ตอนที่ 1 แม่เลี้ยงใจร้าย
“แม่จันทร์ มาที่นี่ได้ยังไงคะ”
น้ำเสียงแผ่วของหญิงสาวดังพร้อมกับสีหน้าตกใจ เหลียวมองไปยังคนที่จู่ ๆ ก็โผล่มายืนอยู่ตรงหัวโต๊ะ พลันทำให้อกข้างซ้ายสั่นระรัวอย่างสังหรณ์ใจ
“ก็มาพาตัวแกไปให้เสี่ยน่ะสิ นังตัวดี”
และคนที่เอ่ยก็คือภรรยาใหม่ของผู้เป็นพ่อ ชื่อว่าจันทร์วาด
หญิงสาวลุกออกจากเก้าอี้ซึ่งนั่งอยู่กับแขกอีกสองคน มองใบหน้าของแม่เลี้ยงยังไม่ละเอียดดี ก็เริ่มมีอาการแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับร่างกาย
“หึ ยาคงออกฤทธิ์แล้วสินะ”
พระพาย กานต์พิชชา นิติชัยยา สาวสวยในวัย 22 ปี นักศึกษาปี 4 คณะมนุษยศาสตร์ คืนนี้ได้ออกมารับงานเสริมเป็นพีอาร์สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง
หันมองไปยังแก้วเหล้าที่ได้รับจากลูกค้า ซึ่งดื่มไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเพื่อแลกกับเงินหนึ่งพันบาท เธอเริ่มมีอาการมึนเบลอ อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นผิดปกติ มือของแม่เลี้ยงก็เลื่อนขึ้นมาเชยปลายคาง
“ทำงานแบบนี้ไปทั้งชาติก็ไม่มีวันใช้หนี้ให้ฉันหมดหรอก คืนนี้แกก็ใช้ร่างกายบริการเสี่ยดี ๆ เสี่ยรับปากแล้วว่าถ้าทำให้พอใจจะยกหนี้ทั้งหมดให้ แถมจะรับเลี้ยงแกในฐานะเมียอีกคน”
พระพายกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเด็ก จากนั้นไม่นานผู้เป็นพ่อก็แต่งงานใหม่กับน้าจันทร์วาด และเมื่อหกปีก่อนพ่อของเธอได้จากไปด้วยโรคมะเร็ง ทิ้งเงินประกันและเงินเก็บอีกหลายล้านบาทเอาไว้ แต่ทว่าแม่เลี้ยงรายนี้กลับเปลี่ยนไปจากเดิมราวกับคนละคน
ก่อนหน้านั้นได้แสดงออกถึงความรักใคร่เอ็นดู และเลี้ยงดูเธอเหมือนลูกในไส้ ทว่าหลังจากบิดาจากไปก็แปรเปลี่ยนเป็นไม่สนใจใยดี บอกเพียงแค่จะส่งให้เรียนจบแค่ชั้นมัธยมศึกษา แต่ถ้าอยากเรียนต่อก็ไปหาเงินมาส่งตัวเองเอาเอง
โชคดีที่เธอมีผลการเรียนดี จึงได้รับทุนเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ทว่าก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าเทอม อย่างเช่นค่าที่พัก ค่ากิน ค่าน้ำค่าไฟ และค่าเดินทาง ซึ่งพระพายต้องปากกัดตีนถีบ หางานเสริมทำหลังเลิกเรียนและวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เพื่อนำเงินมาประทังชีวิต
แต่ที่โชคร้ายคือแม่เลี้ยงได้ใช้เงินที่ผู้เป็นพ่อทิ้งไว้ให้ไปกับการพนัน นับจากนั้นชีวิตของพระพายก็ถูกเสี่ยสมบูรณ์จ้องตาเป็นมัน ซึ่งอีกฝ่ายอยากได้ตัวเธอไปเป็นเมียขัดดอก
หากแต่พระพายไม่อาจยอมแพ้ต่อโชคชะตา เธอเหน็ดเหนื่อยกับการหาเงินส่งตัวเองเรียน แล้วยังต้องเจียดเงินไปให้แม่เลี้ยงที่อ้างบุญคุณเลี้ยงดู และยังสร้างหนี้ก้อนใหม่ไม่จบไม่สิ้น บ้านที่เคยอยู่ตั้งแต่เด็กก็ยังถูกนำไปจำนองกับเสี่ยสมบูรณ์
สิ่งเดียวที่ยังยึดเหนี่ยวให้เธอสู้มาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็คือถ้อยคำก่อนสิ้นลมของพ่อและแม่ ซึ่งท่านได้เอ่ยด้วยประโยคเดียวกันว่าอยากเห็นเธอมีความสุข ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปแสดงความยินดีในวันรับปริญญา
เป้าหมายในการใช้ชีวิตของเธอคือการเรียนให้จบ และหลุดพ้นจากแม่เลี้ยงใจไม้ไส้ระกำ
“ไม่นะแม่จันทร์ อย่าทำแบบนี้กับหนูเลยนะคะ”
หญิงสาวยกมือไหว้เอ่ยเสียงสั่นเครือด้วยความรู้สึกที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ดวงตามีน้ำสีใสเอ่อคลออย่างเจ็บปวดใจ พยายามหลีกหนีเสี่ยสมบูรณ์มาตลอดสามปี ทุ่มเททำงานหนักเพื่อที่จะได้หลุดพ้น
อีกฝ่ายก็ใช่ว่าจะเป็นหนุ่มหล่อไม่มีครอบครัว หากแต่เป็นชายวัยห้าสิบกลาง ๆ รูปร่างอ้วนท้วม ผิวกายซีดเหลืองมีโรคประจำตัว มีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังมีบ้านเล็กบ้านน้อยอีกนับไม่ถ้วน
“เอาตัวนังพระพายไปเลยจ้ะ อย่าลืมบอกให้เสี่ยให้รางวัลฉันด้วยนะจ๊ะ”
ทว่าแม่เลี้ยงของเธอกลับเอ่ยน้ำเสียงอ่อนราวกับเกรงกลัวชายทั้งสองคนที่ลุกออกจากโต๊ะมายืนรายล้อมลูกติดของสามี ร่างของหญิงสาวถูกโอบด้วยลำแขนแกร่งของลูกน้องของเสี่ยคนหนึ่ง พระพายจึงเข้าใจในทันทีว่าเธอได้ตกหลุมพรางที่แม่เลี้ยงผู้นี้วางเอาไว้แล้ว
เธอถูกนำตัวขึ้นไปบนชั้นสามของบาร์ ซึ่งชั้นนี้เปิดให้บริการห้องนอน สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มขึ้นมาได้ รวมไปถึงทำเรื่องอย่างว่ากันที่นี่
พระพายพยายามตั้งสติและรวบรวมเรี่ยวแรงที่มี กระทุ้งข้อศอกเข้าที่ท้องของชายที่คุมตัวเธอ จากนั้นก็หันไปเตะเข้ากลางหว่างขาลูกน้องของเสี่ยอีกคนที่เดินตามกันมาติด ๆ ออกแรงวิ่งหนีไปให้ไวที่สุด
ลูกน้องทั้งสองคนกัดกรามแน่นอย่างหัวเสีย วิ่งตามอย่างสุดกำลัง เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นอย่างต่อเนื่องขณะที่เธอวิ่งหนีไม่คิดชีวิต นอกจากต้องรอดจากคืนนี้ไปให้ได้
แม้ร่างกายจะเคลื่อนไหวลำบาก อีกทั้งฤทธิ์ยาก็เริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ มือเล็กหมุนลูกบิดประตูห้องแล้วห้องเล่า จนกระทั่งไปถึงห้องที่คาดว่าไม่มีใครใช้บริการ เธอจึงเข้าไปหลบอยู่ด้านในพร้อมกับกดล็อกกลอน พิงแผ่นหลังแนบกับบานประตู ปิดเปลือกตาแน่นสนิทพร้อมกับเสียงอัตราการเต้นของหัวใจดังแรง บ่งบอกถึงความเหน็ดเหนื่อยและหวาดกลัว
“ออกมาเดี๋ยวนี้นะนังพระพาย”
“เอาไงดีวะ ปล่อยให้หนีไปแบบนี้ เสี่ยก็ได้เล่นงานพวกเราน่ะสิ”
“ถ้าคิดว่าจะรอดออกไปจากที่นี่ได้ก็ลองดู แต่ถ้าโผล่หน้าออกมาเมื่อไหร่ เธอไม่รอดแน่”
เสียงของคนด้านนอกทั้งเคาะเรียกอย่างบ้าคลั่ง อีกทั้งยังข่มขู่สารพัดเพื่อให้เธอกลัว
หญิงสาวยืนตัวสั่น หายใจถี่กระชั้น ร่างกายร้อนผ่าวอย่างทรมาน มือกำชายกระโปรงตัวสั้นเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ขบเม้มริมฝีปากข่มกลั้นอารมณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับใจกลางความเป็นสาว
ไม่นานเสียงด้านนอกก็เงียบไป ทว่ากลับมีเสียงทุ้มต่ำจากคนในห้องดังขึ้นมาแทน
“พระพาย”
เปลือกตาหญิงสาวปรือขึ้นอย่างยากลำบาก สายตาพร่าเลือนหันไปทางเจ้าของน้ำเสียง ภาพตรงหน้าไม่ค่อยชัดเจนแต่ก็พอมองออกว่าอีกฝ่ายนั่งอยู่ตรงโซฟา บนโต๊ะมีเครื่องดื่มวางเรียงราย อีกทั้งเธอเพิ่งสังเกตว่าในห้องมีกลิ่นควันบุหรี่
อกข้างซ้ายของพระพายส่งเสียงโครมครามราวกับแผ่นดินไหว เมื่อครู่คิดเพียงแค่ทำอย่างไรก็ได้เพื่อหนีให้พ้นจากลูกน้องของเสี่ยสมบูรณ์ แต่ไม่คิดเลยว่าในห้องนี้จะมีคนอยู่
เธอจึงเอ่ยถามน้ำเสียงตะกุกตะกัก “คะ คุณเป็นใคร รู้จักชื่อหนูได้ยังไงคะ”