"แจ้งเตือนจากระบบ!! แจ้งเตือนจากระบบ!!"
เสียงที่ดังก้องขึ้นมาอย่างกะทันหันทำให้หลิ่งฟางเซียงที่พึ่งหลับไปได้เพียง 2 ชั่วยามสะดุ้งตื่น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น ลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางหงุดหงิดงัวเงีย ก่อนจะพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด
"ทะลุมิติมาจริงๆ สินะ"
ใบหน้างามหันไปมองเด็กชายที่นอนหลับอยู่ในผ้าห่อตัวผืนหนาบนเตียงด้านข้าง ก่อนจะวางลงบนหน้าผากเล็ก เมื่อคืนฝนตกอากาศเย็นเธอจึงกังวลว่าเด็กชายอาจจะโดนลมหนาวจนล้มป่วย ไม่คิดว่าเจ้าตัวน้อยร่างกายผอมแห้งคนนี้แท้จริงจะแข็งแกร่งไม่น้อยทีเดียว
"แจ้งเตือนจากระบบ!! แจ้งเตือนจากระบบ!!"
เสียงเตือนจากระบบอัตโนมัติในหัวดังรบกวนขึ้นอีกครั้ง หลิ่งฟางเซียงถอนหายใจยาวก่อนจะวาดมือขึ้นกลางอากาศ เพื่อเปิดระบบอัตโนมัติ
"กรุณากดรับภารกิจที่ 2!! กรุณากดรับภารกิจที่ 2!! "
ภารกิจใหม่อย่างนั้นหรือดีจริง! ใบหน้าที่หงุดหงิดจากการถูกรบกวนในยามเช้า แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มสดใสรีบกดปุ่มเพื่อดูภารกิจใหม่ในทันที
มีภารกิจก็ย่อมมีผลคะแนน มีผลคะแนนก็สามารถแลกรับสิ่งของได้ตามที่ต้องการ เช่นนี้ชีวิตอันแสนรันทดของเธอก็จะสามารถผ่านไปได้อย่างสุขสบาย
"ภารกิจที่ 2 ทำอาหารเลี้ยงคน"
มีคนบอกว่าในช่วงเริ่มแรกของการเล่นเกมภารกิจมักจะง่ายเสมอ ทว่าหลิ่งฟางเซียงก็ไม่คิดว่ามันจะง่ายดายถึงเพียงนี้ หญิงสาวกดยอมรับภารกิจจากนั้นก็อุ้มเด็กชายที่ยังนอนหลับอยู่เดินไปยังในห้องครัว ทว่ายามที่ได้เห็นสภาพอันซอมซ่อเต็มไปด้วยฝุ่นและและเครื่องใช้ที่ผุพังก็อดถอนหายใจยาวไม่ได้
หลังทำภารกิจเสร็จ เห็นทีเธอคงจะต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่ให้กับตำหนักท้ายวังแห่งนี้สักหน่อยแล้ว
หลิ่งฟางเซียงเปิดพื้นที่ในภารกิจ เลือกหยิบเปลนอนสำหรับเด็กเล็กออกมา จากนั้นก็วางเด็กชายในอ้อมแขนลง พลันดวงตากลมใสก็ตื่นขึ้นมายิ้มให้ผู้เป็นมารดาโดยไม่มีท่าทางงอแงเช่นเด็กในวัยเดียวกันยามแรกตื่น
"เป็นเด็กดีไม่งอแง เดี๋ยวแม่ทำอาหารเสร็จจะชงนมอร่อยๆให้เจ้ากินนะ"
คล้ายเด็กชายตัวน้อยจะเข้าใจในสิ่งที่หลิ่งฟางเซียงสื่อบอกออกมา ริมฝีปากเล็กจึงยิ้มกว้างจนเห็นเนื้อเหงือกไร้ฟัน พร้อมกับส่งเสียงอ้อแอ้ฟังไม่ได้ศัพท์ หลิ่งฟางเซียงบีบแก้มตอบเบาๆ ก่อนจะหันไปทางเตาไฟพลางถอนหายใจด้วยความอ่อนใจ
"เศษฝืนเพียงไม่กี่กำกับเตาพังๆ 1 ชิ้น จะใช้ก่อไฟทำอาหารได้อย่างไร"
มือเรียววาดกลางอากาศอีกครั้งเพื่อเปิดระบบ จากนั้นนำโต๊ะสะอาดออกมาหนึ่งตัว พร้อมกับเตาแก๊สปิคนิค ชุดเครื่องครัว และเครื่องปรุงขนาดย่อม ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยาม ก็สามารถทำอาหาร 3 อย่างพร้อมด้วยข้าวสวยอีก 1 หม้อเสร็จเรียบร้อย
"ผู้เล่นทำภารกิจสำเร็จ ได้รับคะแนน 50 คะแนน และพื้นที่คลังเก็บของเพิ่มอีก 10 ตารางวา"
ริมฝีปากของหลิ่งฟางเซียงพลันมีรอยยิ้มกว้าง แม้คะแนนที่ได้รับจากภารกิจนี้จะน้อยไปหน่อย แต่การได้รับพื้นที่คลังเก็บของในมิติเพิ่มเข้ามานับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากข้าวของที่แลกมาทั้ง 3 ครั้งนั้นมากมายจนพื้นที่ 10 ตารางวาแทบจะบรรจุไม่ไหวแล้ว
เมื่อภารกิจที่ 2 สำเร็จ หลิ่งฟางเซียงก็รีบกดูไปที่หน้าภารกิจในทันที
"ภารกิจที่ 3 ปลูกผักสร้างรายได้ 10 ตำลึงเงิน ยังไม่อนุมัติให้เริ่มภารกิจ"
ดวงตาของหลิ่งฟางเซียงพลันเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น ปลูกผักนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่เธอถูกกักขังอยู่ในตำหนักร้างท้ายวังเช่นนี้ จะสร้างรายได้จากการปลูกผักถึง 10 ตำลึงเงินได้อย่างไร มือเรียวยกขึ้นกอดอกขบคิดหาหนทางพิชิตภารกิจนี้ ดูเหมือนคงมีเพียงต้องออกไปจากตำหนักร้างแห่งนี้เท่านั้นจึงจะสามารถทำภารกิจที่ 3 ให้สำเร็จได้ ยังไม่ทันได้วางแผนการขายคำพูดของเฉินอ๋องในอดีตก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำ
จับนางไปขังที่ตำหนักท้ายวัง ไม่มีคำสั่งจากข้า ก้าวเดียวก็ห้ามออกมา
ในใจพลันเกินความสิ้นหวัง ทว่าเมื่อดวงตากลมมองผ่านหน้าต่างที่ไร้บานปิด แล้วเห็นกำแพงสูงราวสามจั้งก็ยิ้มกว้าง ก็แค่ข้ามกำแพงนี้ออกไปไม่ใช่หรือไง ด้วยความสูงระดับนี้สำหรับผู้อื่นคงยากจะปีนป่ายออกไป แต่สำหรับเธอที่เป็นแชมป์นักปีนเขาสามปีซ้อนนี่กลับเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก
"แบบนี้อย่าว่าแต่ 10 ตำลึงเงินเลย ร้อยตำลึงก็ไม่ใช่เรื่องยาก"
หลิ่งฟางเซียงเลื่อนหน้าจอของระบบอัตโนมัติไปที่หน้า Shopping ยังไม่ทันเลือกหมวดที่ต้องการซื้อ กล่องข้อความหนึ่งก็เด้งขึ้นมา
"แจ้งเตือนจากระบบ คูปองส่วนลด 70% ทุกรายการ จะหมดอายุภายใน 1 ชั่วโมง"
คูปองส่วนลด 70%! นับว่าสวรรค์ยังเมตตาเธออยู่บ้าง นิ้วเรียวรีบกดปิดการแจ้งเตือน จากนั้นเลือกหมวดการเกษตร การปลูกผักนั้นสิ่งสำคัญนอกจากเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพแล้ว ยังต้องมีปุ๋ย ดิน และน้ำที่เหมาะสมอีกด้วย ครั้งก่อนเธอเลือกซื้อเมล็ดพันธ์มาไว้จำนวนหนึ่งแล้ว ครั้งนี้จึงเลือกปุ๋ยและดินอย่างดี
"แจ้งเตือนจากระบบ คูปองส่วนลด 70% ทุกรายการ จะหมดอายุภายใน 30 นาที"
หลิ่งฟางเซียงเห็นข้อความแจ้งเตือนก็เร่งเปลี่ยนหน้าหมวดไปยังสินค้าผาดโผน เลือกซื้อเชือกปีนเขาและอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนจะกดแลกเปลี่ยนคะแนนทั้งหมดได้อย่างฉิวเฉียด
"เกือบจะไม่ทันซะแล้ว"
"แอ๊ะ! แอ๊ะ! แอ๊ะ!"
เสียงเด็กน้อยในเปลดังขึ้นเบาๆ ดึงความสนใจของหลิ่งฟางเซียงมายังเขา นิ้วยาวบีบจมูกเล็กเบาๆ มือป้อมแห้งก็จับนิ้วของเธอมาดูด ราวกับกำลังจะสื่อทวงคำสัญญาจากหญิงสาว
"ทวงของเป็นด้วยหรือเจ้าตัวน้อย"
หลิ่งฟางเซียงพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ อุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอก เก็บเปลนอนเอาไว้ในคลังมิติ แล้วหยิบขวดนมออกมาชงให้เด็กชายกิน
"แอ๊ะๆ หม่ำๆ"
แม้เสียงของเขาจะฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ท่าทางยินดีพอใจอย่างชัดเจนก็ทำให้หลิ่งฟางเซียงอดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้ อุ้มคนป้อนนมพาเดินกลับไปที่เตียงในห้องนอนด้วยรอยยิ้ม
ดูเหมือนว่าทะลุมิติครั้งนี้ก็ไม่ได้แย่นัก
.........................................