“พี่ทะเลมองน้องดาวในแง่ลบเกินไปหรือเปล่าคะ น้องดาวพูดเล่นไม่ได้จริงจังซะหน่อย”
“อย่าพูดเล่น ย่ายิ่งอยากอุ้มหลานไว ๆ ถึงขั้นเอาเรื่องนี้มาขู่พวกพี่อยู่ ระวังน้องจะโดนจับแต่งงานไม่รู้ตัว” สมุทรขู่น้องสาว เขาไม่อยากมีลูกเลยดูจริงจังมากกว่าปกติ
ยัยตัวเล็กหัวเราะได้ใจ กลัวที่ไหนโดนจับแต่งงาน คนอย่างณดาวล็อกมงมาจากบ้าน มีเจ้าบ่าวในใจตั้งแต่เจ็ดขวบแล้ว
“แล้วจะเอายังไงดี พี่ไม่พร้อมมีลูก ยังไม่อยากเป็นคุณพ่อมือใหม่ตอนนี้ บริษัทกำลังไปได้สวย แน่นอนว่ามีพวกคู่แข่งผุดขึ้นมายิ่งกว่าดอกเห็ด ถ้าสละเวลาอันมีค่าไปสร้างครอบครัว หันกลับมาอีกทีธุรกิจคงเจ๊งพอดี พี่ว่าเรามาคิดดีกว่า ว่าจะทำยังไงให้คุณหญิงย่าเปลี่ยนใจ” บัลลังก์ยกมือขึ้นกุมขมับ ระหว่างกลับมาทำธุรกิจครอบครัวกับที่บ้านกับมีหลานให้ย่าอุ้ม เขาไม่อยากทำทั้งคู่
“นี่ ๆ ไม่ต้องมาเหล่กูเลย ดูก่อนเถอะ ข้างกายกูมีสาวนับพัน ๆ คน แค่ทำให้พวกนั้นอยู่กันให้สงบได้นี่ก็กินแรงกูไปถึงไหนแล้ว อย่ามาโยนขี้ให้สิ” สมุทรดักคอทุกคนก่อน เพราะถึงเขาจะมีผู้หญิงรุมล้อมก็ใช่ว่าจะอยากได้เอามาทำแม่พันธุ์เสียหน่อย
“เบื่อไอ้พวกร้อนตัวจังวะ สาวเยอะขนาดนั้นก็ช่วยสงเคราะห์ทำหลานคุณหญิงย่าให้สักคนมันจะใจขาดตายหรือไง” บัลลังก์แขวะน้องชายในสายเลือด แล้วผลที่ตามมาก็คือสายตาดุจัดของน้องชาย
“ถ้าไม่อยากปากมีสีไปหาคุณย่าก็หุบปากซะนะ” สมุทรไม่ได้ขู่ เขาเอาจริงแน่ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมหยุด “ดูตัวเองซะบ้าง เหอะ นี่ถ้าเอกสารมันท้องได้ มึงคงมีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองไม่ต้องมาลำบากกูแล้วมั้ง"
“อย่าเพิ่งตีกันเลยน่า” พายุเบื่อฟังเต็มทน “มาคุยกันให้จบ ๆ ดีกว่า งานนี้คุณย่าเอาจริงแน่ แต่ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่สะดวกมีลูกให้คุณย่า”
“มึงยังไม่ลืมเรื่องนั้นอีกเหรอ” สมุทรถามน้องชายร่วมสกุล พายุตวัดสายตามองเขา รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายหมายถึงเรื่องไหน
“ไม่เสือกสักเรื่องจะดีไหมพี่”
“เอ้าไอ้เวรนี่ ถามดี ๆ เสือกตอบกวนตีน” สมุทรปากไวว่าทันที ดีนะเป็นน้องไม่อย่างนั้นเขาคงได้เตะก้านคอมันไปแล้ว
ส่วนพายุ เขาฟังพี่ชายที่ไม่ค่อยอยากเรียกว่าพี่สักเท่าไรอย่างเงียบ ๆ มีเพียงสายตาเท่านั้นที่ประกาศให้อีกฝ่ายรู้ว่า ‘กูไม่พอใจมึงมาก ๆ เลยว่ะ!’
“ทะเล จะไปด่าไอ้พายุมันไม่ได้นะ ทีเรื่องตัวเองมึงยังไม่ให้ใครแตะเลย” บัลลังก์ได้ช่องฝังเขี้ยวลงบนหัวใจน้องชายคนรองบ้าง
“เรื่องอะไรของกู” สมุทรหันมาจ้องตาผู้เป็นพี่
“เฮ้อ งั้นจะช่วยสงเคราะห์เล่าให้ทุกคนฟังก็แล้วกัน…เรื่องเด็กผู้หญิงแถวบ้านเก่าไง ที่มึงคิดจะเลี้ยงต้อย” เพียงพี่ชายเอ่ยมา สมุทรถึงกับถีบเก้าอี้ที่บัลลังก์นั่ง ดีที่มีณดาวนั่งอยู่ใกล้ ๆ พี่ชายคนโตจึงไม่ล้มหงายท้องไปกองกับพื้น “ไอ้ทะเล! กูพี่มึงนะ”
“ไม่ถูกตบบ้องหูก็บุญเท่าไรแล้ว” สมุทรว่าอย่างฉุน ๆ ก่อนจะทำเป็นนั่งลงแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงหน้าเขาจะนิ่ง แต่ในใจเดือดเป็นไฟเมื่อมีใครมาสะกิดให้เขานึกถึงเด็กคนนั้น “ทีตัวเองล่ะ เหอะ ทำเป็นตั้งใจทำงานตลอดเวลา ถุ้ย เห็นโผล่อยู่ผับอยู่บาร์บ่อย ๆ ที่นั่นสาวสวยก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่หลับหูหลับตาเอามาเป็นไม้กันหมาสักคนล่ะวะ แสดงเก่งนักนี่"
“ถ้าพูดถึงคนที่แสดงเก่งนี่ต้องมึงเลยครับไอ้น้องชาย อย่าให้ต้องพูด" บัลลังก์เริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้างแล้ว
ในขณะที่ทุกคนต่างเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร กลับมีคนหนึ่งที่เอาแต่นั่งดูมือถือพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่พูดไม่จา ผิดวิสัยเสือยิ้มยากจนพี่ใหญ่อดถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“ยิ้มอะไรของมึงวะไอ้ตะวัน คนเขาให้มาปรึกษากันมานั่งเล่นมือถืออยู่ได้”
คนถูกถามรอยยิ้มหายไปจากใบหน้าทันที รีบเก็บมือถือลงกระเป๋าเสื้อแทบไม่ทัน “ไม่ปรึกษาอะไรทั้งนั้นอะ ผมไม่คิดมีเมียมีลูกอยู่แล้ว แล้วนี่จบหรือยัง ถ้าจบแล้วผมจะได้กลับ”
ก็เข้าใจว่าน้องชายคนเล็กของบ้านยุ่งอย่างกับอะไรดี วัน ๆ ขายแต่รถจนแทบจะไม่มีเวลาว่าง แต่ท่าทางลุกลี้ลุกลนแบบนี้มันน่าสงสัยแปลก ๆ
“จะรีบไปไหน”
“ไม่ไปไหนทั้งนั้นอะพี่ แต่มีงานต่อ ไปน้องดาว จะกลับด้วยกันเลยไหม”
“กลับเลยเหรอ กลับไปน้องดาวก็ไปนั่งเหงาที่โชว์รูมพี่อีกอะ ไม่เอา น้องดาวให้เพื่อนมารับ”
“ตามใจแล้วกัน อย่ากลับดึกล่ะ”
นี่ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่ คนหวงน้องสาวเหมือนอีกาหวงไข่อย่างไอ้ตะวันเนี่ยนะจะยอมให้น้องกลับกับเพื่อนง่าย ๆ แต่ถึงแม้จะสงสัยแต่ก็ไม่มีใครอยากเซ้าซี้อะไรมาก เพราะต่างก็โต ๆ กันแล้ว
“งั้นผมไปแล้วนะพี่ คุยอะไรได้ก็สรุปเป็นพาวเวอร์พอยนต์มาให้แล้วกัน”
“เออ กวนจริง ๆ เลยมึงนี่” สมุทรยังคงแซะไม่เลิกอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
“ถ้ายังตกลงกันไม่ได้ก็จบกันแค่นี้ รวมกันเราอยู่ แยกหมู่ตายหมด” พายุพูดปิดท้ายพร้อมกับผายมือเชิญให้ทุกคนออกไปจากสำนักงานของตนได้แล้ว
“จะไล่กันทางอ้อมก็ให้มันเนียน ๆ หน่อย" บัลลังก์พูดจบก็เดินออกไปทันที ตามด้วยสมุทรที่พอเดินผ่านพายุเท่านั้นก็ยกมือทำท่าเชือดคอใส่น้อง ณดาวเห็นเข้าก็หัวเราะคิกคัก ก่อนจะเดินตามออกไปเป็นคนสุดท้าย