ความเหมือนที่แตกต่าง
แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านลูกไม้ในบ้านไม้หลังเล็กในต่างจังหวัด
เสียงหัวเราะแผ่วเบาของเด็กหญิงสองคนดังขึ้นสลับกับเสียงไก่ขัน
“พาขวัญ! อย่าแย่งสิ ฉันจะวาดก่อน!”
“ก็พี่ขวัญข้าวไม่เคยให้หนูนี่นา!”
เด็กหญิงสองคนที่หน้าตาเหมือนกันราวกับเงาในกระจก ต่างนั่งวาดรูปอยู่บนพื้นไม้เก่า
คนหนึ่งมัดผมเปียเรียบร้อย ดวงตากลมโตใสซื่อ
อีกคนปล่อยผมรุงรัง ดวงตาคมและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
แม่มักพูดเสมอว่า “ขวัญข้าวเหมือนเปลวไฟ ส่วนพาขวัญเหมือนหยาดน้ำ”
สองพี่น้องที่เกิดวันเดียวกัน แต่นิสัยใจคอกับแตกต่างกันเหลือเกิน
เมื่อโตขึ้น… เส้นทางของทั้งคู่ก็เริ่มแยกออกชัดเจน
พาขวัญ เป็นเด็กเรียบร้อย ขยันเรียน ชอบดนตรี เธอฝันอยากเป็นครูสอนเปียโน อยู่ในโลกเล็กๆ ที่สงบและอบอุ่น
แต่ ขวัญข้าว … เธอเลือกอีกเส้นทางหนึ่ง
สาวสวยเจ้าของรอยยิ้มยั่ว ผู้ชอบใช้ใบหน้าเหมือนน้องสาวเป็นเครื่องมือ จากการโกหกเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ เธอใช้ชื่อ “พาขวัญ” ไปหลอกผู้ชายมากมายบางคนเสียเงิน บางคนเสียใจ และบางคนแทบหมดอนาคต
คืนหนึ่งในเล้าท์หรูใจกลางกรุงเทพฯ เสียงเพลงแจ๊ซคลอเบาๆ หญิงสาวในเดรสแดงสูงเสียดต้นขาเดินเข้าสู่แสงไฟ
เธอใช้ชื่อ “พาขวัญ”แต่คนทั้งร้านไม่มีใครรู้ว่าชื่อจริงของเธอคือ ขวัญข้าว
“คืนนี้มีของเด็ด... ประมูลพิเศษ — พรมจรรย์ของพาขวัญ”
เสียงพิธีกรประกาศก้องกลางห้องและขวัญข้าวเพียงยิ้ม ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบเหมือนไม่รู้สึกอะไรแววตาของเธอไม่ต่างจากนักล่าที่รู้ว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
อีกฟากหนึ่งของเมือง พาขวัญนั่งอยู่ในห้องซ้อมเปียโนเก่า โทรศัพท์ในมือสั่น ข้อความเดียวที่ปรากฏบนหน้าจอคือรูปภาพ
ภาพหญิงสาวที่หน้าเหมือนเธอทุกกระเบียดนิ้ว ยืนอยู่บนเวทีประมูลในชุดเดรสแดง เลือดในกายเย็นเฉียบ มือสั่นจนโทรศัพท์แทบหลุดจากมือ
“พี่ขวัญ... นี่มันอะไร... พี่ทำอะไรของพี่?”
จนวันนี้ที่ทั้งสองอายุครบ24 สองชีวิตที่เริ่มต้นจากอ้อมกอดเดียวกันกลับยืนอยู่คนละขั้วของโลกขวัญข้าว… เลือกเส้นทางที่มีแต่แสงสี เงินตรา และคำโกหก ส่วนพาขวัญ… พยายามรักษาความดีงามที่เหลืออยู่ในชื่อเดียวกัน แต่ทุกอย่างกลับพังทลายเมื่อคนที่ขวัญข้าวเข้าไปหลอกลวงครั้งนี้ ไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่ผ่านๆมา
เสียงฝนซัดกระจกในค่ำคืนที่แสงไฟจากเมืองใหญ่พร่ามัว
ภายในเล้าท์หรูยังคงคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์และน้ำหอมราคาแพง
“สองล้าน...”
เสียงชายหนุ่มทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นกลางความเงียบ
ผู้ชายคนนั้น...
สูทดำเรียบหรู ใบหน้าคมเฉียบ แววตานิ่งเย็นเหมือนน้ำแข็ง —
คิรินทร์
เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ชายผู้ไม่เคยสนใจเรื่องผู้หญิง แต่กลับยกมือประมูลผู้หญิงคนหนึ่ง
หญิงสาวที่เขาคิดว่า ชื่อพาขวัญ
เธอในชุดเดรสแดงบนเวทีนั้น...
