1.
ร้านขนมหวานเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในใจกลางเมือง คือสถานที่ที่ทุกคนมักจะมารวมตัวกันเพราะกลิ่นของเค้กอบใหม่ ๆ และเสียงหัวเราะของพนักงานที่คอยสร้างบรรยากาศให้สดใส
"เธอช่วยหยิบช็อกโกแลตให้หน่อยได้ไหม?"
เสียงของ เนย์ ดังขึ้น พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ราวกับว่าเขารู้ดีว่าการขอร้องแบบนี้จะทำให้ วาล หงุดหงิดสุด ๆ เพราะทุกครั้งที่เธอช่วย เขาก็มักจะทำเค้กพังทุกครั้ง
"ไม่! ฉันไม่หลงกลนายอีกแล้ว!"
แต่ก่อนที่เธอจะเดินหนี เค้กก้อนโตล้มลงบนตัวเธอเป็นที่เรียบร้อย
ไม่ว่าเธอจะพยายามหลีกหนีแค่ไหน วาลก็ยังคงตกอยู่ในความวุ่นวายของเนย์เสมอ เขามักจะสร้างปัญหาให้เธอ .. แต่ก็ทำให้เธอยิ้มได้ในแบบที่ใครก็ทำไม่ได้ 🍩 ไม่ว่าเค้กกี่ก้อนจะพัง เขาก็ยังคงทำขนมต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นเหมือนนักรบในสนามรบ และทุกครั้งที่เธอคิดว่าความสัมพันธ์นี้ไม่มีทางไปต่อได้… เขาก็ทำบางสิ่งที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรง และภูมิใจในตัวเนย์
วาลไม่เคยเข้าใจว่าทำไมเนย์ถึงหลงใหลในการทำขนมมากนัก สำหรับเธอแล้ว ขนมก็คือขนมแค่ของหวานที่กินเพื่อความอร่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น
แต่สำหรับเนย์ ขนมคือศิลปะ คือความรู้สึก คือภาษาในแบบที่คำพูดไม่สามารถถ่ายทอดได้
"เค้กช็อกโกแลตร้านอื่นก็มี ทำไมต้องทำเอง?" วาลถามพลางมองเขากวนช็อกโกแลตละลายอย่างตั้งใจ
"เพราะของหวานมันไม่ได้มีแค่รสชาติ" เนย์ตอบ พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ "มันมีความรู้สึกอยู่ในนั้นแค่เธอยังไม่เคยสัมผัสมันจริง ๆ"
เนย์เชื่อว่า ขนมแต่ละชิ้นมีความหมายของมันเอง
อย่าง🍩 โดนัทแสดงถึงความสุขที่เรียบง่าย
🍓ชีสเค้กเปรียบเหมือนความหวานที่มีเสน่ห์แอบแฝง
🍫 ช็อกโกแลตร้อนเป็นเหมือนอ้อมกอดที่อบอุ่นในวันที่ฝนตก
แต่สิ่งที่เขาต้องการทำให้วาลเข้าใจมากที่สุดคือ… ขนมที่สร้างจากความรู้สึกของเขาเอง
วาลเริ่มสังเกตว่า ทุกครั้งที่เนย์ทำขนม เขาจะมีแววตาที่แตกต่างกันออกไป💭 เวลาทำขนมที่มีรสเปรี้ยว เขาจะเงียบและคิดถึงอดีต 🎶 เวลาทำขนมที่หวานละมุน เขามักจะฮัมเพลงเบา ๆ เหมือนไม่มีอะไรต้องกังวล
💖 และเมื่อเขาทำขนมที่พิเศษที่สุด… คือวันที่เธอรู้ว่ามันถูกทำขึ้นเพื่อตัวเธอเอง
"แล้วขนมที่ฉันกินวันนี้มันมีความหมายยังไง?" วาลถาม
เนย์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ถ้าเธอเข้าใจมัน เธอจะเข้าใจฉัน"
และบางครั้ง ความหวานของขนมไม่ได้มาจากน้ำตาล แต่มาจากความรู้สึกของ
คนที่ทำมันขึ้นมา