Chapter 7: ข่าวลือ

2027 คำ
“ป้าคนโน้นที่ขายไข่ชื่อป้าไข่ เพราะแกขายไข่จ้ะแม่ บ้านอยู่บ้านไผ่หลวง ห่างจากบ้านผาไผ่ของพวกเราไม่เท่าไหร่ ป้าเขาเป็นขาเมาท์ประจำอำเภอ ใครมีเมียน้อย ใครปีนขึ้นบ้านใครป้าไข่รู้หมดจ้ะ ส่วนลุงที่แผงขายหมูชื่อลุงล้อม อยู่บ้านไผ่ใต้ เรียกบ้านใต้ก็ได้จ้ะ น่าจะรวยที่สุดในบรรดาแผงตลาด ดูทองที่ลุงแกใส่สิจ๊ะ เต็มคอจนไม่เห็นลำคอแกแล้ว คนนี้ชอบอวดรวย แต่ไม่กล้าหือกับพ่อหรอกจ้ะ” เสียงแก้วกล้ากระซิบบอกเล่าเรื่องราวของคนในตลาดให้มิลาดาฟังเป็นระยะ ๆ พร้อมด้วยเสียงเสริมของทองแท่ง “ใครมันจะกล้าหือกับพ่อหมอก้านของพวกเรา? เด็กร้องไห้ได้ยินชื่อพ่อยังต้องหยุดร้องเลยจ้ะแม่จ๋า” มิลาดาพยักหน้ารับน้อย ๆ ไม่พูดอะไรตอบกลับไปเพราะกันภัยเตือนเธอเอาไว้ก่อนแล้วว่านอกจากเธอไม่มีใครเห็นสองกุมาร หากไม่อยากเป็นคนบ้าในสายตาคนอื่นเธอจึงต้องตั้งสติ ไม่ตอบคำกุมารทั้งสองแต่ค่อย ๆ จดจำรายละเอียดที่กุมารทั้งสองบอกเธอไว้ในใจ ต้องยอมรับว่าแม้สองกุมารจะนับเป็นวิญญาณแต่เมื่อคืนนี้ที่เธอนอนหลับได้เต็มตาก็เป็นเพราะพวกมันสองตนช่วยอยู่เฝ้า ทำให้คืนที่เคยแสนน่ากลัวของเธอไม่มีผีร้ายมาคอยรังควาน ไม่แน่ว่าสุพรรณจะไกลไปสำหรับไอ้ผีบ้านั่นหรือเปล่า? หรือว่าเพราะบ้านหมอกันภัยมียันต์เต็มไปหมดมันถึงไม่กล้าเข้า? หรือเพราะแก้วและทองมาอยู่เป็นเพื่อน? หรือว่า.... มิลาดาคิดไปร้อยแปดพันเก้าก่อนที่เสียงของหญิงวัยกลางคนจะดังขึ้น “นั่น เมียใหม่หมอก้านใช่ไหมจ๊ะ?” มิลาดาหันขวับไปมองเจ้าของเสียงผู้ซึ่งเป็นหญิงวัยราว 40 ปลาย หน้าตามีเค้าความงามสมัยยังสาว แต่งตัวด้วยเสื้อลูกไม้สีม่วงอ่อนพร้อมผ้าถุงทอลายวิจิตรราวกับกำลังจะไปออกงาน เนื้อตัวเต็มไปด้วยทองตั้งแต่สร้อยคอ แหวน กำไล เรื่อยไปถึงต่างหู ด้านข้างของเธอมีหญิงสาวสวยหน้าคล้ายหญิงสาวที่ทักทายมิลาดาในชุดไทยที่คล้ายคลึงกัน วัยไล่เลี่ยกับมิลาดายืนมองมิลาดาด้วยสายตาเป็นมิตร “หือ? อะไรนะคะ? น้าเรียกหนูว่าอะไรนะคะ?” มิลาดาขมวดคิ้วแล้วถามหญิงวัยกลางคน “เมียใหม่หมอก้านไงจ๊ะ เขารู้กันทั้งอำเภอแล้วว่าหมอก้านมีเมียใหม่ เพิ่งเข้าบ้านหมอก้านมาเมื่อวานเย็น น้าชื่อชื่นจ้ะ เป็นเมียกำนันมั่น กำนันบ้านผาไผ่ ส่วนนี่ลูกสาวน้าชื่อช่อแก้วจ้ะ น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหนู เพิ่งเรียนจบมหาลัยในตัวจังหวัด ตอนนี้กลับมาช่วยดูแลน้ากับพ่อเขาแล้ว