ดวงตายั่วยวน ริมฝีปากยิ้มเย้า ร่างกายเต็มไปด้วยแรงดึงดูด
เธอพูดเพียงสั้นๆ กับเขาในห้องส่วนตัวหลังจากนั้นว่า
“จะมีแค่คนที่ดีที่สุดที่จะได้ครอบครองความบริสุทธิ์ของฉัน”
เสียงประโยคสั้นๆ นั้นยังติดอยู่ในหัวเขาจนถึงทุกวันนี้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นต่างหาก... ที่ไม่มีวันลืมได้
รุ่งเช้า
ห้องสวีทหรูเหลือเพียงกลิ่นน้ำหอมและรอยเลือดจางๆ บนผ้าปูที่นอนสีขาว
ผู้หญิงคนนั้นหนีไปแล้ว ทิ้งไว้แค่ชื่อในบัตรประชาชนปลอมว่า “พาขวัญ วัชรพงศ์”
และเงินสดสามล้านที่หายไปพร้อมเธอ
คิรินทร์หัวเราะในลำคอ เสียงเย็นชาและเจ็บแค้นในคราวเดียว
“กล้าใช้หน้าซื่อๆ แบบนั้นมาหลอกฉันเหรอ...”
จากวันนั้น เขาเริ่มสั่งคนของเขาให้ตามหา “พาขวัญ” ทุกวิถีทาง
สามวันต่อมา
ในห้องสอนเปียโนเล็กๆ ย่านเก่าของเมือง
เสียงเปียโนแผ่วเบาไหลริน เหมือนน้ำใสที่ไม่รู้ว่ากำลังจะถูกพายุซัด
พาขวัญในชุดกระโปรงเรียบๆ นั่งสอนเด็กหญิงตัวน้อย เธอยิ้มบางๆ กับโน้ตเพลงตรงหน้า
ไม่มีวี่แววของหญิงสาวที่อยู่ในข่าวฉาวเมื่อคืนก่อนเลย
โทรศัพท์บนโต๊ะสั่น
เบอร์ที่ไม่รู้จักส่งข้อความเพียงบรรทัดเดียว
“อย่าหนีอีกเลย ขวัญข้าว ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน”
หัวใจของพาขวัญหล่นวูบ
เธอมองจอมือถือ ตัวอักษรเรียงกันอย่างไม่เข้าใจ
ขวัญข้าว?
พี่สาวของเธอที่หนีหายไปหลังจากวันนั้น
คืนนั้น...
เธอกลับถึงห้องเช่าเก่าที่มีเพียงเตียงหนึ่งตัวและกระเป๋าใบเล็ก
ทุกอย่างดูเหมือนจะเงียบ แต่เสียงหัวใจกลับเต้นแรงราวกับมีใครเฝ้ามอง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้เธอสะดุ้ง
มือสั่นเทา เธอค่อยๆ เอื้อมไปเปิด
ชายร่างสูงในชุดสูทยืนอยู่ตรงหน้า
ใบหน้าคมเย็น แววตาทิ่มแทง
“ในที่สุด... ก็เจอจนได้ พาขวัญ วัชรพงศ์”
เสียงนั้นทำให้เธอหายใจไม่ออก
เธอพยายามอธิบาย “คุณ... คุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ใช่”
แต่เขากลับยกโทรศัพท์ขึ้น
ภาพใบหน้าเธอในชุดเดรสแดงบนเวทีเมื่อคืนฉายอยู่บนหน้าจอ
“จะโกหกไปทำไม ในเมื่อหลักฐานอยู่เต็มไปหมด”
พาขวัญถอยหลังจนชนผนังเย็นเฉียบ
เธอส่ายหน้า น้ำตาคลอ
“นั่นไม่ใช่ฉัน... นั่นพี่สาวฉัน ขวัญข้าว พวกเราเป็นฝาแฝด...”
คิรินทร์หัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะนั้นไม่ได้ดัง แต่เย็นพอจะทำให้เธอขนลุกทั้งตัว
“ฝาแฝด? ก็แปลว่าหน้าก็เหมือน เสียงก็เหมือนใช่ไหม...”
“งั้นดี... เธอจะได้ชดใช้แทนพี่สาวของเธอ”
คำพูดนั้นเหมือนมีดกรีดกลางใจ
ก่อนที่เขาจะจับแขนเธอแน่น ดึงร่างบางเข้ามาใกล้
“สองล้าน คืนนี้เริ่มนับหนึ่ง”
เธอถูกบังคับให้ไปอยู่ในคฤหาสน์ของเขาในชานเมือง
ที่นั่นเต็มไปด้วยความเงียบ ความเย็นชา และคำสั่งของชายผู้ไม่รู้จักความเมตตา
ทุกครั้งที่เธอมองเห็นแววตาเขา พาขวัญรู้สึกเหมือนตัวเองถูกกลืนกินทีละน้อย
ทั้งจากความโกรธ... และแรงปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในสายตานั้น
เธอไม่รู้เลยว่าในความเกลียดของคิรินทร์...
มันเริ่มมีบางอย่างแปลกประหลาดปะปนอยู่ ความหลงใหล ความอยากเอาชนะ และความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ
“พี่สาวเธออาจหนีฉันไป...”
“แต่เธอ... จะไม่มีวันหนีฉันได้เลย พาขวัญ”