เช้าวันนี้... ผมไม่กล้าเปิดร้านตามปกติเลย
ร่างกายยังหนักเหมือนโดนทับ หัวใจยังเต้นแรงจากเหตุการณ์เมื่อคืน เสียงริมฝีปากของชายผมขาวกับสัมผัสนั้น มันเหมือนกัดกินผมจากข้างในไม่ยอมหยุด
มือของผมสั่นจนแทบถือมือถือไม่อยู่ แต่สุดท้ายก็กดโทรหาเพื่อนสองคนที่สนิทที่สุด บิวกับเควิน
ภาพวิดีโอคอลปรากฏขึ้น
“จริงดิ!!” บิวร้องจนผมสะดุ้ง “นายบ้าไปแล้วรึเปล่า บีนนี่!”
“ไม่ใช่นะ!” ผมส่ายหัวแรงจนผมกระเซอะกระเซิง “ฉันพูดจริง... วันนี้พวกนายมาที่ร้านได้ไหม ฉัน...ฉันกลัว” เสียงของผมสั่นจนแทบหลุดเป็นกระซิบ
บิวทำหน้ายู่ หัวเราะกลบเกลื่อน “โธ่เอ๊ย... ฉันมีงานทั้งวันเลย นายแค่คิดมากเองแหละ ฮ่าๆ”
ผมหันไปทางเควินที่เงียบผิดปกติ “แล้วนายล่ะ...?”
เควินนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบหนังสือปกสีดำซีด ๆ เล่มหนาออกมา พลิกเปิดช้า ๆ เสียงกระดาษแห้งกรอบเสียดสีกันดัง กรึ๊บ กรึ๊บ
“บีนนี่...” เควินพูดเสียงต่ำ “สิ่งที่นายเจอ... อาจจะเป็น SCP ก็ได้”
ผมขมวดคิ้วทันที “SCP...อะไรนะ?”
เขากวาดตามองหน้าผมผ่านจอ แล้วเริ่มอธิบายช้า ๆ
“SCP หรือ Special Containment Procedures คือคำเรียกสิ่งที่ผิดธรรมชาติ... ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ สิ่งมีชีวิต หรือปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่เราไม่เข้าใจ มูลนิธิ SCP คือองค์กรลับที่กักกันพวกมัน... เพื่อปกป้องมนุษย์...”
บิวฟังแล้วหัวเราะลั่น “5555 โอ๊ย ขำ! SCP มีจริงที่ไหนกัน แค่เรื่องหลอนในเน็ตนั่นแหละ! กระต่ายกินโดนัทเนี่ยนะ? ฮาแตก!”
แต่เสียงหัวเราะของบิวหยุดลงทันที—เมื่อผมเอื้อมมือไปหยิบ “ทองคำแท่งสามก้อน” ขึ้นมาโชว์ตรงกล้อง
เงียบ... เงียบจนได้ยินเสียงหายใจตัวเองสะท้อนกลับ
สีหน้าของทั้งคู่เปลี่ยนเป็นซีเรียสในพริบตา
“เมื่อวาน...ผู้ชายคนนั้นเหมาโดนัทหมดร้าน แล้วก็วางสิ่งนี้ไว้แทนเงิน...” ผมพูดเสียงเบา มือยังสั่นไม่หยุด
เควินหรี่ตามองทองคำนั้น แล้วก้มอ่านหนังสืออีกครั้ง “...ไม่เคยมีการบันทึกไว้ แต่มัน...เป็นไปได้”
“เขาหน้าตาเป็นยังไง” เควินถามเสียงเรียบ
ผมรีบตอบทันที “สูง...ผมยาว...ผมสีขาว...ดวงตาคมมาก เหมือนจะมองทะลุเข้าไปในหัวฉัน...”
บิวกลืนน้ำลาย แต่ยังแกล้งหัวเราะ “ฮะ...ฮ่าๆ นั่นมันแค่คนหล่อ ๆ ธรรมดานี่ ไม่ใช่มนุษย์ประหลาดหรอก!”
แต่ผมเห็น...นิ้วของบิวกำเสื้อตัวเองแน่นจนข้อนิ้วขาว
เควินผลักแว่นขึ้นช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “...บาง SCP แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้... บางตัวจะออกล่าเฉพาะตอนกลางคืน...”
คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศรอบตัวผมหนาววาบไปทั้งร่าง
บ่ายวันนั้น
ผมพยายามจัดร้านให้เหมือนทุกวัน แม้จะใช้เวลานานกว่าปกติ มือก็ยังสั่นไม่หยุด
เมื่อเควินกับบิวมาถึง ผมแทบจะวิ่งไปกอดทั้งคู่ด้วยความโล่งใจ
“วันนี้มันโผล่มาไหม” เควินถามทันที
ผมส่ายหัว “ไม่...ยังไม่เห็นเลย”
บิวหัวเราะพลางตบบ่าผมแรง ๆ “เห็นไหม ฉันว่าแล้ว นายคิดไปเองแน่ ๆ โธ่เอ๊ยบีนนี่ อย่าบ้าสิ”
ผมกัดริมฝีปากแน่น “ฉันไม่ได้โกหก...”
เควินไม่พูดอะไร นั่งลงแล้วเปิดตำรา SCP อ่านต่อ เงาของเขาปกคลุมไปครึ่งโต๊ะ บิวก้มหน้าทำการบ้านเหมือนไม่ใส่ใจ ส่วนผมก็ขายโดนัทไปเรื่อย ๆ ถึงแม้จะขายได้ไม่กี่ชิ้น แต่แค่มีเพื่อนอยู่ด้วย ผมก็หายใจโล่งขึ้นนิดหน่อย
ค่ำ...
บิวหาวเสียงดัง ยกแขนขึ้นขยี้ตา “ฉันกลับก่อนล่ะ แม่คงด่าถ้ากลับดึก” เขาเก็บของพลางโบกมือให้
ไม่นานเควินก็เก็บหนังสือบอกว่าจะกลับเหมือนกัน ทิ้งให้ร้านเหลือเพียงผมเพียงลำพัง
ทันทีที่ประตูปิดลง ความเงียบก็กลืนกินทุกสิ่ง
เสียงนาฬิกาบนผนังดัง ติ๊ก...ต๊อก...ติ๊ก...ต๊อก ชัดเจนยิ่งกว่าปกติ
ทุกครั้งที่ลมพัดม่านหน้าร้านพลิ้วไหว ผมก็สะดุ้งเหมือนเห็นเงาคนเดินผ่าน
ผมกอดตัวเองแน่น หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
แล้ว...เงายาวของชายร่างสูงก็ค่อย ๆ ทอดยาวเข้ามาบนโต๊ะ
ขาของผมแข็งเป็นหินทันที
เขา...กลับมาแล้ว
ชายผมขาวก้าวเข้ามาอย่างเงียบงัน เส้นผมยาวสีเงินขาวสะท้อนกับแสงไฟสลัว เขาก้มลงใกล้จนผมต้องถอยหลังอัตโนมัติ
มือใหญ่เย็นเฉียบคว้ามือผมขึ้นมา จ้องตรงไปที่พลาสเตอร์เล็ก ๆ ที่แปะอยู่
ดวงตาคมกริบราวกับมีด...จ้องแผลนั้นไม่กะพริบ
“...แผลนี้...ยังไม่หายสินะ” เสียงทุ้มต่ำเล็ดลอดออกมาช้า ๆ
เขาค่อย ๆ ลอกพลาสเตอร์ออก เลือดซึมออกมาจาง ๆ ผมพยายามสะบัดมือหนี แต่แรงของเขาหนักเหมือนถูกตรึงด้วยโซ่
เขาก้มลง...ริมฝีปากแตะตรงเลือดนั้นเบา ๆ ก่อนจะเลียช้า ๆ
ผมสะดุ้งจนขาแทบหมดแรง ลมหายใจขาดห้วง ใจเต้นรัวเหมือนกลองแตก
เขายกยิ้มบาง—ยิ้มที่เย็นเยียบไร้ความเป็นมนุษย์
จากนั้นวางอัญมณีสองก้อน สีแดงเข้มเหมือนเลือด และสีเขียวมรกตลงบนโต๊ะ เสียง “กริ๊ก” ของหินกระทบไม้ก้องกังวานในร้านที่เงียบสงัด
“...เอาทั้งหมด”
เสียงเรียบของเขาทำให้ผมรีบหยิบโดนัทใส่ถุงมือสั่นไม่หยุด เลือดจากแผลหยดลงไปในถุงโดยไม่ตั้งใจ
ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นทันที ริมฝีปากยกยิ้มกว้างขึ้น มองถุงนั้นเหมือนนักล่ามองเหยื่อ
เขายกถุงขึ้นแนบจมูก สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป...อย่างเงียบงัน
ผมยืนตัวสั่น หอบหายใจถี่ รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายหยิบมือถือขึ้นมาแอบถ่ายแผ่นหลังของเขาไว้
ในจอ...
เงาของเขา ไม่ใช่เงาของมนุษย์
มันบิดเบี้ยวเหมือนเส้นสีดำพันกันยุ่งเหยิง คล้ายปากกระต่ายยักษ์ที่กำลังอ้ากว้าง ราวกับจะกลืนร้านทั้งร้านเข้าไปทั้งหลัง...
จบตอน