ลินเดินหลงทางไปมาตามทางเดินแคบๆ ของเรือสำราญ เสียงฝีเท้าเบาๆ ของเธอก้องสะท้อนในบรรยากาศที่ดูหรูหราแต่กลับทำให้เธอรู้สึกแปลกแยก รอยพรมหนานุ่มใต้ฝ่าเท้ารู้สึกต่างจากพื้นหยาบกร้านที่เธอเคยเดินในชีวิตประจำวัน เธอพยายามมองหาป้ายบอกทางตามที่ดร.เจสันได้บอกไว้ แต่เรือขนาดใหญ่เช่นนี้เต็มไปด้วยทางแยกและประตูมากมายจนเธอเริ่มท้อใจ
ในที่สุด เธอก็มาถึงห้องครัว เสียงหม้อกระทบกับจานดังขึ้นขณะที่พ่อครัวหลายคนกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมอาหาร ลินก้าวเข้าไปอย่างไม่มั่นใจ ใบหน้ามอมแมมและเสื้อผ้าที่สกปรกเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นทำให้เธอรู้สึกอาย สายตาของพ่อครัวคนหนึ่งหยุดมองที่เธอทันที เขาเบ้หน้าอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่หยุดมือที่กำลังจับกระทะ
“นี่เธอเป็นใครเนี่ย? เข้ามาทำอะไรที่นี่?” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ลินกลืนน้ำลาย ฝืนตอบด้วยเสียงเบา
“ดร.เจสัน…เขาบอกให้ฉันมาที่นี่…เพื่อทำงานค่ะ”
คำพูดของเธอทำให้พ่อครัวยิ้มเยาะเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นโบ้ยไปทางประตูอีกด้าน
“ที่นี่ไม่มีงานให้เธอหรอก ไปห้องซักรีดโน่น น่าจะเหมาะกว่า”
ลินรู้สึกเหมือนถูกดูถูก แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น เธอก้มหน้าเดินตามทางที่พ่อครัวบอก ในที่สุดก็ถึงห้องซักรีด เสียงเครื่องซักผ้าที่หมุนดังอื้ออึงปะปนกับกลิ่นน้ำยาซักผ้าทำให้เธอรู้สึกมึนเล็กน้อย ขณะที่เธอยืนอยู่ตรงประตู สายตาคมกริบของผู้หญิงร่างอวบในชุดแม่บ้านสีขาวสะอาดก็ตวัดมองมาที่เธอ
“นั่นใครอีกล่ะ?”
เสียงทุ้มต่ำแต่แฝงด้วยอำนาจถามขึ้น ลินตัวสั่นเล็กน้อย เธอก้มหน้าพร้อมยื่นกระดาษที่ดร.เจสันให้ไว้
“ฉัน…ฉันชื่อ…ลินค่ะ ดร.เจสันบอกให้มาที่นี่”
หัวหน้าแม่บ้านเดินเข้ามาใกล้ ลินสัมผัสได้ถึงรัศมีความดุดันของเธอ ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะพ่นลมหายใจแรง “มอมแมมอย่างกับหมาข้างถนน กลิ่นตัวก็เหม็นจะเป็นลม” เธอพูดพลางส่ายหัว แต่กลับไม่ได้ไล่ลินออกไป เธอกลับเดินไปเปิดตู้เก็บเสื้อผ้าสะอาด หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมา “นี่ เอาไปเปลี่ยนในห้องน้ำซะ แล้วล้างตัวให้สะอาด ก่อนจะมาเปื้อนห้องซักรีดฉัน”
ลินรับเสื้อผ้ามาด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เธอพูดขอบคุณเสียงแผ่วๆ ขณะที่หัวหน้าแม่บ้านมองตามด้วยสายตาเฉียบขาด “อย่ามัวอิดออด รีบทำตัวให้ดูได้หน่อย ฉันไม่ชอบเสียเวลา”
ลินพยักหน้าก่อนจะรีบเข้าไปในห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างตัวจนสะอาด เธอกลับออกมาด้วยใบหน้าที่สดชื่นขึ้นเล็กน้อย แต่สายตาหัวหน้าแม่บ้านยังคงจับจ้องเธอราวกับประเมินคุณค่า
“ดีขึ้นหน่อย” หัวหน้าแม่บ้านพูดเสียงแข็ง แต่ในน้ำเสียงกลับแฝงด้วยความเมตตา เธอหยิบตะกร้าใส่ผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าเปียกส่งให้ลิน “เอาไปใส่เครื่องซัก เริ่มจากนี่ก่อน งานง่ายๆ อย่าให้ฉันต้องบอกซ้ำ”
ลินพยักหน้ารีบทำตามคำสั่ง ในขณะที่หัวหน้าแม่บ้านเดินจากไปพร้อมเสียงถอนหายใจ
“เด็กแบบนี้…ถ้าดูแลดีๆ อาจจะรอด”
เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันไปดูงานอื่นต่อ ทิ้งให้ลินยืนทำงานซักผ้าตามคำสั่ง ความกดดันในใจเริ่มคลายลงเล็กน้อยเมื่อเธอรู้ว่าอย่างน้อยก็ยังมีคนที่ไม่ได้ผลักไสเธอไปเสียทุกคน
………………………………….
วันเวลาผ่านไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในตัวลิน จากเด็กสาวมอมแมมที่ใครๆ ต่างดูถูก กลายเป็นคนงานที่ทั้งขยันขันแข็งและมีน้ำใจ ความตั้งใจและความอดทนของเธอทำให้ มาร์ธา โจนส์ หัวหน้าแม่บ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุดัน เริ่มมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยนมากขึ้น
“ลิน”
มาร์ธาเรียกเสียงเข้ม แต่วันนี้ในน้ำเสียงกลับแฝงความนุ่มนวลเล็กน้อย ลินรีบเดินเข้ามาหาด้วยความเคารพ “ค่ะ คุณมาร์ธา?”
“วันนี้แม่บ้านที่ดูแลห้องนายใหญ่ของเรือหยุด เธอต้องไปทำความสะอาดแทน”
มาร์ธาพูดพลางหยิบตะกร้าที่เต็มไปด้วยผ้าปูเตียงและผ้าขนหนูสะอาดส่งให้ลิน
“เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ผ้าขนหนูในห้องต่างๆ ของเพนท์เฮาส์ของคุณอเล็ก ทำดีๆ เข้าใจไหม?”
ลินชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อ “คุณอเล็กซ์” ชายเจ้าของเรือผู้ซึ่งเธอเคยพบเพียงครั้งเดียวในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอยังจำดวงตาสีน้ำตาลเข้มเย็นชาที่จ้องเธอราวกับจับผิดได้อย่างชัดเจน
“รีบทำรีบออกมา อย่าให้เสียเวลา”
มาร์ธากำชับเสียงหนักแน่น แต่แววตากลับมีความเมตตาซ่อนอยู่
“เธอทำได้แน่ลิน ฉันไว้ใจเธอ”
ลินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ค่ะ คุณมาร์ธา” เธอรับตะกร้ามากอดไว้แน่น ขณะที่ใจเธอเริ่มเต้นแรง ไม่รู้ว่าการเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของชายที่ทรงอำนาจที่สุดบนเรือจะนำพาอะไรมาให้เธอบ้าง
ลินเดินขึ้นไปยังชั้นบนสุดของเรือสำราญ ห้องเพนท์เฮาส์ของคุณอเล็กซ์ตั้งอยู่ในส่วนที่หรูหราที่สุด ทุกอย่างดูเงียบสงบและสง่างามในแบบที่ทำให้เธอรู้สึกกดดัน ประตูห้องใหญ่ที่ตกแต่งด้วยไม้เนื้อดีและแกะสลักอย่างประณีตตั้งอยู่ตรงหน้า เธอยืนสูดหายใจลึกก่อนจะค่อยๆ เคาะประตูเบาๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ด้านใน
เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ ลินจึงเปิดประตูอย่างระมัดระวัง ภายในห้องใหญ่โตกว้างขวางเกินจินตนาการ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูมีราคาและได้รับการจัดวางอย่างลงตัว ผนังประดับด้วยภาพวาดสีน้ำมันที่ดูเหมือนของสะสมจากทั่วโลก ลินรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ในพิพิธภัณฑ์หรู
เพนท์เฮาส์หรูของ อเล็กซ์ แฮมิลตัน บนเรือสำราญนั้นใหญ่โตและโอ่อ่าราวกับบ้านหลังใหญ่ ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของเรือ โครงสร้างสองชั้นที่เปิดโล่งทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเลกว้างสุดสายตาผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่ทอดยาวตั้งแต่พื้นจรดเพดาน กลางห้องรับแขกมีโซฟาหนังสีเข้มจัดวางอย่างหรูหรา ด้านข้างเป็นบาร์เครื่องดื่มส่วนตัวที่ประดับด้วยขวดแก้วหลากสี ชั้นสองเชื่อมต่อด้วยบันไดวนที่ทำจากไม้เนื้อดี และบนระเบียงชั้นสองมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ดูเหมือนหลอมรวมเข้ากับมหาสมุทร
เธอสูดหายใจลึกอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มทำงานอย่างตั้งใจ มือของเธอค่อยๆ เปลี่ยนผ้าปูเตียงที่นุ่มละเอียดราวกับไหม พับผ้าอย่างประณีตและจัดทุกอย่างให้ดูเรียบร้อยที่สุด ลินพยายามไม่แตะต้องสิ่งของส่วนตัวใดๆ ที่วางอยู่ในห้อง เธอทำงานอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว
เมื่อเปลี่ยนผ้าปูเตียงและผ้าขนหนูเสร็จ เธอยกตะกร้าที่เต็มไปด้วยผ้าใช้แล้วเดินไปยังประตู แต่ก่อนที่มือของเธอจะสัมผัสลูกบิด เสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังขึ้นจากทางเดินด้านนอก ลินชะงัก ใจเธอเต้นรัวจนแทบได้ยินชัดในความเงียบ
อเล็กซ์ แฮมิลตัน กำลังกลับมาที่ห้องของเขา…
ลินที่ยังคงทำความสะอาดด้วยความระมัดระวัง ถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากทางเดินด้านนอก ห้องที่เธออยู่เงียบสนิทจนเสียงนั้นฟังดูน่ากลัวอย่างประหลาด หัวใจเธอเต้นแรงราวกับจะทะลุออกจากอก
ลินหันมองไปยังประตู มือที่จับตะกร้าผ้าสั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่ เธอรู้ดีว่าใครกำลังเข้ามาในห้องนี้… อเล็กซ์ แฮมิลตัน ชายที่เธอกลัวที่สุดบนเรือ!
“เขากลับมาแล้ว…”
ลินพึมพำเบาๆ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ เธอรู้ว่าถูกจับได้แน่หากยังยืนอยู่ตรงนี้ เธอรีบกวาดสายตาหาที่ซ่อนอย่างลนลาน ขณะที่เสียงประตูถูกเปิดออก
ร่างสูงใหญ่ของอเล็กซ์ปรากฏขึ้นในกรอบประตู ใบหน้าคมเข้มของเขาเคร่งขรึม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจับจ้องไปที่ห้องด้วยสายตาเย็นชาและเฉียบคม เขาวางกระเป๋าหนังราคาแพงลงบนโต๊ะในห้องรับแขกก่อนจะถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกและแขวนไว้ ลินที่แอบมองจากมุมหนึ่งในห้องรีบหันหลังพิงกำแพง หายใจเบาๆ ราวกับไม่ต้องการให้เสียงลมหายใจของเธอดังจนเขาได้ยิน
เธอหลบไปด้านหลังฉากกั้นไม้ที่วางประดับอยู่ใกล้บันได พยายามซ่อนตัวในมุมที่เขาอาจมองไม่เห็น หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา ความกลัวที่ผสมกับความกดดันทำให้มือไม้ของเธอเย็นเฉียบ เธอหลับตาแน่น พยายามกลั้นลมหายใจ
อเล็กซ์เดินเข้ามาในห้องอย่างสง่างาม เสียงรองเท้าหนังของเขาดังก้องบนพื้นไม้ขัดเงา เขามองไปรอบๆ ราวกับกำลังตรวจสอบสิ่งต่างๆ ดวงตาของเขาหยุดมองที่เตียงซึ่งถูกเปลี่ยนผ้าปูเรียบร้อย เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย “แม่บ้านที่นี่หยุดวันนี้ไม่ใช่เหรอ?” เขาพึมพำเบาๆ แต่ทุ้มเสียงนั้นกลับดังพอให้ลินได้ยิน
เสียงรองเท้าของเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ลินก้มตัวลงซ่อนในเงามืดของฉากกั้น หัวใจของเธอเต้นรัว เธอภาวนาในใจไม่ให้เขาเดินมาพบเธอ แต่เสียงรองเท้าของอเล็กซ์หยุดลงตรงบันไดวน เขาเงยหน้ามองไปยังชั้นสอง ก่อนจะถอนหายใจ
“สงสัยจะเป็นพนักงานใหม่…” เขาเดินขึ้นบันไดไปอย่างช้าๆ
เมื่อเสียงรองเท้าห่างออกไป ลินถอนหายใจเบาๆ แต่เธอยังคงนั่งตัวสั่นอยู่ในมุมที่ซ่อนอยู่ เธอไม่กล้าขยับตัวจนกว่าเขาจะออกไปจากห้อง เธอรู้ดีว่าความลับของเธออาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป หากอเล็กซ์พบว่าเธอยังอยู่ในห้องนี้
ลินก้าวอย่างระมัดระวังที่สุด เสียงรองเท้าของอเล็กซ์ที่ห่างออกไปทางชั้นสองทำให้เธอพอจะคลายความกดดันได้บ้าง เธอรู้ว่าถ้าอยู่นานกว่านี้ เธอจะต้องถูกจับได้แน่ เธอเหลือบมองไปทางสระว่ายน้ำส่วนตัวที่อยู่ใกล้ระเบียงด้านนอก ตรงนั้นมีประตูเล็กๆ ที่เชื่อมไปยังทางเดินซึ่งอ้อมกลับไปสู่ประตูทางออกได้ เธอพยายามลัดเลาะไปตามทางเดินที่เงียบสงบโดยไม่ให้เกิดเสียง
แต่ทันใดนั้นเอง…
“วะ… วะ… ว๊าย!”
เสียงกรีดร้องสั้นๆ ดังขึ้นเมื่อขอบรองเท้าของเธอไปสะดุดขอบสระ เธอลื่นเสียหลัก ร่างบางพลิกตัวก่อนจะตกลงไปในน้ำ เสียงน้ำแตกกระจายดังลั่นไปทั่วบริเวณ เธอพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาแต่กลับจมน้ำลงไปอีกครั้ง
เสียงนั้นทำให้อเล็กซ์ที่กำลังเดินตรวจห้องด้านบนหยุดชะงัก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะรีบเร่งฝีเท้าลงมาทันที เสียงฝีเท้าหนักๆ ของเขาดังก้องเมื่อเขาก้าวลงบันได ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ขอบสระ ดวงตาคมเข้มของเขามองไปยังร่างของหญิงสาวที่กำลังผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำ
เขาชะงัก…
ภาพที่เขาเห็นทำให้ลมหายใจสะดุด หญิงสาวที่จมน้ำในสระของเขา ผิวหน้าบางส่วนที่เคยเปรอะเปื้อนดูมอมแมมกลับละลายหายไปกับน้ำ เผยให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้คราบนั้น แม้จะเห็นเพียงบางส่วน แต่ความงามที่ค่อยๆ เผยออกมาก็ทำให้เขาตะลึงงัน
ดวงตากลมโต จมูกโด่งรับกับโครงหน้าที่เริ่มปรากฏ ความเรียบเนียนของผิวบางส่วนที่ปราศจากสิ่งปกปิดดึงดูดสายตาเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง อเล็กซ์รู้สึกเหมือนโดนแรงดึงดูดที่ไม่อาจอธิบายได้
แต่เขาไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดนาน เมื่อเห็นเธอกำลังดิ้นรนในน้ำ เขาไม่รอช้า ถอดรองเท้าหนังอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโดดลงไปในสระทันที น้ำกระเซ็นขึ้นสูงจากแรงของร่างสูงใหญ่ที่พุ่งลงไป
เขาว่ายเข้าไปหาร่างของลินที่กำลังอ่อนแรง มือแข็งแรงคว้าเธอไว้ราวกับกรงเหล็กที่ไม่มีทางให้หลุดได้ ลินหอบหายใจแรง ขณะถูกดึงขึ้นมาจากน้ำ เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากมือของเขาที่จับต้นแขนเธอไว้แน่น ร่างสูงใหญ่ของเขาใกล้จนเธอแทบมองเห็นลมหายใจ
“เธอกำลังทำบ้าอะไรเนี่ย”
เสียงของอเล็กซ์ต่ำและดุดัน แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความตกใจปนความไม่พอใจ เขาดึงเธอขึ้นมานั่งที่ขอบสระ น้ำหยดลงจากเสื้อเชิ้ตที่เปียกชุ่มของเขา แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องที่ใบหน้าของเธอ
เขามองเธออย่างพิจารณา ดวงตาของเขาฉายแววสงสัยปนความทึ่ง
“นี่เธอ…เป็นใครกันแน่?”
เขาถามเสียงแผ่ว แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยคำถามที่ซับซ้อนยากจะคาดเดา ลินที่นั่งตัวสั่นด้วยความหนาวเย็นและความกลัว ไม่กล้าสบตาเขา แต่เธอก็รู้ดีว่าช่วงเวลานี้เธอไม่อาจหลบซ่อนอะไรจากเขาได้อีกแล้ว…