ว่าแต่เมียใหม่หมอก้านชื่ออะไรจ๊ะ?” โอ้โห! ข่าวเร็วขนาดนั้นเชียว แต่ข่าวลือนะ ไม่มีจริงแม้แต่นิดเดียว เมียใหม่บ้าบออะไรกัน หนูมาเป็นขี้ข้าให้อีตาหมอยันต์กันภัยชัด ๆ “เมียใหม่อะไรกันคะ? หมอเขาไม่มีเมียนี่คะ ไม่ว่าจะใหม่หรือเก่า” มิลาดายิ้มตาใสแล้วถามหญิงสูงวัยกว่ากลับ “อ้าว! นี่นังหนูไม่รู้หรือไง? ก่อนหน้านี้บ้านหมอก้าน ทั้งพ่อทั้งปู่เขาก็อยู่ที่นั่น พอรู้ว่าหมอก้านจะมีเมีย เขาเลยยกบ้านให้ หมอก้านเขาเลยรื้อบ้าน ปลูกใหม่เสียใหญ่โต แต่เมียเก่าไม่มีบุญไง ไม่รู้คิดยังไงทิ้งหมอก้านให้เรือนหอร้าง ผ่านมาตั้งหลายปี น้าคิดว่าหมอก้านจะสนสาว ๆ ในอำเภอแทน ไม่คิดเลยว่าเมียใหม่ก็มาจากต่างถิ่น” คำพูดของชื่นจากที่ปกติเริ่มไม่ปกติ น้ำเสียงเหมือนประชดประชันเข้าไปทุกทีจนช่อแก้วลูกสาวที่อยู่ข้าง ๆ แม่ต้องกระตุกชายเสื้อแม่เป็นการตักเตือน “พวกปากมาก คิดว่าปั่นหัวแม่แล้วจะได้พ่อไปเป็นลูกเขยเหรอ? แม่ไม่ต้องไปฟังยายชื่นจ้ะ ยายชื่นเขาอยากได้พ่อไปเป็นลูกเขย แกคิดว่าลูกสาวแกสวยสุดในอำเภอ เหมาะกับพ่อที่สุด เขารู้อยู่ว่าบ้านพ่อรวย อยากรวบเงินพ่อตัวสั่นแล้วจ้ะ” กุมารแก้วกล้ากระซิบบอกมิลาดา มิลาดาเชื่อมโยงเรื่องราวแล้วถึงบางอ้อ ช่อแก้วเองหน้าตาก็น่ารักน่าเอ็นดู คนละแบบกับสาวสวยที่คร่อมหมอกันภัยเมื่อวานแต่ก็ถือว่าหน้าตาไม่เลวเหมือนกัน ตาหมอยันต์กันภัยนี่สาวเยอะชะมัด มิลาดาคิดในใจแล้วยิ้มอ่อนให้กับชื่นแล้วอธิบายเรื่องราวของเธอให้ชื่นฟัง “หนูไม่ได้เป็นเมียหมอหรอกค่ะ แค่แม่บ้าน ดูแลบ้านให้เขา หนูมาขอลัดคิวเขาสักยันต์ให้ค่ะ หมอเขาเลยให้ทำงานแลก” “อ้อ! เมียบ่าว เหมือนสมัยโบราณใช่ไหมช่อ? แบบที่พวกเราเคยดูในละครน่ะ ที่เป็นคนใช้แล้วเป็นเมียเจ้านาย แบบที่เจ้านายเขาไม่เอาออกมาเชิดหน้าชูตาว่าเป็นเมียน่ะ” ชื่นยิ้มเยาะแล้วหันไปถามลูกสาวของตน ขณะที่ช่อแก้วยิ้มเจื่อนส่งให้มิลาดาก่อนจะดึงมือแม่ของตนแล้วพยายามลากไปทางอื่น “ไปเถอะแม่ ต้องไปทำข้าวเช้าให้พ่อไม่ใช่เหรอ? ผักปลาก็ยังไม่ได้ซื้อ ขืนหมอก้านรู้ว่าไปยุ่งกับคนบ้านเขา หมอเขาคงไม่ชอบ” ช่อแก้วเตือนแม่ของตนเอง “แหม! ก็เห็นหน้าไม่คุ้นกลัวไม่มีคนรู้จักแล้วจะเหงา แม่ก็แนะนำเรื่องราวให้เขาหน่อย ช่อก็เป็นเพื่อนกับเขาไว้สิ เวลาไปหาหมอก้านคงได้เจอคนใช้ของหมอบ่อย ๆ” ชื่นขืนตัวไว้ ไม่ยอมเดินตามแรงลากของลูกสาว “ได้ค่ะ หนูชื่อดาร์ลิงนะคะ ไว้ถ้าคุณช่อหรือน้าชื่นมีเวลาแวะไปบ้านหมอ หนูจะคอยต้อนรับขับสู้นะคะ ขอบคุณที่เล่าเรื่องหมอให้ฟังนะคะ ถ้าน้าชื่นไม่เล่าให้ฟังคงไม่มีใครปากหอยปากปูเล่าให้ฟังหรอกค่ะ เพราะดูผู้คนแถวนี้เขาเกรงใจหมอกันทั้งนั้น มีแต่น้าที่กล้าพูดมากขนาดนี้ ตอนนี้คุณช่อคงอยากลากน้าชื่นไปซื้อของแล้วค่ะ หนูไม่รั้งน้าไว้ก็แล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะ” มิลาดายิ้มแล้วตอบชื่นพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม แม้คำพูดและน้ำเสียงของมิลาดาจะฟังดูนอบน้อมอ่อนหวานแต่เนื้อความในบทสนทนาแฝงด้วยคำด่าประชดประชันทำเอาชื่นและลูกสาวถึงกับเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นชื่นจึงเดินตามช่อแก้วไปแต่โดยดี “ไปได้ก็ดีแล้ว เดี๋ยวทองจะเอาไปบอกพ่อว่ายายชื่นนินทาพ่อกับพี่นางให้แม่ฟัง มันน่าให้พ่อก้านของทองจัดการนัก” ทองแท่งพูดขึ้น ชื่อใหม่ที่มิลาดาไม่เคยได้ยินทำให้สาวน้อยต้องขมวดคิ้วก่อนที่กุมารแก้วกล้าจะเสริมเพื่อนขึ้นมา “กิ๊กเก่าพ่อน่ะจ้ะแม่ ชื่อภคนางค์ สวยด้วย รูปก็งาม นามก็เพราะ แต่นิสัยอะ...” “แย่มาก” สองกุมารพูดขึ้นพร้อมกัน อ้อ... ที่แท้ก็มีทั้งกิ๊กเก่าที่ชื่อภคนางค์ กิ๊กใหม่ที่คร่อมกันอยู่เมื่อวานที่เหมือนจะชื่อริก้า และบวกกับลูกสาวกำนันที่ชื่อช่อนั่นอีก ตาหมอกันภัยนี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ แม่เหล็กดูดสาวหรือไงนะ? มิลาดาคิดแล้วพยักหน้ารับรู้ข้อมูลที่สองกุมารบอกเบา ๆ เธอเองไม่ได้สนใจเรื่องส่วนตัวของกันภัยเท่าไหร่ แต่เมื่อได้รับรู้ก็อดอัศจรรย์ใจกับชีวิตคาสโนวาบ้านนอกของกันภัยไม่ได้ “ไปทางโน้นดีกว่าจ้ะแม่ น้านิ่ม แม่ค้าขนมหวานร้านอยู่ทางโน้น พ่อชอบสั่งขนมหวานร้านนั้นให้แก้วกับทอง ลูกชายเขาชื่อเจ้าเกม ชอบมาเล่นกับพวกเราบ่อย ๆ ที่บ้านพ่อ” แก้วกล้าบอกแม่ของมันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นแผงของหวานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก คำพูดของแก้วกล้าทำให้มิลาดาขมวดคิ้วอีกครั้ง “เหมือนที่พ่อบอกไงจ๊ะ มีบางคนเห็นเรา บางคนได้ยินเรา บางคนรู้สึกถึงตัวตนเรา เจ้าเกมไม่เห็นแก้วกับทอง แต่บางครั้งมันก็รู้สึกได้ถึงตัวตนของพวกเรา แก้วชอบเป่าลมเข้าหูมัน มันตัวอ้วน ๆ กลม ๆ ชอบย่นคอเวลาแก้วเป่าหู” แก้วกล้าพูดแล้วหัวเราะคิกคัก “ทองชอบจี้เอวเจ้าเกม เวลามันสะดุ้ง ตลกดี” ทองแท่งพูดขึ้นบ้าง “อย่างนั้นเขาเรียกว่าแกล้ง ไม่ได้เรียกว่าเล่นด้วยกัน วันหลังอย่าทำ สงสารเกม” มิลาดาดุสองกุมารพลันเห็นเจ้าเด็กเกมตัวอ้วนจ้องมาที่เธอตาเขม็ง คงกำลังงุนงงที่เธอพูดอยู่กับอากาศธาตุ มิลาดาจึงส่งยิ้มเจื่อนให้เด็กน้อยก่อนจะเดินตรงเข้าไปทางร้านขนมหวังสั่งซื้อของหวานไว้ถวายสองกุมาร “ซื้อทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุนอย่างละ 5 ชุดค่ะแม่ค้า” มิลาดาสั่งขนมอย่างรวดเร็วแล้วยิ้มตาหยีอย่างเป็นมิตรให้นิ่ม “หมอก้านอยากกินขนมเหรอจ๊ะคุณ? ปกติหมอเขาชอบสั่งไข่แมงดาด้วย เดี๋ยวพี่หยิบให้ ยังไม่ได้เอาออกมาวางเรียงบนแผง” นิ่ม หญิงสาวอายุราว 30 ต้น ๆ ทักทายมิลาดาราวกับรู้จักมักจี่มาเป็นอย่างดีทั้งที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก แต่กระนั้นมิลาดาก็ไม่ประหลาดใจเพราะเจอชื่นที่รู้เรื่องของเธอยิ่งกว่าตัวเธอเสียอีกไปก่อนหน้าแล้ว ป่านนี้เขาคงรู้กันทั้งอำเภอว่าหนูอยู่บ้านหมอกันภัย ที่สำคัญอาจจะรู้อะไรผิด ๆ ด้วย เช่น... “นี่พี่แถมให้จ้ะคุณ มะม่วงดอง เก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน เผื่อวันไหนท้องไส้ขึ้นมา แพ้ท้อง กินอะไรเปรี้ยว ๆ จะดีขึ้นจ้ะ” นิ่มพูดต่อพลางหันไปหยิบมะม่วงดองที่ใส่ถุงมัดแยกไว้เป็นลูก ๆ ขึ้นมาโชว์ให้มิลาดาดู นั่นไง... เข้าใจว่าหนูเป็นเมียหมอกันภัยแน่ ๆ “คงไม่ท้องหรอกค่ะพี่ ยังไม่มีผัว มาอยู่ที่บ้านหมอ รอคิวสักยันต์ค่ะ ระหว่างนี้ทำงานบ้านให้เขาด้วย เป็นเหมือนแม่บ้านน่ะค่ะ ไม่ได้เป็นเมีย” มิลาดารีบแก้ต่างให้ตัวเอง “อ้อ... จริงเหรอจ๊ะ? แต่แปลกนะ ถ้าไม่ใช่เมียทำไมหมอก้านให้อยู่บ้านเขาล่ะจ๊ะ? ผู้หญิงทั้งอำเภอรอสมัครเป็นแม่บ้านให้หมอก้านเพราะเห็นเป็นหนุ่มอยู่คนเดียว กลัวทำงานบ้านไม่ไหว ถ้าเอามาต่อกัน คิวสมัครคงยาวตั้งแต่หน้าที่ว่าการอำเภอนี้ข้ามไปที่ว่าการอำเภอถัดไป พี่ยังไม่เคยเห็นหมอก้านรับใครให้ไปทำงานที่บ้านเลยจ้ะ” นิ่มบอกเธอ ปากก็พูด มือก็หยิบขนมลงถุงส่งให้มิลาดา “เมียแน่ ตอนนี้ไม่ใช่ อีกหน่อยก็ใช่ หมอก้านบอกฉันว่าบ้านหมอก้านใช่ว่าใครจะเข้ามาเล่นได้ง่าย ๆ มีแต่ฉันกับเมียและลูกของหมอก้านเท่านั้นที่หมอก้านจะปล่อยให้เข้าไปเล่นได้” เกมหันมาพูดอย่างไม่คิดมากแล้วหยิบขนมบนแผงของแม่มาแกะเข้าปาก มิลาดาขี้เกียจเถียงเด็กจึงได้แต่ส่งยิ้มอ่อนให้เขาแล้วคิดด่ากันภัยในใจ ตายแล้ว! อีตาหมอยันต์กันภัยพูดเพ้อเจ้ออะไรกับเด็กเนี่ย?! มันน่าตีนักเชียว หมอยันต์ปากพล่อย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม