Chapter 5: นอนเป็นเพื่อนแม่

1647 คำ
กันภัยมองดูสาวน้อยผู้สวมเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งของเขาที่หลับอยู่บนเตียงใหญ่ในห้องนอนแขก ตอนแรกเขาคิดว่าเธอหมดสติแต่เวลาผ่านไปสามชั่วโมง จากเวลาเย็นย่ำที่เจ้าหล่อนมาเยือน บัดนี้มืดค่ำจนตะวันตกดินมิลาดาก็ยังไม่ฟื้น เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้แค่ตกใจจนหมดสติ น่าจะอ่อนเพลียจนเลยเถิดเป็นการนอนหลับเลยทีเดียว “ยัยลูกลิงนี่ หลับนานฉิบ” กันภัยสบถออกมา แล้วก้มลงมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ไม่เหมือนสาวไทยทั่วไป เธอมีทั้งใบหน้ากลมมน คิ้วคมชัดเจน ปากนิดจมูกหน่อยเหมือนตุ๊กตาฝรั่งแต่เรือนผมยาวสีดำขลับแบบคนเอเชียแถมยังตัวเล็ก บอบบาง จะอวบอัดก็ตรงอกอิ่มและสะโพกผายก็เท่านั้น ดูโดยรวมจัดว่าน่ารักน่าใคร่ไม่น้อย “ไม่เห็นเหมือนลูกลิงเลยจ้ะพ่อ แม่สวยออก เหมือนตุ๊กตา” กุมารแก้วกล้าท้วงขึ้นมา “เหงื่อโทรม เสื้อผ้าเปียกโชกไปหมด พ่อต้องเปลี่ยนให้ เรียกลูกลิงอะถูกแล้ว เหมือนลูกลิงหัวเปียก” กุมารทองแท่งย่นจมูกแล้วพูดขึ้นมาบ้าง “อื้อออ...” สาวน้อยยกมือขยี้ตา เสียงบทสนทนาของกันภัยและเหล่ากุมารทำให้เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้ และเมื่อเธอลืมตา สิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือใบหน้าหล่อเหลาคมคายมีเคราขึ้นครึ้มของกันภัย “ว้าย!” มิลาดาร้องขึ้นมาแล้วยกมือทาบอกด้วยความตกใจ ก่อนที่จะลดสายตาลงมองดูเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่แล้วจึงค้นพบว่ามันไม่ใช่เสื้อของเธอ แถมท่อนล่างเธอยังโล่งโจ้งมีแค่เพียงกางเกงชั้นในสวมใส่แค่นั้น “สะ... เสื้อ... เสื้อผ้าหนูล่ะคะ?” เธอถามแล้วหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง “เปียกเหงื่อ เปลี่ยนให้แล้ว” กันภัยตอบสั้น ๆ “แก้วบอกพ่อแล้วว่าให้ติดแอร์ บ้านไหนเขาก็มีแอร์กัน มีแต่บ้านพ่ออะ ไม่ติด” แก้วกล้าพูดขึ้น มิลาดากลืนน้ำลายลงคอแล้วหันไปมองกุมารน้อยสองตัวที่เอามือเท้าคางมองเธออยู่ข้างเตียง ถ้าตัดเรื่องที่กุมารทั้งสองไม่ใช่คน รูปลักษณ์ภายนอกของพวกมันก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูไม่น้อย “มึงจะติดไปทำไมวะ? พวกมึงไม่รู้ร้อนรู้หนาวกันเสียหน่อยไอ้แก้ว” พ่อของมันตวาดทันที “แก้วกับทองไม่รู้จักร้อนหนาวแต่แก้วกับทองอยากเปิดแอร์เล่นเหมือนบ้านอื่นนี่จ๊ะ บ้านตากำนันมั่นมีผีบ้านผีเรือน พ่อก็รู้ เวลาทองลอยผ่านบ้านนั้นมันก็อวดว่าบ้านมันมีโฮมเธียเตอร์ มีแอร์ มีเกมด้วย” กุมารทองแท่งพูดขึ้นมาบ้าง “บ้านพ่อไม่มีสักกะอย่าง” แก้วกล้าเสริมเพื่อน “ก็กูไม่ร้อน จะติดแอร์ทำห่าอะไรวะ?” กันภัยขมวดคิ้วแล้วตวาดสองกุมารน้อย “ก็เวลาอยู่บ้านพ่อนุ่งแต่ผ้าขาวม้า ด้านบนก็ไม่ใส่เสื้อผ้า จะร้อนได้ยังไงล่ะ ดูแม่สิ เหงื่อแตกซิกจนต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย” แก้วกล้าพูดตอบโต้ “เออ... ขอแทรกหน่อยนะคะ แล้วใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนูคะ?” มิลาดาร้องถามขึ้นมา หวังว่าจะเป็นสองกุมารน้อยที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ถึงเธอจะกลัวผีแต่เธอกลัวหมอยันต์หนุ่มจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอมากกว่านี่นา กันภัยหันขวับมามองหน้ามิลาดาแล้วตอบเสียงเรียบ “ก็กูไง ไอ้แก้วกับไอ้ทองมันเป็นวิญญาณ มึงกลัวผีไม่ใช่เหรอ? จะยอมให้ผีเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หรือไง?” “แต่... แก้วกับทองก็ยังดีกว่าหมอกันภัยหรือเปล่าคะ? หมอเป็น... เป็นหนุ่ม หนูเป็นสาว จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กันได้ยังไง? บ้า!” เธอพูดแล้วทำหน้าแดง ไม่กล้าสบตาเขา “หน้าแดงนี่คืออายเหรอ? อายทำไม? กูเห็นผู้หญิงเปลือยมาเป็นร้อย กูสักให้ทั้งตัวก็เคยมาแล้วตั้งแต่หัวยัน...” กันภัยพูดแล้วชะงักเพราะคิดได้ว่าคำที่จะพูดออกไปมันออกจะหยาบคายเกินกว่าที่สาวน้อยที่เกลียดคำว่า ‘กู’ และ ‘มึง’ จะรับได้ “ตั้งแต่หัวยันอะไรคะ?” มิลาดาเอียงศีรษะไปด้านข้างแล้วถามเขา “ตั้งแต่หัวยันตีน! นมใหญ่กว่ามึงกูก็เคยจับ หุ่นดีกว่ามึงกูก็เคยเห็น มึงจะอายทำไม?” กันภัยโวยวายกลบเกลื่อน “อ้อ... มิน่า... คุณคนสวยที่นั่งคร่อมตักของหมอ หมอก็คงเคยเจอแบบนั้นบ่อย ๆ หมอเลยไม่เห็นตกใจตอนหนูเปิดเข้ามาเจอ” มิลาดาพยักหน้าแล้วเหมือนจะทำใจได้นิดหน่อยที่หมอยันต์หนุ่มหน้าดุเป็นคนเปลี่ยนเสื้อให้เธอ “นังเด็กแก่แดด แค่เรื่องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต ฟื้นแล้วก็กลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาทำงาน คิวสักอีกหนึ่งเดือนค่อยสัก” กันภัยโบกมือเหมือนไล่สาวน้อย “เออ... ขอหนูค้างที่นี่ได้ไหมคะ? บ้านหนูอยู่กรุงเทพฯ นะคะ จะไปกลับทุกวันได้ยังไง?” มิลาดาทักท้วง กันภัยหรี่ตามองสาวน้อยที่นั่งทำหน้าจ๋อยอยู่บนเตียงก่อนจะเสนอแนวทางอื่นให้เธอ “โรงแรมในตัวจังหวัดเยอะแยะ ไปค้างโรงแรมสิ แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปหาบ้านเช่า” พอได้ยินที่หมอยันต์พูดมิลาดาก็ทำปากคว่ำและเตรียมร้องไห้ทันที “ได้ที่ไหนกันคะ หนูบอกหมอไปแล้วนี่ว่าไอ้ผีบ้านั่นมันตามหลอกหลอนหนู ขืนหนูไปค้างคนเดียวหนูก็โดนมัน... โดนมัน...” เธอพูดไปกล้ำกลืนน้ำตาไป ทำเอาคนใจแข็งอย่างกันภัยต้องใจหายวาบ “โดนมันจับทำเมีย? ถ้ามันเป็นผีบ้ากามขนาดนั้นมึงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไงวะ?” เขาถามเธอเสียงดุแต่กลับส่งมือใหญ่ไปลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา มิลาดาเงยหน้าขึ้นมองหมอยันต์หนุ่ม เขาดูดุดัน คำพูดคำจาก็หยาบคาย แต่การกระทำของเขากลับอ่อนโยนกว่าที่เธอคาดไว้มาก “ยายเม่น... ยายของหนูกอดหนูนอนทุกคืน อยู่เป็นเพื่อนหนูทุกคืน ยายคอยเอาพระห้อยคอให้หนู แต่ช่วงหลังบางครั้งเวลายายเผลอหรือหนูหลับสนิทมันก็ใช้พลังดึงพระออกได้ ยายเลยบอกว่าน่าจะต้องสักยันต์ติดตัว มันจะได้เอาออกไม่ได้” มิลาดาบอกเล่าเรื่องราวของเธอให้กันภัยฟังอย่างไว้เนื้อเชื่อใจมากขึ้น “ยายเม่นของมึงที่มึงบอกว่ารู้จักชื่อกันภัยของกูน่ะเหรอ?” กันภัยเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วถามเธอ นอกจากญาติและคนสนิท ไม่มีใครรู้ว่าหมอก้านชื่อกันภัยสักคน ดูเหมือนยายเม่นของมิลาดาจะรู้จักเขาหรือไม่ก็ครอบครัวของเขาดีกว่าที่เขาคิด “ใช่ค่ะ แบบนี้... หนูขออยู่ที่นี่ได้ไหมคะ? แล้วถ้าหมอมีญาติผู้หญิงหรือแฟน หรือเมียจะให้มานอนค้างกับหนู หนูก็คิดว่า...” มิลาดาเริ่มต่อรองแต่ยังต่อรองไม่จบกุมารแก้วกล้าก็พูดสอดขึ้นมาก่อน “โอ๊ย! ไม่มีคนอะไรแบบนั้นหรอกจ้ะ บ้านนี้มีแต่แก้วและไอ้ทอง บวกกับพ่อแค่นั้น ขนาดพ่อของพ่อกับปู่ของพ่อนาน ๆ ยังมาหาทีเลยจ้ะ” “หือ? บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้มีแต่หมอกันภัยอยู่คนเดียวเหรอคะ? แบบนี้ไม่เหงาแย่เหรอคะ?” มิลาดาถาม ดูอย่างไรบ้านหลังนี้ก็จุคนได้นับสิบ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเขาอยู่เพียงคนเดียว “ก็เมื่อก่อนพ่อเขาจะรับสาวมาเป็นเมีย เลยปลูกบ้านไว้รอ ทีนี้สาวเปลี่ยนใจไงจ๊ะ บ้านเลยโล่ง” กุมารทองแท่งเอ่ยขึ้นมาบ้าง “ไอ้ทอง! ปากดีนักนะมึง!” กันภัยทำเสียงดุใส่กุมารตัวน้อย ในขณะที่มิลาดาไม่อยากเห็นเขาดุด่าว่ากล่าวกุมารน้อยทั้งสองเธอจึงเบี่ยงเบนประเด็นเสีย “เออ... สรุปหมอกันภัยให้หนูอาศัยอยู่ที่นี่ได้ไหมคะ?” “มีห้องให้มึงนอน แต่ไม่มีคนนอนเป็นเพื่อนหรอกนะ มีแต่กู ถ้ากลัวผีนักก็มานอนกับกูก็แล้วกัน” เขาสรุปเสียงห้วนแต่มิลาดาส่ายหน้าหวือทันที “ไม่ค่ะ! ไม่!” “งั้นก็นอนคนเดียวไป นอนห้องนี้แหละ” เขาสรุปสั้น ๆ อีกรอบ “นั่นก็ไม่เอาเหมือนกันค่ะ” “อะไรวะ?! เรื่องมากฉิบหาย แล้วมึงจะเอายังไง? ถ้าที่เสนอมาไม่เอาสักอย่างก็กลับกรุงเทพฯ ไปก็แล้วกัน” กันภัยเริ่มถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “อยู่ค่ะ! หนูอยู่ แต่... ขอให้น้องแก้ว น้องทองมาอยู่กับหนูได้ไหมคะ?” มิลาดารีบพูดด้วยความรีบร้อน เกรงจะถูกขับไสไล่ส่งให้กลับไปโดยไม่ได้ลงเข็มสักยันต์แม้แต่เข็มเดียว “หือ? ไอ้แก้ว ไอ้ทองเนี่ยนะ? ไหนมึงบอกว่ามึงกลัวผี?” “นอนกับหมอกันภัยอาจจะดีกว่านอนกับไอ้ผีบ้านั่น แต่นอนกับแก้วและทองน่าจะดีกว่านอนกับหมอหรือเปล่าคะ?” เธอพูดแล้วยิ้มหวานให้เขา รอยยิ้มไร้เดียงสาของมิลาดาทำให้กันภัยรู้สึกจั๊กจี้ในใจและสุดท้ายชายหนุ่มก็ถอนหายใจแล้วพยักหน้าเหมือนอนุญาตเธอ “ก็ตามใจมึง นอนห้องนี้ไป ไอ้แก้ว ไอ้ทอง คืนนี้พวกมึงมานอนเป็นเพื่อนแม่มึงหน่อย เดี๋ยวจะโดนผีจับไปข่มขืนก่อนได้สักยันต์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม