โทรศัพท์ส่งเสียงสั่นเตือนดังครืดครืดอยู่ในกระเป๋าส่งผลให้พระพายไม่มีสมาธิในการเรียน ช่วงพักกลางวันก็มีคนโทรเข้ามาหลายครั้ง เธอจึงกดรับแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ปลายสายก็กรอกเสียงแหลมเข้ามาทันที
(แกไปหาเงินมาจากไหนตั้งหลายล้าน เห็นลูกน้องของเสี่ยบอกว่ามีคนมาไถ่โฉนดไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เอามาให้ฉันเก็บไว้สิ)
“...”
พระพายนิ่งไปชั่วครู่อย่างแปลกประหลาดใจ หลังจากที่ย้ายไปอยู่เพนต์เฮาส์ มาคัสก็หายหน้าไปหลายวัน ทว่าแม่เลี้ยงกลับโทรมาบอกว่าโฉนดถูกไถ่ออกมาแล้ว ก็แสดงว่าเขาได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ
“ถ้าแม่จันทร์จะโทรมาถามแค่นี้ หนูขอวางสายก่อนนะคะ”
(เดี๋ยว เดี๋ยวสิ แกจะรีบวางไปทำไม นังเด็กไร้สำนึก ฉันเลี้ยงแกมาตั้งกี่ปี ถามนิดถามหน่อยทำเป็นขึ้นเสียง ก็ใช่น่ะซี้… เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่ คงจะมีผัวรวยรับเลี้ยงดูแล้วสินะ ถึงไม่เห็นหัวแม่เลี้ยงอย่างฉันแล้ว)
หญิงสาวในชุดนักศึกษาที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนสนิทในโรงอาหารได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาตอบกลับ
“บุญคุณที่แม่จันทร์เลี้ยงดูหนูไม่มีวันลืมหรอกค่ะ แต่หนูก็ไม่ลืมเหมือนกันว่าแม่จันทร์ทำอะไรกับหนูไว้บ้าง”
(นังเด็กคนนี้ เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว ลืม ๆ มันไปเถอะ ผัวของแกให้เงินใช้เท่าไหร่ เอามาแบ่งให้ฉันบ้างสิ ฉันไม่มีเงินจะกินข้าวแล้วเนี่ย)
“หนูไม่มีให้หรอกค่ะ”
(แกนี่ยังไง อยากจะเห็นฉันอดตายนักหรือไง ก็ได้ ฉันจะป่าวประกาศให้ชาวบ้านแถวนี้รู้กันให้ทั่วว่าแกน่ะมันเนรคุณคน ปล่อยให้แม่เลี้ยงอดข้าวตาย)
“พอเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูโอนให้”
(ขอบใจแกมากนะพระพาย แกนี่มันเด็กดีจริง ๆ ไม่เสียแรงที่ฉันเลี้ยงดูแกมาจนโต”
หญิงสาวกดวางสายพร้อมกับเสียงถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะกดเข้าแอปพลิเคชันของธนาคารแห่งหนึ่ง โอนเงินไปให้แม่เลี้ยงสองหมื่นบาท หวังว่าจะพอใช้จนถึงสิ้นเดือน
“แกนี่ไม่เข็ดหลาบจริง ๆ โทรมาขอกี่ครั้งก็ให้ ผลสุดท้ายเป็นไง ก็เอาเงินที่ได้ไปเข้าบ่อนอยู่ดี” เสียงของมะนาวดังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย และเห็นใจเพื่อนที่ต้องมาทนทุกข์ใจกับเรื่องแบบนี้
ทั้งสองสนิทกันมาก มักจะพูดคุยกันทุกเรื่อง และมะนาวก็รู้เรื่องที่พระพายย้ายเข้าไปอยู่เพนต์เฮาส์ของมาคัส รวมถึงมีเงินเก็บก้อนแรกในชีวิต
“ต่อไปฉันจะพยายามใจแข็ง”
“ให้มันจริงเถอะ ไม้แก่แบบนี้มันดัดยาก ถ้าอยากจะให้เลิกเรื่องพวกนี้ฉันว่ายังไงก็เลิกยาก แต่แกก็ทดแทนบุญคุณมากี่ปีแล้ว เงินที่หามาได้ก็แทบไม่ได้ใช้เพื่อตัวเอง มันก็ควรจะหมดแล้วป่าววะไอ้คำว่าบุญคุณน่ะ”
มะนาวรู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายเรื่องครอบครัวคนอื่น แต่แม่เลี้ยงของพระพายก็เกินไปจริง ๆ ชอบล้ำเลิกบุญคุณ ทั้งที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะดูแลเพื่อนของเธอเป็นอย่างดี เห็นแบบนี้แล้วก็อยากให้พระพายตัดขาดไปเสียจริง ทำให้อดไม่ได้ที่จะยุให้เพื่อนเลิกให้ความช่วยเหลือแม่เลี้ยง จะได้หลาบจำเสียบ้างว่าปัญหาที่ก่อเอาไว้จะส่งผลร้ายอย่างไร
พระพายเองก็คิดหนัก เธอก็เหนื่อยเป็นเหมือนกัน ที่เพื่อนพูดมาก็ถูก ถ้าจะถามหาบุญคุณคงจะมีแค่ตอนที่พ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ แม่เลี้ยงนั้นดีกับเธอมาก แต่หลังจากผู้เป็นพ่อจากโลกนี้ไป เธอก็ไม่ได้สัมผัสถึงคำว่ารักจากน้าจันทร์วาดอีกเลย
หญิงสาวเลิกเรียนก็ได้แวะตลาด คัดเลือกวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเย็นด้วยตัวเอง เธอคาดเดาว่ายังไงวันนี้มาคัสต้องมาหาอย่างแน่นอน
กลับไปถึงเพนต์เฮาส์ก็เริ่มลงมือทำอาหาร ดีที่เธอเคยทำงานเสริมหลายอย่าง ร้านอาหารก็เคยทำ จึงมีทักษะเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง
อาหารสามสี่อย่างพร้อมตั้งโต๊ะ และยังมีข้าวสวยร้อน ๆ ตักไว้อีกสองจาน
ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาเหมือนที่คิดเอาไว้ หนุ่มหล่อในชุดสูตเดินตรงเข้ามาหา ในมือของเขาถือซองเอกสารมาด้วย ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มอ่อนหวานเอ่ยทักทาย
“ไม่เจอกันหลายวันเลยนะคะ หนูเพิ่งทำอาหารเสร็จพอดี มานั่งกินด้วยกันสิคะ”
“รู้ได้ยังไงว่าฉันจะมา”
“เซนส์หนูมันบอกค่ะ”
“ไม่คิดว่าจะแม่นขนาดนี้”
มาคัสถอดเสื้อสูตพร้อมกับดึงเนคไทออกวางลงบนเบาะโซฟา วางซองสีน้ำตาลไว้ด้านบนสุด เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลงอีกสองเม็ดเพื่อให้โล่งสบาย จากนั้นก็เข้ามานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับหญิงสาว
“ทำเองหมดเลยเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“ค่ะ ลองชิมดูสิคะ”
ทั้งสองเริ่มกินมื้อเย็นด้วยกัน พระพายไม่คิดจะถามถึงเรื่องโฉนดเพราะอยากให้อีกฝ่ายเป็นคนบอกเอง ระหว่างมื้ออาหารก็เป็นบทสนทนาเรื่องทั่วไป กินข้าวอิ่มเธอก็นำจานไปล้าง
เหมือนว่างานเขาจะยุ่ง หนุ่มหล่อเดินออกไปคุยโทรศัพท์ตรงระเบียงด้านนอก ปิดประตูอย่างมิดชิดราวกับกลัวว่าเธอจะได้ยิน สักพักเขาก็เข้ามานั่งตรงโซฟา พอเธอล้างจานเสร็จก็เอ่ยเรียก
“ฉันมีอะไรจะให้”
พระพายคลี่ยิ้มเล็กน้อย แสร้งถาม “อะไรเหรอคะ”
เธอตั้งใจนั่งโซฟาตัวเดียวกันกับมาคัส ยื่นมือออกไปรับซองเอกสารมาเปิด กระดาษด้านในถูกหยิบออกมา เพียงแค่เห็นตราครุฑสีแดง และชื่อเจ้าของโฉนด ดวงตากลมก็สั่นระริก น้ำสีใสเอ่อคลอสองหน่วยตาด้วยความซาบซึ้งและดีใจ
เธอช้อนดวงตาขึ้นเอ่ยถามเสียงสั่นเครือ “คุณเสียเงินไปเท่าไหร่คะ”
แม่เลี้ยงของเธอคอยไปกู้เงินมาเพิ่มตลอด จนไม่รู้ว่าดอกเบี้ยเพิ่มพูนไปมากเท่าไร และที่เสี่ยรายนั้นปล่อยให้ก็เพราะก่อนหน้านี้มีเธอเป็นข้อแลกเปลี่ยน
“ก็แค่สามล้าน”
มาคัสกระตุกยิ้มมุมปากราวกับเป็นเรื่องที่จัดการได้อย่างง่ายดาย
ช่วงสายของวันนี้เขาได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่แถบชานเมือง พร้อมด้วยอลันและลูกน้องฝีมือดีอีกสามคน
มาเฟียหนุ่มเดินนำเข้าไปในบ้านปูนสองชั้นขนาดไม่ใหญ่มาก ภายในบ้านนั้นเงียบสงบ และพบเสี่ยรุ่นพ่อซึ่งอยากได้หญิงสาวที่เขาต้องการ กำลังนั่งกินมื้อเช้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง
เสี่ยสมบูรณ์เห็นคนแปลกหน้าโผล่เข้ามาก็เอ่ยด้วยท่าทางหวาดผวา “พวกมึงเป็นใครวะ เข้ามาที่นี่ได้ยังไง”
เนื่องจากเวลาอยู่กับเมียน้อยเขาจะสั่งไม่ให้ลูกน้องตามมาคุ้มกัน และไม่คิดว่าจู่ ๆ จะมีคนบุกเข้ามา ทั้งที่ไม่มีใครรู้ว่าเสี่ยสมบูรณ์ได้ซื้อบ้านหลังนี้มอบให้เมียเก็บคนใหม่
“หึ ก็คนที่จะมาเด็ดหัวมึงยังไงล่ะ”
มาคัสคว้าปืนที่เหน็บอยู่ตรงเอวของลูกน้อง ตบไปที่ขมับด้านซ้ายของเสี่ยสมบูรณ์จนมีเลือดซึมออกมา ผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันก็ส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ
มาเฟียหนุ่มหันไปถลึงตาใส่ แล้วเอ่ย “มึงไม่เกี่ยว ขึ้นไปอยู่ข้างบนซะ แล้วอย่าปากสว่างพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้”
“ค่ะ ค่ะ”
“มึงต้องการอะไรวะ อยากได้เงินเหรอ” เสี่ยสมบูรณ์เอ่ยถามเสียงสั่น มือกุมขมับที่ได้รับแรงกระแทกจนบาดเจ็บ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่คุณมาคัส มาเฟียเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ เจ้านายของพวกกูจะต้องการเงินของมึงไปทำไมวะ” ลูกน้องของมาเฟียส่งเสียงหัวเราะขำอยู่ด้านหลัง
เสี่ยสมบูรณ์ได้ยินชื่อก็อกสั่นขวัญแขวน รีบลุกออกจากเก้าอี้ ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า ยกมือไหว้หนุ่มรุ่นลูก
“อยากได้อะไรก็บอกมาสิ ขอแค่ไว้ชีวิตฉัน ฉันยอมให้ทุกอย่าง”
“เลือกเอาว่าจะรับแค่เงินต้นที่แม่เลี้ยงของพระพายติดมึงเอาไว้แล้วคืนโฉนดมาให้กู หรือจะตายอยู่ในบ้านเมียน้อยแล้วเป็นข่าวหน้าหนึ่ง”
“พะ พระพาย” น้ำเสียงสั่นดังขึ้นอย่างรู้ตัวทันทีว่าไปยุ่งกับผู้หญิงของมาเฟียเข้าแล้ว ก่อนจะรีบตอบตกลงเสียงสั่น
“ดะ ได้ ฉันสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับแม่หนูนั่นอีก นังจันทร์วาดมันติดเงินฉันแค่สามล้าน ส่วนดอกเบี้ยฉันไม่เอาแล้วก็ได้ อยากได้โฉนดใช่ไหม ฉันจะคืนให้ ตะ แต่อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
เป็นอย่างที่คิด คนหน้าเงินอย่างไอ้เสี่ยสมบูรณ์นั้นรักตัวกลัวตาย ส่วนมาคัสก็ได้คุมตัวเสี่ยรายนี้กลับไปที่บ้านของมัน เพื่อไปสะสางเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน และนำโฉนดมามอบให้กับคนที่ควรถือครอง
“ขอบคุณนะคะ หนูไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดี คุณหมดเงินกับหนูไปเยอะมาก ชาตินี้ทั้งชาติ ถ้าให้หามาคืนก็ไม่รู้ว่าจะชดใช้ได้หมดรึเปล่า”
มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มละมุน “เธอก็รู้ว่าควรจะตอบแทนฉันยังไง สาวน้อย”