รถของมาคัสจอดอยู่หน้าหอพักแห่งหนึ่ง ดวงตาคมทอดมองไปยังตึกสูงสามชั้น ผนังภายนอกทรุดโทรม ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย หากไม่มีรถจอดอยู่ หรือคนเดินเข้าออก เขาก็นึกว่าเป็นตึกร้างดี ๆ นี่เอง
หนุ่มหล่อเหลียวใบหน้าไปหาหญิงสาวที่นั่งข้างกันแล้วเอ่ยถาม “แน่ใจนะว่าที่นี่มีคนอยู่”
“มีสิคะ ถามแปลก ๆ คุณรอแป๊บนึงนะ หนูจะเข้าไปเอาเสื้อผ้า”
“ฉันไปเป็นเพื่อนเธอดีกว่า”
พระพายไม่ได้คัดค้านอะไร ทั้งสองจึงเข้าไปในหอพักที่มีสภาพไม่น่าอยู่ ที่นี่ไม่มีลิฟต์ ต้องเดินขึ้นบันได ด้านนอกท้องฟ้าเริ่มโพล้เพล้ หลอดไฟที่ติดเพดานเหนือศีรษะจึงถูกเปิดเพื่อให้แสงสว่าง แต่ทว่าบางหลอดก็กระพริบติด ๆ ดับ ๆ
ในห้องของหญิงสาวมีข้าวของเพียงน้อยนิด และถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ พื้นห้องสะอาดไร้เศษฝุ่น บ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของคนอยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี
ผนังมีภาพวิวธรรมชาติและรูปถ่ายของเธอแปะเอาไว้เพื่อเพิ่มสีสัน ภายในห้องเล็ก ๆ เป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีการแบ่งแยกสัดส่วน ทั้งห้องนอน ห้องรับประทานอาหาร หรือนั่งเล่น ล้วนอยู่ในที่เดียวกัน
เครื่องอำนวยความสะดวกมีแค่เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า และพัดลมเก่า ๆ ติดอยู่ข้างผนัง ซึ่งเปิดแล้วมีเสียงดังน่ารำคาญ ดีที่ยังมีระเบียงไว้ซักล้าง ตากเสื้อผ้า และมีห้องน้ำแบบชักโครก
“นั่งรอก่อนนะคะ”
เนื่องจากไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง มาคัสจึงหย่อนก้นนั่งลงปลายเตียง ด้านหน้าเป็นตู้ไม้เก่า มีโทรทัศน์ขนาด 24 นิ้วตั้งวางอยู่ ส่วนเจ้าของห้องเดินไปล้างมือในห้องน้ำ แผลถลอกทำให้รู้สึกแสบเล็กน้อย จากนั้นก็ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบกระเป๋าใบเล็กวางลงบนพื้น นำชุดที่จะสวมใส่คืนนี้และชุดนักศึกษาสำหรับวันพรุ่งนี้ รวมถึงของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นใส่ไว้ในนั้น
“เสร็จแล้วค่ะ”
“อืม” เขาส่งเสียงในลำคอแล้วหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง
เนื่องจากใส่ชุดสูต และพัดลมของเธอก็ราวกับคนใกล้จะหมดเรี่ยวแรงทำให้อากาศในนี้ค่อนข้างร้อน ใบหน้าหล่อมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดซึม ในร่มผ้าเปียกชุ่ม พอเข้าไปนั่งในรถที่เปิดแอร์เย็นเฉียบ ค่อยทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาหน่อย
อลันขับรถพาคนทั้งสองมุ่งหน้าไปยังเพนต์เฮาส์สุดหรูหราของมาคัส ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของตึกสูงใจกลางเมืองเชียงใหม่ ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อน
หญิงสาวกวาดสายตาสำรวจภายในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบราวกับไม่มีผู้ใดแตะต้อง และมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ไม่ต่างจากบ้านหลังหนึ่ง พอเทียบกันก็ไม่แปลกที่เขาจะถามว่าหอพักของเธอนั้นมีคนอยู่หรือเปล่า
ทว่าห้องหรูหราขนาดนี้ เขาจะปล่อยให้เธออยู่คนเดียวแน่หรือ
“ฉันจะพาเธอไปดูห้องนอน”
“เอ่อ แค่ชี้ก็ได้มั้งคะ ไหนคุณบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันไง”
“หึ นึกกลัวขึ้นมาตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะ พระพาย”
อกข้างซ้ายของเธอสั่นไหวขึ้นมาดื้อ ๆ แล้วภาพในคืนนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง พลันทำให้เผลอตัวขบเม้มริมฝีปากอย่างเย้ายวน
“ถ้าไม่อยากโดนก็หยุดทำแบบนั้น”
“หนูทำอะไร” เธอถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
หนุ่มหล่อโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ เอ่ยกระซิบข้างหูของพระพาย “ก็เม้มปากไง ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าตอนทำอย่างนั้นหน้าเธอมันเซ็กซีมากแค่ไหน”
“หนูไม่ได้ทำอย่างนั้นสักหน่อย”
ใบหน้าของเธอเห่อร้อน ดวงตาเลิ่กลั่กอย่างเสียอาการ น้ำเสียงทุ้มแผ่วเบาส่งผลให้ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายส่งเสียงตึกตัก ขนกายลุกซู่อย่างห้ามไม่อยู่
“ฉันไม่ทำอะไรเธอตอนนี้หรอกน่า สภาพเพิ่งฟัดกับหมามาเมื่อกี้จะทำให้มีอารมณ์อยู่หรือไง มือของเธอก็ยังเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ คงกำน้องชายของฉันไม่ได้”
“จะพาไปดูห้องไม่ใช่เหรอคะ” เธอรีบตัดบทก่อนที่เขาจะพูดเรื่องสิบแปดบวกมากกว่านี้
มาคัสนำทางเข้าไปยังห้องนอน ซึ่งด้านในมีพื้นที่แยกโซนห้องแต่งตัว และห้องน้ำ หญิงสาวไม่คิดว่าเขาจะให้เข้ามาอยู่ในห้องของตัวเอง ไม่กลัวเธอขโมยของออกไปขายหรือไง
ริมฝีปากของมาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มเล็กน้อยราวกับคาดเดาความคิดเธอได้ ก่อนเอ่ย “ไปอาบน้ำก่อนสิ ฉันจะสั่งอาหารขึ้นมาให้”
“ยังก่อนดีกว่าค่ะ หนูขออาบหลังกินข้าวเสร็จ”
“ตามใจ งั้นก็ไปดูข้างนอกกัน”
เจ้าของห้องพาสำรวจบริเวณอื่น และยังบอกกับเธอว่าทำตัวตามสบายเหมือนเป็นบ้านของตัวเองได้เลย นั่งรอตรงโซฟาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงอาหารที่สั่งก็มาส่ง
ทั้งสองย้ายไปนั่งโต๊ะรับประทานอาหาร มาคัสเห็นเธอนั่งนิ่ง มองอาหารตาปริบ ๆ เขาจึงเป็นฝ่ายเริ่มตักอาหารก่อน โดยตักวางลงในจานของพระพายเป็นอันดับแรก
“ขอบคุณค่ะ”
เธอไม่ใช่เจ้าของห้อง ไม่ใช่เจ้าของเงินจ่ายค่าอาหาร ดังนั้นจึงไม่กล้ากินก่อน ในเมื่ออีกฝ่ายเริ่มตักอาหารแล้ว พระพายจึงกินข้าวมื้อนี้ได้อย่างสบายใจ
ทันใดที่ลิ้นได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารก็ให้สัมผัสที่แปลกใหม่จนอยากตะโกนออกมาว่าอร่อยมาก แตกต่างจากอาหารถุงในตลาด อาหารตามสั่ง และร้านที่เปิดในมหาวิทยาลัยที่เธอเคยกิน
เพราะต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด อีกทั้งต้องแบ่งไปใช้หนี้ให้แม่เลี้ยง พระพายจึงไม่เคยเจียดเงินไปใช้ฟุ่มเฟือยกับของกินที่ค่อนข้างมีราคา
“ทำตัวตามสบายได้เลย ต่อไปห้องนี้ก็จะเป็นที่อยู่ของเธอ” เขาเอ่ยหลังจากกินข้าวด้วยกันเสร็จ
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันต้องการอะไร”
“ต้องการให้หนูเป็นเด็กเลี้ยงของคุณ”
“พรุ่งนี้ฉันจะไปรับที่มหา’ลัย ไปแจ้งออกจากหอพัก แล้วย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากให้เธออยู่ที่นั่นคนเดียว”
“แต่ว่าหนูยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะคะ”
มุมปากของมาเฟียหนุ่มกระตุกขึ้น แววตาของเขาจ้องมองเธออย่างอ่อนโยน มือหนาเลื่อนขึ้นมาจับปอยผมของหญิงสาวขึ้นทัดใบหู ก่อนจะเชยปลายคางของพระพายให้เงยหน้าขึ้นสบตากัน
“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรจนกว่าเธอจะยอมรับข้อเสนอ ส่วนเรื่องโฉนดฉันจะจัดการให้เร็วที่สุด ยังไงเธอก็ต้องเป็นผู้หญิงของฉัน พระพาย”
ก่อนออกไปเขาก็ได้ยื่นคีย์การ์ดของห้องนี้ให้กับหญิงสาวในชุดนักศึกษา พร้อมกับแบล็กการ์ดวงเงินไม่จำกัด เอาไว้ใช้จ่ายได้ตามใจ โดยที่เธอยังไม่ได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธออกไป