ตอนที่ 7 เรื่องไม่คาดคิด

2039 คำ
น็อกซ์ : เธอมาทำอะไรที่นี่? ทำไมถึงพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนั้น? ทุกอย่างมันชวนให้ฉันสับสนไปหมด หรือว่านี่เป็นแผนแกล้งของหลุยส์? ฉันหันไปมองเขา หวังจะหาคำตอบจากท่าทางของเขา แต่หลุยส์กลับยักไหล่ สีหน้าของเขาดูงงไม่ต่างจากฉัน “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?” เสียงของลูเซียเรียกสติฉันกลับมา ขณะที่เธอนั่งลงบนเก้าอี้ประจำที่ของเธอ “เพื่อพระเจ้า อย่าทำเรื่องใหญ่ตอนนี้ มันสำคัญ คุณค่อยคิดทุกอย่างทีหลังได้” หลุยส์กระซิบเตือนฉันจากข้างหลัง “ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ” ฉันตอบไปเรียบๆ ก่อนจะนั่งลงในที่ของตัวเอง แม้ว่าหัวของฉันจะเต็มไปด้วยคำถามที่อยากจะถามเธอ แต่ฉันก็เลือกที่จะเก็บมันไว้ อย่างน้อย... ในตอนนี้ “เอาล่ะค่ะ ท่านสุภาพบุรุษ” ลูเซียพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง “ตามที่เราได้ตกลงกันไว้ โรงพยาบาลโคฟเลอร์รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับบริการจาก LuxLab” “ถือเป็นเกียรติของเราค่ะ” ลูเซียตอบกลับด้วยรอยยิ้มสงบ “เรามั่นใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ในนามของบริษัท ฉันขอให้คำมั่นถึงความตั้งใจและความรับผิดชอบของเรา” บทสนทนาของเธอเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้ที่ติ จากนั้นทีมงานคนอื่นๆ ก็เริ่มพูดถึงรายละเอียดของสัญญา ทุกคนในห้องต่างตั้งใจฟัง รวมถึงลูเซีย ที่ไม่แม้แต่จะเหลือบมองมาทางฉันเลยจนกระทั่งถึงเวลาลงนาม “ยินดีอย่างยิ่งครับ” หลุยส์กล่าวขณะจับมือกับตัวแทนจาก LuxLab เพื่อปิดการเจรจา “ขอโทษนะครับ” ฉันพูดขึ้นมา “หลุยส์ ช่วยพาทุกคนไปส่งที่ทางออกหน่อยได้ไหม? ผมอยากคุยเรื่องบางอย่างกับคุณผู้หญิงสักครู่” “ฉันไม่เห็นความจำเป็นค่ะ คุณโคฟเลอร์ หากคุณมีคำถาม ทีมงานของฉันและฉันพร้อมจะตอบ” ลูเซียพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ลูเซีย” ฉันเรียกชื่อเธอ เสียงของฉันนิ่งและกดดันพอสมควร “แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น” เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า เธอปรับกระเป๋าบนไหล่แล้วลุกขึ้นยืนโดยไม่พูดอะไร เมื่อทุกคนออกไปจนหมด ความเงียบก็เข้าปกคลุมห้องประชุม ฉันหันกลับมามองเธอ แต่เป็นเธอที่เริ่มพูดก่อน “ฉันมีงานอีกมากที่ต้องจัดการ ถ้าจะพูดอะไร ขอให้พูดให้กระชับนะคะ” “แน่นอน ผมจะพูดสั้นๆ แต่ก่อนอื่น คุณกำลังพยายามทำอะไรอยู่?” “ขอโทษนะคะ?” “คุณคิดอะไรอยู่ ถึงได้กล้ามาที่โรงพยาบาลของผม?” “โอ้! ตอนนี้คุณเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลแล้วสินะ ยินดีด้วยค่ะ” “ยินดีด้วย? คุณพูดเหมือนอยากให้ผมตายเสียมากกว่า” “ไม่เลยค่ะ ฉันไม่ได้เสแสร้ง คุณโคฟเลอร์” “โคฟเลอร์? อย่างน้อยช่วยเรียกชื่อผมได้ไหม?” “ฉันใช้คำที่เหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ เพราะเรามีความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจ และตราบใดที่มันเป็นแบบนี้ ฉันก็ขอพูดอย่างเป็นทางการดีกว่า” ฉันกำหมัดแน่น ความรู้สึกเดือดพล่านในอกเหมือนจะระเบิดออกมา “ผมเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว ลูเซีย ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงโผล่มาที่นี่ พร้อมกับท่าทีที่ดูเหมือนจะท้าทายผมทุกอย่าง” “ฉันคิดว่าคุณอาจต้องปรึกษาเรื่องควบคุมอารมณ์นะคะ ตั้งแต่มาถึง ฉันปฏิบัติกับทุกคนอย่างมืออาชีพ ฉันไม่ได้ล่วงเกินคุณเลยแม้แต่นิดเดียว” “หึ! คุณจะบอกว่าคุณไม่ได้วางแผนเรื่องทั้งหมดนี้?” เธอถอนหายใจเบาๆ “ฉันจะทำแบบนั้นไปทำไม? คุณก็เป็นแค่ลูกค้าคนหนึ่ง แค่นั้น” คำพูดของเธอทำเอาฉันนิ่งไป คำตอบนั้นเหมือนเป็นเข็มที่จิ้มลงตรงจุดที่อ่อนไหวที่สุดของฉัน “ฉันไปได้หรือยังคะ?” “ไปสิ” ฉันพูดพลางหันหลังให้เธอ วางมือทั้งสองข้างบนโต๊ะ พยายามกดความโกรธในอกให้สงบ เสียงส้นรองเท้าของเธอดังก้องไปตามทางเดินจนกระทั่งเงียบไป เมื่อฉันหันกลับมา สิ่งที่เหลือในห้องมีเพียงความว่างเปล่า ฉันยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเมื่อหลุยส์เดินกลับเข้ามา สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความสงสัย “ฉันนึกว่านายจะโวยวายใหญ่โตตอนเห็นเธอเสียอีก!” “ปล่อยฉันเถอะ” ฉันตอบเสียงต่ำ ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุม ระหว่างทางเดิน ฉันสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่หลบหลีกทางให้ฉันเดินผ่าน ไม่มีใครกล้าสบตา แต่ในหัวของฉันกลับเต็มไปด้วยความคิดถึงคำพูดและท่าทีของเธอ “หยิ่งยโสนัก” ฉันพึมพำ พลางเดินเข้าห้องทำงานแล้วปิดประตูเสียงดัง ก่อนจะปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเงียบในห้องที่มีเพียงฉันและความคิดวุ่นวายในหัวของตัวเอง ---- ลูเซีย : ฉันเดินออกจากโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกสงบและมั่นใจ ลมอ่อนๆ พัดผ่าน เส้นผมลอยระริกรอบใบหน้า ฉันยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว มันไม่ใช่แค่ความโล่งใจ แต่เป็นความภูมิใจในตัวเอง เพราะฉันเดินทางมาไกลเหลือเกินจากเด็กสาวที่เต็มไปด้วยความกลัวเมื่อหกปีก่อน “ว้าว ฉันคิดว่าเธอจะใช้เวลานานกว่านี้อีก” เสียงฟิลิโปดังขึ้น เขายืนอยู่ข้างนอก รอฉันพร้อมท่าทางเหมือนคนว่างงาน “ถ้าเรื่องมันไม่ซับซ้อน ก็ไม่ควรจะเสียเวลานานนี่” ฉันตอบพลางยักไหล่ เขาเบิกตากว้างเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มมุมปาก “น่าแปลกใจนะ แต่รู้ไหม? ฉันชอบวิธีคิดแบบนี้” “ว่าแต่นายจะรอทำไม? ฉันคิดว่านายกลับไปก่อนได้ ไม่เห็นต้องรอฉัน” “ก็แน่นอน ฉันมีเหตุผลที่ต้องรอ” เขาพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ “เราต้องคุยเรื่องเงินเดือนของฉันไง” “น่าจะเดาได้ วันแรกก็เริ่มพูดเรื่องเงินแล้วสินะ” ฉันส่ายหน้าเบาๆ “ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเงินแล้วในโลกนี้” “โอเค งั้นเราคุยกันระหว่างทางแล้วกัน” ฉันตอบพลางถอนหายใจ “อ่า ดูเหมือนเราเริ่มจะเข้ากันได้แล้วนะ แล้วว่าแต่เราจะไปไหน? อย่าบอกนะว่าเธอจะพาฉันไปบ้านเธอ” “ไม่ใช่หรอก ฉันต้องไปหาของที่สัญญาไว้กับไดอานิต้าก่อน แต่ตอนนี้ฉันเริ่มหิวแล้ว” “งั้นฉันไปด้วย แต่เธอจ่ายนะ” “นายทำแบบนี้กับทุกคน หรือแค่กับฉัน?” “ฉันก็แค่เป็นตัวของตัวเอง คนชอบฉันเพราะความตรงไปตรงมานี่แหละ” “เหรอ? งั้นนายจะบอกว่าที่แองจี้หลงรักนายก็เพราะนิสัยแบบนี้?” “เฮ้ๆ เดี๋ยว อย่าเอาเรื่องเงินของฉันไปปนกับการแต่งงานของฉันสิ เข้าใจไหม? แล้วเธอจะพาฉันไปที่ดีๆ นะ ฉันกระหายน้ำจะตายอยู่แล้ว อากาศร้อนขนาดนี้ เหมือนตัวจะละลาย” “โอเค สัญญาว่าจะพาไปที่เย็นสบายสุดๆ” ผ่านไปไม่นาน เราก็นั่งอยู่ในร้านไอศกรีมเล็กๆ แห่งหนึ่ง พนักงานสาวเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มหวานเพื่อรับออเดอร์ “ตอนฉันบอกว่าที่เย็นๆ ฉันไม่ได้หมายถึงแบบนี้” ฟิลิโปบ่นพึมพำ สีหน้าดูไม่ค่อยพอใจ “ที่นี่มีอะไรไม่ดี? อากาศร้อนแบบนี้ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าไอศกรีมหรอก” ฉันสั่งไอศกรีมซันเดย์ถ้วยใหญ่รวมหลายรส ก่อนจะหันไปถามฟิลิโป “แล้วนายจะสั่งอะไรไหม?” เขามองฉันด้วยสายตาที่เหมือนจะฆ่า “งั้นน้ำเปล่าสำหรับเขาแค่นั้นค่ะ” ฉันบอกพนักงาน ก่อนเธอจะยิ้มและเดินไป “ฉันว่าเจอกันใต้สะพานยังจะดีกว่ามานั่งที่นี่” “เลิกบ่นเถอะ แล้วลองเปลี่ยนทัศนคตินิดนึง” “เธออยากให้ฉันเปลี่ยนทัศนคติ? งั้นก็บอกมาเลยว่าเงินเดือนฉันเท่าไหร่” “โอเค ฟิลิโป แต่ก่อนจะบอก ขอถามนายสักข้อได้ไหม?” “ได้ แต่แค่ข้อเดียวนะ” “ทำไมนายถึงสนใจแต่เรื่องเงิน? ไม่มีเรื่องอื่นที่สำคัญหรือน่ากังวลสำหรับนายบ้างเลยเหรอ? นายแต่งงานนี่นา ฉันคิดว่านายแต่งงานเพราะความรัก” เขาหัวเราะออกมาเหมือนฉันเล่าเรื่องตลกที่ตลกที่สุดในชีวิต “โอ้ ได้โปรดเถอะ ทุกวันนี้ใครจะแต่งงานเพราะความรักกัน? การแต่งงานมันก็แค่สัญญา เป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง” “นายพูดอะไรของนาย? งั้นนายไม่ได้รักแองจี้เลยเหรอ?” “ฟังนะ ฉันก็แคร์เธอ โอเคไหม? แต่ยัยนั่นให้เงินฉันใช้เพื่อรักษาไลฟ์สไตล์และความต้องการของฉัน” “เธอเลี้ยงดูนาย” ฉันพูดตรงๆ “เฮ้ อย่าพูดแบบนั้นสิ” “แต่ความจริงก็คือ แองจี้กำลังเลี้ยงนาย นายพอใจกับชีวิตแบบนี้จริงๆ เหรอ?” “ใช่ และฉันไม่อายด้วย” เขาตอบหน้าตาย ก่อนจะเอนตัวพิงเก้าอี้อย่างสบายใจ “เธอรู้คุณค่าของฉัน และรู้ว่าเธอจะไม่มีวันหาผู้ชายแบบฉันได้อีก” “นายกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?” “แล้วเธอบ่นอะไร? ฉันไม่ได้อยู่เฉยๆ นะ ฉันให้ความรัก ความเข้าใจ พาเธอไปงานน่าเบื่อพวกนั้น เธอให้ฉันสิ่งที่ฉันต้องการ และฉันก็ตอบแทนด้วยการอยู่ข้างๆ” “ไอศกรีมของคุณค่ะ” พนักงานเสิร์ฟวางซันเดย์ของฉันลงบนโต๊ะ “ส่วนน้ำเปล่าของคุณจะตามมาในอีกสักครู่ค่ะ” “เดี๋ยวสิ” ฟิลิโปเรียกเธอไว้ “ฟังนะ คุณช่วยหาขวดเหล้าให้ผมสักขวดได้ไหม? ช่วยหน่อยน่า” “แต่ที่นี่ไม่มีบริการแบบนั้นค่ะ” “อ้อ แต่คนสวยๆ อย่างคุณน่ะ ขออะไรต้องได้อยู่แล้ว ช่วยหน่อยสิ” เขาพูดพลางขยิบตาอย่างไม่อาย ทำให้เธอหน้าแดงก่อนจะยิ้มอายๆ แล้วเดินออกไปพร้อมคำขอของเขา ---- แองจี้ : “คุณผู้หญิงกำลังทำอะไรอยู่คะ?” แม่บ้านถามขึ้น เมื่อเดินเข้ามาเห็นฉันง่วนอยู่ในครัว “ฉันแค่ลองทำอะไรสักอย่างน่ะ อยากเตรียมไว้ให้สามี วันนี้เขาเริ่มงานวันแรก ฉันคิดว่าเขาคงเหนื่อยล้ากลับมาแน่ๆ” ฉันตอบพลางมองไปที่ถาดขนมที่ยังไม่เสร็จดี “แต่คุณผู้หญิงไม่ควรลงมือเองให้เลอะเทอะแบบนี้เลยนะคะ คุณบอกให้ฉันทำแทนก็ได้ ฉันจะจัดการทุกอย่างให้คุณเอง” “ไม่หรอก ฉันอยากทำด้วยตัวเอง ฉันอยากดูแลเขาบ้าง ตอนที่เราไปเยี่ยมพี่สาวเขา เธอทำของว่างไว้ให้อร่อยมาก ฉันก็เลยอยากลองทำอะไรแบบนั้นบ้าง” “คุณพูดถึงพี่สาวของคุณผู้ชายเหรอคะ?” “ใช่ค่ะ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากจริงๆ แล้วลูกสาวเธอก็น่ารักมาก เด็กคนนั้นทั้งสุภาพและเรียบร้อย เป็นเด็กที่ใครๆ ก็ต้องหลงรัก” แม่บ้านยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดต่อ “ดีจังเลยนะคะ อย่างน้อยคุณผู้หญิงก็ได้รู้จักครอบครัวของคุณผู้ชายมากขึ้น” แล้วเธอก็เปลี่ยนเรื่อง “ขอโทษนะคะที่ต้องขัดจังหวะ แต่ฉันมาบอกว่าคุณลูกพี่ลูกน้องของคุณผู้หญิงเพิ่งมาถึงค่ะ ตอนนี้เธอรออยู่ในห้องนั่งเล่น” “ลูกพี่ลูกน้อง? ใครเหรอ?” “เดี๋ยวคุณไปดูเองดีกว่าค่ะ” ฉันรีบล้างมือแล้วเช็ดเบาๆ โดยไม่ทันสังเกตว่ามีคราบแป้งติดอยู่บนหน้าผากและผม จากนั้นก็เดินตรงไปยังห้องนั่งเล่น เมื่อเปิดประตูเข้าไป ฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ หันหลังให้ฉันด้วยท่าทางผ่อนคลาย ความอยากรู้ทำให้ฉันเดินเข้าไปใกล้ จนเมื่อเธอหันมายิ้ม ฉันถึงได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย “เอเลน่า!” ฉันเรียกชื่อเธอด้วยความดีใจเต็มเปี่ยม เธอส่งยิ้มกว้างกลับมา ใบหน้าแทบไม่เปลี่ยนไปเลยจากครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน ฉันจำไม่ได้แล้วว่าครั้งนั้นมันนานแค่ไหน แต่การได้เจอเธอวันนี้ เหมือนทำให้ช่วงเวลาที่เราห่างกันนั้นเลือนหายไปหมด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม