าไหนก็ไปอย่ามาโดนตัวเพื่อนก็พอ!” “พี่ไปแน่พระเพื่อนแต่ก่อนไปมันต้องจัดการเธอก่อนไม่งั้นเดี๋ยวเธอแม่งก็เสือกไปขัดจังหวะตอนพวกพี่จะเอากันอีก!” “น่ารังเกียจ” ฉันตอกหน้าเข้าให้ ถ้าคิดว่าฉันจะรู้สึกอะไรกับคำพูดเขาคงมีแค่ความรู้สึกนี้แค่นั้น รังเกียจ! “เอาแต่แย่งแฟนคนอื่นไม่น่ารังเกียจเลยงั้นสิ?”​ “ก็ผู้ชายมันหน้าโง่นอกใจแฟนมันมาหาเพื่อนเองพี่กายจะให้เพื่อนทำยังไง” ฉันเชิดหน้าถามทำให้อีกคนจ้องแล้วกัดฟันใส่ “...” โมโหมากสินะ? “ทำไมไม่ตอบล่ะ พี่กายก็น่าจะตอบได้ดีนะเพราะพี่กายก็นอกใจมันมาหาเพื่อนเหมือนกัน” “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้พี่จะไม่แม้แต่มองหน้าเธอเลยพระเพื่อน” “ค่ะ แต่เสียใจด้วยนะที่ย้อนเวลากลับไปไม่ได้เลยต้องมีเพื่อนตามเป็นเจ้ากรรมนายเวรอยู่แบบนี้และคงเป็นตลอดไปจนกว่าอีนั่นจะเลิกแย่งอากาศเพื่อนหายใจ” “...ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ” “ยังไม่รู้อีกเหรอว่าเป็นคนแบบไหน? น่าจะรู้นะแล้วก็น่าจะรู้ด้วยว่าไม่ควรหาคำตอบจากคำถามนี้อีก” “...” “ยังไงดีคะที่รัก พร้อมจะไปสมสู่กับมันรึยัง? ถุงยางเตรียมไว้ด้วยนะด้วยความห่วงใย” “ไม่ต้องใช้หรอก นั่นพระแพงไม่ใช่เธอ” “อ้อ~ โอเค ตามสบายเลยค่ะ” คิดว่าฉันจะเจ็บหรือรู้สึกอะไรกับคำพูดของเขาเหรอ เสียใจด้วยนะเพราะคนอย่างพระเพื่อนไม่รู้สึกอะไรสักนิด “...หึ!” หมับ! “พี่กาย! พี่กายจะทำอะไรพี่กาย!” ฉันร้องโวยวายเพราะอยู่ ๆ เขาก็กระชากแขนฉันแรงมากจนฉันต้องถลาตาม “พี่กาย! พี่กายปล่อยเพื่อน พี่กาย!” ฉันทั้งร้องทั้งพยายามสะบัดตัวเอง ออกแรงจนสุดแรงก็เหมือนจะหลุดนั่นล่ะแต่มันก็ไม่หลุดอยู่ดี! ฉันทั้งพยายามสะบัดข้อมือทั้งต้องเดินตามแรงกระชากจนกระทั่งฉันมองเห็นว่าเขากระชากฉันตรงไปที่ไหนฉันก็เริ่มโวยวายเสียงดังมากกว่าเดิม “พี่กายจะพาเพื่อนไปไหน อย่านะมาทำแบบนี้กับเพื่อนนะพี่กาย! พี่กายปล่อย! ปล่อย!” ยิ่งเข้าใกล้ห้องเก็บของฉันก็ยิ่งตะโกนบ้าคลั่งแต่เขาก็ไม่หยุดแถมยังกระชากฉันแรงกว่าเดิมจนถึงประตูฉันก็ถูกผลักเข้าไป ผลัก! “โอ้ย!” เขาผลักแรงจนฉันถลาไปชนกับตู้เก็บของแต่ไม่ใช่เวลามาเจ็บเพราะฉันต้องออกไปให้เร็วที่สุด! ปัง! “พี่กาย!” ฉันรีบวิ่งไปที่ประตูแล้วแต่ไม่ทันเพราะเขาปิดประตูก่อนพอพยายามจะเปิดประตูก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเพราะลูกบิดประตูห้องนี้มันเสียทำให้มันเปิดจากข้างในไม่ได้! ปัง! ปัง ๆๆ “พี่กายปล่อยเพื่อนนะ! พี่กาย! เพื่อนรู้ว่าพี่กายได้ยิน! พี่กายอย่ามาทำกับเพื่อนแบบนี้! พี่กาย พี่กาย! พี่กาย! ไอ้พี่กาย! กรี๊ด!!!” #PHRAPUEN END #GUY TALK “พี่กายปล่อยเพื่อนนะ! พี่กาย! เพื่อนรู้ว่าพี่กายได้ยิน! พี่กายอย่ามาทำกับเพื่อนแบบนี้! พี่กาย พี่กาย! พี่กาย! ไอ้พี่กาย! กรี๊ด!!!” “...” ผมยืนฟังเสียงที่ลอดออกมาให้ได้ยินไม่ดังเท่าไหร่แต่รู้ว่าคนข้างในต้องตะโกนคอแทบแตกแน่ ๆ เสียงมันถึงดังออกมาได้ขนาดนี้ก่อนจะหันหลังเดินออกมา อยู่ในนั้นแหละไม่ต้องออกมาทำให้คนเกลียดเพิ่ม แค่นี้ก็พอแล้วเพราะแค่นี้คนรอบข้างก็เอือมระอากันแทบบ้าตายแล้ว ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด ติ๊ด! (สวัสดีค่ะคุณกาย) “ผมพร้อมแล้ว เข้ามาได้เลยครับ” (รับทราบค่ะ) “ทันใช่ไหมครับ” (ไม่มีปัญหาค่ะ ทางเราเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้วแค่เข้าไปจัดสถานที่รับรองว่าปาร์ตี้คืนนี้จะถูกใจคุณกายแน่นอนค่ะ) “ครับ ขอบคุณมาก” ติ๊ด! ยี่สิบปีที่พระแพงไม่เคยได้ฉลองวันเกิดดี ๆ สักครั้ง สิบกว่าปีที่พระเพื่อนรังควานตามพังงานวันเกิดของเธอมาตลอดจนสุดท้ายต้องจบด้วยการร้องไห้เสมอวันนี้ผมแค่อยากทำให้เธอมีความสุขเหมือนคนอื่นบ้างสักครั้งก็ยังดี พี่จะทำให้มีความสุขนะพระแพง ถึงจะไม่มากเท่าที่โดนทำให้เสียใจแต่พี่...จะชดใช้แทนพระเพื่อนเอง -เวลาต่อมา- “เป็นไงเรา ชอบไหม” “ชอบค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะพี่กาย” เราส่งแขกคนสุดท้ายเสร็จแล้วครับ ปาร์ตี้วันเกิดของพระแพงจบลงตอนตีหนึ่ง แขกของเธอมีแค่ไม่กี่คน สิบกว่าคนเท่านั้นแล้วก็ไม่มีใครกินเหล้าเมาเละเทอะสักคนทำให้ปาร์ตี้ไม่ต้องลากยาวมาก “พี่ดีใจที่ชอบนะ” “จะไม่ชอบได้ยังไงคะนี่เป็นปาร์ตี้วันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตแพงเลยนะ ถ้าไม่ได้พี่กายจัดให้แพงคงไม่มีโอกาสได้สนุกกับเพื่อนเต็มอิ่มแบบนี้ ขอบคุณนะคะพี่กาย พี่กายให้ของขวัญที่ดีที่สุดเลย”​ “หึ ๆๆ ของขวัญอะไรพี่แค่จัดปาร์ตี้ให้ ของขวัญของจริงอยู่ในรถต่างหาก” “คะ?” “ของขวัญไง” “ให้ทำไมคะพี่กายไม่เอาค่ะแค่จัดงานวันเกิดให้ก็เยอะแล้ว” “ไม่ได้หรอก ไปเร็ว ไปดูของขวัญบนรถดีกว่า”​ “แต่... / มาเถอะน่า” ผมยิ้มแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าให้เธอก่อนที่จะพาเธอไปที่รถเพื่อไปส่งเธอที่คอนโดเลย พอขึ้นรถขับออกมาพระแพงก็แกะของขวัญพอเห็นของขวัญที่ผมห่อให้เธอก็ยิ้มกว้าง “ชอบไหม” “ชอบคะ แต่แพงว่ามันมากไปพี่กายเก็บไว้ให้เพื่อนดีกว่าไหมคะ” “ให้ทำไม พี่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเราไม่ได้ซื้อให้เพื่อนสักหน่อย” “แต่ถ้าเพื่อนรู้ก็คงไม่พอใจนะพี่กาย” “ก็อย่าให้รู้ พี่ไม่ได้กลัวพระเพื่อนหรอกนะแพงแต่ไม่อยากให้เพื่อนไปรังควานเราเรื่องของขวัญ รับไปเถอะพี่ตั้งใจซื้อให้” “แต่... / พระแพง” “เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” “อื้ม” ผมขับรถต่อใช้เวลาไม่นานก็ถึงคอนโดของเธอ ความจริงตั้งแต่ออกจากบ้านมาถึงคอนโดพระแพงผมขับรถแค่สิบนาทีเท่านั้นเพราะบ้านผมกับคอนโดเธออยู่ใกล้กัน “ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่กาย แพงจะไม่ลืมปาร์ตี้ปีนี้เลย” “อื้ม เรามีความสุขก็ดีแล้ว” “แล้วว่าแต่...เพื่อนไปไหนเหรอคะ” ผมบอกพระแพงตั้งแต่เมื่อวานว่าผมจะจัดการทุกอย่างเองให้เธอสบายใจไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้นพอผมจัดการเรื่องพระเพื่อนได้พระแพงก็คงแปลกใจพอสมควร “อยู่ในบ้านนั่นล่ะ” “คะ?” “พี่ขังไว้” “อะไรนะคะ พี่กายขังเพื่อนไว้เหรอ?” พระแพงตกใจกับคำตอบ ผมขังเธอไว้ในห้องเก็บของหลังบ้าน แต่ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะก่อนขังผมเตรียมอาหารเตรียมน้ำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว “อื้ม” “เดี๋ยวก็เป็นเรื่องใหญ่นะคะพี่กาย” “พี่รู้ แต่ก็ต้องวิธีนี้ล่ะจะได้ไม่มารังควานใครแล้วก็ให้รู้บ้างว่าการโดนแกล้งโดนทำให้ทรมานมันเป็นยังไง” “เฮ้อ! แพงไม่สบายใจเลย แล้วเพื่อนอยู่ไหนคะ ในห้องนอนน่ะเหรอ แต่ห้องนอนมีหน้าต่างมีระเบียงพี่กายล็อคได้หมดเลยเหรอคะ” “เปล่า” “แล้วพี่กายเอาเพื่อนไปไว้ที่ไหนคะ” พอได้คำตอบพระแพงก็ยิ่งทำหน้าสงสัยมากกว่าเดิม “ห้องเก็บของ” “คะ?” “ห้องเก็บของหลังบ้าน” “พี่กาย!” พอได้ยินคำตอบพระแพงก็เสียงดังใส่ผมทันที “ทำไม แค่ห้องเก็บของเอง” “ไม่แค่หรอกค่ะ พี่กายรีบกลับบ้านไปหาเพื่อนตอนนี้เลย” “ส่งเราเสร็จก็กลับไปเปิดประตูให้แล้วน่า ไม่ต้องห่วงหรอกพี่เตรียมข้าวเตรียมน้ำไว้ให้แล้ว ทำความสะอาดห้องนั้นจนเรียบร้อยอยู่ทั้งวันยังได้” “พี่กายมันไม่ใช่แค่ขังแต่เพื่อนกลัวที่แคบนะคะ” “เหรอ? ไม่เห็นเคยรู้เลย” ผมก็เห็นปกติตลอก อยู่ในลิฟท์ก็ไม่เห็นมีอาการกลัวที่แคบนี่ เมื่อก่อนตอนอยู่คอนโดขึ้นลงลิฟท์เองตั้งหลายครั้งก็ปกติทุกอย่างจะกลัวที่แคบได้ยังไง “พี่กายคะมันเป็นเรื่องที่นานมาแล้วแต่เพื่อนเขาฝังใจมาตลอด มันไม่ใช่แค่ที่แคบแต่เป็นห้องเก็บของเลย” เสียงพระแพงร้อนรนทำให้ผมเริ่มสนใจคำพูดของเธอ “ยังไง?” “ตอนสมัยเป็นเด็กเพื่อนแกล้งผลักแพงตกน้ำคุณลุงก็เลยจับเพื่อนไปขังไว้ในห้องเก็บของคนเดียวทั้งคืน แล้วเพื่อนก็ฝังใจมากพอโดนคุณลุงทำทาด้วยการขังครั้งที่สองแค่ครึ่งชั่วโมงเพื่อนก็ช็อคจนเข้าโรงพยาบาลเลยนะคะ” “อะไรนะ!” ผมไม่เคยรู้ว่าพระเพื่อนแกล้งพระแพงจนโดนทำโทษขนาดนั้น ยิ่งได้ยินว่าเธอฝังใจจนช็อคผมก็ยิ่งตกใจ “พี่กายไม่ต้องมาตกใจหรือสงสัยอะไรเลยค่ะรีบไปหาเพื่อนเลยไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นยังไงบ้าง ไปเร็ว ๆ เลยค่ะพี่กาย” พระแพงพูดจบก็รีบลงจากรถส่วนผมก็รีบเหยียบรถออกมาทันที “...แม่งเอ้ย!”​ ผมโมโหที่สุดเลยว่ะ ได้แต่ภาวนาให้ตอนนี้เธอเลิกฝังใจเรื่องนั้นแล้วก็ไม่เป็นอะไร ขอให้เธอยังปกติดี ขอให้เธออย่าเป็นเหมือนเดิมอย่างที่พระแพงบอกเลย ขอให้พระเพื่อนยังเป็นพระเพื่อนที่โคตรร้ายคนเดิมผมขอแค่นั้นก็พอ -เวลาต่อมา- ผมใช้เวลาขับรถมาถึงบ้านไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำแต่เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ที่โคตรยาวนานในชีวิต มันนานมากแค่จากประตูบ้านวิ่งไปให้ถึงห้องเก็บของผมยังรู้สึกว่ามันนานเลย กริ๊ก! “พระเพื่อน!” ผมเปิดประตูด้วยความรีบร้อนแล้วก็ได้เห็นภาพที่ทำให้ผมโคตรรู้สึกแย่เพราะคนที่เคยอวดเก่งมาตลอดไม่เคยให้ใครเห็นน้ำตาของเธอเลยสักครั้งกำลังนั่งกอดเข่าขดตัวอยู่ที่พื้นมุมห้อง ดูก็รู้ว่าเธอหวาดกลัวเหมือนที่พระแพงบอกจริง ๆ ที่สำคัญผมได้เห็นน้ำตาของเธอเป็นครั้งแรกในชีวิต “พระเพื่อน พี่ขอ... / สนุกกันมากไหม?​ พอใจรึยังกับการขังเพื่อนไว้ครึ่งวัน? ถ้าไม่พอใจก็ขังต่อแล้วไปเอากับมันให้ถึงเช้าซะ...ไอ้สารเลว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม