กินเพื่อน (1) | อยากโดนนักใช่ไหม
“พี่อรเสร็จหรือยังล่ะ นนท์” เสียงน้าภัทรถามขึ้น ในขณะที่ชานนท์กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ที่ริมรั้วข้างบ้าน
“เมื่อกี้เห็นเตรียมตัวจะเสร็จแล้วนะครับ น้าภัทร” ชานนท์ตอบ พลางหันไปที่หน้าบ้าน ก่อนจะเห็นมารดาตัวเองเดินออกมา
“เสร็จแล้วจ้า เสร็จแล้ว” เอมอรรีบตะโกนตอบ ขณะที่สวมรองเท้า หอบของพะรุงพะรัง “มาเลย ภัทร”
สิ้นเสียงเรียก ภัทราก็จัดการล็อกประตูบ้าน แล้วเดินมาเปิดประตูรั้วเล็ก ๆ ที่ทั้ง 2 บ้านทำเชื่อมกันไว้ เพื่อมาขึ้นรถของเอมอรไปทำงานด้วยกัน
“เออ นนท์ วันนี้มีเรียนบ่ายใช่ไหม ลูก” ภัทราถาม ขณะที่เดินผ่าน เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับ จึงกล่าวต่อ “งั้นน้าฝากเข้าไปปลุกยัยผึ้งด้วยนะ เมื่อคืน น่าจะปั่นรายงานจนดึก”
“ได้ครับ น้าภัทร”
“นนท์ วันนี้ แม่กับน้าภัทรอาจจะทำโอทีกลับดึกเหมือนเคยนะ ลูกกับผึ้งก็จัดการตัวเองเหมือนเดิมได้เลย” เอมอรเปิดหน้าต่างรถยนต์ออกมาบอกลูกชาย
“บายจ้า” น้าภัทรที่ขึ้นรถไปนั่งข้างคนขับ ก้มหน้ามาโบกมือลาลูกเพื่อน
“ขับรถดี ๆ ครับ” ชานนท์ยิ้มรับความสดใสของสองสาวสูงวัย ก่อนจะโบกมือส่ง เมื่อรถยนต์เคลื่อนออกไป แล้ว เขาจึงเดินไปปิดประตูบ้าน เตรียมตัวพร้อมสำหรับการไปเรียน
เอมอรและภัทราเป็นเพื่อนที่ทำงานเดียวกัน รวมถึงเป็นคนต่างจังหวัด นิสัยใจคอคล้าย ๆ กัน และด้วยสถานะที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวกันทั้งคู่เลยยิ่งทำให้คุยกันถูกคอ จนกลายเป็นเพื่อนซี้ ตกลงใจกันมาหาซื้อบ้านใกล้กัน พร้อมทั้งทุบกำแพงรั้วทำเป็นทางเชื่อม เพื่อให้ไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวก
ส่วนเขาและสายน้ำผึ้ง ลูกสาวคนเดียวของภัทรา ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ด้วยความที่มาเป็นเพื่อนบ้านกันตั้งแต่อายุ 7 – 8 ขวบ ก็เข้าเรียนโรงเรียนเดียวกันยาวมาถึงคณะและมหาวิทยาลัยเดียวกัน จนกระทั่งตอนนี้เป็นนักศึกษาปีที่ 3 เข้าไปแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่สนิทที่ตัวติดกันที่สุดแล้ว
และคำว่า จัดการตัวเองของแม่เขา ก็คือ ให้หาอะไรทานมื้อเย็น ปิดบ้าน อาบน้ำนอนก่อนได้เลย ซึ่งเขาและสายน้ำผึ้งก็ต้องดูแลตัวเองแบบนี้มาตลอด ยิ่งช่วงที่ยังเป็นเด็ก บางคืนเขาก็ไปอยู่ไปนอนเป็นเพื่อนที่บ้านภัทรา เมื่อบรรดาแม่ ๆ กลับมาก็ค่อยเดินกลับมานอนบ้านตัวเอง หรือบางทีก็กลับมาตอนเช้าเลย
พอถึงเวลา 10 โมง ชายหนุ่มก็จัดแจงเตรียมตัวเก็บของใส่กระเป๋าไปเรียน เขาคว้าพวงกุญแจ 2 พวง พวงหนึ่งเป็นของบ้านเขาเอง ส่วนอีกพวงเป็นของบ้านภัทรา
ดูเอาเถอะ ไว้วางใจกันขนาดไหน ถึงขั้นปั๊มกุญแจบ้านของอีกบ้านสำรองไว้ให้เลยทีเดียว เพราะบ้านของภัทราก็มีพวงกุญแจบ้านเขาสำรองไว้เช่นกัน
ชายหนุ่มล็อกบ้านตัวเองเรียบร้อยก็เดินทะลุผ่านมายังบ้านเพื่อน ก่อนจะจัดการไขเข้าไปอย่างง่ายดาย
“ผึ้ง... ผึ้ง... ผึ้งโว้ยย” ชานนท์ตะโกนเรียกเพื่อน ทันทีที่ปิดประตูบ้าน ก่อนจะเดินมาวางกระเป๋าเรียนที่เก้าอี้รับแขก เรียกเรื่อยมาจนขึ้นบันไดมาหยุดอยู่หน้าห้องนอนของเพื่อนสาว “แกจะหลับลึกขนาดนี้ไม่ได้ป่าววะ”
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
“ผึ้ง... ผึ้ง...” ชานนท์ทุบประตูห้อง พร้อมเรียกชื่อคนในห้อง แต่ทุกอย่างก็กลับมาเงียบสนิท “เฮ้อ”
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างระอา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปอย่างวิสาสะ เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา เขาก็มีหน้าที่ในการปลุกหญิงสาวทุกวัน และรู้ดีว่า สายน้ำผึ้งไม่เคยล็อกห้องนอนเลย ด้วยความที่เป็นคนกลัวผี เลยเตรียมทางหนีกับให้คนบุกเข้ามาช่วยได้ง่าย ๆ ไว้
ชานนท์ได้แต่หัวเราะกับความคิดนั้น แต่เขาก็ชอบใจตรงที่ได้บุกเข้ามาปลุกเจ้าตัวถึงเตียงเลย ไม่ต้องมัวงัดห้องให้เหนื่อยใจอยู่
บรรยากาศภายในห้องนอนสีหวานที่จัดข้าวของอย่างเป็นระเบียบ เครื่องปรับอากาศพัดพาอากาศเย็น ๆ มากระทบผิวเป็นระยะ ร่างบางแต่อวบอิ่มเกินวัยกำลังนอนสบายอารมณ์อยู่บนเตียงกว้าง
เอื้อก!!
ชานนท์กลืนน้ำลายลงไปอย่างยากเย็น เพราะคนคุ้นเคยตรงหน้ากำลังนอนตะแคงมาทางเขา โดยที่ยกขาขึ้นสูง ทำให้ชุดนอนแบบกระโปรงร่นขึ้นมากองที่เอวคอด และแน่นอนว่า สายน้ำผึ้งไม่ใส่บราและแพนตี้นอน ด้วยเป็นคนที่ไม่ชอบความอึดอัด จึงอวดแก้มก้นขาวเนียนเต็มสองตาแขกที่มาเยือน
หายนะแล้วไง…
ชานนท์เอื้อมมือมากุมเป้ากางเกงทันที เมื่อรับรู้ถึงบางอย่างที่กำลังตั้งท่าจะผงาดฟ้าท้าทายโลกอยู่
ใช่ เขามีความลับที่ซ่อนไว้ โดยที่ไม่มีใครรู้ โรคที่คนสนิทใกล้ชิดกันมักจะเป็น เขาแอบรักเพื่อนสนิท และถูกจำกัดให้อยู่แต่ในเขตเฟรนด์โซนมาตลอดชีวิต
“ใจเย็นไว้ลูก ใจเย็นก่อน...” ชายหนุ่มปลอบประโลมลูกรักด้วยการลูบและตบเบา ๆ เพื่อให้มันสงบลง แต่ดูเหมือนเพื่อนสาวเขาจะไม่เข้าใจ เพราะจู่ ๆ สายน้ำผึ้งก็เปลี่ยนท่านอน โดยการยกขาและพลิกตัวมานอนหงายอ้าซ่า ก่อนจะครางจิ๊จ๊ะในคอเป็นการเยาะเย้ยกลาย ๆ
“งืม งืม”
โอ้ย จะบ้าตายยยย
ชานนท์ได้แต่ก้มตัวงอกับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะลูกไม่รักดี ดีดตัวทันทีที่เห็นภาพยั่วยวนตรงหน้า อย่าว่าแต่ของสงวนส่วนล่างที่เปลือยเปล่า ส่วนบนที่แม้จะมีชุดนอนสีหวานปกคลุมอยู่ ก็คอกว้างจนเผยไหล่เนียนและแนบผิวไปตามช่วงอกอวบจนเห็นยอดอกที่ชูชันดันเนื้อผ้าเด่นต่อสายตา
ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขาจึงล้วงหยิบออกมาอ่าน
Group Chat
น้ำหวาน : บ่ายวันนี้ อาจารย์ติดธุระด่วน เลยยกคลาสเน้อออ เฮ้!!!
วันชัย : ไปกินเหล้ากานนน
....
“สรุปว่า วันนี้ไม่มีเรียนซะงั้น” ชานนท์บ่นอย่างเซ็ง ๆ “แล้วจะรีบตื่นมาทำไมวะเนี่ย”
“พี่เอ... อย่าค่ะ...” สาวบนเตียงเพ้อละเมอถึงชื่อแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกรากันไปดังขัดจังหวะเขาขึ้นมา พร้อมบิดกายไปมาอย่างที่คนเห็นพอจะเดาได้ว่า กำลังฝันถึงกิจกรรมอะไรอยู่ พาให้คนได้เห็นได้ยินแอบนึกเคือง
“ยังจะไปนึกถึงมันอีกทำไม”
พี่เอ อดีตแฟนหนุ่มรุ่นพี่ของสายน้ำผึ้ง ที่เลิกรากันไปเพราะเพื่อนสาวดันไปจับได้ว่า พี่เอสุดที่รักนอกใจไปคบซ้อนสองสามสี่กับดาวคณะอื่น ๆ ซึ่งในวันที่จับได้ เขาก็เป็นคนพาสายน้ำผึ้งไปจับและรับกลับมากินเหล้าย้อมใจจนเมากลับบ้าน แถมพอน้าภัทราถาม เขาก็ช่วยแถว่ามีการเลี้ยงรับน้องปี 1 เพื่อไม่ให้อีกคนโดนบุพการีดุ
ในตอนแรกที่เขารู้ว่า สายน้ำผึ้งมีแฟน เขาโคตรจะเจ็บเลย แต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นยินดี พร้อมที่จะเป็นเพื่อนที่แสนดี ก่อนจะตามสืบวีรกรรมแฟนหนุ่มแล้วมาบอกเพื่อนสนิทให้ตามไปจับได้คาหนังคาเขา แล้วตบท้ายด้วยการเสี้ยมให้เลิกรากันไป
แต่เมื่อสายน้ำผึ้งเลิกรากับพี่เอไปแล้ว ก็ยังคงสถานะโสด คุยเล่นไปหนุ่ม ๆ ไปทั่ว และแน่นอนว่า เขาไม่ใช่หนึ่งในนั้น ทั้งที่ตลอดมา เขาคอยอยู่เป็นเพื่อน เป็นคนดูแลทุกอย่าง แต่ก็เป็นได้แค่เพื่อน
‘…แก เมื่อคืน ฉันได้กินพี่เอเรียบร้อยแล้วนะ หุ่นอย่างแซ่บเลยแก ลีลาซี๊ดมาก ขอบอก...’
บทสนทนาที่เขาเผลอได้ยินสายน้ำผึ้งโทรเม้ากับเพื่อนสาวแว่วเข้ามา พาลให้อารมณ์เขายิ่งขุ่นมัว มันผสมปนเปกันไปหมด ทั้งหึง หวง โมโห และอยากได้...
“ได้ อยากโดนนักใช่ไหม ได้”